การต่อสู้ด้านนอกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถังเหล่ยควบคุมพลังปราณเอาไว้ในร่างไม่ให้รั่วไหลออกมาภายนอก
ในขณะที่ถังเหล่ยยืนบนหลังคาสูง เขาสามารถมองเห็นการต่อสู้จุดใหญ่ๆ ทั้งหมดห้าจุด แต่การต่อสู้ที่ประตูเมืองทั้งสี่ทิศเริ่มเบาลง แต่การต่อสู้ในจวนแม่ทัพยังคงดุเดือดไม่เปลี่ยนแปลง
สิงโตสีแดงขนาดใหญ่กำลังฉีกกัดเถาวัลย์อย่างบ้าคลั่ง ถังเหล่ยไม่สามารถมองเห็นร่างของหงเทียนเิกับหยวนผิงได้อย่างชัดเจนเพราะถูกบดบังจากเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนอยุ่ภายในตัวเมือง ทุกทิศทุกทางมีทหารเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
ถังเหล่ยยังคงสงบนิ่งอยู่ที่เดิม เดิมทีศึกในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเป็ความ้าของเขา สุดท้ายหากหงเทียนเิได้รับชัยชนะ ถังเหล่ยตัดสินใจว่าทันทีที่เขาได้รับส่วนแบ่งจากชัยชนะในครั้งนี้เขาจะจากไป
ตรงกันข้ามหากหงเทียนเิพ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้ ถังเหล่ยรู้ดีว่าตนเองคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปและท้ายที่สุดเขาจะไม่มีอะไรติดมือกลับไปเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
ทันใดนั้นเสียงะโดังสนั่นมาถึงหูของถังเหล่ย เขากวาดสายตาไปมองด้านนอกของเมืองเห็นแสงไฟจากคบเพลิงจำนวนมากราวกับมหาสมุทร กำลังหลั่งไหลเข้าสู่ภายในเมือง
กองทัพหลักมาถึงแล้ว!
ถังเหล่ยเผยรอยยิ้มมุมปาก เขาคิดว่าการลงทุนของเขาในครั้งนี้คงจะได้รับผลตอบแทนที่ไม่เลว
กองทัพขนาดใหญ่โอบล้อมเมืองเอาไว้และกำลังทยอยเข้าสู่ภายในเมืองจากประตูทั้งสี่ทิศ ก่อนหน้านี้ประตูทางเข้าเมืองทั้งสี่ทิศถูกกองกำลังขบวนแรกบุกเข้าโจมตีและเปิดทางไว้รอแล้ว ทำให้กองทัพหลักสามารถเข้าไปในเมืองได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นความบ้าคลั่งก็ปะทุขึ้น เสียงโอดครวญจากความเ็ปดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า
ถังเหล่ยมองเห็นิญญายุทธ์จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังต่อสู้กัน ภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้ายและไร้ความปรานีเช่นนี้ ต่อให้เป็ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ยุทธ์ก็ต้องหวาดผวา
ตูม!
ทางจวนแม่ทัพมีเสียงะเิดังออกมา เปลวเพลิงขนาดใหญ่กลืนกินทั้งจวนแม่ทัพในทันที ทันใดนั้นถังเหล่ยมองเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่บนเถาวัลย์ขนาดั์ เขาพุ่งหลบการโจมตีจากสิงโตสีแดง แต่สิงโตสีแดงยังคงตามติดและโจมตีไปที่อีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
เหนือศีรษะของสิงโตสีแดง ถังเหล่ยเห็นร่างของหงเทียนเิอยู่บนนั้น เขากำลังควบคุมสิงโตสีแดงให้ไล่ล่าหวังที่จะสังหารหยวนผิงให้ได้
แต่ิญญายุทธ์พืชพรรณของหยวนผิงทรงพลังยิ่งนัก เมื่อหยวนผิงััได้ว่ามีกองทัพขนาดใหญ่กำลังบุกเข้ามาโจมตี เขาเกรงว่าตัวเองจะถูกกองทัพล้อมเอาไว้ ในขณะนี้เขาจึงทำได้เพียงหนีเท่านั้น ในเวลาต่อมาก็ปรากฏเถาวัลย์เส้นหนึ่งยื่นออกไปนอกกำแพงเมืองอย่างไร้ที่สิ้นสุด
“เ้าโจรชั่วอย่าคิดหนี วันนี้ข้าต้องตัดหัวของเ้าให้ได้!” หงเทียนเิที่อยู่บนศีรษะของสิงโตสีแดงกำลังไล่หลังมา เขาคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง
แต่เถาวัลย์หลายเส้นยังคงขัดขวางการไล่ล่าของหงเทียนเิที่อยู่ด้านหลังอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้หยวนผิงสามารถะโออกนอกกำแพงเมืองไปได้ ถังเหล่ยที่กำลังจ้องมองจากระยะไกล้าที่จะสังหารหยวนผิงซึ่งเป็ถึงยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ยุทธ์
ความจริงแล้วหาก้าจะสังหารปรมาจารย์ยุทธ์คนหนึ่ง อาจจะต้องใช้ปรมาจารย์ยุทธ์ถึงสามคน ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ยุทธ์สามารถเรียกิญญายุทธ์ออกมาร่วมต่อสู้ได้ตาม้า และต่อให้สู้ไม่ได้พวกเขาก็ยังสามารถหลบหนีได้โดยไม่มีปัญหา
สิงโตสีแดงะโไปบนกำแพงเมือง แต่ไม่ได้ไล่ตามหยวนผิงไป หงเทียนเิตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถสังหารอีกฝ่ายได้ด้วยตัวคนเดียวเพราะพลังของิญญายุทธ์พืชพรรณมีความแข็งแกร่งมาก
หลังจากนั้นการต่อสู้ภายในเมืองก็เริ่มกลายเป็การสังหารอยู่ฝ่ายเดียว เพราะเหล่าทหารของหยวนผิงเห็นแม่ทัพของตนเองหนีไปต่อหน้าต่อตา แม้แต่แม่ทัพของพวกเขาเองยังหนี ศึกในครั้งนี้พวกเขาไม่มีความจำเป็ที่จะต้องสู้จนตัวตายอีกต่อไป
ทหารบางส่วนก็วิ่งฝ่าวงล้อมหนีตามหยวนผิงไป ส่วนทหารที่ยังอยู่ภายในเมืองทั้งหมดล้วนเลือกยอมจำนนทันที
แม้ว่าศึกในครั้งนี้จะต้องแลกด้วยชีวิตของทหารหลายคน [ไ.1] แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้รับชัยชนะ
หลังจากนี้หงเทียนเิต้องไปรักษาความสงบภายในเมือง ซากศพจำนวนมากที่อยู่ภายในเมืองยังคงกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ จวนแม่ทัพก็ยังคงลุกโชนด้วยเปลวเพลิงตลอดทั้งคืน
ในขณะนี้ภายในเมืองมีทหารยืนอยู่ทุกหนทุกแห่ง ประชาชนภายในเมืองต่างพากันหลบซ่อนอยู่ในบ้านของตัวเอง สำหรับพวกเขาาเป็เื่ที่พวกเขาหวาดกลัวมากที่สุด!
ถังเหล่ยยังคงนั่งบนหลังคาตลอดทั้งคืน เพราะตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ใด ภายในเมืองยังมีทหารของหยวนผิงหลงเหลืออยู่ ทันทีที่พวกเขาถูกพบก็จะถูกสังหารในทันที แต่เื่นี้เกิดขึ้นเป็บางพื้นที่เท่านั้น
รุ่งเช้าวันต่อมา เปลวเพลิงที่จวนแม่ทัพก็ดับลง ถังเหล่ยจึงลงจากหลังคาและมุ่งหน้าไปยังจวนแม่ทัพ
“เ้าเป็ใคร!”
พื้นที่รอบจวนแม่ทัพมีทหารเฝ้าอยู่ ทหารผู้นี้ไม่รู้จักถังเหล่ย ทหารที่อยู่ภายในเมืองส่วนใหญ่เป็ทหารจากเมืองอื่น พวกเขามาที่นี่เพื่อร่วมรบตามคำเชิญของหงเทียนเิเท่านั้น
ถังเหล่ยยังไม่ทันได้กล่าวอะไร เสียงะโของหงฟ่านก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“หลังจากที่ท่านพ่อทำภารกิจเสร็จแล้ว ท่านพ่อก็รีบออกตามหาตัวเ้า เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับเ้า แม้แต่ข้าก็ยังรู้สึกร้อนใจ”
ทันทีที่หงฟ่านเห็นถังเหล่ยเขาก็ผ่อนคลายลงทันที พวกเขากังวลเพราะถังเหล่ยมีระดับยุทธ์ต่ำเกินไป ศึกครั้งนี้ค่อนข้างวุ่นวายจึงง่ายต่อการเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ถังเหล่ยติดตามหงฟ่านมายังบ้านพักของหงเทียนเิ บ้านพักหลังนี้กว้างใหญ่มาก ดูแล้วคงเป็บ้านของตระกูลใหญ่บางตระกูลอย่างแน่นอน ทหารหลายคนยืนล้อมบ้านพักหลังนี้เอาไว้
ไม่นานถังเหล่ยก็พบกับแม่ทัพสิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า แม่ทัพสิงคือหัวหน้าหน่วยองครักษ์ของหงเทียนเิ เขาคือยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์ขั้นแปด
หลังจากที่ถังเหล่ยเข้ามาในห้องโถงภายในบ้าน ในที่สุดเขาก็เห็นหงเทียนเิกำลังสั่งการอยู่ ทันทีที่อีกฝ่ายเห็นถังเหล่ยก็โบกมือสั่งให้ทุกคนออกไปรอด้านนอก
“ฮ่าๆๆ คุณชายถัง ท่านทำให้ข้ากังวลมาก!”
ดูจากท่าทางของหงเทียนเิในขณะนี้เขาอารมณ์ดีอย่างยิ่ง แม้ว่ากลิ่นอายรัศมีพลังอันแข็งแกร่งของเขาจะเบาบางไปบ้าง การต่อสู้เมื่อคืนเขาคงใช้พลังปราณไปค่อนข้างมาก
“ท่านแม่ทัพไม่ต้องกังวล ตอนนี้ท่านชิงเมืองกลับมาได้แล้ว คงถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว” ถังเหล่ยกล่าวอย่างเรียบเฉย
ความจริงแล้วจุดประสงค์ของถังเหล่ยไม่ใช่การมากล่าวลา แต่เขากำลังไถ่ถามถึงผลประโยชน์และส่วนแบ่งที่เขาจะได้รับ ตามมารยาทเขาไม่อาจเอ่ยถามถึงส่วนแบ่งตรงๆ
“คุณชายถัง เหตุใดจึงรีบร้อนนัก อยู่ต่ออีกสักสองสามวันดีหรือไม่?” หงเทียนเิพยักหน้าให้หงฟ่านที่อยู่ด้านข้างและกล่าวกับถังเหล่ย
แม้ว่าหงเทียนเิจะ้าให้ถังเหล่ยอยู่ข้างกายมากเพียงใด แต่เมื่อนึกย้อนกลับไป หลายวันที่รู้จักกันมาที่มาของอีกฝ่ายทำให้หงเทียนเิรู้สึกสับสน ความลึกลับของถังเหล่ยทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าอีกฝ่ายเป็ตัวอันตราย ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ถังเหล่ยจากไปตามที่้า ทันใดนั้นหงฟ่านเดินเข้ามา ในมือถือกล่องไม้ขนาดใหญ่เอาไว้
“คุณชายถัง นี่คือน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของผู้แซ่หง คุณชายถังโปรดรับไว้ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่พวกเราอยากจะมอบให้กับคุณชาย หวังว่าคุณชายจะไม่ปฏิเสธ”
หงเทียนเิยิ้มเล็กน้อย ในมือปรากฏหนังสัตว์แผ่นหนึ่งยื่นให้ถังเหล่ย ทันทีที่ถังเหล่ยรับหนังสัตว์แผ่นนั้นมาดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
ชาติที่แล้วเขาเคยััตำรายาลับมานับไม่ถ้วน คุณภาพของหนังสัตว์จะบ่งบอกถึงความสำคัญและมูลค่าของยา
หากถังเหล่ยเดาไม่ผิด หนังสัตว์แผ่นนี้อย่างน้อยก็เป็สัตว์อสูรระดับหกอย่างแน่นอน!
สัตว์อสูรระดับนี้สามารถกลายร่างเป็มนุษย์ได้ด้วยซ้ำ เพียงแค่หนังสัตว์ก็รู้แล้วว่ามูลค่าของตำรายานี้ต้องไม่ธรรมดา
………