“ลี่เอ๋อร์…ลี่เอ๋อร์…” อนุตู้คุกเข่าคลานไปข้างหน้าและกอดเซี่ยลี่ที่นอนอยู่บนพื้นไว้ในอ้อมแขนของนาง เห็นได้ชัดว่าเขาผล็อยหลับไปในห้อง ทว่าเหตุใด....
อนุตู้ยื่นมือไปตรวจสอบลมหายใจที่จมูกของเซี่ยลี่ นางยังคงััได้ถึงลมหายใจของบุตรชายตนเองทว่านางยังมิอาจปล่อยวางได้ นางพยายามเขย่าร่างกายของเขาแต่บุตรชายของนางราวกับหลับเป็ตาย เขย่าอย่างไรก็ไม่ตื่น
“ลี่เอ๋อร์ ลูกตื่นได้แล้ว ตื่นเร็วเข้า อย่าทำให้แม่กังวลแบบนี้...”อนุตู้กังวลมากเสียจนแทบจะร้องไห้
“เขายังเด็กงั้นหรือ? เช่นนั้นทารกในครรภ์ของเปิ่นกง ไม่เด็กแล้วหรือไร? ทารกในครรภ์ของเปิ่นกงจะถูกเ้าทำร้ายอย่างไรก็ได้งั้นหรือ?” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอขึ้นเสียงสูงทันใดดูเหมือนว่านางจะมิอาจระงับโทสะในใจของตนเองได้อีกต่อไปแล้วองค์หญิงใหญ่ชิงเหอหยิบยกถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมา และขว้างไปที่อนุตู้อย่างแรงถ้วยน้ำชาใบนั้นกระแทกโดนหน้าผากของอนุตู้เข้าอย่างจังจนเกิดเสียงดัง ‘เพล้ง’
อนุตู้กรีดร้องอย่างเ็ป เืสีแดงสดไหลออกมาจากจุดที่โดนถ้วยชากระแทกใส่บนหน้าผาก
ทว่าหลังจากร้องไห้อย่างเ็ป อนุตู้กลับไม่กล้าร้องไห้สะอึกสะอื้นต่อไปอีกนางกอดเซี่ยลี่แน่น ร่างกายสั่นสะท้านตลอดเวลา
“องค์หญิงเพคะ หม่อมฉัน...ไม่ใช่หม่อมฉัน...” อนุตู้ยังคงคิดดิ้นรนเริ่มพูดจาตะกุกตะกัก
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอขมวดคิ้ว ทว่านางกลับเกียจคร้านเกินไปที่จะเดินเข้าไปจัดการอนุตู้นางยกมือลูบหน้าผากตนเอง “ใครก็ได้ มาปลุกคุณชายใหญ่ที”
ครั้นถ้อยคำนั้นหลุดออกไปทหารองครักษ์ที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูพลันเดินเข้ามาทันที ทุกคนถือดาบอยู่ในมืออนุตู้ครั้นเห็นกลุ่มทหารพวกนั้น พลันรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
ปลุกหรือ? พวกเขาจะปลุกลี่เอ๋อร์ได้เยี่ยงไร?
แต่...
นางต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองกระทำ เกรงว่าชะตากรรมของนาง...
ระหว่างอนุตู้กำลังครุ่นคิด ทหารองครักษ์คว้ามือของเซี่ยลี่และดึงเขาออกจากอ้อมแขนของอนุตู้อย่างแรง อนุตู้ตื่นใ ครั้นนางนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้จึงรีบเอ่ยออกไปอย่างลนลานว่า “องค์หญิงโปรดไว้ชีวิตด้วยเพคะ โปรดไว้ชีวิตด้วยหม่อมฉันสำนึกผิดแล้ว เป็หม่อมฉันที่เลอะเลือนเองเพคะหม่อมฉันไม่ควรมีเจตนาคิดทำร้ายทารกในครรภ์ขององค์หญิง หม่อมฉันสมควรตายแต่ลี่เอ๋อร์ เขาไม่ผิดนะเพคะ...องค์หญิง...”
