~พระราชวังแคลบอร์น~
“เสด็จพ่อจะให้ลูกอยู่นิ่ง ๆ ได้อย่างไร ตอนนี้กาบริเอลกำลังถูกเหล่าสัตว์ปีศาจโจมตี” ลาฟาซกล่าวเสียงฮึดฮัดทั้งยังเดินไปเดินมา จักรพรรดิพุช คาเรน ยกมือเท้ากับเก้าอี้ก่อนค้ำยันศีรษะที่หนักอึ้งไว้
“แล้วเ้าจะให้ข้าทำเช่นไรกันลาฟาซ องค์ชายกับองค์หญิงยังคงอยู่ หากส่งกำลังอัศวินออกไป พวกเขาจะคิดเช่นไร” น้ำเสียงตวาดดุทำให้สตรีที่นั่งข้าง ๆ ต้องเอามือมาลูบเพื่อให้จักรพรรดิใจเย็นลง
“ฝ่าาอย่างทรงกริ้วมากสิเพคะ” ราชินียังคงยิ้มปลอบอยู่ข้าง ๆ
“ลูกแน่ใจว่ามิกาเอลสามารถเอาตัวเองรอดได้ แต่นาเซียสิ นางจะช่วยเหลือตัวเองอย่างไร”
“ลาฟาซ .. นาเซียนางได้แต่งงานกับมิกาเอลไปแล้ว มิกาเอลย่อมต้องปกป้องนางอย่างแน่นอน” ราชินีกล่าวอย่างเตือนสติ
“ไม่ เสด็จแม่ก็รู้ว่ามิกาเอลยอมแต่งงานกับนาเซียนั่นก็เพราะเสด็จพ่อ ลูกจะไปกาบริเอล” กล่าวจบลาฟาซก็เดินออกจากประตูห้องโถงใหญ่ เซลีนที่ยืนอยู่ด้านนอกใเล็กน้อยเมื่อประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว ร่างสูงเดินจ้ำโดยไม่หันมองสิ่งใด ลาฟาซสั่งให้วิลเลี่ยมจัดเตรียมม้าศึกชั้นดีไว้ การเดินทางครั้งนี้เขาจะไม่ใช้รถม้า นั่นแสดงว่าเขาจะไม่พาเซลีนไปด้วยนั่นเอง เซลีนที่ยืนฟังเสียงคำสั่งก็รับรู้ได้ทันที นางรีบวิ่งเพื่อไปขวางหน้าเขาไว้
“เดี๋ยวเพคะ พาหม่อมฉันไปด้วยนะเพคะ หากเกิดสิ่งใดขึ้นหม่อมฉันสามารถใช้พลังของหม่อมฉันช่วยเหลือฝ่าาได้” เซลีนยกมือแนบอก นางไม่้าที่จะปล่อยให้ลาฟาซต้องเดินทางไปอาณาเขต กาบริเอลเพียงลำพัง ลาฟาซนิ่งคิดเพียงครู่ก่อนจะอนุญาตให้เซลีนร่วมเดินทางได้ ลาฟาซก้มคว้าอุ้มตัวเซลีนขึ้นนั่งม้าตัวเดียวกันก่อนจะก้าวข้ามอุโมงมืด ๆ มันคือการเดินทางโดยหินเวท เพียงแค่พริบตาเดียว ทั้งเขา เซลีน และวิลเลี่ยมก็มาถึงหน้าประตูปราสาทกาบริเอล แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะดูสงบเงียบกว่าที่คิด
นาเซียยืนจ้องคนทั้งสาม ไม่คิดว่าเซลีนจะมาหาเธอด้วยตัวเอง นาเซียรีบคว้าแขนเซลีนก่อนจะพาเดินมายังเรือนกระจกสวนดอกไม้
“เดี๋ยวคะมาดาม” เซลีนเอ่ยขึ้นเมื่อถูกจูงมืออย่างกะทันหัน
“ฉันมีเื่จะคุยกับคุณเลดี้ค่ะ” นาเซียหันมอง แม้จะดูเป็การรบกวน
“เื่อะไรกันคะ ดูมาดามจะกังวลไม่น้อย” เซลีนเอ่ยขึ้นเมื่อนาเซียกดไหล่ให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตัวโปรดใบหน้าเรียวแหงนมองอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“เื่พลังของเลดี้ยังไงล่ะ”
“พลังของฉัน...”
