เทศกาลไหว้พระจันทร์ไล่ตามฤดูการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงเข้ามา
โต๊ะอาหารของสกุลหูจัดวางอยู่หน้าบ้าน
หลังจ้าวหงยู่นำกับข้าวทั้งหมดขึ้นโต๊ะ ก็กลับบ้านไปทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันกับคนในครอบครัว
เดิมทีหูฉางกุ้ยอยากฉลองเทศกาลทานข้าวพร้อมกันที่บ้านเก่า แต่หวังซื่อบอกว่าทางพวกเขานี้ยังมีผู้าุโหลิงและหลานสามคนกับยู่เซิงอยู่ ไม่มีหลักการที่ทิ้งแขกไว้ แล้วตนเองไปทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันกับครอบครัวหรอก
หูฉางกุ้ยจึงทำได้เพียงล้มเลิกความคิด
เนื้อกวางปรุงน้ำแดง เนื้อกวางพะโล้ น้ำแกงเนื้อกวางซันเย่า พะโล้กีบหมู ผัดกะเพาะหมูพะโล้เผ็ดหอม เคาหยกเผือก น้ำแกงรากบัวซี่โครงหมู… ถ้วยน้อยใหญ่จัดวางเต็มโต๊ะทานข้าวทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
ทุกคนนั่งเข้าที่ตามลำดับ หูฉางกุ้ย หลิงเสี่ยน หลัวจิ่งและหลิงซีสี่คนโดยตรงหน้าล้วนวางถ้วยสุราใบเล็กอยู่ พานเสวี่ยหลันหยิบไหสุราที่ซื้อกลับมาจากในเขตอำเภอ เริ่มรินสุราให้ทีละคน
เด็กชายอายุสิบสองถึงสิบสามของครอบครัวชาวนาต่างนับว่าค่อนข้างโตเป็ผู้ใหญ่ เริ่มเรียนรู้ที่จะดื่มสุราเล็กน้อยได้แล้ว
“วันนี้… เป็วันไหว้พระจันทร์ แม้พวกเราไม่ใช่คนครอบครัวเดียวกัน แต่สามารถมาเฉลิมฉลองอยู่ด้วยกันได้ นับเป็โชคชะตา คำพูดที่มากมายเกินความจำเป็ เราก็จะไม่พูดแล้ว แหะๆ วันนี้ทุกคนทานให้อิ่มดื่มให้สบายใจ ไม่ต้องยึดถืออะไร มา... ผู้าุโ พวกเราชนกันก่อนหนึ่งถ้วย” หูฉางกุ้ยยกถ้วยสุราขึ้นแล้วยิ้มไปทางหลิงเสี่ยนข้างกาย
“นายท่านรองสกุลหูกล่าวได้ดี ข้าและหลานทั้งสองคนต้องให้สกุลหูดูแลมากมาย เป็พระคุณที่ทุกท่านไม่รังเกียจ สามารถรวมตัวฉลองเทศกาลด้วยกันได้ เป็โชคชะตาที่ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้แล้วจริงๆ คนแก่อย่างข้าขอดื่มหมดถ้วยแสดงความเคารพก่อน” หลิงเสี่ยนคำพูดจริงใจ ความเป็อยู่่นี้ที่พวกเขามาถึงบ้านสกุลหู คนสกุลหูล้วนปฏิบัติต่อกันด้วยใจปกติ ไม่ใช่เพราะพวกเขาออกมาจากสถานที่เนรเทศแล้วดูแคลนหรือรังเกียจใดๆ
ชีวิตความเป็อยู่โศกเศร้าทุกข์ยากลำบากมาสิบกว่าปีในสถานที่เนรเทศ สามารถพบนายจ้างใจกว้างและมีความคิดก้าวหน้าได้เช่นนี้ เป็ความโชคดีของพวกเขาปู่หลานทั้งสามคนแล้วจริงๆ
เขาประคองถ้วยสุราขึ้นดื่มจนหมดหนึ่งถ้วย
หูฉางกุ้ยดื่มตามด้วยความเคารพทันที
