แสงสลัวของรุ่งอรุณสาดส่องผ่านช่องหน้าต่างแคบๆ ของห้องใต้ดิน เมื่อหลินเว่ยและเพื่อนๆ ปีนขึ้นมาถึงยอดบันได พวกเขาพบว่าตัวเองอยู่ในห้องเก็บของเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยหม้อดินเผา ตู้ไม้โบราณ และพรมที่เก่าจนสีซีด
เสวียนเหมย ยกมือให้ทุกคนหยุด เธอค่อยๆ ย่องไปที่ประตูไม้เก่าครืด และแนบหูฟัง
"มีเสียงคนเดินด้านนอก" เธอกระซิบ "ทหารขององค์กรเทียนซื่อกำลังลาดตระเวน"
หลิวซิน เข้ามาใกล้ มองผ่านรอยแตกเล็กๆ ของประตู "มีทหารสองคนเดินผ่านไปมา พวกเขาติดอาวุธครบมือ"
"เราต้องหาเส้นทางไปยังห้องคัมภีร์" หลินเว่ย กระซิบ "เสวียนเหมย เธอคุ้นเคยกับวัดนี้ มีทางลับไหม?"
เสวียนเหมยนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง "มี ทางเดินของพระอาจารย์ เป็อุโมงค์ที่เชื่อมต่อส่วนต่างๆ ของวัด ใช้สำหรับพระผู้บรรลุธรรมขั้นสูงเท่านั้น"
"แล้วทางเข้าอยู่ที่ไหน?" จ้าวหยาง ถาม
"อยู่ข้างหลังตู้ไม้ใบนั้น" เธอชี้ไปที่ตู้ไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ชิดผนังอีกด้านของห้อง
ทุกคนช่วยกันเคลื่อนย้ายตู้ไม้อย่างเงียบที่สุด ข้างหลังตู้เป็ประตูไม้เล็กๆ ที่ดูเหมือนเป็ส่วนหนึ่งของผนัง
เสวียนเหมยคลำหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ผนัง และกดลงไปที่ก้อนหินก้อนหนึ่ง ประตูลับค่อยๆ เปิดออกด้วยเสียงแ่เบา เผยให้เห็นทางเดินแคบมืดสนิท
"ตามข้ามา" เธอกระซิบ "และระวังศีรษะ ทางเดินค่อนข้างต่ำ"
พวกเขาเริ่มคลานเข้าไปในทางเดินทีละคน หลินเว่ยปิดประตูลับตามหลัง ทำให้พวกเขาจมอยู่ในความมืดสนิท
หลิงเยว่ นำผ้าพันคอออกจากกระเป๋า มัดติดกับไม้เล็กๆ ที่พบในห้องเก็บของ จุดไฟขึ้นเป็คบเพลิงขนาดเล็ก แสงสลัวสาดส่องเผยให้เห็นอุโมงค์แคบที่ทอดยาวไปข้างหน้า
"ห้องคัมภีร์อยู่ที่ไหน?" หลินเว่ยถาม
"อยู่ในหอสูงตรงกลางวัด" เสวียนเหมยตอบ "ทางเดินนี้จะพาเราไปใกล้กับฐานของหอคัมภีร์ แต่เราจะต้องออกจากอุโมงค์เพื่อขึ้นไปข้างบน"
พวกเขาเริ่มคลานไปตามอุโมงค์แคบ อากาศอับชื้นและหนักอึ้ง บาง่ต้องบีบตัวลอดผ่านช่องแคบๆ หลินเว่ยรู้สึกได้ถึงพลังชิวเสวียนที่แผ่ซ่านในอุโมงค์ ราวกับวัดทั้งหมดถูกสร้างบนแหล่งพลังโบราณ
หลังจากคลานไปได้ระยะหนึ่ง พวกเขาได้ยินเสียงพูดคุยแว่วๆ มาจากเหนือศีรษะ
"ค้นให้ทั่ว! พวกหัวหน้า้าห้องคัมภีร์นั่น!" เสียงชายคนหนึ่งะโสั่ง "หมายเลข 13 จะมาถึงที่นี่เร็วๆ นี้ เขา้าผลลัพธ์!"
