บทที่ 3 การนำเสนอแผนธุรกิจต่อหน้าผู้มีอำนาจ
ความอุ่นร้อนจากยาฟื้นฟูร่างกายระดับต้นของระบบไหลเวียนไปทั่วร่างดุจกระแสธารา ซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายและขับไล่ความเ็ปออกไปอย่างรวดเร็ว มู่หรงเซียน ไม่สิ เสิ่นเยว่ ลุกขึ้นนั่งได้เต็มความสูงเป็ครั้งแรกนับั้แ่ทะลุมิติมา แม้ร่างกายจะยังอ่อนแออยู่บ้าง แต่ก็ปราศจากความเ็ปรุนแรงที่คอยบั่นทอนแล้ว นี่คือประสิทธิภาพที่น่าพึงพอใจยิ่งกว่ายาระงับปวดชั้นดีตัวไหนๆ ในโลกเก่าของเธอเสียอีก
พร้อมกันนั้น ข้อมูลจาก "ตำราทักษะการเอาตัวรอดของบ่าวชั้นสูง" ก็ถูกถ่ายทอดเข้าสู่สมองของเธอโดยตรง มันไม่ใช่แค่คู่มือการปรนนิบัติรับใช้ แต่เป็บทวิเคราะห์โครงสร้างองค์กรฉบับสมบูรณ์ของจวนแม่ทัพแห่งนี้!
ในหัวของเสิ่นเยว่ ผังองค์กร (Organization Chart) ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน
· CEO (ประธานเ้าหน้าที่บริหาร) : ท่านแม่ทัพเซียวจิ้งเหยียน (ไม่อยู่ที่ทำการหลัก ประจำการชายแดน)
· COO (ประธานฝ่ายปฏิบัติการ) : ฮูหยินใหญ่ (ภรรยาเอก บริหารจัดการภาพรวม)
· ผู้จัดการฝ่าย/หัวหน้าแผนก: อนุภรรยาทั้งสี่ พ่อบ้านใหญ่คัง
· พนักงานระดับกลาง: เหล่ามามา หัวหน้าแผนกย่อย (ครัว ซักล้าง สวน ดูแลเรือน)
· พนักงานระดับปฏิบัติการ: บ่าวรับใช้ทั่วไปอย่างตัวนาง
"โครงสร้างอำนาจซับซ้อน แต่ก็มีช่องโหว่" เสิ่นเยว่พึมพำกับตัวเอง "CEO ไม่อยู่ ทำให้ COO มีอำนาจเด็ดขาด แต่กลับมีการแข่งขันกันเองระหว่าง ผู้จัดการฝ่าย เพื่อแย่งชิงทรัพยากรและงบประมาณ ซึ่งก็คือความโปรดปรานจากท่านแม่ทัพ น่าสนใจ"
ตำรายังระบุถึงข้อมูลเชิงลึกของ "ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก" (Key Stakeholders) แต่ละคน อนุจิน ชื่อเต็มคือ จินรั่วซี บุตรสาวของพ่อค้าเกลือผู้มั่งคั่ง มีนิสัยเอาแต่ใจ หลงใหลในของสวยงามฟุ่มเฟือย และที่สำคัญที่สุด นางเกลียดการจัดการเื่หยุมหยิมภายในเรือนของตนเอง แต่กลับ้าให้ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
"เป็ลูกค้าประเภทเื่มาก แต่งบไม่อั้น" เสิ่นเยว่สรุป "จัดการไม่ยาก แค่ต้องนำเสนอสินค้าและบริการ ให้ตรงตามความ้า"
ยังไม่ทันที่เธอจะได้วางแผนกลยุทธ์ระยะยาว ประตูห้องพักก็ถูกกระชากเปิดออกอย่างแรง
"เสิ่นเยว่! อนุจินมีคำสั่งให้เ้าเข้าพบ เดี๋ยวนี้!"