หลัวจิ่งกับหลิงซีลังเลอยู่ชั่วขณะ แล้วประคองถ้วยสุราขึ้นดื่มตามลงไป แต่ไม่นานใบหน้าของสองคนต่างก็เริ่มแดงขึ้น
“ฮ่าๆ พวกเ้าอย่าดื่มสุราตอนท้องว่าง รีบทานกับข้าวรองท้องสักหน่อย” อย่างไรเสียอายุเพิ่งสิบสองสิบสามปี ดื่มตามมารยาทสักหน่อยก็พอ เจินจูรีบร้องทักให้พวกเขาทานกับข้าว
ทุกคนจึงเริ่มขยับตะเกียบกันขึ้น
อาหารปรุงด้วยเนื้อสัตว์หนึ่งโต๊ะ กลิ่นหอมของเนื้อเอ่อล้นไปรอบทิศ แม้อาศัยอยู่บ้านสกุลหูมาสองเดือนกว่าแล้ว และกับข้าวก็มีเนื้ออยู่ทุกวัน แต่วันนี้บนโต๊ะอาหารเต็มโต๊ะเป็พิเศษ กลับทำให้หลิงซีแทบอยากจะน้ำลายหยดลงมา
หลี่ซื่อคีบกีบพะโล้หนึ่งชิ้นให้เขา พวกเด็กๆ ล้วนชอบแทะกีบหมู หลิงซีอายุสิบสองปี เ้าหนุ่มค่อนข้างโตได้รับความลำบากยากจนมานาน และอยู่ใน่วัยที่ร่างกายเจริญเติบโตพอดี จึงเจริญอาหารมากกว่าผู้ใหญ่นัก เ้าเด็กหลิงซีผู้นี้เก็บกดและระมัดระวังตัวเล็กน้อย ไม่ค่อยชอบพูดจา หลี่ซื่อเลยกลัวว่าเขาจะไม่กล้าทานอย่างสบายใจ
“ขอบคุณท่านอาสะใภ้หู” หลิงซีกล่าวขอบคุณอย่างเหนียมอาย
“อย่าได้เกรงใจ ทานมากๆ หน่อย วันนี้หุงหากับข้าวไว้มากมาย เ้ากับเสวี่ยหลันทานให้เยอะหน่อยล่ะ” หลี่ซื่อคีบกีบหมูหนึ่งชิ้นให้พานเสวี่ยหลันเหมือนกัน “อยู่ที่นี่ทำตัวตามสบาย อยากทานอะไรล้วนคีบเองได้เลย อีกเดี๋ยวทานอาหารเย็นเสร็จ ยังมีขนมไหว้พระจันทร์กับผลไม้สดด้วย วันนี้วันที่สิบห้าอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา มีความสุขเบิกบานใจ”
ข้าวหนึ่งมื้อทานกันครึ่งค่อนชั่วยาม หูฉางกุ้ยกับหลิงเสี่ยนต่างก็เมามายเล็กน้อยแล้ว
สีของท้องฟ้าเริ่มค่ำลงช้าๆ พระจันทร์เต็มดวงปรากฏออกมาอยู่บนท้องฟ้าผืนกว้าง
ค่ำคืนในฤดูใบไม้ร่วงกลางเดือนแปด สายลมเย็นโชยอ่อนๆ พัดเอาคลื่นความร้อนตอนกลางวันกระจายไป ท้องฟ้ายามค่ำคืนมีเมฆเป็ชั้นเคลื่อนตัวอยู่ ดวงจันทร์วันเพ็ญเดี๋ยวปรากฏออกมาเดี๋ยวถูกบดบัง คล้ายกับเด็กซุกซนเล่นซ่อนแอบ
จัดเก็บถ้วยและตะเกียบบนโต๊ะอาหารออกไป ยกน้ำชาชงขึ้นใหม่มาตั้งกลางโต๊ะ จัดวางขนมไหว้พระจันทร์ เกาเตี่ยน ผลไม้เชื่อม ผลไม้สด เม็ดแตงและอื่นๆ มากมายวางแผ่อยู่เต็มโต๊ะ
เพราะเพิ่งทานอาหารกันอิ่ม ขณะนี้ทุกคนจึงยังทานสิ่งเหล่านี้ไม่ลง เจินจูและผิงอันนั่งอยู่บนเก้าอี้นอนใต้ชายคา สองคนพูดคุยกันไม่หยุด
ปัจจุบันนี้บ้านสกุลหูมีเก้าอี้นอนสี่ตัว หนึ่งตัววางอยู่ในห้องหลี่ซื่อ หนึ่งตัววางอยู่ในห้องผู้าุโหลิง สองตัวที่เหลือล้วนวางอยู่ใต้ชายคา ต่างเป็หลู่โหย่วมู่ทำเสร็จแล้วนำมาส่งให้ภายหลังทั้งสิ้น