หลินเว่ยและเพื่อนๆ หยุดนิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ
"ทำไมพวกเทียนซื่อสนใจห้องคัมภีร์ขนาดนั้น?" หลิวซินกระซิบเบาที่สุด
"ห้องคัมภีร์ของวัดเมฆาอรุณไม่ได้เก็บแค่คัมภีร์ธรรมดา" เสวียนเหมยตอบเสียงแ่ "แต่ยังเก็บความลับของพลังชิวเสวียน รวมถึงวิธีควบคุมมัน คัมภีร์เ่าั้มีอายุนับพันปี ถ้าองค์กรเทียนซื่อได้มันไป พวกเขาอาจสร้างกองทัพมนุษย์กลายพันธุ์ที่ควบคุมได้"
หลินเว่ยรู้สึกหนาวเยือกในใจ เมื่อคิดถึงภาพองค์กรเทียนซื่อมีกองทัพมนุษย์กลายพันธุ์ที่ควบคุมได้
เสียงฝีเท้า้าเริ่มจางหายไป พวกเขาจึงเคลื่อนตัวต่อไปอย่างระมัดระวัง เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง เสวียนเหมยหยุดลงที่ช่องเล็กๆ บนเพดานอุโมงค์
"ทางออก" เธอกระซิบ "นี่จะพาเราไปยังห้องเก็บของข้างหอคัมภีร์"
เธอค่อยๆ ดันฝาไม้ขึ้นเล็กน้อย และมองลอดช่องแคบ "ปลอดภัย ไม่มีใคร" เธอรายงาน แล้วเปิดฝาทางออกออกจนสุด
ทีละคน พวกเขาปีนขึ้นไปจากอุโมงค์ มาอยู่ในห้องเก็บของเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยคัมภีร์เก่าๆ และเครื่องใช้ทางศาสนา
"หอคัมภีร์อยู่ถัดไปจากห้องนี้" เสวียนเหมยบอก "แต่ต้องระวัง อาจมียามเฝ้าอยู่"
จ้าวหยางค่อยๆ แง้มประตูห้องออกดู "มีทหารสองคนยืนเฝ้าอยู่ที่ทางเข้าหอคัมภีร์" เขารายงาน "เราต้องจัดการพวกเขาก่อน"
"ข้าและหลิงเยว่จะจัดการ" หลิวซินอาสา "พวกเรามีประสบการณ์จัดการกับทหารเทียนซื่อมาพอสมควร"
หลิงเยว่พยักหน้า เตรียมกระบี่สั้นในมือ "เราจะทำให้เงียบที่สุด"
หลิวซินและหลิงเยว่ออกไปจากห้องอย่างเงียบกริบ ไม่นานเสียงอึกอักเบาๆ ก็ดังขึ้น ตามด้วยความเงียบ
หลิวซินกลับมาที่ประตู โบกมือให้คนที่เหลือตามไป "เรียบร้อยแล้ว ทางสะดวก"
พวกเขาออกมาจากห้องเก็บของ เห็นทหารสององค์กรเทียนซื่อนอนหมดสติอยู่ข้างทางเข้าหอคัมภีร์ หลิงเยว่กำลังมัดมือและปิดปากพวกเขาอย่างรวดเร็ว
"เราต้องรีบ" เสวียนเหมยบอก นำทางไปยังประตูไม้แกะสลักขนาดใหญ่ของหอคัมภีร์
หลินเว่ยรู้สึกถึงพลังชิวเสวียนที่เข้มข้นอย่างไม่ธรรมดาจากหลังประตู "รู้สึกได้ไหม?" เขาถามเพื่อนๆ "มีพลังชิวเสวียนเข้มข้นมากข้างใน"
"ใช่" เสวียนเหมยพยักหน้า "ห้องคัมภีร์ถูกออกแบบให้เก็บและขยายพลังชิวเสวียนบริสุทธิ์ ช่วยปกป้องและรักษาคัมภีร์โบราณ"
เธอเริ่มกดจุดต่างๆ บนประตู ทำให้เกิดเสียงคลิกเบาๆ จากกลไกโบราณภายใน "ประตูนี้ถูกล็อกด้วยกลไกพิเศษ ต้องใช้ความรู้ของวัดถึงจะเปิดได้"
ประตูค่อยๆ เปิดออก พวกเขาเห็นห้องทรงกลมขนาดใหญ่ ผนังเต็มไปด้วยชั้นวางคัมภีร์โบราณ ที่พื้นมีแท่นหินวางอยู่ตรงกลาง บนนั้นมีหีบไม้เก่าแก่วางอยู่ ส่วนเพดานห้องเป็ลวดลายดวงดาวและจักรวาลแกะสลักอย่างประณีต
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาใคือ ในห้องมีคนอยู่แล้ว - ชายในชุดเกราะดำยืนอยู่ข้างแท่นหิน และที่น่ากลัวกว่านั้น ร่างของพระสงฆ์หลายรูปนอนอยู่บนพื้น ตรงหน้าชายผู้นั้นคือพระชราในชุดสีเทา มือและเท้าถูกล่ามด้วยโซ่ ใบหน้าบอบช้ำแต่ยังคงสง่างาม
"ประมุขเจิ้งลี่หัว!" เสวียนเหมย กรีดร้องเบาๆ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความใ
ชายในชุดเกราะดำหันมาทางพวกเขาทันที รอยยิ้มอันตรายปรากฏบนใบหน้าที่มีรอยแผลเป็พาดผ่าน
"แขกไม่ได้รับเชิญงั้นหรือ?" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น "ข้าคิดว่าพวกเ้าจะมาช้ากว่านี้"
หลินเว่ยใ รู้สึกถึงพลังอันแข็งแกร่งแผ่ออกมาจากร่างของชายผู้นั้น นี่คืุ์กลายพันธุ์ขั้นสูง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือ หมายเลข 13
"ปล่อยประมุขเจิ้งลี่หัวเดี๋ยวนี้!" จ้าวหยาง ะโ ชักกระบี่ออกมาจากฝัก
หมายเลข 13 หัวเราะเบาๆ "พวกเ้าคิดว่าตัวเองเป็ใคร? พวกฏน้อยๆ ที่คิดจะขัดขวางความก้าวหน้าของมนุษยชาติหรือ?"
หลิวซิน มองไปรอบห้อง สำรวจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เขาเห็นทหารองค์กรเทียนซื่ออีกสี่คนยืนอยู่ตามมุมห้อง สองคนมีป้นในมือ อีกสองคนถือดาบยาว
"น่าสนใจจริง" หมายเลข 13 เอ่ย ดวงตาจับจ้องที่หลินเว่ย "ข้ารู้สึกได้ถึงพลังชิวเสวียนในตัวเ้า แต่เ้ายังคงรักษาร่างมนุษย์ไว้ได้ น่าทึ่ง"
"หมายเลข 13" หลินเว่ยกล่าว ควบคุมเสียงให้นิ่ง "ปล่อยประมุขเจิ้งลี่หัวและออกไปจากวัดแห่งนี้ซะ"
"เ้ารู้จักข้าด้วยหรือ?" หมายเลข 13 ยิ้มอันตราย "แต่ข้าไม่รู้จักเ้า แปลกดี"
"เ้าคือผู้ที่โจมตีหมู่บ้านหลายแห่ง" หลินเว่ยตอบ "พวกเราได้ยินชื่อเ้ามาก่อน"
"ข้าจะนับว่านั่นเป็เกียรติก็แล้วกัน" หมายเลข 13 ตอบ ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พลังชิวเสวียนสีแดงเข้มเริ่มแผ่ออกมาจากร่างของเขา "แต่พวกเ้ามาผิดที่ผิดเวลา ข้ากำลังจะได้สิ่งที่ข้า้า"
เขาหันไปหาประมุขเจิ้งลี่หัว "บอกข้าเดี๋ยวนี้! ตำแหน่งของ 'คัมภีร์ครอบงำจิต' อยู่ที่ไหน? หรือเ้าอยากให้ศิษย์ของเ้าตายต่อหน้าต่อตาอีก?"
ประมุขเจิ้งลี่หัวยังคงนิ่งเงียบ ใบหน้าเปี่ยมด้วยความสงบแม้จะเ็ป
"ข้าอุตส่าห์อดทนกับเ้ามาตลอดทั้งคืน" หมายเลข 13 เสียงแข็งขึ้น "แต่ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด!"
ขณะที่เขาพูด มือขวาของเขาเริ่มเปลี่ยนรูปร่าง กลายเป็กรงเล็บแหลมคมเหมือนสัตว์ร้าย
หลิงเยว่ กระซิบกับหลินเว่ย "เราต้องช่วยประมุขเจิ้งลี่หัว แต่ระวังตัวไว้ หมายเลข 13 ร้ายกาจกว่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่เราเคยเจอมาก่อน"
หลินเว่ยพยักหน้าเข้าใจ เขารู้สึกถึงพลังชิวเสวียนในร่างกายที่ปรับเปลี่ยนไปหลังจากัักับน้ำแห่งการบำบัด มันยังคงปั่นป่วน แต่ก็เริ่มนิ่งขึ้น และมีบางสิ่งแตกต่างไปจากเดิม
"ปล่อยท่านเจิ้งลี่หัวเดี๋ยวนี้" เสวียนเหมยะโ "หรือไม่พวกเราจะบุกเข้าไป!"
