"คือว่า...พี่คลาสจะกอดแบบนี้ไปอีกนานไหมครับ" เสียงทุ้มนุ่มเริ่มประท้วงเพราะจากการกอดหลวมเริ่มกระชับแน่นขึ้นแล้วกินเวลานานมากแล้ว แต่เหมือนจะไม่มีเสียงตอบรับจากอีกคน ถึงจะเป็บนโซฟาแต่ทำไมเงียบผิดปกติ...หรือว่า...
ดวงตากลมโตเงยหน้ามองอีกคนที่หลับตาสนิท หายใจสม่ำเสมอเข้าออก นั่นไง...กอดแล้วหลับอีกคนแล้ว ทำไมถึงมาหลับกันแบบนี้ทุกทีแล้วจะขยับหนีได้ยังไงล่ะทีนี้ คิดหนักไปหลายรอบแล้วก็ไม่ได้อะไร นอกจากนอนหลับตามกันไปในที่สุด
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"ได้เวลาเข้านอนแล้วพะยะค่ะ เ้าชายคลาส" เลย์เคาะประตูสองสามครั้งให้สัญญาณแต่เหมือนจะไม่มีเสียงตอบรับออกมาเลย มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาก็เข้าใจสถานการณ์ได้ทันที เพราะว่าเ้านายทั้งสองนอนหลับอยู่บนโซฟาหรือเรียกว่านั่งหลับดี ในฐานะข้ารับใช้คนสนิทเลยไปหาผ้าห่มมาคลุมให้แล้วเดินจากไป คงต้องไม่ให้ใครมารบกวนเวลานอนของทั้งสองคนเสียแล้ว
"ท่านลอร์ดเลย์ไม่เรียกเ้าชายคลาสกับท่านไวท์ออกมารับประทานอาหารหรือพะยะค่ะ ได้เวลาอาหารแล้ว" เฟลิกซ์ถามด้วยความสงสัยแต่เลย์ทำมือให้เงียบเสียงลงเลยยอมเงียบตาม
"ทั้งสองท่านกำลังพักผ่อนก็ให้หลับไปก่อนแล้วรอตื่นคงออกมารับประทานอาหารกันเอง" เฟลิกซ์พยักหน้ารับคำของเลย์อย่างง่ายดายเพราะเหมือนจะเคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วที่วังของรัชทายาท เผลอๆ เ้านายของตนเองอาจจะถูกกอดจนหลับไปด้วยกันอีกแล้วหรือเปล่า เสน่ห์แรงไม่น้อยเลยทีเดียว
"ขอรับ ท่านลอร์ดเลย์"
"ทำไมเ้ารับคำง่ายเสียจริง ไม่คิดจะถามอะไรหน่อยเหรอ" เลย์แปลกใจที่อีกฝ่ายมีท่าทีว่าง่ายมากเกินไป ไม่อยากจะรู้เหรอว่าข้างในสถานการณ์เป็อย่างไร
"เื่บางเื่คิดว่าไม่ต้องพูดน่าจะรับรู้ได้แล้วล่ะขอรับ ข้าน้อยขอตัวก่อน" เฟลิกซ์บอกพลางเดินกลับไปทางเดิม หากเ้านายของเขายังหลับอยู่ก็สามารถจัดการงานอื่นที่ยังค้างคาได้อีกมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเอกสาร งานบ้าน งานส่วนตัว งานนัดพบที่มีมากมายเหลือเกิน ไม่รู้จะคัดเอกสารเสร็จเมื่อไหร่
เมื่อเปิดประตูเข้าห้องทำงานมาก็พบกับเหล่าสมาชิกลูกครึ่งมนุษย์พร้อมหน้ากันสามคนช่วยกันคัดเอกสารกันหัวหมุนจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว การเดินทางมาเยือนต่างเมืองจำเป็ต้องรับมือมากขนาดนี้หรือเปล่า มีใครต้องยุ่งมากขนาดนี้ไหม อยากจะรู้เหลือเกิน
