คืนนั้นถังชิงหรูไม่ได้นอนทั้งคืนเหมือนดั่งคำกล่าวของเฟิ่งหยางทุกประการ
นางใช้เวลาสองสามชั่วยามในการรักษาคนาเ็กลุ่มที่สอง เริ่มต้นจากพันแผลใส่ยาให้ หลังจากนั้นก็ต้มยาให้พวกเขา
เนื่องจากผู้ได้รับาเ็มีมากเกินไป จะอาศัยลูกน้องของเฟิ่งหยางช่วยเหลืออย่างเดียวก็ไม่ได้ นอกจากนี้ สมุนไพรบางอย่างมีข้อจำกัด ต้องใช้วิธีการต้มแบบพิเศษ หากไม่มีนางเฝ้ามองอยู่ด้านข้าง ก็ไม่มีทางต้มสำเร็จ ครั้นแล้วนางจึงต้องเคี่ยวกรำอยู่ถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนต่อเนื่องไม่มีการหยุดพักผ่อน ที่น่าเศร้าที่สุดคือไม่มีเวลากินข้าว แม้แต่น้ำสักคำก็ยังมิได้ดื่ม ท้องของนางร้องเสียงดังโครกครากอยู่นานแล้ว นางทำได้แต่ทำหูทวนลมไม่ได้ยิน
"แม่นางถัง" หูไหลยกโจ๊กเข้ามาชามหนึ่ง "ประมุขของพวกเราบอกว่าท่านไม่ได้พักผ่อนมาหนึ่งวันหนึ่งคืน เกรงว่าท่านคงเหนื่อยแย่แล้ว กินโจ๊กรองท้องก่อนเถิดขอรับ"
ถังชิงหรูจับโจ๊กหมูก่อนเอ่ยกับหูไหลว่า "ยังมีอีกเท่าไร คนเจ็บเ่าั้กินของคาวได้หรือไม่ โจ๊กหมูแบบนี้ล่ะเหมาะที่สุด"
"แม่นางไม่ต้องเป็ห่วง โจ๊กหมูนี้เคี่ยวขึ้นมาสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ พี่น้องทุกคนได้กินเรียบร้อยแล้ว นี่เป็ชามสุดท้ายพอดี จึงยกมาให้ท่านขอรับ" หูไหลตอบอย่างตรงไปตรงมา
ถังชิงหรูมือสั่นระริก เกือบทำถ้วยใส่โจ๊กหมูหลุดมือ นางขึงตาใส่หูไหลอย่างรุนแรง ก่อนดื่มโจ๊กของตนเองด้วยความคับข้องใจ
นางไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับคนน่ารังเกียจผู้นั้น นางเป็ผู้ใหญ่ใจกว้าง ไม่ถือสาคนที่กำลังจมอยู่ในความเสียใจ ถังชิงหรูพร่ำบอกกับตัวเองอยู่เงียบๆ ถึงไม่คว่ำโจ๊กชามนั้นลงพื้นได้
บุรุษซึ่งยืนมองจากฝั่งตรงข้ามเห็นภาพนางถลึงตาเขียวใส่ลูกน้องของตนเอง รอยยิ้มจางๆ ก็ผุดวาบในแววตา
แบบนี้สิถึงจะเป็สตรีแข็งแกร่งมีชีวิตชีวาที่ตนเองรู้จัก ไม่ใช่ทำท่าสิ้นเรี่ยวแรงราวกับสุนัขป่วยแบบนั้น
"ต่อไปมอบหมายให้พวกเ้าดูแลต่อ สตรีผู้นั้น้าพักผ่อน อย่าทำให้นางเหนื่อยไปมากกว่านี้" เฟิ่งหยางหันมากำชับกับคนข้างกาย
"เมื่อเช้านี้พวกเราบอกให้แม่นางถังไปพักผ่อน แต่นางบอกว่าสมุนไพรเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษ ต้องผ่านกรรมวิธีเฉพาะถึงจะใช้ได้ พวกเราทำไม่เป็ จึงได้แต่มองนางทำงานอยู่คนเดียว" คนผู้นั้นเอ่ยด้วยสีหน้าละอายใจ "หากไม่ไหวจริงๆ จะให้แม่นางไปพักก่อนก็ได้ขอรับ พี่น้องของเราถูกส่งกลับมาจากประตูผีแล้ว แค่ดื่มยาช้าไปสักครั้งก็คงไม่เป็ไร"