หลู่โหย่วมู่หาเงินจากการขายเก้าอี้นอนได้ไม่น้อย ลูกค้ามากมายที่เคยเห็นทยอยกันมาเรียกร้องสั่งทำ ขณะนี้ใบรายการของเก้าอี้นอนล้วนเรียงลำดับกันยาวมากแล้ว
หลู่โหย่วมู่คืนเงินทั้งต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับพี่น้องโจวกว่างจินจนครบถ้วน และยังอาศัยการค้าขายจากเก้าอี้นอนช่วยขับเคลื่อนใบรายการสั่งซื้อเครื่องเรือนใหม่ได้ไม่น้อย ด้วยเหตุนี้ครอบครัวหลู่โหย่วมู่รู้สึกขอบคุณเจินจูที่วาดแบบร่างมาสั่งทำด้วยความซาบซึ้งอย่างมาก จึงนำเก้าอี้เอนทำใหม่มาอีกสี่ตัวเพื่อมอบให้สกุลหู
หูฉางกุ้ยนำไปมอบให้บ้านเก่าหนึ่งตัว ที่เหลือล้วนตั้งไว้อยู่ในบ้าน
เจินจูกำลังเล่าเื่เทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์ [1] ให้ผิงอันฟัง หลี่ซื่อก็ฟังอยู่ด้านข้างอย่างเคลิบเคลิ้มเช่นกัน
“ท่านพี่ ทำไมฉางเอ๋อถึงแอบทานยาอายุวัฒนะเองล่ะ นางอาศัยอยู่บนดวงจันทร์คนเดียว มีเพียงกระต่ายบนดวงจันทร์อยู่เป็เพื่อนนาง เงียบเหงามากเลยนะ?” ผิงอันถามด้วยความประหลาดใจ
“นั่นสิ ต่อให้มีอายุยืนยาวไม่แก่เฒ่าได้ แต่ฉางเอ๋อมีชีวิตอยู่คนเดียวนานเพียงนั้นจะมีความหมายอะไร ไม่มีเซียงกงและลูก มีชีวิตบนดวงจันทร์อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย” หลี่ซื่อถอนหายใจเล็กน้อย
เจินจูหัวเราะ “นี่เป็เพียงเื่เล่าเทพนิยายที่เกี่ยวกับดวงจันทร์เท่านั้นเอง ฟังไว้ก็พอ อย่าถือเป็จริงเกินไปเลยนะเ้าคะ”
“เช่นนั้น ฉางเอ๋อเป็สาวงามคนแรกในตอนนั้นจริงไหม?” พานเสวี่ยหลันอดถามขึ้นมาไม่ได้
“อื้ม ฉางเอ๋อเป็เทพธิดาวังกว่างหาน [2] น่าจะเป็ผู้ที่งดงามที่สุด”
จำได้ว่าตอนเด็กเคยดู ’ไซอิ๋วบันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก [3]’ การปรากฏกายของฉางเอ๋อทำให้คนมากมายรู้สึกทึ่งกับความงาม
หลัวจิ่งนั่งอยู่ข้างหนึ่ง เนื้อหาที่พวกนางพูดคุยกันเขาได้ยินอย่างชัดเจน เขาชำเลืองตามองไปทางเด็กสาวใต้ดวงจันทร์
ใต้แสงจันทร์สุกสกาวพร่างพราวนั้น บนใบหน้าขาวดั่งหยกพราวเสน่ห์ พูดด้วยเสียงหัวเราะมีความสุข สายตาเปล่งประกายระยิบระยับ ทำให้คนไร้สติละสายตาไปไม่ได้เลย
ระลอกคลื่นเล็กๆ ในหัวใจของหลัวจิ่ง ดุจแสงนุ่มนวลภายใต้ดวงจันทร์ ที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งทรวงอก
