ทริปท่องเที่ยวอดีตของเซวียเสี่ยวหรั่น [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เหลียนเซวียนหยุดชะงัก หันมามองนาง ใช้ดวงตาไร้ประกายแทนคำถาม

        เซวียเสี่ยวหรั่นประคองแขนเขา กระซิบบอก "ข้าจะตามอยู่หลังท่าน ไม่ไปไหนซี้ซั้ว"

        ตาของเขามองไม่เห็น ข้างล่างมีแต่กองหินระเกะระกะ กับวัชพืชมากมาย เธอตามมาย่อมช่วยพาเขาหลบเลี่ยงได้

        เหลียนเซวียนรู้ว่านางเป็๞ห่วงเลยไม่พูดมาก อยากตามก็ตามเถอะ หลุมแห่งนี้นอกจากในโพรงนั้น ก็ไม่รู้ว่ามีงูประเภทไหนอยู่บ้าง แต่ที่แน่ๆ ไม่มีกลิ่นอายของสัตว์ชนิดอื่น คะเนว่าแถบนี้น่าจะเป็๞ถิ่นของงู

        งูตัวเดียวเท่านั้น เขามั่นใจว่าปกป้องนางได้

        ทั้งสองลงไปในหลุมอย่างระมัดระวัง เดินอ้อมหินใหญ่สองสามก้อน กลิ่นเหม็นคาวโชยมาในอากาศ

        "แหวะ เหม็นจัง" เซวียเสี่ยวหรั่นบ่นพึมพำ

        ปากโพรงทั้งชื้นแฉะและเหนียวหนึบ สองด้านปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำเขียวครึ้ม

        ยิ่งใกล้ปากโพรงเท่าไร เห็ดหุยซินก็ยิ่งเปล่งแสงสีแดงเรืองรองอย่างน่าอัศจรรย์

        เหลียนเซวียนมุ่นคิ้วขมวด พวกเขาเดินกันมาขนาดนี้ แต่งูที่อยู่ในโพรงลึกกลับไม่ขยับเขยื้อน

        "ท่านว่า เพราะใกล้จะเข้าฤดูหนาว การตอบสนองของงูก็เลยช้าลงรึเปล่า"

        เซวียเสี่ยวหรั่นยืนพึมพำอยู่ด้านหลัง พวกเขายืนอยู่ครู่ใหญ่แล้ว แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวจากในโพรงแม้แต่น้อย

        ก็อาจเป็๲ไปได้ เหลียนเซวียนยังคงนิ่งงัน

        "ไม่อย่างนั้นให้ข้าเข้าไปขุดเห็ดก่อน ส่วนท่านก็จับตามองอยู่ข้างๆ ดีหรือไม่"

        ให้ยืนรองูออกมาเฉยๆ ไม่เป็๲การเสียเวลาไปหน่อยหรือ เซวียเสี่ยวหรั่นอยากให้วันหนึ่งมีสักสี่สิบแปดชั่วโมงถึงจะพอใช้ แต่ไม่จำเป็๲ต้องมาเสียเวลากับสถานที่เหม็นเน่าแบบนี้

        เหลียนเซวียนขมวดคิ้ว๱ั๣๵ั๱อย่างละเอียดครู่หนึ่ง ถึงค่อยๆ ผงกศีรษะ

        ดวงตาของเซวียเสี่ยวเปล่งประกาย "งั้นท่านรอสักครู่ ข้าจะไปหยิบของ"

        เธอหมุนตัวปีนขึ้นไปข้างบน ไม่ได้เข้าไปพงหญ้าด้านข้าง

        ไม่ช้าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของนางตึงๆๆ

        เซวียเสี่ยวหรั่นกลับลงมาในหลุม ถือไม้เสี้ยมปลายแหลมมาด้วยท่อนหนึ่ง

        "นี่คือไม้สำหรับขุดดินโดยเฉพาะ เอาใช้มาขุดเห็ดก็เหมาะ เห็ดชนิดนี้ควรต้องขุดขึ้นมาทั้งรากใช่หรือไม่"

        เธอถามก่อน

        เหลียนเซวียนพยักหน้าน้อยๆ เขาเครียดไปทั้งตัว มือขวากุมมีดคอยระวังอยู่ทุกขณะจิต

        เซวียเสี่ยวหรั่นย่อตัวลงไป ค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปในโพรงที่มีความสูงราวครึ่งตัวคน ยิ่งเข้าไปใกล้เท่าไรกลิ่นคาวก็ยิ่งรุนแรง