"นางไม่เห็นด้วยหรอก" ผู้เป็หมอย่อมมีจิตเมตตา นางเป็คนยึดมั่นในหลักการ มิเช่นนั้นสตรีตัวเล็กๆ เพียงคนเดียวจะกลายเป็ที่กล่าวขวัญของคนทั้งเมืองชิ่งได้อย่างไร หากวันหนึ่งสถานะแท้จริงของนางถูกเปิดเผย เกรงว่าคงใกันทั้งเมือง แต่ตนเองจะไม่ให้เื่นี้เกิดขึ้น เพราะนางลงเรือโจรของเขาแล้ว อย่าหวังจะไปจากเรือลำนี้ได้ แค่นางได้รับรู้เื่ราวของตำหนักสังหาร ชั่วชีวิตนี้ย่อมไม่อาจถอนตัวจากองค์กรได้ "พวกเ้าช่วยนางทำงานให้เสร็จสิ้นก่อน แบบนี้นางถึงจะพักผ่อนได้อย่างสบายใจ"
"ขอรับ" บุรุษข้างกายรับคำ
ขณะที่เฟิ่งหยางไม่ได้สนใจ เขาก็ลอบเติมอีกหนึ่งประโยคอยู่ในใจ ลูกพี่ไม่เป็ห่วงก็ดีไป หากนางเหนื่อยแล้วท่านเกิดปวดใจขึ้นมา เดี๋ยวก็มาหาเื่พวกเราอีก แบบนั้นไม่สู้ให้พวกเราไปนอนาเ็ยังดีกว่า
"โอย เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว..." ถังชิงหรูล้มตัวนอนบนเตียง กอดผ้าห่มแพรหอมฟุ้งก่อนผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
ขณะที่นางกำลังนอนหลับ พลันบังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับเรือนร่างบอบบางของนาง พลังงานที่เห็นเป็แสงสีทองโคจรไหลเวียนไปทั่วร่าง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ปรับปรุงร่างกายของนางให้ดีขึ้น ทุกสิ่งเหล่านี้แม้แต่เสี่ยวอีก็ยังไม่รู้ นับประสาอันใดกับคนที่กำลังหลับฝันหวานอยู่ตอนนี้
ถังชิงหรูเหนื่อยล้ามากจริงๆ การนอนหลับครานี้กินเวลายาวไปถึงสามวันสามคืน เคราะห์ดีงานที่ต้องทำล้วนจัดการเสร็จสิ้นหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครเข้ามารบกวน
ยามถังชิงหรูรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองดูมีชีวิตชีวาขึ้น ความอ่อนเปลี้ยที่สั่งสมมาหลายวันล้วนมลายหายสิ้น รู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน มิเพียงเท่านี้ ขณะลุกขึ้นมานั่ง ก็สามารถมองเห็นไปได้ไกลมาก และได้ยินเสียงซึ่งอยู่ห่างไกล นางพลันรู้สึกประหลาดใจ ตบๆ พวงแก้มของตนเองด้วยนึกว่ายังไม่ตื่น
"แม่นาง..." มีเสียงของสตรีดังขึ้นจากด้านนอก "บ่าวได้ยินท่านตื่นแล้ว ขอเข้าไปได้หรือไม่ บ่าวยกน้ำมาให้ท่านเ้าค่ะ"
"อื้อ" ถังชิงหรูรับคำ
หญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งหิ้วน้ำร้อนถังหนึ่งเข้าประตูมา หลังจากนั้นก็เอาไปเทใส่ในถังไม้ขนาดใหญ่ด้านหลังฉากกั้น หญิงสาวผู้นั้นกำลังเตรียมน้ำอาบให้ถังชิงหรูอย่างพิถีพิถัน
"แม่นาง ใช้ได้แล้วเ้าค่ะ ท่านชอบกลีบบุปผาหรือไม่ บ่าวเตรียมดอกไม้สดไว้แล้ว จะอาบด้วยกลีบบุปผาก่อนก็ได้เ้าค่ะ" หญิงสาวกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "บ่าวหรูเยียน คารวะแม่นาง"
"เ้าเป็คนของที่นี่หรือ ข้ามาอยู่ที่นี่หลายวันไม่เคยเห็นเ้าเลย" ถังชิงหรูถามเรียบๆ
"แม่นางความจำดียิ่ง เพียงไม่กี่วันก็จำคนของที่นี่ได้แล้ว บ่าวถูกย้ายมาจากที่อื่นเ้าค่ะ" หรูเยียนกล่าว "ปรกติบ่าวรับผิดชอบหน้าที่รายงานข่าวจากภายนอก ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเื่ของที่นี่ ครานี้เื่ที่เกิดขึ้นสาหัสสากรรจ์ยิ่งนัก บ่าวก็เลยถูกเรียกตัวกลับมาเป็กำลังสนับสนุนเ้าค่ะ"
ถังชิงหรูตะลึงงัน มองสตรีผู้นั้นอย่างเคลือบแคลง
สาวใช้ธรรมดาคนหนึ่งจะพูดมากขนาดนี้เชียวหรือ นางไม่กลัวว่าข่าวเหล่านี้จะรั่วไหลไปถึงหูของผู้อื่นหรืออย่างไร หรือว่าสาวใช้คนนี้กำลังทดสอบบางอย่าง
เมื่อครู่นางบอกว่าตนเองทำงานรายงานข่าวอยู่ข้างนอก ก็กล่าวได้ว่างานสืบถามข้อมูลจากปากของผู้อื่นคืองานที่นางถนัดที่สุด หญิงสาวคนนี้ไม่เรียบง่ายเลย
ถังชิงหรูพลันรู้สึกว่าตนเองอ่อนหัดเกินไป ที่นี่ไม่ว่าจะเลือกใครมาสักคนล้วนทำให้นางหวาดระแวงได้ทั้งสิ้น มิอาจประเมินความสามารถของคนโบราณต่ำไปจริงๆ
"ข้ายังรู้สึกเหนื่อยอยู่บ้าง ้าความเงียบสงบสักครู่ เ้าออกไปรอข้างนอกได้หรือไม่" ถังชิงหรูไม่อยากรับมือกับสตรีผู้นี้ นางเหน็ดเหนื่อยมานาน หากยังต้องมาระแวดระวังกับการหยั่งเชิงของอีกฝ่ายก็คงจะล้าเกินไป นางยังไม่มีพลังมากพอที่จะทำเช่นนั้น ต่อให้เป็เฟิ่งหยางอยู่ที่นี่ นางก็จะพูดแบบเดียวกัน
หรูเยียนได้ยินคำกล่าวของนาง ก็ผงกศีรษะรับอย่างเข้าใจยิ่ง "เช่นนั้นบ่าวจะไปรอด้านนอก หากแม่นาง้าสิ่งใดก็เรียกบ่าวได้เลยเ้าค่ะ"
"อื้อ" ถังชิงหรูยกมือขึ้นโบก พลางถอดเสื้อผ้าแล้วเดินไปยังฉากกั้น
หลังถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว ก็ทดสอบความอุ่นของน้ำ อุณหภูมิกำลังพอดีไม่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว นางก้าวลงไปในน้ำอย่างช้าๆ ก่อนนั่งลงไป