...ต้นพุทราสี่ต้นของสกุลหู ผลพุทราจากสีเขียวค่อยๆ ย้อมไปด้วยสีแดง กลายเป็เหมือนโคมไฟสีแดงเล็ก ยื่นมือออกไปเก็บหนึ่งผลใส่เข้าในปาก ทั้งหวานทั้งกรอบ ทั่วทั้งปากเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของพุทรา
ตอนพุทราในลานบ้านยังไม่ทันสุกทั้งหมด ผิงอันและผิงซุ่นก็เริ่มเก็บมาทานกันทุกวันแล้ว เ้าหนุ่มน้อยสองคนหลังเลิกเรียนตอนเที่ยงก็วิ่งมาถึงลานบ้านเก็บใส่กระเป๋าเสื้อไว้ทานเป็อาหารจุกจิก
วันที่เก็บพุทราอย่างเป็ทางการ เจินจูตัดผ้าหยาบมาหนึ่งท่อน นางกับพานเสวี่ยหลันถือกันคนละฝั่ง หูฉางกุ้ยใช้ท่อนไม้ตีกิ่งของต้นพุทรา ผลพุทราที่สุกงอมก็ร่วงหล่นลงมาบนผ้าหยาบพร้อมกับใบไม้เสียงดัง “พึ่บพั่บ” เต็มไปหมด
ผลใหญ่อวบอิ่ม สีมันวาว ใส่เข้าในปากทั้งกรอบทั้งหวาน หลี่ซื่อนั่งอยู่ในศาลาทานผลพุทราอย่างกรุบกรอบ เม็ดแล้วเม็ดเล่าอีกนิดเกือบหยุดทานไม่ได้
ต้นพุทราสองต้นในลานบ้าน ไม่กี่คนเร่งเก็บอยู่ครึ่งวันก็นับได้ว่าเสร็จเรียบร้อย
ต้นพุทราที่เดิมทีเต็มไปด้วยลูกพุทราได้ถูกตีจนหล่นลงมากระจัดกระจาย บนต้นยังมีผลพุทราสีเขียวที่ยังไม่สุกห้อยอยู่ประปราย ใต้ต้นพุทราจ้าวหงยู่และหลี่ซื่อนั่งบนเก้าอี้เตี้ย กำลังจัดเก็บใบไม้และกิ่งก้านที่ร่วงหล่นบริเวณนั้น
ส่วนเจินจูกับพานเสวี่ยหลันทำความสะอาดผลพุทราให้สะอาดและย้ายไปวางไว้ในที่ร่มใต้ชายคาบ้านเพื่อให้ลมโกรก
เจินจูให้หูฉางกุ้ยตอกกล่องไม้แบนยาวสองใบ นางรับปากโหยวอวี่เวยว่าผลพุทราสุกจะส่งไปให้นางหนึ่งกล่อง ในเมื่อรับปากแล้วก็ต้องทำด้วย
อีกหนึ่งกล่องแน่นอนว่าจะส่งให้เ้าเด็กกู้อู่ผู้นั้น รอให้เ้าของร้านหลิวมาเอาวัตุดิบอาหาร แล้วบอกหนึ่งทีพวกเขาย่อมช่วยส่งไปถึงโหยวอวี่เวยอย่างแน่นอน
เลือกผลพุทราที่สุกงอมและกระแทกแตกออกมา เหลือผลพุทราดีๆ ที่ไม่เสียหายไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าพุทราที่เสียหายจะไม่แพร่เชื้อราเน่าใส่พุทราสดผลอื่นในระหว่างการขนส่ง
ผลพุทราของลานบ้านตนเองเก็บเสร็จแล้ว ยังมีผลพุทราในลานบ้านเก่าท้ายหมู่บ้านอีก
ตอนบ่ายหูฉางกุ้ยนำทางหลัวจิ่งกับอาชิงไปเก็บพุทราทางบ้านเก่า
ผลพุทราสดที่ตีร่วงหล่น นำไปมอบให้ที่บ้านเก่าสกุลหูหนึ่งตะกร้า ต้นพุทราที่บ้านเก่าค่อนข้างสุกช้าเล็กน้อย ผลพุทราบนต้นในขณะนี้ยังเป็สีเขียว ยังห่างจากวันที่เก็บได้อีกนานเลย
ตีต้นพุทราเสร็จ รากบัวในสระน้ำกับปลาก็ถึงเวลาจัดการ
ปลาในสระน้ำของสกุลหูมีจำนวนมาก ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่ รวมกับเจินจูผสมน้ำแร่จิติญญาเล็กน้อยลงไปบ่อยๆ ปลามักปรากฏให้เห็นบนผิวน้ำอยู่เป็ระยะ ทั้งมีชีวิตชีวาและอวบอิ่มอุดมสมบูรณ์