ผู้ที่มาคือบ่าวรับใช้หญิงาุโจากเรือน บุปผาโปรยปราย ของอนุจิน นางมองเสิ่นเยว่ด้วยสายตาดูแคลน ราวกับมองสิ่งปฏิกูลที่บังอาจสร้างเื่เดือดร้อนให้เ้านายของตน
เสิ่นเยว่ลุกขึ้นยืนอย่างสงบ ร่างกายที่เพิ่งฟื้นฟูทำให้การเคลื่อนไหวของเธอมั่นคงกว่าที่ควรจะเป็ "ทราบแล้ว"
ไม่มีการโอดครวญ ไม่มีท่าทีหวาดกลัว มีเพียงความนิ่งสงบที่ผิดวิสัยของบ่าวไพร่ทั่วไป ทำให้บ่าวหญิงผู้นั้นขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่เดินนำไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางเดินไปยังเรือนบุปผาโปรยปราย สมองของเสิ่นเยว่ทำงานด้วยความเร็วสูงสุด นี่คือการถูกเรียกเข้าพบผู้บริหารระดับสูงโดยไม่ทันตั้งตัว สถานการณ์ที่เธอคุ้นเคยดี สิ่งที่ต้องทำคือ: หนึ่ง ประเมินสถานการณ์ สอง กำหนดเป้าหมายการเจรจา และสาม ควบคุมทิศทางของการสนทนา
เป้าหมายของเธอในวันนี้ไม่ใช่แค่การเอาตัวรอด แต่คือการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็โอกาส!
เรือนบุปผาโปรยปรายงดงามสมชื่อ สวนหย่อมได้รับการดูแลอย่างดี เครื่องเรือนทุกชิ้นทำจากไม้หอมชั้นเลิศ บ่งบอกถึงสถานะของผู้เป็เ้าของได้เป็อย่างดี แต่ในสายตาของ CEO อย่างเสิ่นเยว่ นางกลับมองเห็นแต่ความไร้ประสิทธิภาพ "การจัดสวนแบบนี้สวยแต่ดูแลรักษายาก สิ้นเปลืองกำลังคนโดยใช่เหตุ ทางเดินปูหินแบบนี้ หากฝนตกจะลื่นมาก เพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ต้องปรับปรุง"
เมื่อเข้าไปในห้องโถง กลิ่นกำยานหอมฟุ้งก็ปะทะเข้าจมูก อนุจินนั่งเอนกายอย่างเกียจคร้านอยู่บนตั่งไม้แกะสลัก นางสวมอาภรณ์ผ้าไหมปักดิ้นทองงดงาม ใบหน้างดงามแต่แฝงไว้ด้วยความเย่อหยิ่งและหงุดหงิด ข้างกายนางคือเสี่ยวชุนที่คุกเข่าตัวสั่นงันงก ใบหน้าบวมช้ำจากการถูกลงโทษ ส่วนหลิวมามาถูกคุมตัวไว้โดยทหารยามที่อีกมุมห้อง
"เ้าคือเสิ่นเยว่รึ?" น้ำเสียงของอนุจินแหลมสูงและไร้ความอดทน
เสิ่นเยว่คุกเข่าลงตามธรรมเนียม แต่แผ่นหลังยังคงตั้งตรง "บ่าวเสิ่นเยว่คารวะอนุจินเ้าคะ"
"บังอาจนัก!" อนุจินตบที่วางแขนดังปัง! "เพราะพวกเ้าสามคน ทำให้ข้าต้องเสียเวลามาจัดการเื่น่ารำคาญเช่นนี้! ปิ่นของข้าแม้จะได้คืนมา แต่ก็แปดเปื้อนราคีไปแล้ว!"
เสี่ยวชุนสะดุ้งสุดตัว รีบโขกศีรษะกับพื้น "อนุจินโปรดเมตตา! บ่าวผิดไปแล้ว! เป็นังเสิ่นเยว่มันยุยงบ่าวเ้าคะ!"
นี่คือการโยนความผิดครั้งสุดท้ายที่น่าสมเพช เสิ่นเยว่ยังคงนิ่งสงบ ไม่แม้แต่จะชายตามองเสี่ยวชุน นางรู้ดีว่าการโต้เถียงกับคนที่กำลังจะจมน้ำมีแต่จะทำให้ตัวเองเปียกไปด้วย
"แล้วเ้าล่ะ มีอะไรจะแก้ตัวหรือไม่?" อนุจินหรี่ตามองเสิ่นเยว่
"บ่าวไม่มีอะไรจะแก้ตัวในเื่ที่ไม่ได้ทำเ้าคะ" เสิ่นเยว่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ชัดเจน "แต่บ่าวมีความผิดจริงในฐานะบ่าวของจวนเวยหย่วน ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อันส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความสงบสุขของอนุจิน"
คำตอบนี้ทำให้อนุจินชะงักไปเล็กน้อย มันไม่ใช่การปฏิเสธแบบหัวชนฝา และไม่ใช่การยอมรับผิดอย่างโง่งม แต่เป็การยอมรับ "ความรับผิดชอบในภาพรวม" ซึ่งเป็วาทศิลป์ที่ผู้บริหารระดับสูงใช้กันเป็ประจำ
"ปากดีนักนะ" อนุจินแค่นเสียง "แล้วเ้าคิดว่าข้าควรจะจัดการกับเื่นี้อย่างไร?"
