เพื่อไม่ให้เป็จุดสนใจให้คนสังเกตได้ ผู้าุโเป่ยได้ตัดสินใจส่งหลินเฟิงไว้ข้างหลังูเาสถานที่พักของศิษย์สายนอก
เมื่อหลินเฟิงลงมาสู่พื้นดิน เขาก็รีบเดินมุ่งหน้าไปหาหานหมาน เมื่อเขาเดินผ่านห้องพักของตัวเอง เขาแทบจะไม่หันหน้าไปมอง
"หลินเฟิง"
ขณะนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมา เมื่อหลินเฟิงหันหน้ากลับไปมอง ก็พบว่าห้องที่ตัวเองพักอาศัย ประตูถูกเปิดอ้าเอาไว้และหน้าประตูก็มีคนคนหนึ่งกำลังพิงอยู่ตรงนั้น
เหตุการณ์นี้ทำให้หลินเฟิงขยับม่านตาเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ เพราะห้องพักถือเป็สถานที่ส่วนตัวของศิษย์แต่ละคน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนบุกรุกเข้าไปในห้องพักของตัวเอง แล้วยังอยู่ในห้องเขาอย่างไม่สำนึกอีก ถ้าหากว่าในห้องของเขาเกิดอะไรขึ้นมาล่ะก็?
"เ้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าที่นี่มีกฎคือ ไม่ควรบุกรุกเข้าไปในห้องของคนอื่น?" หลินเฟิงใช้น้ำเสียงเ็ากล่าวขึ้น หลินเฟิงรู้จักศิษย์คนนี้ เขามีนามว่า โหวชิ่ง เขาเป็ศิษย์ที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลำดับที่ 10 ขณะเดียวกันเขายังทำหน้าที่เป็ผู้รักษากฎของนิกาย ด้วยฐานะนี้ทำให้หลินเฟิงรู้จักเขาและเขาเองก็รู้จักหลินเฟิงด้วย
ในนิกายหยุนไห่ ม่อช่างหลานมีศักดิ์เป็ผู้าุโใหญ่ เขามีสถานะที่สูงส่ง มีหน้าที่รักษากฎ นอกจากนี้เขายังมีเ้าหน้าที่รักษากฎของนิกาย ซึ่งเ้าหน้าที่เหล่านี้มีอยู่ทั่วอาณาเขตนิกาย ทั้งในและนอกอาณาเขต โหวชิ่งก็เป็หนึ่งในเ้าหน้าที่นอกอาณาเขต
โหวชิ่งมักจะใช้อำนาจในฐานะศิษย์ผู้ควบคุมกฎนอกอาณาเขตนิกายของตัวเองในการข่มขู่ศิษย์อื่น แต่หลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำเกินไปขนาดนี้ ถึงขั้นบุกเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของตัวเอง ทั้งที่ตัวเองเป็ผู้รักษากฎแต่กลับทำผิดกฎเสียเอง
"แน่นอนว่าข้ารู้ดี แต่สำหรับขยะอย่างเ้า ไม่จำเป็ต้องใช้กฎอะไรทั้งนั้น" โหวชิ่งกวาดสายตามองไปทางอื่นขณะที่กล่าวขึ้น กระทั่งไม่เหลือบมองหลินเฟิงเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของเขาแล้ว หลินเฟิงแทบจะไม่มีตัวตนเลย เป็เพียงแค่ 'ขยะ' เท่านั้น
"อีกอย่าง ตอนนี้เ้าต้องไปกับข้า" โหวชิ่งกล่าวขึ้น
"ไม่ว่าง" หลินเฟิงเริ่มก้าวเท้าเดินออกไป เพราะตอนนี้หานหมานมีอาการาเ็สาหัส ที่กำลังรอคอยยาเม็ดจากเขาอยู่ ส่วนโหวชิ่ง... ค่อยกลับมาคุย