เจินจูเคยให้หูฉางกุ้ยจับปลาอยู่สองสามครั้ง นำมาแบ่งให้ครอบครัวตนเองและทางบ้านเก่าได้ลิ้มลอง เนื้อปลาสดนุ่มและตัวอวบอ้วน ได้รับความนิยมชมชอบจากทั้งสองบ้าน
เหนียนเสียงหลินได้ยินข่าวก็มาหาถึงที่ หลังได้สังเกตอย่างละเอียดหนึ่งรอบ ก็อยากสั่งจองปลาในสระน้ำกับรากบัวที่ยังไม่ขุดขึ้นมาโดยให้ราคาตามตลาด
แต่เจินจูกลับไม่ได้รับปาก สระน้ำของบ้านตนเองเนื้อที่ไม่ใหญ่ รากบัวที่ถูกขุดออกมาคาดว่าไม่น่าจะมาก ไม่กี่วันก่อนหลิวผิวเคยมาดูและได้สั่งรากบัวกับเมล็ดบัวไว้ั้แ่เนิ่นๆ แล้ว ตอนนี้เพียงเก็บออกมาเพื่อสงวนไว้ให้สกุลหูทานเองเท่านั้น
ส่วนเมล็ดบัวพวกเขาเก็บไปเสร็จสิ้นแล้วเมื่อหลายวันก่อน ล้วนทำการผึ่งแดด และเก็บไว้ในโอ่งใหญ่
หลังเหนียนเสียงหลินได้ทราบก็ไม่ได้ขัดเคือง และสั่งจองปลาทั้งหมดในสระไว้ทันที
สามารถสั่งจองผลผลิตในสระเดียวกันกับสกุลกู้ได้ เช่นนั้นก็เป็เกียรติของพวกเขาแล้ว
หลังรอให้เหนียนเสียงหลินชิมพุทราสดที่เพิ่งตีลงมาของสกุลหู ดวงตาก็เป็ประกาย จึงคิดจะสั่งจองพุทราสดทั้งหมดของสกุลหูอีก แต่น่าเสียดายความปรารถนาของเขาไม่สมดังใจอีกครั้ง
ปริมาณผลของต้นพุทราสี่ต้นไม่นับว่ามาก คนในครอบครัวตนเองมีมากบริโภคภายในหนึ่งวันก็หายไปไม่น้อยแล้ว มอบให้คนงานในบ้านตนเองอีกนิดหน่อยถือเป็สวัสดิการ บ้านเก่าทางนั้นก็มอบให้หนึ่งตะกร้า กู้ฉีกับโหยวอวี่เวยสองครอบครัวก็นำส่งไปแล้วสองกล่องใหญ่ แล้วยังส่งไปให้ทางหลิวผิงอีกหนึ่งตะกร้า สรุปแล้วผลพุทราของที่บ้านโดยรวมเพียงพอได้สำหรับตนเอง ไม่มีมากพอขายให้เหนียนเสียงหลิน
แม้ขายไม่ได้แต่มอบให้หนึ่งตะกร้ายังได้อยู่
กำหนดเวลาที่จะนำปลาไปส่งเรียบร้อย เหนียนเสียงหลินจึงหิ้วลูกพุทราสีแดงตะกร้าเล็กกลับไปด้วยความพึงพอใจ
รุ่งเช้าสองวันถัดมา หูฉางกุ้ยและหูฉางหลินได้ทำถังไม้ใส่ปลาเรียบร้อย จึงเริ่มนำปลาไปส่งให้สือหลี่เซียง
นำไปส่งให้ติดต่อกันหลายวัน ปลาในสระจึงนับได้ว่าชำระสะสางไปจนเกลี้ยง
นี่เป็การขุดรากบัวครั้งแรกของสกุลหู พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน หูฉางหลินและหูฉางกุ้ยคลำหารากบัวและขุดเสียหายไปไม่น้อย ใบหน้าของทั้งสองคนปวดใจจนยับย่นไปด้วยความทุกข์ขึ้นมา
ยังดีที่ต่อมาค่อยๆ ชำนาญขึ้นได้ จึงไม่ได้ขุดหักเสียหายอีก
หลิวผิงมาถึงอย่างรวดเร็ว เขาเร่งเกวียนใหญ่มาสามเกวียน โดยนำมาเพื่อลำเลียงรากบัวไปส่งโดยเฉพาะ