จดหมายของคลาสที่เขียนส่งนั้นได้ถูกนำเข้าวังหลวงและวังส่วนตัวของรัชทายาทเป็ที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนรับทราบถึงสถานการณ์ของการฝึกฝนของไวท์กันทั้งหมด สถานการณ์ที่ตึงเครียดน่าจะเบาบางลงไปได้บ้าง แต่เื่กลุ่มคนที่หวังจะลอบทำร้ายนั้นยังมีอยู่แต่ยังหาเบาะแสได้น้อยนิดนักมีเพียงว่าเป็ผู้ถูกว่าจ้างมาให้ลอบทำร้ายเท่านั้นแต่เป็กลุ่มลอบสังหารเดิม หากตามสืบจากส่วนนี้น่าจะได้รู้กันว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
"เอกสารที่เ้าชายคลาสส่งมาสามารถช่วยอะไรได้เพิ่มเติมไหมพะยะค่ะ รัชทายาท" เมล์ถามอย่างคาดหวังให้เื่ราวเหล่านี้จบลงโดยเร็วที่สุด
"เป็ประโยชน์มากทีเดียว แบบนี้จะต้องหาตัวพวกไม่หวังดีได้ก่อนเดือนหน้า ที่จะถึงอย่างแน่นอน" ร่างสูงตอบพลางเขียนงานต่อทันทีเพราะถ้าเอามาประติประต่อกันน่าจะได้ใจความมากกว่านี้ก็เป็ได้
"พระองค์ไว้ใจที่จะฝากฝังคุณชายไวท์ไว้กับเ้าชายหรือเชื้อพระวงศ์คนอื่นจริงๆ เหรอ พะยะค่ะ"
"เ้าคิดได้ยังไงว่าข้าไว้ใจ ข้าแค่ทำตามสิ่งที่ท่านพ่อ้าต่างหากล่ะ"
"แบบนี้เรียกว่าหึงได้ไหมพะยะค่ะ"
"ข้าทั้งหึงทั้งหวงเลยต่างหากล่ะ แต่ไม่รู้ว่ากระรอกน้อยรู้สึกยังไงมันก็ยากที่จะคาดเดาเหมือนกัน" พูดแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเครียด ไม่รับรักยังดีกว่าตอบว่าไม่รู้ แบบนี้มันเจ็บยิ่งกว่าอกหักเสียอีก
"หม่อมฉันคิดว่ารอให้คุณชายไวท์ได้พบเจอกับทุกคนแล้วน่าจะให้คำตอบได้เองพะยะค่ะ ว่าสุดท้ายแล้วจะมีใจให้กับใครกันแน่" เมล์ตอบพลางยักไหล่เพราะั้แ่เห็นคุณชายมายังไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายชอบใครกันแน่ เพราะเหมือนยังสนุกสนานที่ได้พบเจออะไรใหม่ๆ มากกว่าความรักที่หลายคนพยายามมอบให้ เห็นแล้วก็น่าเสียใจแทนเหมือนกัน
"ข้าเองก็ดูไม่ออกเหมือนกันว่าไวท์ชอบใครกันแน่ เพราะแววตานั้นมีแต่ความสนุกสนานยังไม่เห็นจะบอกเลยว่าหลงรักนอกจากเขินอายเวลาโดนจีบ ให้ตายเถอะ.." คีย์ได้แต่ทึ้งหัวตนเองอย่างหัวเสีย แบบนี้มันยากยิ่งกว่าการถูกอกหักก็เพราะอีกฝ่ายยังไม่รู้ใจตัวเอง
"ปกติปฏิเสธคนที่จะเข้ามาจีบเสมอตลอดระยะเวลาหลายร้อยปี แบบนี้เรียกว่าถูกกระทำกลับหรือเปล่านะพะยะค่ะ"