"หืม?" เมื่อโหวชิ่งเห็นท่าทีของหลินเฟิงที่ไม่ได้ให้ความสนใจต่อเขา โหวชิ่งก็ชะงักไปชั่วครู่ ดวงตาของเขาเปล่งประกายความอาฆาต แล้วเงาของเขาก็หายไปชั่วขณะ
แล้วก็มีลมพัดโชยมา ทันใดนั้นเบื้องหน้าของหลินเฟิงก็ปรากฏเงาขึ้น เงานั่นคือโหวชิ่งนั่นเอง
โหวชิ่งรู้สึกพอใจกับพลังการเคลื่อนที่ของเขา และยิ่งเห็นหลินเฟิงขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเช่นนี้เขาก็ยิ่งได้ใจ ถึงอย่างไรในสายตาของเขา หลินเฟิงก็ยังคงเป็เศษสวะอยู่ดี
"ผู้าุโของนิกาย้าที่จะพบกับเ้า หรือเ้าจะไม่ไป?" โหวชิ่งแสดงสีหน้าเยาะเย้ยหลิงเฟิง ดูเหมือนเขากำลังรอดูหลินเฟิงขายขี้หน้าอยู่
“ผู้าุโ้าพบข้าอย่างนั้นหรือ?” หลินเฟิงรู้สึกประหลาดใจ หรือจะเป็เพราะเื่ที่ลานประลองเป็ตาย? เป็ไปไม่ได้ ผู้าุโคงไม่ได้ไปบอกใครหรอก เพราะตัวเขาเองก็กำชับเราไม่ให้บอกใคร และถ้าหากว่าผู้าุโท่านอื่นทราบเข้า ก็ไม่น่าจะเรียกใช้โหวชิ่งตามมาเรียกหาเราหรอก อีกทั้งเวลาก็ดูไม่สมควรด้วย
แต่ในเมื่อผู้าุโ้าพบหลินเฟิง เขาเองก็คงไม่มีอะไรต้องปฏิเสธ
"เ้ารอสักครู่ แล้วข้าจะรีบกลับมา" หลินเฟิงวิ่งตัดหน้าโหวชิ่งไปหน้าตาเฉย ด้วยเหตุนี้จึงยิ่งทำให้โหวชิ่งชะงักไปอีกครั้ง เ้าคนนี้พอรู้ว่าผู้าุโ้าพบยังกล้าให้ตัวเขารออีก มันน่านัก แต่พอนึกถึงเื่ที่จะเกิดขึ้นกับหลินเฟิงอีกสักครู่ โหวชิ่งจึงไม่โต้เถียงอะไรกับหลินเฟิง
ไม่นานหลินเฟิงก็วิ่งเข้าไปภายในห้องของหานหมาน ไม่ทันพูดจาสักคำ เขาก็รีบหยิบยาออกมาสามเม็ดป้อนใส่ปากของหานหมานทันที แล้วก็นั่งรอดูผลข้างๆ ตัวของเขา
"หลินเฟิง นี่เ้าไปหน้าผานั่นจริงๆ เหรอ?" จิ้งหยุนจ้องมองไปที่หลินเฟิง
หลินเฟิงหยักหน้าเล็กน้อย หลินเฟิงไม่อยากโกหกจิ้งหยุน แต่เมื่อเขานึกถึงคำพูดของผู้าุโ เขาก็ไม่พูดอะไรต่อ
จิ้งหยุนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเธอมองไปที่แววตาของหลินเฟิงที่มั่นอกมั่นใจ แล้วก็แน่ใจว่าหลินเฟิงไปที่หน้าผานั่นแล้วจริงๆ อีกทั้งยังเอาเม็ดยากลับมาด้วย หลินเฟิงก็น่าจะผ่านบททดสอบของหน้าผานั่นได้แล้ว
หานหมานรู้สึกถึงคลื่นพลังที่แปลกประหลาดบางอย่างที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของหลินเฟิง เขาลืมตาขึ้นและจ้องมองไปที่หลินเฟิง โดยไม่เอ่ยปากพูดประโยคซาบซึ้งสักคำ แต่หัวใจและร่างกายของเขากลับมีความรู้สึกอบอุ่นใจไหลเวียนอยู่
เพียง่เวลาสั้นๆ ที่อยู่ด้วย ‘หลินเฟิง’ เพียงคำสองพยางค์นี้ กลับถูกสลักลึกลงไปในก้นบึ้งหัวใจของหานหมานแล้ว