กลิ่นหอมสดชื่นของกลีบบุปผาโชยมาปะจมูก น้ำอุ่นๆ ช่วยชะล้างความอ่อนล้าที่สะสมมาหลายวันออกไป ทั่วร่างกลับมาสดชื่นมีชีวิตชีวา นางเล่นน้ำพลางฮัมเพลงโบราณอย่างรื่นรมย์
เฟิ่งหยางเดินมาถึงด้านนอก ได้ยินเสียงน้ำ รวมถึงเสียงเพลงใสกังวานของหญิงสาวดังมาจากด้านใน ก็มิได้จากไปทันที แต่ยืนเงี่ยหูฟังอยู่ตรงนั้น
หรูเยียนเห็นเฟิ่งหยาง ก็ยอบกายคำนับก่อนที่จะถอยออกไปอย่างรู้กาลเทศะ
เฟิ่งหยางเป็เ้านาย เขาจะทำสิ่งใด หาใช่กงการที่ตนเองจะเข้าไปขัดขวาง ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยรูปโฉมและสถานะของนายท่าน หญิงสาวมากมายล้วนใฝ่ฝันอยากเป็คนของเขาทั้งสิ้น
ถังชิงหรูได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากด้านนอก ก็นึกว่าเป็หรูเยียน จึงมิได้นำพา นางร้องเรียกออกไปด้านนอก "ข้าลืมหยิบอาภรณ์ เ้าช่วยไปเอามาให้ข้าทีสิ"
เฟิ่งหยางอึ้งไปชั่วขณะ รอยยิ้มเ้าเล่ห์ผุดวาบในแววตา ก่อนผลักประตูเข้าไป เจอชุดที่หรูเยียนเตรียมไว้ให้วางอยู่บนเตียง เขามองชุดกระโปรงสีชมพูชุดนั้น รวมถึง... ตู้โตวบังทรงสีชมพูอ่อนซึ่งปักลายผีเสื้อกระจุ๋มกระจิ๋มคู่หนึ่งอยู่้า ผีเสื้อคู่นั้นปักอยู่ตรงตำแหน่งทรวงอกของนางพอดี จู่ๆ เขาพลันรู้สึกว่าอาภรณ์ชุดนั้นช่างร้อนลวกมือเสียเหลือเกิน
เขาควรจะหลีกเลี่ยงมิใช่หรือ อย่างไรเสียนางก็เป็สตรี หากเล่นแรงเกินไปนัก เห็นท่าจะไม่ดี แม้ว่าปรกตินางจะดูไม่เหมือนสตรีเท่าไร จนตนเองก็ไม่เห็นว่านางเป็ผู้หญิง จนบางครั้งอาจหยอกแรงไปบ้าง แต่ยามเจอหน้านาง เขาไม่อาจวางมาดเคร่งขรึมได้จริงๆ จึงมักหยอกเย้าอย่างรื่นเริงบันเทิงใจจนกลายเป็เื่ธรรมดาไปแล้ว
"น้ำเย็นหมดแล้ว เ้ายังไม่เอาเสื้อผ้ามาให้ช้าอีกหรือ" ถังชิงหรูที่อยู่หลังฉากกั้นลุกขึ้นมายืนเช็ดตัว
เฟิ่งหยางหันหลังไปมอง เห็นเงาของหญิงสาวรางๆ ก็รีบเบือนสายตาหนี หัวคิ้วขมวดเป็เกลียว
ถังชิงหรูรอจนหงุดหงิด คิดได้ว่าไม่ควรสวมอาภรณ์ตัวเก่าออกไป เพราะกลิ่นของมันเหม็นเหลือเกิน นางอุตส่าห์อาบน้ำจนตัวหอมกรุ่นหากไปสวมชุดเก่า นึกแล้วก็รู้สึกสะอิดสะเอียน อย่างไรเสียก็ผู้หญิงด้วยกัน คงไม่มีอะไรน่าห่วง คิดได้เช่นนี้ ก็เดินออกมาอย่างเปิดเผย แต่พอพ้นฉากกั้นออกมาเท่านั้น นางพลันตกตะลึง ส่วนเฟิ่งหยางก็นิ่งอึ้งอยู่กับที่
เขากำลังจะพาดเสื้อผ้าขึ้นไปบนฉากกั้น แต่พอหันมาเห็นเรือนร่างงดงามไร้ที่ติ ลมหายใจก็เปลี่ยนเป็ถี่กระชั้น สายตาจ้องมาที่นางเขม็ง
ถังชิงหรูกรีดร้องเสียงดัง "ว้าย... คนลามก..."