หมายเลข 13 หัวเราะเสียงดัง "เด็กน้อย พวกเ้าคิดว่าตัวเองทำอะไรได้หรือ? ดูพวกเ้าสิ เด็กๆ กลุ่มหนึ่งที่คิดว่าตัวเองเป็วีรบุรุษ" เขาหันไปทางทหารทั้งสี่ "จัดการพวกมัน แต่จับเด็กหนุ่มคนนั้นไว้" เขาชี้มาที่หลินเว่ย "ข้า้าศึกษาเขา"
ทหารทั้งสี่เริ่มเคลื่อนตัวเข้ามา สองคนที่ถือปืนเล็งมาที่พวกเขา
สถานการณ์เลวร้ายอย่างรวดเร็ว หลินเว่ยต้องคิดเร็ว
"เตรียมพร้อม" เขากระซิบกับเพื่อนๆ "เราต้องกระจายตัว จ้าวหยางและหลิงเยว่จัดการทหารสองคนที่ถือปืน หลิวซินกับฉันจะจัดการอีกสองคน เสวียนเหมย เธอพยายามช่วยประมุขเจิ้งลี่หัว"
ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ
"ตอนนี้!" หลินเว่ยะโ
ทันทีที่คำสั่งดังขึ้น จ้าวหยางพุ่งไปทางซ้าย หลิงเยว่พุ่งไปทางขวา ทั้งคู่เคลื่อนไหวเร็วเกินกว่าที่ทหารจะเล็งปืนทัน หลิวซินดึงมีดสั้นออกมาสองเล่ม พุ่งเข้าหาทหารคนหนึ่งที่ถือดาบ
ส่วนหลินเว่ยก้าวไปข้างหน้า ความรู้สึกแปลกใหม่ทะลักเข้าสู่ร่างกาย เขาใช้ ท่าัตื่นกาย กระตุ้นประสาทััทั้งหมด แล้วตามด้วย ท่าัสยายปีก แผ่พลังชิวเสวียนออกไปรอบตัว
คราวนี้มีบางอย่างแตกต่างไป พลังชิวเสวียนที่แผ่ออกมามีสีม่วงอมฟ้า ไม่ใช่สีม่วงเข้มเหมือนก่อน มันไหลเวียนรอบตัวเขาอย่างนุ่มนวลและควบคุมได้ดีกว่าเดิม
"น่าสนใจจริงๆ" หมายเลข 13 พึมพำ ดวงตาเป็ประกาย "เ้าไม่ใช่เด็กธรรมดา"
หลินเว่ยไม่ตอบโต้ แต่พุ่งตรงเข้าไปหาทหารอีกคนที่ถือดาบ พลังชิวเสวียนหุ้มร่างเขาราวกับเกราะป้องกัน
ดาบฟาดลงมา แต่หลินเว่ยใช้ ท่าัทะยานน้ำ เคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลหลบหลีก หมุนตัวเข้าไปใกล้ และใช้ฝ่ามือที่เคลือบด้วยพลังชิวเสวียนฟาดเข้าที่กลางอกของทหาร
บึ้ม!
ทหารลอยกระเด็นไปกระแทกกับชั้นวางคัมภีร์ ล้มลงไม่ได้สติ
ฝั่งอื่นของห้อง จ้าวหยางและหลิงเยว่จัดการทหารที่ถือปืนได้แล้ว ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเหนืุ์ธรรมดา หลิวซินก็กำลังเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้เช่นกัน
ในระหว่างความวุ่นวาย เสวียนเหมยพยายามแอบไปที่แท่นหินเพื่อช่วยประมุขเจิ้งลี่หัว แต่หมายเลข 13 สังเกตเห็น
"อย่าคิดว่าข้าจะปล่อยให้พวกเ้าทำตามใจ!" เขาะโ พลังชิวเสวียนสีแดงเข้มปะทุรอบร่าง ร่างกายเขาเริ่มเปลี่ยนแปลง แขนขาเริ่มยืดยาวออก ิักลายเป็สีแดงเข้มเหมือนเนื้อดิบ กรงเล็บแหลมคมงอกออกมาจากปลายนิ้ว
"ดูเหมือนข้าต้องจัดการพวกเ้าด้วยตัวเอง!"