นี่คือโอกาส! อนุจินกำลังโยนคำถามเพื่อทดสอบนาง!
"เื่ที่เกิดขึ้นเป็สัญญาณของปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นเ้าคะ" เสิ่นเยว่กล่าวอย่างมั่นใจ "มันคือปัญหาในระบบการจัดการของโรงซักล้าง"
"ระบบการจัดการ?" อนุจินเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจคำศัพท์แปลกใหม่
"เ้าคะ" เสิ่นเยว่กล่าวต่ออย่างฉะฉาน "การที่หลิวมามาสามารถใช้อำนาจในทางมิชอบ ปกปิดความผิดของตนเอง และการที่เสี่ยวชุนกล้าลงมือใส่ร้ายผู้อื่น แสดงให้เห็นถึงการขาดการควบคุมดูแล การขาดมาตรฐานในการทำงาน และการไม่มีระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดต้นทุนที่มองไม่เห็น ซึ่งก็คือความเสียหายต่อทรัพย์สินของเ้านายและความวุ่นวายภายในจวนเ้าคะ"
ทุกคนในห้องต่างนิ่งอึ้งไปกับคำพูดของนาง บ่าวรับใช้คนหนึ่งจะพูดเื่ซับซ้อนเช่นนี้ได้อย่างไร?
เสิ่นเยว่ไม่ปล่อยให้ความเงียบดำเนินไปนาน "การลงโทษคนผิดเป็เพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเพคะ หากต้นเหตุของปัญหายังคงอยู่ ไม่นานก็จะมีเสี่ยวชุน คนใหม่ หรือหลิวมามาคนใหม่เกิดขึ้นอีก"
"แล้วเ้าจะให้ข้าทำอย่างไร? รื้อโรงซักล้างทิ้งรึ?" อนุจินถามอย่างประชดประชัน
"ไม่จำเป็ต้องทำถึงขนาดนั้นเ้าคะ" เสิ่นเยว่เงยหน้าขึ้น สบตาอนุจินอย่างไม่เกรงกลัว "เพียงแค่ต้องมีการปฏิรูปองค์กร"
"ปฏิรูป องค์กร?"
"เ้าคะ! บ่าวขอเสนอแผนปรับปรุงประสิทธิภาพโรงซักล้าง เพื่อลดความสูญเสียและเพิ่มความพึงพอใจให้แก่เ้านายทุกท่าน"
เสิ่นเยว่สูดหายใจเข้าลึก นี่คือการนำเสนอแผนธุรกิจ (Business Proposal) ที่สำคัญที่สุดในชีวิตใหม่ของนาง!
"หนึ่ง: จัดทำบัญชีผ้าเข้า-ออกทั้งหมด โดยมีป้ายระบุเรือนเ้าของและวันส่งซัก-รับคืนอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการสูญหายและสร้างความโปร่งใส"
"สอง: แบ่งแยกประเภทของผ้า ผ้าธรรมดา ผ้าไหม ผ้าปักดิ้น ควรใช้วิธีการซักและน้ำยาที่แตกต่างกัน เพื่อยืดอายุการใช้งานของอาภรณ์ราคาแพงของเ้านาย"
"สาม: กำหนดตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน (KPI) ที่ชัดเจนสำหรับบ่าวทุกคน เช่น จำนวนผ้าที่ซักได้ต่อวัน ความสะอาด และอัตราความเสียหาย หากทำได้ดีก็ควรมีรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็ขวัญและกำลังใจ แต่หากทำผิดพลาดก็ต้องมีบทลงโทษตามระเบียบที่ชัดเจน"
"สี่: จัดให้มีการตรวจสอบคุณภาพแบบสุ่มโดยบ่าวจากเรือนอื่นที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อป้องกันการทุจริตและการลำเอียง"
ทุกข้อที่เสิ่นเยว่พูดออกมา ล้วนเป็หลักการบริหารจัดการพื้นฐานจากศตวรรษที่ 21 แต่สำหรับคนในยุคนี้ มันคือแิที่ปฏิวัติวงการ!