"นี่เ้าเป็เพื่อนข้าหรือว่าศัตรกันแน่ ช่างพูดจาขัดหูขัดตาไปเสียทุกเื่เลย"
"เพราะว่าเป็สหายอย่างไรเล่าพะยะค่ะ ถึงกล้าที่จะพูดจาแบบนี้"
"นั่นสินะ ถ้าเป็คนอื่นข้าก็คงจะฆ่ามันตายไปนานแล้วล่ะ"
"ยังไงก็ไม่มีทางเป็ไปได้พะยะค่ะ พวกเราเข้าพิธีศักดิ์สิทธิด้วยกันแล้ว ยังไงหม่อมฉันก็รับมือพระองค์ได้แน่นอน"
ทางด้านเมืองหลวงที่เพิ่งได้รับจดหมายสถานการณ์ก็ตึงเครียดไม่แพ้กันเพราะว่านี่ก็ผ่านมาจะเกือบเดือนแล้วทำไมเนื้อหาในการตามหามันลำบากขนาดนี้ เื้ัของเื่นี้มันซับซ้อนมากขนาดนั้นเลยงั้นหรือ
"ข้าว่างานนี้ผู้าุโต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเื่นี้แน่" จักรพรรดิบอกพลางถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย เพราะทุกครั้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้าุโจะสามารถตรวจสอบได้ยากและล่าช้ากว่าส่วนอื่น และปกปิดความจริงหนีได้ง่ายดายนัก
"อย่าเพิ่งคิดเช่นนั้นเพคะ จักรพรรดิ หม่อมฉันคิดว่าลองสืบหาให้ชัดเจนกว่านี้ อย่าเพิ่งปรักปรำใครโดยยังไม่มีหลักฐาน" จักรพรรดินีโต้แย้งทันที เพราะบางครั้งการสืบหายากมันอาจจะไม่ใช่ผู้าุโ
"ข้าจะพยายามตามสืบให้ได้พะยะค่ะ ว่าแต่ยังต้องตามไปคุ้มกันคุณชายริค ไวท์อีกหรือไม่" ฟรังถามด้วยใบหน้าจริงจังถึงจะไม่ชอบใจยังไงก็ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด
"ยกเลิกการคุ้มกันออกไปก่อน ยังไงตอนนี้ริค ไวท์ก็อยู่กับเ้าชายคลาสไม่น่าจะมีปัญหาอะไร"
"พะยะค่ะ"
"เดี๋ยวเ้าไปตามสืบเื่การตามล่าเืให้ได้ ก่อนที่จะวุ่นวายกันมากกว่านี้"
"พะยะค่ะ องค์จักรพรรดิ"
แกร๊ก!
"เ้าเป็ยังไงบ้าง จักรพรรดินี" จักรพรรดิถามพลางลงจากที่นั่งของห้องโถงที่ใช้ในการว่าราชการงานบ้านเมือง
"ไม่เป็ไรเพคะจักรพรรดิ หม่อมฉันเพิ่งจะท้องได้ไม่กี่เดือนเอง"
"ข้าว่าเ้าต้องระวังมากกว่าเดิมเพราะว่าท้องยังอ่อนอยู่ ตอนนี้กี่เดือนแล้ว"
"เกือบจะสี่เดือนแล้วเพคะ" จักรพรรดินีตอบพลางลูบท้องตนเองไปมา อีกไม่นานจะมีทายาทคนที่สี่ออกมาแล้วสินะ ราชวงศ์กษัตริย์กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้กับจักรวรรดิอย่างแน่นอน
