อวิ๋นซีเห็นท่าทางโอดครวญของเขาก็อดยิ้มพูดไม่ได้ว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าหนิงอ๋องผู้ยิ่งใหญ่จะทำท่าทางน้อยอกน้อยใจเช่นนี้อยู่ที่นี่” พูดจบ นางก็เขย่งปลายเท้า ยื่นมือไปกอดคอเขา จากนั้นก็กัดริมฝีปากเขาเบาๆ
จวินเหยียนถูกนางเย้ายวนเช่นนี้ก็รู้สึกราวกับตนแทบจะเป็บ้าไปแล้ว “อาซี เ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังทำอันใดอยู่? ”
อวิ๋นซีหัวเราะหึหึ “ข้ารู้แน่”
จวินเหยียนทนไม่ไหวอีกแล้ว เขาอุ้มคนขึ้นมาแล้วมุ่งหน้าไปที่เตียง
ในคืนนี้ คนทั้งสองต่างใช้วิธีเฉพาะตนมาทำให้อีกฝ่ายพอใจ...
……...........................................................................................
คุณชายน้อยจวนอ๋องมีอายุครบเดือน ไม่แม้แต่จะจัดงานฉลอง ขณะที่หนิงอ๋องได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อขออนุญาตพาภรรยาและลูกชายทั้งสองไปพำนักที่เรือนรับรองของราชวงศ์แถวชานเมืองสักสองสามวัน เหตุผลของเขานับว่าดียิ่ง นั่นก็คือร่างกายของชายาหนิงอ๋องยังคงได้รับความเสียหาย และในเมืองหลวงแห่งนี้ก็หนาวเกินไป จึงอยากจะไปพักที่เรือนพักส่วนพระองค์ เพราะสถานที่แห่งนั้นมีบ่อแช่น้ำร้อนที่จะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูร่างกายของนาง
เมื่อเสี้ยวเหวินตี้ได้ยินคำของโอรส มุมปากก็กระตุกสองสามที ก่อนหน้านี้เขาเคยไปพบอาซีและบุตรชายฝาแฝดนั่นเป็การส่วนตัวมาหลายครั้งแล้ว จึงรู้ดีว่า ร่างกายของนางฟื้นฟูได้เกือบจะสมบูรณ์แล้ว ชายสูงศักดิ์แค่นเสียงเ็าไปทีหนึ่ง สุดท้ายก็ยอมอนุญาตให้พวกเขาไป ทั้งยังให้วันลาแก่หนิงอ๋องถึงห้าวันด้วย เพื่อให้บุตรชายตนได้อยู่เป็เพื่อนชายา
“เ้านั่นอยู่ใน่วัยที่กำลังกายกำลังพลุ่งพล่านเชียว อีกทั้ง เรือนหลังยังไร้อิสตรี ลำบากเขาแล้วจริงๆ ” เสี้ยวเหวินตี้พูดขึ้นเรียบๆ “ถงไห่ เ้าว่า เ้าเด็กนั่นจะทนได้อีกนานแค่ไหน? ” ชั่วชีวิตนี้มีหญิงข้างกายเพียงคนเดียว เขาไม่เชื่อหรอกว่าเ้าเด็กบ้านั่นจะทนอยู่ได้
ถงไห่สบสายพระเนตรที่ปรีชาชาญและสดใสคู่นั้นของฮ่องเต้ เขายิ้มแล้วกล่าวตอบ “หากจะให้กระหม่อมพูด กระหม่อมคิดว่า หนิงอ๋องเป็คนจริงใจชัดเจน และยังเป็คนดีมีเมตตา ในเมื่อเขาให้สัญญากับพระชายาแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็จักต้องทำได้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาค้นพบว่าชายาหนิงอ๋องผู้นี้ไม่ธรรมดา นางมีสติปัญญาเฉียบแหลม อีกทั้ง ว่ากันว่าหากใครบางคนพบเจอเื่ร้ายแล้วไม่ตาย ในวันหน้าจักต้องมีวาสนาที่ดีมากแน่ๆ ซึ่งชายาหนิงอ๋องผู้นี้เองก็ถูกคนปองร้าย แต่สุดท้ายกลับสามารถรักษาชีวิตตนไว้ได้ ยิ่งกว่านั้นยังสามารถให้กำเนิดพระโอรสฝาแฝดมาได้ เื่ราวทั้งหมดนี้ถือเป็การพิสูจน์คำกล่าวที่ว่านี้ได้แล้ว
เสี้ยวเหวินตี้ที่ได้ฟังกลับถอนหายใจ “ยึดมั่นในรักเช่นนี้ เกรงว่าจะไม่ใช่เื่ดีอะไร”
ถงไห่ก้มศีรษะลง ไม่พูดไม่จา ยามนี้เขาไม่อาจมองเห็นพระทัยของฮ่องเต้ได้อย่างชัดเจนแม้แต่น้อย ถึงกระนั้นก็ไม่คิดมองให้ชัดเจน เพราะบางครั้งการมองชัดจนทะลุปรุโปร่งเกินไปก็ไม่ใช่เื่ดี
……...........................................................................................