อนุตู้โขกศีรษะลงบนพื้นอย่างไม่หยุดหย่อนเสียงโขกศีรษะดังก้องทั่วโถงรับรอง ทำให้จิตใจของผู้คนที่ได้ยินเสียงนั้นรู้สึกหนาวสั่นหน้าผากที่โดนของกระแทกใส่เมื่อครู่นี้ เต็มไปด้วยเืไหลอาบ
ยอมรับแล้วหรือ
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเลิกคิ้ว ขณะนั้นเองเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านนอก เพียงชั่วครู่หนึ่งอัครเสนาบดีเซี่ยก้าวเข้ามาข้างในอย่างเร่งรีบและเห็นสถานการณ์ในห้องโถง
“นี่มันเกิดเื่อะไรขึ้น?” เซี่ยยวิ่นชินเหลือบมองอนุตู้ที่ยังคงโขกศีรษะไม่หยุดรวมถึงเหลือบมองเซี่ยลี่ที่ถูกทหารองครักษ์จับอยู่ คิ้วทั้งสองข้างพลันขมวดแน่น
“นายท่าน ใอะไรหรือ?” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอกล่าวอย่างไม่เร่งรีบ
อนุตู้ชะงักไปเล็กน้อย ความหวังริบหรี่ผุดขึ้นในใจทว่าเพียงนางเงยหน้ามอง เมื่อเห็นความเย็นะเืในดวงตาขององค์หญิงใหญ่แล้วความหวังเมื่อครู่นี้ราวกับถูกสาดให้ดับลงด้วยน้ำเย็น
ยามนี้องค์หญิงรู้เื่ที่ตนเองมีเจตนาทำร้ายนางแล้ว แม้นนางจะพูดจาเอาตัวรอดอย่างไร ทว่าองค์หญิงใหญ่ก็ยังมีหลายร้อยวิธีที่จะทำให้นางมีชีวิตอยู่เหมือนตายทั้งเป็ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่ลี่เอ๋อร์อาจจะติดร่างแหไปด้วย...
ครั้นตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ อนุตู้จึงรีบเดินไปตรงหน้าอัครเสนาบดีเซี่ยและกำเสื้อผ้าของเขาไว้“นายท่าน อนุโง่เขลาผู้นี้ผิดไปแล้ว อนุต่ำต้อยผู้นี้หลงผิดมีเจตนาคิดทำร้ายทารกในครรภ์ขององค์หญิงใหญ่ ที่ซื่อฟางกว่านวันนั้นข้าวางแผนทำร้ายองค์หญิงใหญ่ให้ตกน้ำและในวันพิธียกน้ำชาของคุณหนูยวี่ ข้ายังผสมน้ำยี่โถในน้ำชาและยังมีเื่มนตร์ดำ...”
อนุตู้ไม่กล้าปกปิดแม้แต่น้อย ทว่าครั้นนางเอ่ยถึงมนตร์ดำสองคำนี้ดวงตาของเซี่ยยวิ่นชินพลันเคร่งขรึม
มนตร์ดำไม่ได้เกี่ยวข้องแค่ ‘อนุตู้’ คนเดียวเท่านั้น บางทีอาจจะรวมถึงคนทั้งจวนอัครเสนาบดีด้วย!
เซี่ยยวิ่นชินมองของมนตร์ดำที่ตกอยู่บนพื้น เขาก้มตัวลงหยิบครุ่นคิดลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันไปมององค์หญิงใหญ่ชิงเหอ "ชิงเหอ เ้าคิดว่าควรจัดการเยี่ยงไร?"
ครู่ใหญ่ต่อมา องค์หญิงใหญ่ชิงเหอถอนสายตากลับไปรอยยิ้มเสี้ยวหนึ่งเบ่งบานขึ้นบนใบหน้า ทว่าสำหรับเหนียนยวี่ นางมั่นใจว่านางเห็นแววขมขื่นพาดผ่านดวงตาขององค์หญิงใหญ่อย่างชัดเจน
“องค์หญิง พวกเราออกมาเยี่ยงนี้ นายท่าน...จะปกป้องอนุตู้หรือไม่เพคะ?” จือเถายังคงกังวลแม้จะเดินออกจากโถงรับรองมาไกลแล้ว ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็ยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา