จิ่งจื่อ “หมู่บ้านล่างเขา”
อ๋าวหรานเข้าใจในทันใด
เรียนแพทย์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปฏิบัติจริง สักแต่เรียนไม่ฝึกฝนก็ไม่มีผล ตระกูลจิ่งนอกจากจะมีประเพณีที่จะส่งลูกศิษย์ไปฝึกฝนในทุกๆ หนึ่งปีแล้วนั้น ยังส่งเสริมให้มีโอกาสออกไปปฏิบัติจริงอีกมาก ซึ่งเด็กทุกคนในตระกูลจิ่งจะรวมกลุ่มกันเอาเอง กำหนดเวลาและสถานที่เอาเอง พวกผู้ใหญ่ไม่ได้กำหนดไว้ให้ แต่ก็จะไม่ไปไกลมากนัก อย่างมากก็แค่บริเวณหมู่บ้านรอบๆ ล่างูเา โดยจะรักษาให้แบบไม่เก็บค่ารักษา
อ๋าวหรานลองคิดดู เขามาอยู่ในโลกนี้ก็นานมากแล้ว เหมือนจะอยู่แต่ในหมู่บ้านสกุลจิ่ง ยังไม่เคยออกไปดูว่าโลกภายนอกเป็เช่นไร
จิ่งจื่อเห็นอ๋าวหรานเงียบไปพักหนึ่งไม่ตอบกลับ ขมวดคิ้วว่า “ไม่ไปก็ช่างเถิด”
อ๋าวหรานตื่นเต้น “ใครบอกว่าไม่ไป ไปเมื่อใด?”
จิ่งจื่อเห็นเขาตื่นเต้นจึงพูดด้วยท่าทางเ็าหยิ่งยะโส “ไปตอนนี้เลย คืนนี้น่าจะต้องนอนในหมู่บ้านด้านล่างนั่น สองวันนี้เป็วันที่ดอกจินมู่จะบาน ในหมู่บ้านน่าจะคึกคักกันมาก”
อ๋าวหรานพยักหน้าหงึกหงัก “งั้นรีบไปกันเถิด”
พูดพลางลุกพลาง มือรีบเก็บสมุดและคัมภีร์ ก่อนจะลากจิ่งจื่อให้ลุกขึ้นตาด้วย
จิ่งจื่อค่อนแคะ “เ้าจะรีบร้อนอะไรนักหนา”
อ๋าวหรานไม่สนที่เขาค่อนแคะ “ต้องเตรียมของอะไรบ้าง? มีผู้ใดไปบ้าง? เซียงเซียงกับจิ่งฝานไปด้วยหรือไม่?”
จิ่งจื่อเดินตามหลังอ๋าวหรานออกไปข้างนอก “จิ่งเซียงต้องไปแน่ ยังมีลูกหลานตระกูลจิ่งคนอื่นอีก ส่วนจิ่งฝานข้าเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน”
ประโยคสุดท้ายพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำเล็กน้อย จิ่งจื่อค่อนข้างคาดหวังอยากให้จิ่งฝานไปด้วย แน่นอนว่าการไปกับคนที่นับถือย่อมต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
อ๋าวหรานไม่ได้รู้สึกถึงน้ำเสียงของจิ่งจื่อ เขานึกถึงเื่ที่จิ่งฝานมีงานขึ้นมากะทันหัน “จิ่งฝานคงไปไม่ได้แล้ว วันนี้เขามีงาน”
จิ่งจื่อส่งเสียงอ่อออกมาเสียงหนึ่งแล้วก็ไม่พูดอะไรเพิ่มเติมอีก
เดินไปสองก้าว อ๋าวหรานหันศีรษะมาถามจิ่งจื่อ “ตอนนี้เ้าจะกลับไปที่พักใช่หรือไม่? พวกเราจะรวมตัวกันที่ใด?”
จิ่งจื่อ “ข้านัดกับพวกจิ่งเซียงไว้ตอนบ่ายที่หน้าประตูหมู่บ้าน ข้าจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เ้าล่ะ?”
อ๋าวหรานพยักหน้า “เช่นนั้นเราก็ไปรวมตัวกันที่หน้าประตูเถิด ข้าก็จะไปเปลี่ยนชุดเหมือนกัน เอาของพวกนี้ไปเก็บด้วย” พูดแล้วก็ยกมือตบๆ พู่กันปากกาและกระดาษในมือ
จิ่งจือตอบว่าได้ออกมาคำหนึ่ง อ๋าวหรานก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว เดินไปอีกทางแล้วแต่ก็ไม่ลืมหันมาบอกจิ่งจื่อว่าให้เขารีบมา
จิ่งจื่ออึ้งไปเล็กน้อย อ๋าวหรานคนนี้เขาเจอมาหลายครั้งแล้ว บางครั้งคำพูดคำจาก็ยั่วให้คนโมโห แต่ในบางเื่กลับสงบนิ่งไม่แตกตื่น ทำไมตอนนี้ถึงได้รีบร้อนถึงเพียงนี้
นี่เป็เื่ที่โทษอ๋าวหรานไม่ได้จริงๆ จะไปที่ที่ไม่รู้จัก ถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็โลกอื่นที่ไม่มีอยู่จริง ทำไมเขาจะไม่อยากไปสำรวจ อีกทั้งตลอดเวลาที่มาถึงยังโลกแห่งนี้ หากเขาไม่ได้รักษาแผลอยู่ ก็ต้องมานั่งทุกข์เื่โครงเื่นิยาย จากนั้นก็คิดอยากเรียนวิชาแพทย์ ทุกวันเอาแต่อยู่ในอาณาเขตของตระกูลจิ่งนี้จนลืมออกไปดูโลกภายนอกที่ไม่รู้จักเลยแม้แต่น้อย วันนี้ถูกพูดถึงขึ้นมา อ๋าวหรานแน่นอนว่าไม่อยากช้าอยู่แม้แต่นาทีเดียว คิดแต่อยากจะลงเขาไปดูให้เร็วที่สุด
หลังจากแยกกับจิ่งจื่อแล้ว ตอนแรกอ๋าวหรานทำเพียงแค่เดินอย่างเร่งรีบ ทว่าเดินไปได้สักพักกลับนึกขึ้นได้ว่าตัวเองสามารถใช้วิชาตัวเบาได้ จึงหงุดหงิดอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็รีบบินกลับไปอย่างรวดเร็ว
กลับมาเปลี่ยนชุดที่ห้อง ขบคิดอย่างละเอียดอีกพักหนึ่งเหมือนว่าจะไม่มีของอะไรต้องเอาไปจึงปิดประตูจากไป
ตอนที่เดินออกมา อ๋าวหรานชะงักไปนิดหนึ่ง คิดว่าไปหาจิ่งฝานสักหน่อยดีกว่า ไม่รู้ว่าตอนนี้จิ่งฝานอยู่ที่ห้องหนังสือหรือเปล่า
ห้องของอ๋าวหรานอยู่ด้านข้างห้องของจิ่งฝาน ไม่ห่างกันมาก อ๋าวหรานลองไปดูที่ห้องนอนก่อน มีแค่เด็กรับใช้คนหนึ่งกำลังทำความสะอาด ตัวจิ่งฝานเองกลับไม่อยู่ห้อง
หลังจากถามเด็กรับใช้คนนั้นแล้ว อ๋าวหรานก็ไปที่ห้องหนังสือ
เพียงแค่ผลักประตูเข้าไปก็เห็นจิ่งฝานนั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ ไม่รู้ว่ากำลังดูอะไรอยู่
เสียงเปิดประตูรบกวนจิ่งฝาน เขาจึงเงยหน้าขึ้นมามองอ๋าวหราน
ถึงแม้จะเคยเจอกันมาหลายครั้งมากแล้ว อ๋าวหรานก็ยังอดทอดถอนใจไม่ได้ว่าคนคนนี้ช่างงดงามจนกระทบหัวใจกระทบิญญาคนมองเสียจริง
จิ่งฝานวางจดหมายในมือลง “ทำไมถึงมานี่ได้ล่ะ? ไม่ใช่ว่าไปที่สวนสมุนไพรแล้วหรือ?”
อ๋าวหรานทางหนึ่งปิดประตูทางหนึ่งพยักหน้าพูดว่า “เดิมทีก็อยากอยู่ที่นั่นทั้งวัน ทว่าสุดท้ายพบกับจิ่งจื่อ เขาบอกว่าจะไปตรวจโรคในหมู่บ้านด้านล่างเขา”
คิ้วของจิ่งฝานกดลึกลงเล็กน้อย “เ้าสนิทกับจิ่งจื่อถึงขนาดนี้ั้แ่เมื่อไร?”
อ๋าวหรานยิ้ม “ก็เมื่อครู่นี้”
จิ่งฝานแววตามืดมนลึกล้ำ
อ๋าวหรานไม่ทันได้สังเกต แค่พูดอย่างดีใจว่า “เ้ายุ่งมากหรือไม่? จะไปด้วยกันไหม จิ่งจื่อบอกว่าสองวันนี้ในหมู่บ้านจะคึกคักมาก ข้ามาที่หมู่บ้านตระกูลจิ่งนานขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยออกไปดูเลย”
จิ่งฝานเงียบงันไปพักหนึ่ง อ๋าวหรานคิดว่าเขาจะไม่ตกลงแล้ว กลับได้ยินเขาพูดมาคำหนึ่งว่าได้
อ๋าวหรานยิ้มพูดว่า “งั้นรีบไปกันเถิด พวกเขาจะไปรวมตัวกันหน้าประตู เ้ามีของอะไรที่ต้องเอาไปหรือไม่?”
จิ่งฝานส่ายศีรษะ “ไม่มีอะไรต้องเอาไป ข้าขอจัดการเื่พวกนี้สักครู่”
เว้นไปครู่หนึ่งก็พูดขึ้นอีกว่า “ไม่นานหรอก เ้ารอข้าสักครู่”
อ๋าวหรานพยักหน้า “ถ้าเช่นนั้นข้าไปรอเ้าที่สวน”