“เฮ้!” เสียงเฮดังขึ้นมาจากทางสำนักคุ้มภัย ไฟจุดสว่างขึ้นทั่วทุกทิศ
“ข้าว่าการประลองตราเก้าจักยุตกราคงกำลังเริ่มแล้วหล่ะ พวกเราไปกันเถอะ” ฮวาเฟยฟากล่าว ทั้งสี่หันไปร่ำลาต้นวั่งเฟย และเหาะลอยกลับไปบริเวณลานประลองการแข่งขัน ผู้คนมากมายมากหน้าหลายตารายล้อมรอบสนาม ตรงกลางคือกลุ่มผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งปีนี้แต่ละบ้านก็มีตัวแทนแค่บ้านละหนึ่งคนยกเว้น บ้านภพุ์ และ บ้านภพปรภพ ที่มีตัวแทนสองคน สรุปในปีนี้มีตัวแทนที่เข้าชิงทั้งหมด 11 คน
“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การประลองเพื่อคัดเลือกตัวแทนของปีนี้ เข้ารับตราเก้าจักยุตกราอันทรงเกียรติ และ กลายเป็มือปราบมารรุ่นที่111เพื่อช่วยปกป้องรักษาภยันอันตรายให้กับหมู่บ้านต้องสาปแห่งนี้สืบไป” เสียงประกาศดังขึ้น
“นั่นมัน “กงซุนต้าเฉียน” เ้าสำนักคุ้มภัยเก้าจักยุตกราหรอ ข้าได้ข่าวว่าปกติเค้าไม่ปรากฏตัวต่อสารธณะชนหนิ ทำไมวันนี้ถึงออกมาได้ แล้วก็ยังแต่งตัวมิดชิดตามตำราว่าไว้จริงๆ” เ้าวั่งซูเอามือจับคางบ่นสงสัย
“อืม! นั่นสิ ข้าเคยได้เห็นเค้าครั้งเดียวเมื่อครั้งเข้าเป็มือปราบมารรุ่นแรก ชื่อกงซุนต้าเฉียน ก็โผล่มาพร้อมกับสำนักเก้าจักยุตกรา ในฐานะผู้ก่อตั้งสำนักเพื่อผดุงความสมดุลระหว่างภพ ภพต้นกำเนิดของเค้าคืุ์แต่ด้วยการถือกำเนิดเป็นักพรต และผู้เสียสละถือศีลบำเพ็ญเพียร และทำความดีเวียนวนถึงห้าร้อยชาติ ทำให้เค้าบรรลุได้จักราภพภูมิ์ และอายุยืนยาวกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่เค้าเองก็ยังเป็มนุษย์และยังคงสร้างความดีที่ยิ่งใหญ่ต่อไปโดยการก่อตั้งสถานที่นี้ขึ้นมา แต่เมื่อก่อนเค้าไม่ได้ใส่ชุดคลุมตัวคลุมหน้าคลุมตาแบบนี้ แต่หลังจากศึกใหญ่ในครั้งนั้นผู้คนต่างโจษจันท์ว่าเค้าได้รับาเ็สาหัสรูปร่างผิดแผก หลังจากนั้นเค้าเลยไม่ค่อยพบปะผู้คน แต่ถ้าออกมาก็จะใส่ชุดคลุมมิดชิดแบบมานี้มาเป็เวลาหลายร้อยปี” ฮวาเฟยฟาเล่า
“แป๊นนนนน! เฮฮฮฮฮฮฮฮ!” เสียงแตร์ที่องค์จักรพรรดิแห่ง์มอบมาให้สำนักจักเก้าจักยุตกราสำหรับงานพิธีคัดเลือกมือปราบเป็สัญญาณดังขึ้นทั่วสนาม ตัวแทนทั้ง11คน รวมตัวกันหน้ากระจกปรภพ และเริ่มทยอยหายเข้าไปด้านใน ผ่านไปหนึ่งชั่วยามมีแค่ 7 คนที่เดินออกมาจากกระจกปรภพ
“เฮฮฮออ!” เสียงเฮดังขึ้นรอบสนาม ทั้ง 7 คนนั่งพักรักษาแผลจากหมอข้างสนาม
“แล้วที่เหลือหล่ะ นี่แค่กระจกแรกหายไปสี่ จะไปถึงอันสุดท้ายไม๊นะ” เ้าวั่งซูเปรย
“ตายหมด ทุกคนได้เสี้ยวของดวงจิตปรมาจารย์เพื่อผ่านเข้าไปทดสอบ ดังนั้นจะไม่มีใครพาใครออกมาได้ เข้าไปเองต้องออกมาเอง” เฟยฟาบอก