หลินเฟิงยอมสังหารจิ่งเฟิงและยอมรับความผิดเพียงคนเดียว เขายังแบ่งปันแกนอสูรอันมีค่าที่ได้รับจากการฆ่าสัตว์อสูรที่เขาเป็คนสังหารอย่างเท่าเทียม เขายังสามารถสังหารเจียงฮ่วยและจิ่งฮ่าวด้วยตัวเองเพื่อให้มิตรภาพได้รับชัยชนะ เขายังเลือกที่จะไปยังหน้าผาเพื่อที่จะช่วยเหลือหานหมานอีก ช่างน่าประทับใจยิ่งนัก
เพียงแค่เวลา่สั้นๆ หานหมานก็รู้สึกได้ถึงอิทธิฤทธิ์ของยาที่กำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็วในร่างกายของตัวเอง เขาไม่รู้สึกเ็ปจากการแตกหักของกระดูกซี่โครง แต่เขาแค่รู้สึกคันเล็กน้อย ดูเหมือนว่าความรู้สึกคันนี้กำลังบ่งบอกว่ากระดูกกำลังเชื่อมต่อกันอยู่
แม้แต่จิ้งหยุนก็รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของหานหมาน ไม่นานใบหน้าที่ซีดเซียวก็เผยสีหน้ามีชีวิตชีวาขึ้น จนทำให้จิ้งหยุนเอ่ยปากชมถึงฤทธิ์ของเม็ดยานี้
"สมกับเป็เม็ดยาวิเศษจริงๆ" หลินเฟิงก็เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของหานหมานเช่นกัน ซึ่งบนใบหน้าของหานหมานเผยรอยยิ้มผ่อนคลายด้วย
"หานหมาน เ้าพักผ่อนไปก่อน ข้ายังมีอีกเื่ที่ต้องรีบไปจัดการ งั้นข้าขอตัวไปก่อนนะ"
ก่อนที่หลินเฟิงจะจากไป เขาได้เทเม็ดยาออกมาอีก 3 เม็ดบนฝ่ามือของเขา หลังจากนั้นเขาก็มอบให้กับจิ้งหยุนพร้อมกล่าวขึ้นว่า "จิ้งหยุน เ้าช่วยข้าดูแลหานหมานให้หน่อยนะ หากว่าอาการยังไม่ดีขึ้นอีกล่ะก็ เ้าให้เขากินยานี้ต่อไปนะ"
"ได้เลยหลินเฟิง เ้าวางใจเถิด" จิ้งหยุนรับยาจากมือของหลินเฟิงพร้อมรับปาก หลังจากนั้นหลิงเฟิงก็จากไป
หุบเขาเมฆพายุ ลานประลองเป็ตาย หลินเฟิงเดินตามหลังโหวชิ่ง รอบข้างมีแต่ศิษย์จำนวนมาก ไม่รู้เลยว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้นบ้าง ถึงได้เรียกทุกคนมารวมตัวกันที่นี่
อีกอย่างไม่รู้ว่าผู้าุโท่านไหน้าพบตัวเขา? แล้ว้าพบเพราะเื่อะไร?
"ท่านประมุข ผู้าุโม่อ ข้านำตัวหลินเฟิงมาแล้วขอรับ” โหวชิ่งพาหลินเฟิงไปที่ลานประลองเป็ตาย และกล่าวออกไปด้วยความนอบน้อมต่อบรรดาคนที่อยู่บนลานประลองเป็ตาย
"นี่คือท่านประมุขหนานกงหลิง และผู้าุโใหญ่ม่อช่างหลาน"
หลินเฟิงใไม่กล้าสบตา เขาแทบคาดไม่ถึงว่าคนที่้าพบตนนั้นเป็ถึงบุคคลสำคัญเช่นนี้ เมื่อเขามองไปรอบๆ หลินเฟิงก็เห็นฉู่จ่านเผิงและหลินเชียน หลินเชียนจ้องมองมาที่ใบหน้าของเขาอย่างเ็า
"นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?"