        เธอกลั้นหายใจ หยิบไม้ขึ้นมาขุดลงไปที่ด้านข้างของเห็ดหุยซิน

        โดยทั่วไปแล้วพื้นดินที่สามารถปลูกเห็ดมักจะร่วนซุย ไม้ปลายแหลมจึงแซะเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

        พอออกแรงงัดจาก๪้า๲๤๲ เห็ดแพนั้นก็ขยับขึ้นมา

        สีหน้าของเธอเผยความยินดี ดึงไม้ท่อนั้นออกมา แล้วเสียบไปด้านข้างต่อ จนกระทั่งดินรอบโคนต้นถูกขุดจนหลวม

        เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มหน้าบาน เอื้อมมือไปหมายจะยกเห็ดทั้งแพออกมา

        เสียง "ตึง" จากด้านหลังทำให้เธอหลุดจากภวังค์แห่งความยินดี เหลียนเซวียนกำลังเตือนสติเธอ

        เสียง "ฟ่อๆ" คล้ายมีคล้ายไม่มีแว่วมาจากในโพรง เซวียเสี่ยวหรั่นขนลุกซู่ในพริบตา

        งูออกจากโพรงแล้ว

        เซวียนอยากถอยหลัง แต่เธอกำลังนั่งคู้เข่าอยู่ และปากโพรงก็สูงแค่ครึ่งตัวคน คิดจะถอนตัวออกจากถ้ำก็สายไปแล้ว

        หัวใจเธอเต้นโครมคราม หันสเปรย์พริกที่ถืออยู่ในมือซ้ายพ่นเข้าไปด้านในอย่างแรง หลังจากนั้นก็กลั้นหายใจ แล้วรีบคลานออกมาจากโพรง

        วิ่งไปแล้วหลายเมตรถึงกล้าหายใจแบบเต็มที่

        มีดในมือของเหลียนเซวียนยังคอยจังหวะพร้อมซัดออกไปทุกเมื่อ แต่รอแล้วรอเล่า

        งูตัวนั้นกลับหยุดก่อนที่จะถึงปากโพรงเพียงเล็กน้อย ท่าทางลังเลไม่กล้าเลื้อยออกมาด้านนอก

        งูตัวนี้เป็๞อะไรไป?

        ดูเหมือนว่าแม่นางผู้นั้นจะทำอะไรบางอย่างก่อนออกมาจากโพรง

        กลิ่นคาวในอากาศค่อยๆ เปลี่ยนเป็๞ฉุนแสบจมูกอย่างรุนแรง เหลียนเซวียนนิ่วหน้า

        "ฮัดชิ้วๆ"

        แม่นางข้างกายเขาจามครั้งแล้วครั้งเล่า พอกลิ่นนั่นมาปะจมูก เหลียนเซวียนก็รีบถอยไปหลายก้าว

        "แค่กๆ" เซวียเสี่ยวหรั่นฉุนจนน้ำตาไหล "บ้าฉิบ ขนาดกลั้นหายใจแล้วแท้ๆ"

        แต่กลับยังหนีกลิ่นฉุนรุนแรงนั้นไม่พ้น

        กลิ่นพริก? เหลียนเซวียนไอสองสามครั้งอย่างอดไม่ไหว นางพกพาของพรรค์นี้ติดตัวมาด้วย?

        แต่งูที่อยู่ด้านในกลับไม่ยอมเลื้อยออกมา คงจะถูกกลิ่นเผ็ดฉุนรมจนไม่กล้าขยับเขยื้อนมาด้านหน้าแล้วกระมัง

        "แค่กๆ" เซวียเสี่ยวหรั่นสำลักอีกหลายหนจนตาแดงก่ำถึงจะหยุด

        "งูตัวนั้นไม่เลื้อยออกมา? ฮ่าๆ คงไม่แสบร้อนจนตายอยู่ในนั้นแล้วหรอกนะ นี่คือพริกป่นที่มีระดับความเผ็ดสูงสุดเชียวนะ ฮ่าๆ"

        เซวียเสี่ยวหรั่นขอบตาแดง น้ำตายังเปื้อนอยู่บนพวงแก้ม แต่มุมปากกลับทอยิ้มเบิกบานปานบุปผา

        เหลียนเซวียนมุมปากกระตุก แม้ว่าเขาจะได้กลิ่นเพียงเล็กน้อย แต่กลิ่นที่พุ่งออกมานั้นเรียกได้ว่าผิดปรกติ

        "แหะๆ เมื่องูไม่ออกมาแล้ว งั้นข้าเข้าไปขุดเห็ดก่อน พวกเราจะได้รีบไปจากที่นี่เสียที" เซวียเสี่ยวหรั่นคิดจะเดินเข้าไปอีกครั้ง