พุทราแดงกับเมล็ดบัวลำเลียงส่งไปเมืองหลวงหลายวันก่อนแล้ว ส่วนรากบัวในตอนนี้มีความยากลำบากเล็กน้อยในการขนส่ง
หลิวผิงเคยได้ยินปัญหาของการขนส่งรากบัวว่าจำเป็ต้องจัดวางรากบัวหนึ่งชั้นและปูดินหนึ่งชั้น หลังกองซ้อนกันห้าถึงหกชั้นแล้วก็ต้องคลุมดินโคลนบางๆ ไว้เพื่อคงความชุ่มชื้น้า
แน่นอนว่าดินที่กลบปิดลงไปแต่ละชั้น กล่องไม้ย่อมหนักขึ้นมาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เพิ่มความยากลำบากเล็กน้อยให้กับการขนส่ง
แต่ขอแค่สามารถส่งไปถึงเมืองหลวงได้โดยสวัสดิภาพ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็ปัญหาเพียงเล็กน้อย
แม้สระน้ำของสกุลหูไม่ใหญ่ แต่ปริมาณของรากบัวกลับทำให้คนตกตะลึงเป็อย่างมาก รากบัวท่อนใหญ่และได้สัดส่วนเท่ากัน เหมือนแขนเล็กๆ ของเด็กทารกที่อ้วนตุ๊ต๊ะ เนื้อรากบัวอวบอ้วนและขาวสะอาด หั่นเปลือกนอกออกและชิมหนึ่งคำ ทั้งสดชื่นและหวานกรอบ เต็มไปด้วยความอร่อย
หลิวผิงทานจนดวงตาสองข้างเป็ประกาย รสชาติกรอบอร่อยถึงใจเพียงนี้คุณชายต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
หลังนำกล่องไม้ใบใหญ่ใส่บนเกวียนจนเต็ม คนขับเกวียนก็จากไปพร้อมกับเกวียนที่หนักอึ้ง
หลิวผิงนั่งอยู่บนรถม้าเกวียนสุดท้ายอย่างเบิกบานใจ คอยดูแลรถม้าให้เดินไปทางข้างหน้า
เจินจูยกถุงเงินที่หลิวผิงให้ไว้และเดินเข้าในบ้าน ถือโอกาสยื่นส่งไปให้หลี่ซื่อ
หลี่ซื่อรับมา กลับถูกน้ำหนักของถุงเงินทำให้ใ นางรีบถือกลับเข้าไปในห้องเทเงินด้านในถุงออกมานับ คาดไม่ถึงเลยว่าเป็เงินแท่งสิบอันอันละสิบเหลียง
รากบัวราคาสูงเพียงนี้เลยหรือ?
เชิงอรรถ
[1] เทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์ คือตำนานในวันเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งถือเป็หนึ่งในเทศกาลสำคัญของจีน
[2] วังกว่างหาน คือหนึ่งในตำหนักตั้งอยู่บนดวงจันทร์ตามตำนานของจีน และในตำหนักยังมีผู้อาศัยอยู่ ได้แก่ กระต่ายหยก คางคก ต้นกุ้ยและอู๋กัง
[3] ไซอิ๋วบันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก คือหนึ่งในวรรณกรรมระดับตำนานของประเทศจีน โดยเนื้อหาหลักของไซอิ๋วจะพูดถึงแก่นของพระพุทธศาสนา โดยตัวละครหลักอย่างพระถังซัมจั๋งที่พ่วงด้วยบรรดาลูกศิษย์ได้เดินทางไปชมพูทวีปเพื่ออันเชิญพระไตรปิฎก โดยแสดงถึงการมุ่งไปสู่นิพพาน ซึ่งสะท้อนเป้าหมายหลักของศาสนาพุทธนั่นเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้