"หลินเฟิง เ้ารู้ถึงความผิดที่เ้าได้กระทำไปหรือไม่?” ม่อเสียกล่าวถามหลินเฟิงด้วยท่าทีคุกคามพร้อมเดินเข้าไปใกล้ๆ
"ผู้าุโ ข้าไม่เข้าใจ” หลินเฟิงส่ายหัว ม่อเสียเป็ถึงผู้าุโที่มีอานุภาพทรงพลังร้ายกาจ แค่น้ำเสียงธรรมดาก็ทำให้หลินเฟิงถึงกับใกลัว
"ไม่ทราบอย่างนั้นหรือ? เ้าเป็เพียงแค่ศิษย์ แต่กลับไม่ให้ความเคารพแก่ผู้าุโ และยังทำร้ายลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง ดูถูกผู้าุโ อีกทั้งยังสร้างความอัปยศต่อนิกายหยุนไห่ของเราอีก เ้ามันไอ้ขยะ” ม่อเสียกล่าวหาหลินเฟิงอย่างรุนแรง ทั้งที่จริงๆ แล้ว ตัวเขาเองเป็คนที่เห็นด้วยที่จะมอบตัวหลินเฟิงแก่ฉู่จ่านเผิงจัดการเอง เดิมทีหลินเฟิงเป็เพียงแค่ศิษย์สายนอกคงไม่มีใครสนใจ แต่การมาของฉู่จ่านเผิงกลับทำให้ผู้คนต่างพากันประหลาดใจ
เพื่อปกปิดพฤติกรรมที่มอบศิษย์ของตัวเองให้คนนอกจัดการ เขาจึงทำได้เพียงแค่ตามคำพูด
"น่าอัปยศ? ขยะ? ทำให้นิกายเสียหน้า?” เมื่อหลินเฟิงฟังคำเหล่านี้ ดวงตาของเขาก็แฝงไปด้วยความไม่เข้าใจ แต่เมื่อจ้องมองไปที่หลินเชียนแล้ว ทำให้เขาค่อยๆ เริ่มเข้าใจในทันทีถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจนั่นคือ ทำไมผู้าุโม่อถึงอยู่ข้างหลินเชียน เพราะถึงแม้เขาจะเป็เพียงศิษย์สายนอกที่ไม่มีชื่อเสียง แต่เขาก็ยังถือเป็ศิษย์ของนิกายหยุนไห่คนหนึ่ง
"ทำไมเ้าไม่พูด กลัวล่ะสิ?” ม่อเสียกล่าวอย่างเ็า ขณะที่มองไปยังหลินเฟิงที่ยืนอยู่เงียบๆ เขาก็กล่าวขึ้นว่า
"ผู้าุโ ท่านได้แต่กล่าวหาต่อว่าข้าและยังโยนความผิดให้ข้า ข้าเป็เพียงศิษย์สายนอกต่ำต้อยคนหนึ่งที่คำพูดไม่มีความสำคัญอะไรเท่านั้น ต่อให้ข้าพูดออกมาก็ไร้ประโยชน์ ใช่หรือไม่?" หลินเฟิงกล่าวด้วยความสุขุม แต่แฝงไปด้วยการประชดประชัน
"บังอาจ" ม่อเสียะโออกไป เขาคาดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะพูดเช่นนี้ออกมา คำพูดของหลินเฟิงที่ดูธรรมดา แต่แฝงไปด้วยความหมายที่ว่า ผู้าุโท่านนี้ไม่ให้ความสำคัญต่อศิษย์คนธรรมดา อีกทั้งยังกล่าวหาลอยๆ อีกด้วย
"เ้ากล้าเถียงข้าหรือ! ข้าเป็ถึงผู้าุโของนิกายหยุนไห่ ทำหน้าที่ดูแลงานหลวง ขยะอย่างเ้าไม่เพียงไม่รู้จักยอมรับผิด แต่ยังกล้าเล่นหัวผู้าุโซึ่งนับว่าเป็ความผิด หลินเฟิง เ้ารู้ไว้เสียด้วย"
"ข้าไม่ได้กล่าวอะไร ท่านนั่นแหละเอาแต่ยัดเยียดความผิดมาให้ข้า พอข้าเริ่มเอ่ยปากพูดเ้าก็หาว่าข้าไม่ให้ความเคารพต่อผู้าุโ และยังกล่าวหาข้าอีก ตัวข้าหลินเฟิงก็แต่อยากถามท่านาุโเพียงเท่านั้นเองว่า ท่านทำงานหลวงอะไรหรือ ท่านกำลังทำงานเพื่อใครอยู่หรือ?" สายตาของหลินเฟิงเผยแววตาอาฆาต พร้อมกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ั้แ่หลินเฟิงมาถึงก็ถูกม่อเสียกล่าวหาและยัดเหยียดความผิดให้ อีกทั้งยังด่าทอว่าเขาเป็ขยะ หลินเฟิงรู้ดีว่าม่อเสียผู้นี้จะสร้างความลำบากให้แก่ตัวเขาเอง และไม่ว่าอย่างไรก็ตามการโต้เถียงของเขาก็ยังถือเป็ความผิด แล้วทำไมเขาจะต้องสนใจอะไรอีกด้วย ในเมื่ออย่างไรเขาก็เป็คนผิดอยู่ดี?
หลินเฟิงจ้องมองม่อเสียตาไม่กะพริบ ท่ามกลางศิษย์ของนิกายหยุนไห่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้