“ใช่...ฉันมีเื่อยากจะขอร้อง เื่นี้ฉันอยากให้เลดี้ตอบฉันเสียก่อนว่าเลดี้ยินดีหรือไม่” นาเซียไม่้าให้ใครล่วงรู้เื่อาการป่วยของ มิกาเอล เพราะนอกจากเธอแล้วมีเพียงพี่น้องตระกูลคาโอ้เท่านั้นที่รู้ หากจักรพรรดิพุชคาเรนได้ล่วงรู้เื่เธอเกรงว่าจะเกิดความกลหนได้
“ดิฉันไม่คิดว่าจะสามารถจะทำได้ พลังของฉันไม่ยังคงเพิ่งเริ่มต้นมาดามคิดว่าดิฉันจะทำได้อย่างนั้นหรือคะ” เซลีนตอบอย่างนอบน้อม จริงอยู่ที่พลังของนางในยามนี้ยังไม่มากนัก แต่หากว่าเธอทำให้เซลีนมีพลังที่มากขึ้นเร็วกว่านี้ละ นาเซียกรุ่นคิดแม้เธอจะรู้ดีว่าพลังของเซลีนจะเพิ่มขึ้นได้อย่างไร แต่เธอต้องมั่นใจเสียก่อนว่าเซลีนจะไม่ทำร้ายมิกาเอล ‘หนังสือสัญญาแห่งเวทมนตร์’ นาเซียจำได้เธอเคยเห็นมันในห้องหนังสือของ กาบริเอล หนังสือที่หากผู้ใดได้ลงนามผู้นั้นจะไม่สามารถผิดสัญญาได้หากยังไม่บรรลุเป้าหมายอย่างแท้จริง
“แล้วถ้าฉันช่วยให้เลดี้มีพลังที่มากขึ้นละคะ” เซลีนเอียงศีรษะเล็กน้อยเมื่อนาเซียเอ่ยช่วยเหลือขึ้นมา
“มาดามจะทำอย่างไรคะ” เซลีนถามด้วยความแปลกใจ เพราะนางพยายามทำทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่สามารถเพิ่มพลังนั้นได้ นาเซียยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนจะลุกยืน
“ฉันสัญญาว่าจะไม่ใช้เลดี้ทำเื่ไม่ดีแน่ และฉันก็อยากที่จะช่วยเหลือเลดี้ด้วยความจริงใจ” นาเซียส่งมือให้เซลีน ก่อนที่นางจะส่งมือตอบลาฟาซเดินตรงมายังพวกเธอ เขาจับมือเซลีนออกอย่างโมโห
“นี่เ้ากำลังหว่านล้อมเซลีนเื่ใดกัน” ลาฟาซกล่าวน้ำเสียงเข้ม นาเซียแหงนหน้ามองเล็กน้อยเธอแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในสายตาของลาฟาซนั้นเธอยังคงเป็นางร้ายอยู่ตลอดเวลา
“เื่นี้มีเพียงหม่อมฉัน และเลดี้เซลีนเท่านั้นเพคะ” กล่าวจบร่างบางระหงก็หันตัวออกจากเรือนสวนดอกไม้ทันที นาเซียไม่อยากที่จะอยู่เอ่ยคุยกับเขาเท่าไหร่นัก เธอยังคงจดจำได้เสมอว่าเขาทำเช่นไรกับนาเซียก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนลาฟาซจะไม่ยอมปล่อยหากความโทสะนั้นยังไม่ได้ทำให้สงบลง เขาตรึงตัวเธอไว้ก่อนจะหันไปบอกให้เซลีนกลับเข้าไปด้านในปราสาท ใบหน้าที่ก่ำแดงด้วยความโกรธ ดูเหมือนไม่ใช่เพียงเพราะว่าเธอไปวุ่นวายกับเซลีนแน่
“เหตุใดเ้าไม่ส่งหนังสือไปให้เสด็จพ่อ เ้าไม่เห็นหรือว่ามิกาเอลาเ็” แรงบีบที่ฝ่ามือพอจะทำให้ใบหน้าที่นิ่งดูเหยเกขึ้นมาเล็กน้อย
“หากเื่ที่ดยุกาเ็ หม่อมฉันให้หมอประจำตัวของท่านดยุกดูแล้ว แต่ถ้าเื่ความมั่นคงของกาบริเอลแล้วละก็ หม่อมฉันเห็นว่าตอนนี้ทางพระราชวังยังคงจัดเลี้ยงต้อนรับคณะทูตซายากันอยู่”
“แล้วถ้าเกิดว่าสถานการณ์รุนแรงมากกว่านี้ เ้าคิดว่าเ้าสามารถจัดการได้อย่างนั้นเหรอ” ลาฟาซแทรกเสียงขึ้นจนเธอเองก็ใ