เขากระโจนไปหาเสวียนเหมยด้วยความเร็วสูง กรงเล็บแหลมคมพุ่งไปข้างหน้า
"เสวียนเหมย!" หลินเว่ยะโ วิ่งตัดหน้า ใช้ ท่าัทะยานน้ำ พุ่งตัวไปขวางการโจมตี พลังชิวเสวียนสีม่วงอมฟ้าปะทะกับกรงเล็บสีแดงเข้ม
เปรี้ยง!
พลังปะทะกันอย่างรุนแรง ส่งคลื่นกระแทกไปทั่วห้อง ทำให้หลินเว่ยและหมายเลข 13 กระเด็นออกจากกัน
"เ้ามีพลังมากกว่าที่ข้าคิด" หมายเลข 13 พูด ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว "แต่ยังไม่พอหรอก!"
ทั้งสองเผชิญหน้ากัน ในขณะที่เพื่อนๆ ของหลินเว่ยจัดการกับทหารองค์กรเทียนซื่อที่เหลือได้แล้ว หลิวซินและจ้าวหยางรีบเข้าไปช่วยเสวียนเหมยปลดปล่อยประมุขเจิ้งลี่หัว
หลินเว่ยรู้ดีว่าเขาไม่อาจเอาชนะหมายเลข 13 ได้ในตอนนี้ แต่เขาต้องถ่วงเวลาให้เพื่อนๆ ช่วยประมุขเจิ้งลี่หัวให้ได้
"มาสิ!" หลินเว่ยท้าทาย ใช้ ท่าัตื่นกาย และ ท่าัสยายปีก พร้อมกัน พลังชิวเสวียนพุ่งสูงขึ้นรอบร่าง
หมายเลข 13 หัวเราะก่อนจะกระโจนเข้าใส่ด้วยความเร็วที่มองแทบไม่เห็น กรงเล็บแหลมคมฟาดฟันมาที่หลินเว่ยอย่างต่อเนื่อง
หลินเว่ยใช้ ท่าัทะยานน้ำ หลบหลีกอย่างลื่นไหล แต่ความเร็วของหมายเลข 13 เหนือกว่า กรงเล็บฟาดโดนไหล่ซ้ายของเขา ฉีกเสื้อขาดและทิ้งรอยแผลยาว
"อาาาา!" หลินเว่ยร้องด้วยความเ็ป แต่ยังคงยืนหยัด
"จะเห็นหรือยังว่าพวกเ้าไม่มีทางสู้ข้าได้" หมายเลข 13 ยิ้มอันตราย "ข้าผ่านการทดลองขั้นสูงสุดขององค์กรเทียนซื่อ พลังชิวเสวียนของข้าถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์!"
ขณะที่หลินเว่ยกำลังพยายามต่อสู้ถ่วงเวลา เสวียนเหมย หลิวซิน และจ้าวหยางก็สามารถปลดปล่อยประมุขเจิ้งลี่หัวจากโซ่ได้แล้ว
ประมุขเจิ้งลี่หัวลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่อ่อนแรง แต่ดวงตายังคงเปี่ยมด้วยพลัง
"หลบไป!" เสียงของประมุขเจิ้งลี่หัวดังก้องไปทั่วห้อง "ทุกคน!"
หลินเว่ยและเพื่อนๆ รีบหลบไปด้านข้างห้องตามคำสั่ง ประมุขเจิ้งลี่หัวยกมือขึ้น พลังชิวเสวียนสีเงินบริสุทธิ์รวมตัวในอุ้งมือของเขา
"นี่มัน..." หมายเลข 13 ใ ถอยหลังไปหนึ่งก้าว
"พลังแห่งเมฆาอรุณ" ประมุขเจิ้งลี่หัวประกาศ ก่อนจะพุ่งฝ่ามือไปข้างหน้า
พลังชิวเสวียนสีเงินพุ่งออกเป็ลำแสง ปะทะร่างของหมายเลข 13 อย่างรุนแรง ส่งให้เขากระเด็นไปกระแทกกับผนัง
"อึก!" หมายเลข 13 ครางด้วยความเ็ป ร่างกายเริ่มคืนสู่รูปร่างมนุษย์
"รีบไป!" ประมุขเจิ้งลี่หัวหันมาบอกหลินเว่ยและคนอื่นๆ "พลังของข้าไม่สามารถหยุดเขาได้นาน เราต้องหนีไป!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้