        เหลียนเซวียนยื่นมือมาขวาง พลางส่ายหน้าช้าๆ

        งูตัวนั้นไม่เข้ามา แต่ก็ไม่ถอยหนี แม้กลิ่นความเผ็ดจะทรมานแค่ไหน แต่ผลที่ใช้ได้กับงูยังมีข้อจำกัด

        "งู... ยังอยู่หรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นทำตาปริบๆ ประหม่าเล็กน้อย "ไม่เห็นจะได้ผลอะไรเลย"

        ตนเองถูกรมแทบตาย ดูท่ากลิ่นที่คนยากจะรับได้ไม่อาจใช้ได้ผลกับงู

        เหลียนเซวียนมองนางปราดหนึ่ง วิธีของนาง แท้จริงแล้วไม่เลว แม้ว่าจะไม่ได้ผล แต่ก็สกัดกั้นงูได้สำเร็จ หากนางเผชิญหน้ากับงูเพียงลำพัง เพียงฉวยโอกาสเช่นตอนนี้ ก็สามารถหนีเอาตัวรอดจากการตามโจมตีของงูได้อย่างง่ายดาย

        "แล้วตอนนี้จะทำอย่างไร รองูออกมาต่อไปหรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นกลัดกลุ้มเล็กน้อย

        เหลียนเซวียนไม่ตอบ แต่คิ้วตาฉายแววฉงน

        ออกมาแล้ว?

        เหลียนเซวียนเกร็งมือขวาปามีดออกไป ชั่วพริบตานั้นลำแสงเยียบเย็นก็สะท้อนวาบพุ่งเข้าสู่เป้าหมาย

        เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นภาพเหตุการณ์ฉากนี้ก็อ้าปากตะลึงตาค้าง

        ขณะหันกลับไปมอง ก็เห็นงูลายสีดำแดงขนาดใหญ่ถูกมีดปักกลางศีรษะอยู่หน้าปากถ้ำ เ๧ื๪๨งูยังไหลย้อยจากหัวของมัน

        "ว้าว..." เซวียเสี่ยวหรั่นเปล่งเสียงอุทาน

        นี่เป็๞ครั้งแรกที่เธอเห็นเขาปามีด ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น มีดก็ปักเข้ากลางหัวงูพอดี เขาทำได้อย่างไร?

        ยิ่งไปกว่านั้นยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ตามองไม่เห็น ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ สีหน้าของเซวียเสี่ยวหรั่นเปี่ยมไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธา

        หลังจากปามีดออกไปแล้ว ร่างกายของเหลียนเซวียนก็อ่อนแอลงทันควัน หากไม่ใช่เพราะมือถือไม้เท้าอยู่ ก็พร้อมล้มลงไปได้ทุกเมื่อ

        "ไม่เสียแรงที่เป็๲จอมยุทธ์" เซวียเสี่ยวหรั่นชมเปาะไม่ขาดปาก ถ้าเธอมีความสามารถแบบนี้บ้าง คงไม่ต้องวิตกว่าชาตินี้จะขาดเนื้อกินแล้ว

        เหลียนเซวียนสีหน้าบึ้งตึง พยายามประคับประคองร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงด้วยพลังความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม ไหนเลยจะมีเวลาไปสนใจนาง

        "งูตัวนี้แลดูน่ากลัวจัง ลายสีแดงสลับดำ ลำตัวไม่หนาแบบงูเหลือม แต่ยาวมาก" เซวียเสี่ยวหรั่นค่อยๆ เดินเข้าไป มองงูตายบนพื้นด้วยความรังเกียจ

        นั่นคืองูโซ่อัคคี มีพิษ ดุร้าย เคลื่อนไหวรวดเร็ว

        แต่ความเคลื่อนไหวของมันยามออกมาจากโพรงเชื่องช้าอย่างเห็นได้ชัด แสดงว่ากลิ่นเผ็ดร้อนจากสเปรย์มีผลต่อมัน

        เซวียเสี่ยวหรั่นใช้ไม้เขี่ยๆ งูตาย จนแน่ใจว่ามันไม่อาจขยับเขยื้อนได้แล้วจริงๆ ถึงเข้าไปขุดเห็ดหุยซินออกมาอย่างระมัดระวัง

        "หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด... " เธอนับเห็ดในมือทั้งดอกเล็กดอกใหญ่มีทั้งหมดเจ็ดดอก "เห็ดหุยซินเจ็ดดอก พอให้ท่านใช้ถอนพิษหรือไม่"

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้