อนุจินผู้ไม่เคยสนใจเื่งานบริหาร ถึงกับนั่งตัวตรงรับฟังอย่างตั้งใจ นางไม่เข้าใจรายละเอียดทั้งหมด แต่ััได้ว่าสิ่งที่เด็กสาวคนนี้พูดมันดูดี และดูมีหลักการ อย่างน่าประหลาด
"หากทำตามแผนนี้" เสิ่นเยว่กล่าวสรุป "โรงซักล้างจะไม่เป็เพียงสถานที่ซักผ้า แต่จะเป็หน่วยงานที่สร้างเสริมภาพลักษณ์อันดีงามและความเป็ระเบียบเรียบร้อยให้แก่จวนเวยหย่วน และที่สำคัญที่สุด อนุจินจะได้ไม่ต้องมากังวลกับเื่หยุมหยิมน่ารำคาญเช่นนี้อีกต่อไปเ้าคะ"
นี่คือการปิดการขายที่สมบูรณ์แบบ! นางไม่ได้ขายแค่แผนการ แต่ขายนามธรรมที่จับต้องได้อย่างความสะดวกสบาย และความสบายใจ ซึ่งเป็สิ่งที่อนุจิน้ามากที่สุด
ความเงียบเข้าปกคลุมห้องโถงอีกครั้ง อนุจินจ้องมองเสิ่นเยว่ด้วยแววตาครุ่นคิดที่ซับซ้อน
ทันใดนั้น เสียงทุ้มทรงอำนาจก็ดังขึ้นจากหน้าประตู
"เป็แผนการที่น่าสนใจยิ่งนัก"
ทุกคนหันไปมองเป็ตาเดียว พ่อบ้านใหญ่คัง ชายวัยกลางคนที่ดูสุขุมและน่าเกรงขาม ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับคำนับอนุจินอย่างนอบน้อม เขามาอยู่ที่นี่ั้แ่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้
"พ่อบ้านคัง" อนุจินพยักหน้ารับ "ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร?"
พ่อบ้านคังมองเสิ่นเยว่ด้วยแววตาประเมินอย่างลึกซึ้ง "สิ่งที่นางพูดมา แม้จะใช้ถ้อยคำแปลกประหลาดไปบ้าง แต่ก็ล้วนเป็หลักการที่ดี หากทำได้จริงย่อมเป็ประโยชน์ต่อจวนของเราอย่างมหาศาล"
การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง อีกคนทำให้น้ำหนักของเสิ่นเยว่เพิ่มขึ้นทันที
อนุจินเคาะนิ้วลงบนที่วางแขนเบาๆ "น่าสนุก ในเมื่อเ้าเป็คนคิดแผนนี้ขึ้นมา เช่นนั้นเ้าก็ต้องเป็คนลงมือทำ"
นางหันไปสั่งทหารยาม "ลากหลิวมามากับเสี่ยวชุนไปโบยคนละ 50 ไม้ แล้วส่งไปทำงานที่ไร่นาชายขอบเมือง!"
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น แต่ไม่มีใครสนใจ
จากนั้นอนุจินก็หันกลับมามองเสิ่นเยว่ "ข้าจะให้โอกาสเ้า ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป เ้าคือผู้ดูแลโรงซักล้างคนใหม่ มีอำนาจจัดการทุกอย่างตามแผนที่เ้าเสนอมา ข้าให้เวลาเ้าหนึ่งเดือน หากทำได้ดี ข้ามีรางวัลให้ แต่หากล้มเหลว หรือทำให้เสื้อผ้าของข้าเสียหายแม้แต่ชิ้นเดียว เ้าก็เตรียมตัวไปเจอกับสหายเก่าของเ้าที่ไร่นาได้เลย!"
[ติ๊ง! ท่านได้รับภารกิจใหม่: ปฏิรูปโรงซักล้าง!]
· เป้าหมาย: ปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงซักล้างให้เป็ที่ประจักษ์ภายใน 30 วัน
· รางวัลเมื่อสำเร็จ: 200 แต้มระบบ ปลดล็อก "ร้านค้าระบบ"
· บทลงโทษหากล้มเหลว: ถูกเนรเทศ
เสิ่นเยว่โค้งคำนับจนศีรษะเกือบจรดพื้น แต่ในใจกลับกำลังคำนวณผลกำไรขาดทุน
"บ่าว เสิ่นเยว่ น้อมรับคำสั่งเ้าคะ!"
การเลื่อนตำแหน่งจากบ่าวชั้นต่ำสุดสู่ตำแหน่งผู้จัดการแผนกภายในวันเดียว! นี่คือการเติบโตแบบก้าวะโที่แม้แต่ในโลกธุรกิจสมัยใหม่ก็ยังหาได้ยาก
นางชนะศึกแรกอย่างงดงาม แต่า เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