เฟิ่งหยางรีบวิ่งเข้าไปอุดปากของนางไว้ด้วยมือหนึ่ง แต่ถังชิงหรูก็ดิ้นรนขัดขืนเต็มที่ ขณะกำลังเคลื่อนไหว เสียงเพียะก็ลั่นขึ้น ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะมีรอยประทับห้านิ้วเพิ่มขึ้นมา
ถังชิงหรูถลึงตาเกรี้ยวกราดใส่เฟิ่งหยาง ยกมือขึ้นปิดหน้าอกของตนเอง ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห
เฟิ่งหยางไม่เคยถูกใครตบมาก่อน ยามนี้รอยนิ้วมือประทับหราอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา แววตาของเขาพลันเปลี่ยนเป็เยียบเย็นน่ากลัว
"คิดดูให้ดีก่อน เ้าเป็คนใช้ให้ข้าหยิบเสื้อผ้ามาให้เองนะ" เฟิ่งหยางย่อมรู้ว่าถังชิงหรูเรียกหรูเยียน ทว่าเมื่อครู่นางไม่ได้ระบุชื่อแซ่ เขาย่อมสามารถยอกย้อนทำให้นางจุกอกได้
ถังชิงหรูรู้ว่าเฟิ่งหยางสบช่องในคำพูดของนาง จึงไม่เถียงกับเขาว่าคนที่นางเรียกคือผู้ใด แต่กลับเอ่ยว่า "ทีข้าให้ท่านกินมูล ยังไม่เห็นจะไปเลย อีกอย่าง ข้าบอกให้หยิบเสื้อผ้า แม้ว่าคุณชายเฟิ่งจะนึกอยากทำหน้าที่สาวใช้ขึ้นมากะทันหัน ยินดีนำเสื้อผ้ามาส่งให้ ก็เอาไปวางที่หลังฉากกั้นก็ได้ เหตุใดมีเวลาตั้งนมนานกลับไม่เอ่ยวาจา หรือท่านคิดจะเอาเปรียบข้า อย่าได้มาอ้างเชียว ว่าข้างกายท่านมิเคยขาดสตรี ถั่วงอกน้อยอย่างข้าไม่อาจต้องตาท่าน ใครจะรู้ ท่านอาจมีรสนิยมพิเศษที่ไม่เหมือนผู้อื่นก็เป็ได้"
"เ้า..." เฟิ่งหยางจนปัญญาจะตอบโต้ อีกอย่างการทะเลาะกับสตรีที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้า เขาไม่อาจสงบใจได้จริงๆ "เ้าไม่ไปสวมอาภรณ์ก่อน มัวแต่ยืนอวดเรือนร่างอย่างกับต้นถั่วงอกต่อหน้าข้าอยู่ได้ คิดจะยั่วยวนคุณชายเยี่ยงข้าหรือไร"
"เชอะ! ข้าไม่สนใจสุภาพบุรุษจอมปลอมหรอก" ถังชิงหรูกล่าวพลางชี้ไปที่ประตู "ท่านยังไม่ออกไปอีกหรือ อยากให้ทุกคนรู้ว่าประมุขของพวกเขามาแอบดูสตรีอาบน้ำใช่หรือไม่"
"ข้า..." เดิมทีเฟิ่งหยางก็อยากจะโต้กลับ แต่พอเห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของถังชิงหรู เขาก็รู้ว่าตนเองไม่มีเหตุผลเพียงพอ "ไม่คิดจะเปิดหูเปิดตากับหญิงธรรมดาอย่างเ้าหรอก"