"ข้าอยากจะเห็นหน้าลูกคนที่สี่ของตัวเองเสียแล้วสิ" จักรพรรดิบอกพลางพยุงอีกคนลงจากที่นั่งเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนกับท้องมากเกินไป นี่เป็สิ่งที่เกิดขึ้นในอีกหลายร้อยปีหลังจากการตั้งพระครรภ์ของพระโอรสแฝด หลายๆ คนอาจจะคิดว่าจักรพรรดิเข้มงวดหรืออะไรก็ตามแต่ทรงรักและให้เกียรติภรรยามาก ถึงจะไม่ได้มาจากรักด้วยใจและเป็การแต่งงานทางการเมืองก็ตาม
"ขอบคุณมากค่ะที่ดูแลดีเสมอมา แม้ว่าจักรพรรดิจะไม่ได้รักหม่อมฉันเลยก็ตาม ขอบคุณที่ดูแลกันมาหลายร้อยปี" จักรพรรดินีบอกด้วยใบหน้าเรียบเฉยเพราะเธอรู้มาตลอดว่าทั้งสองคนไม่ได้มีความรักให้แก่กัน แต่เลือกที่จะรักษาสัญญาด้วยการมีภรรยาเพียงคนเดียว ไม่มีภรรยาเพิ่มเหมือนจักรพรรดิคนอื่นในสมัยครองราชย์
"ทำไมเ้าถึงไม่รู้ตัวเลยเจนนิเฟอร์ ข้าหลงรักเ้าไปตั้งนานแล้ว" อยากจะถอนหายใจสักหมื่นครั้ง ทำไมถึงไม่รู้ตัวกันว่าข้ารักเ้าไปตั้งนานแล้ว หรืออยู่ด้วยความคิดว่าไม่ได้รักมาตลอด
"ท่านหมายความว่าอะไร เคน" กลายเป็เกิดคำถามในระหว่างทางกลับห้องพักของทั้งสอง มือหนาลูบกลุ่มผมนิ่มของผู้เป็ภรรยาอย่างแ่เบาด้วยความเอ็นดู
"ข้ารักเ้าไปตั้งนานแล้ว ไม่งั้นจะยอมมีลูกกับเ้าทำไมกันล่ะ"
"ข้าไม่อยากจะมีลูกกับผู้หญิงที่ข้าไม่ได้รักหรอกนะ" น้ำตาไหลออกมาจากแก้มทั้งสองข้างของจักพรรดินี มือหนาโบกมือไล่เหล่าข้ารับใช้ให้กับไปยังห้องพักก่อนแล้วจะไปส่งจักรพรรดินีที่วังด้วยตนเอง
"ไม่ร้องล่ะจักรพรรดินี ข้ารักเ้ามาตั้งนานแล้ว" คำพูดที่เรียบนิ่งแต่หนักแน่นยังคงออกมาจากปากของบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในจักรวรรดิ เหมือนมีอะไรบางอย่างสะกดใจของจักรพรรดินีให้รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน แท้จริงแล้วนั้นเพราะการวางตัวของทั้งคู่ทำให้ไม่รับรู้ว่าความรู้สึกของอีกฝ่ายที่มีมาโดยตลอด
"ข้าก็รักท่านมาตลอดเหมือนกัน ไม่รู้ว่ารักตอนไหนแต่ว่ารักไปแล้ว ยังไม่สายไปใช่ไหม"
"หึ! ไม่มีคำว่าสายเกินไปหรอก เจนนิเฟอร์"
"่นี้เ้าตั้งครรภ์ข้าจะให้เ้ามาอยู่ที่วังของข้าจนกว่าจะคลอด....."
"แล้วหลังคลอดให้ย้ายกลับวังของข้าใช่ไหมเพคะ" จักรพรรดินีถามด้วยความสงสัยเพราะเหมือนว่าคำพูดจะขาด่ไป
"ข้าจะช่วยเ้าเลี้ยงลูกดั่งเช่นเมื่อหลายร้อยปีก่อนสามเดือน แล้วค่อยแยกวังกันอยู่"
เนื่องจากมีต่อบางส่วนขาดหายขออภัยในความไม่สะดวก ได้ทำการสร้างลิ้งค์ให้สะดวกต่อการอ่านเรียบร้อย ขออภัยในความไม่สะดวก