“ฝ่าาไม่ต้องทรงกังวล ถึงอย่างไรดยุกก็จะปกป้องกาบริเอลไว้ได้แน่”
“แน่นอนว่ามิกาเอลสามารถปกป้องกาบริเอลได้ เ้าคิดหรือว่าเขาจะปกป้องเ้าอยู่กัน”
“แล้วทำไมข้าจะต้องละทิ้งดัชเชสของข้าด้วยกัน” มิกาเอลที่เดินมาจากด้านนอก แม้จะมีเสื้อคลุมอยู่ใบหน้าของเขาก็ยังคงซีดอยู่เช่นเดิม เพราะอาการาเ็ทำให้เขาป่วย
“ท่านกำลังจะบอกว่ายินดีที่แต่งงานกับนาเซียตามที่เสด็จพ่อมอบพิธีนั้นให้แก่ท่านอย่างงั้นเหรอ” ลาฟาซหันมากล่าวอย่างไม่พอใจ เขารู้เกี่ยวกับการแต่งงานของนาเซียกับมิกาเอลดี แต่เขายังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเป็ มิกาเอลเองที่กล่าวขอแต่งงานกับเธอ นาเซียนิ่งเธอไม่ได้คาดหวังจะให้คนทั้งคู่ต้องทะเลาะกัน แต่มิกาเอลกำลังาเ็เช่นนั้นเขาควรจะพักผ่อน
“ไม่ว่าการแต่งงานนี้จะเกิดขึ้นจากสาเหตุใด แต่หม่อมฉันก็คือดัชเชสอยู่ดี หม่อมฉันทนไม่ได้หรอกเพคะ หากพระองค์ยังเอาแต่ตำหนิท่านดยุกอยู่อย่างนี้” นาเซียเดินมาประคองตัวมิกาเอลไว้ก่อนจะดันให้มิกาเอลเดินกลับ
“แต่เ้าอย่างลืมสิว่า เ้าชื่นชอบข้าแค่ไหนนาเซีย” ลาฟาซะโตามก่อนที่นาเซียจะหันกลับมาตอบ
“หม่อมฉันจะถือว่าไม่ได้ยินที่พระองค์กล่าว” แล้วเธอก็ประคองให้เขากลับมาพักที่ห้องดังเดิม ร่างสูงคว้าเอวเธอทันทีที่เขานั่งลงบนเตียงนอนกว้าง จนร่างบางล้มนั่งบนตักเขา
“เ้ายังชอบลาฟาซอยู่หรือไม่” เขาเอ่ยน้ำเสียงอ่อนลง เธออยากจะทุบฝ่ามือไปที่ไหล่เขาเสียงตอนนี้ ต้องให้เธอบอกสักกี่ครั้งว่าเธอไม่ได้สนใจลาฟาซเลย คนที่ชอบลาฟาซนั้นได้หายไปนานแล้ว แต่ไม่รู้เพราะอะไรทำให้เธอไม่สามารถตอบเขาออกมาได้
“ข้าจะทำหน้าที่ดัชเชสให้ดีสมกับตำแหน่งที่องค์จักรพรรดิมอบให้ค่ะ” นาเซียพยายามที่จะยันตัวเองให้หลุดออกจากวงแขนแกร่งของเขา แม้เขาจะยังใช้แขนได้เพียงข้างเดียวในขณะนี้แต่กำลังเขานั้นช่างมหาศาล เขากอดรัดตัวเธอไว้จนแทบไม่สามารถขยับตัวได้
“ท่านดยุก เหมืองหินเวทตอนนี้ข้าให้คนงานไปนำหินเวทส่วนหนึ่งมาเก็บไว้ตามที่ท่านบอกแล้วค่ะ” อีวอนเคาะประตูสองครั้งก่อนจะเดินเข้ามาบอกเขา มิกาเอลคลายวงแขนลง นาเซียรีบผละตัวออกก่อนจะส่งยิ้มให้อีวอนอย่างอาย ๆ เธอรีบเลี่ยงออกไปทันที เธอมองดูคนงานที่กำลังขนหินเวทกลับมา แต่แววตาคู่หนึ่งเหมือนเธอเคยรู้จัก ยืนอยู่ด้านนอกกำแพง หญิงชราคนนั้น นาเซียรีบวิ่งลงมายังด้านนอกก่อนจะพบว่าหญิงชรานั้นส่งยิ้มให้เธอเพียงเล็กน้อยแล้วนางก็หันหลังเดินออกไป นาเซียรีบวิ่งตามแต่กลับถูกลาฟาซคว้าแขนไว้ แม้จะว่าบังเอิญก็ไม่ใช่ เพราะเธอมั่นใจว่าหญิงชรานั้นจะต้องรู้เื่ที่เธอมาอยู่ที่นี้แน่ นาเซียสะบัดแขนที่ถูกกุมไว้อย่างน่ารำคาญก่อนจะเดินกลับเข้ามาในปราสาทตามเดิม