ครอบครัวจวินเหยียนสี่คนนำสาวใช้และคนรับใช้จำนวนหนึ่งเดินทางไปยังที่พักตากอากาศสำหรับเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่ตั้งอยู่บนูเาทางแถบชานเมือง เพื่อแช่น้ำพุร้อน อวิ๋นซีและจ้าวลี่เจียต่างอุ้มเด็กกันคนละคน จ้าวลี่เจียมองฉางรุ่ยที่กำลังหลับใหลในอ้อมอกตน จากนั้นจึงพูดขึ้นเรียบๆ “บอกว่าไปแช่น้ำพุร้อน แต่ใครเล่าจะไปรู้ว่า หลังจากนั้นจะเกิดเื่อันใดขึ้น ข้าว่าพวกเ้าน่ะกำลังใช้ความพยายามของตน เพื่อจะไปไขว่คว้าหาความสุขให้มากขึ้นละสิ”
อวิ๋นซีมุมปากกระตุก หากไม่ใช่เพราะคุ้นเคยกับถ้อยคำโจมตีผู้อื่นเพียงสองสามประโยคของจ้าวลี่เจีย คิดว่านางคงจะเบิกตาโตไปแล้วกระมัง ถึงแม้จ้าวลี่เจียจะยังไม่ได้แต่งงาน แต่เพราะคนเป็หมอ เื่ราวระหว่างหญิงชายย่อมแจ่มชัด ถึงกระนั้นคนโบราณที่เปิดเผยและตรงไปตรงมาเช่นอีกฝ่าย อวิ๋นซีก็เพิ่งเคยเจอเป็ครั้งแรก ทำให้ชั่วขณะนั้นนางรู้สึกไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
“อาจารย์อาน้อย จู่ๆ ข้าก็รู้สึกว่า หากวันหน้าใครได้ตบแต่งกับท่าน คนคนนั้นจักต้องมีความสุขมากแน่” เพราะอีกฝ่ายเป็คนเปิดเผยจริงใจมาก หาได้มีความเหนียมอายเยี่ยงสาวโบราณ จ้าวลี่เจียเป็สตรีที่องอาจห้าวหาญ ทั่วร่างนางมีกลิ่นอายของความอิสระเสรี ทั้งยังมีความสดใสคล้ายอวี้เฟยอยู่สองสามส่วน
ถึงแม้นางจะมีความคล้ายกับอวิ๋นซีและหลิงเยว่เซวียน แต่นิสัยของจ้าวลี่เจียกับหลิงเยว่เซวียนก็ถือว่าแตกต่างกันอยู่มาก คาดว่าเื่ที่หลิงเยว่เซวียนเคยทำโดยต้องใช้ความกล้ามากที่สุดในชีวิตนี้คงเป็การหนีตามอวิ๋นซานมา
แต่จ้าวลี่เจียนั้นไม่เหมือนกัน เื่กล้าหาญที่นางทำมีมากมายจริงๆ
“บุรุษที่ข้าอยากแต่งด้วย คาดว่าบนโลกนี้คงไม่มีอยู่แล้ว” พูดถึงตรงนี้ จู่ๆ นางก็ปิดตาลงเงียบขรึม และไม่เอ่ยวาจาอีก
อวิ๋นซีเห็นท่าทางของอีกฝ่ายที่ไม่อยากพูดต่อ ในใจก็คิดไปว่าระหว่างนางและอาจารย์อารองจักต้องมีเื่อันใดเกิดขึ้นแน่ ดูท่าเื่นี้คงต้องถามจวินเหยียนดูสักหน่อย มิเช่นนั้นหากพูดอะไรผิดไปก็คงไม่ดีแล้ว
ท้ายที่สุด กว่าทุกคนจะมาถึงบ่อน้ำร้อนบนเขาก็เป็่ต้นยามโหย่ว ขณะที่คนในเรือนเองก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่า พวกเขาจะมา จึงได้ตระเตรียมสำรับอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว และหลังจากที่อวิ๋นซีกินข้าวเสร็จแล้ว นางก็อยู่เล่นเป็เพื่อนเด็กทั้งสองในห้องอุ่น
นอกจากนี้ ฝาแฝดตัวน้อยเกิดครบเดือนหนึ่งแล้ว ิัเหี่ยวย่นบนร่างก็ค่อยๆ ลอกออกจนหมดเกลี้ยง ิัแห้งๆ ผลัดลอกออกจนเผยให้เห็นเป็ชายงามตัวจ้อยที่น่ารักสองคน ถึงแม้จะเป็ฝาแฝดกัน แต่รูปลักษณ์ของสองพี่น้องก็ชัดเจนว่าไม่เหมือนกันเสียทีเดียว คนโตมีรูปลักษณ์คล้ายบิดา ส่วนคนรองมีรูปลักษณ์เหมือนมารดา
อวิ๋นซีอดไม่ได้ให้กลุ้มใจเล็กน้อย “หากวันหน้าเ้ารองน้อยโตขึ้นแล้ว แต่ใบหน้านี้ยังเหมือนข้า ไม่แน่ว่า เขาอาจไปทำร้ายชายหญิงจำนวนไม่น้อย” นางเป็กังวลเล็กน้อย หากวันหน้ารูปโฉมของลูกชายคนรองดึงดูดมาทั้งชายและหญิงจะทำเช่นไร?
จวินเหยียนมองเด็กทั้งสอง ขณะนั้นเ้ารองน้อยฉางฮว๋ายเหมือนว่าจะรับรู้ได้ถึงลมหายใจของบิดาที่เข้ามาใกล้ มือน้อยๆ ส่ายไปมาไม่หยุด “เมื่อพูดเช่นนี้ ก็น่ากังวลนิดหน่อยจริงๆ แต่ว่าไม่เป็ไรหรอก พวกเราก็แค่สั่งสอนเ้ารองเสียั้แ่ยังเล็ก ให้เขาได้รู้ว่า ตัวเขาเป็ชายชาตรี ชมชอบแม่นางที่หน้าตางดงามเป็ที่สุด”