ตัวแทนทั้ง 7 ลุกขึ้นพร้อมเสียงเฮดังอีกครั้ง ไปต่อกระจกภพ์ ภพปีศาจ ภพภูติ ภพเดรัจฉาน ก็ปรากฏว่าเหลือตัวแทนแค่สองคน คือ เริ่นเสี่ยวเสียนจากบ้านภพุ์ และ หยูฮั่นซีจากบ้านภพปรภพ ทั้งสองาเ็สาหัสมากแต่ก็ยังไปต่อ ภพุ์ และก็ไม่มีใครกลับออกมาจากกระจกนี้อีกเลย เสียงแตร์ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมเสียงเฮและเสียงร้องไห้ของผู้คน ยังคงเหลืออีกสองภพ ภพพืชพันธ์ และภพฝันแห่งความเงียบงัน แต่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 11 ไม่มีใครมีชีวิตรอดกลับออกมา สองคนสุดท้ายหายไปในภพที่ 7
“ทางสำนักจักยุตกราขอประกาศว่าปีนี้ ไม่มีผู้ฝึกตนจากบ้านไหนสอบผ่านด่านทั้ง 9 และเข้าบรรจุเป็มือปราบมารรุ่น 111 ในปีนี้ และขอแสดงความไว้อาลัยให้กับเหล่าตัวแทนที่จากไป ทางสำนักเก้าจักยุตกราจะทำป้ายิญญา และประวัติความเป็มาเพื่อเป็การบูชา และระลึกถึงดวงิญญา และจะอัญเชิญไว้ที่ตำหนักผู้วายชนม์ทางฟากตะวันตก
และเพื่อเป็การสักการะ และระลึกถึงความตั้งใจจริง และเสียสละตัวเพื่อปณิธานที่ยิ่งใหญ่ต่อผู้ที่จากไป บริเวณตำหนักผู้วายชนม์จะถูกร่ายมนต์ “พฤกษาอำมตะ” ครอบไว้ ดังนี้บริเวณตำหนักผู้วายชนม์จะมีดอกไม้ออกดอกปกคลุมตลอดทั้งปี และตะเกียงนำทางดวงิญญา สำหรับตำหนักผู้วายชนม์นั้นทางสำนักจักเก้าจักยุตกราเปิดให้ทุกคนเข้าเยี่ยมสักการะได้ตลอดเวลา ถึงแม้ร่ายกายและ ิญญาพวกเค้าจะจากไป แต่ชื่อพวกเค้าจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป” ผู้ฝึกตนหัวหน้าบ้านกระจกพืชพันธุ์กล่าว
“ทางสำนักจักยุตกราของเรา รู้สึกเป็เกียรติที่ทุกท่านมาร่วมงานในวันนี้ ทางสำนักได้จัดเตรียมอาหารมากมาย งานเฉลิมฉลอง และการละเล่นเชิญ ทุกท่านเดินชมได้ตลอดค่ำคืน แต่ก่อนอื่นใด ในลำดับต่อไป ก่อนที่เราทุกคนจะร่วมดื่มกินฉลอง ทางสำนักเก้าจักยุตกรา มีพิธีการสำคัญพิเศษนั่นคือ การมอบเหรียญตราจักยุตกราให้มือปราบมารรุ่นที่ 111” ยังไม่ทันประกาศสิ้นเสียงก็มีเสียงอื้ออึงจากฝูงชนดังขึ้น
“ไหนบอกไม่มีมือปราบมารในปีนี้”
“ก็ใช่หน่ะสิก็ตายหมดแล้ว ทั้ง 11 คน”
“แล้วใครกันที่เหมาะสมจะถูกแต่งตั้ง ไปมากกว่า คนที่ที่ยอมสละชีวิตเข้าประลอง”
“เอาเปรียบคนอื่นเกินไปไม๊แบบนี้” เสียงคนพูดกันเซงแซ่ดังไปทั่ว
“ตาย! นี่ข้าจะโดนเฉ่งไม๊ ตอนประกาศชื่อออกไป” เ้าวั่งซูหนีไปหลบหลังฮวาเฟยฟา ฮวาเฟยฟาเอื้อมมือไปลูบและตบมือเ้าวั่งซูเบาๆ
“อย่ากังวลไปเ้าไม่ได้ทำอะไรผิด รีบไปเถอะเดี๋ยวคนอื่นจะรอ” เ้าวั่งซูทำหน้าเศร้าๆ พยักหน้า และ เหาะลงไปบริเวณอาสนะลานพิธี