คราวนี้อนุรองไม่ได้มาสอบถามอะไร แต่้าให้ชุ่ยเอ๋อร์ขโมยของสิ่งหนึ่งไปจากอวิ๋นซู
“ยาเช่นนั้น? ข้าจะมีได้อย่างไร” อวิ๋นซูยิ้มอย่างจนใจ อนุรองผู้นี้คิดทำทุกวิถีทางเพื่อแก่งแย่งชิงดี ยาเช่นนั้นมีผลทำร้ายร่างกายของฝ่ายชายด้วย หากให้ท่านโหวทราบ เกรงว่าจะหักขานางทิ้งเป็แน่
“เช่นนั้น จะทำอย่างไรดีเ้าคะ หากบ่าวเอากลับไปไม่ได้ อนุรองจะไม่...”
“ไม่หรอก นางเป็เพียงแค่คนป่วยที่กินยามั่วซั่วก็เท่านั้น” อวิ๋นซูในตอนนี้กลับรู้สึกเห็นใจหลิ่วอวิ๋นเหยา ั้แ่เหตุการณ์นั้น นางก็ขังตัวเองอยู่ในห้องมาตลอด ว่ากันว่าทุกครั้งที่ถูกโน้มน้าวให้ออกมานอกห้อง เมื่อเห็นรอยยิ้มของผู้อื่นก็จะร้องไห้อย่างบ้าคลั่งขึ้นมา
บางทีเงามืดในใจคงทำให้นางรู้สึกว่ารอยยิ้มของคนอื่นกำลังยิ้มเยาะตนเองอยู่
“เ้าก็พูดกับนางไปตามตรงว่าไม่มียา แบบนั้นก็พอแล้ว”
ความคิดของอนุรองช่างไม่ธรรมดา อวิ๋นซูคิดว่าแผนการของนางทัดเทียมกับเหลยซื่อเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามอีกไม่นานอนุรองก็คงไม่มีกะจิตกะใจไปต่อสู้แย่งชิงความโปรดปรานแล้ว
“ซวี่เอ๋อร์ อาหารไม่ถูกปากหรือ?” ชางหรงโหวมองรอยยิ้มฝืนของสตรีงดงามตรงหน้า น้ำเสียงเจือแววกังวลอยู่บ้าง
อนุห้าส่ายศีรษะ มองไปยังเส้นผมที่เริ่มกลายเป็สีเทาของสามี เนิ่นนานจึงถอนใจออกมาเบาๆ “นายท่าน ข้า...”
...
เพียงไม่นาน ข่าวที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจก็แพร่ไปทั่วจวนโหว
“อะไรนะ?! อนุห้าตั้งครรภ์งั้นหรือ?!” อนุรองตวาดพลางดีดตัวขึ้นมา เป็ไปได้อย่างไร ก็นาง...
“เื่จริงเ้าค่ะ บ่าวได้ยินมากับหู ท่านโหวยังเรียกให้คุณหนูหกไปในเรือนของอนุห้าด้วยเ้าค่ะ”
เหตุใดนายท่านจึงเรียกหลิ่วอวิ๋นซูไปที่เรือนอนุห้า
อนุรองรู้สึกราวกับว่าสมองของตนมีอะไรบางอย่างแวบผ่านไป ทันใดนั้นนางก็ปัดกาน้ำชาบนโต๊ะอย่างแรงจนหล่นลงพื้น “ที่แท้ก็เป็เช่นนี้ ที่แท้ก็เป็เช่นนี้นี่เอง พวกนางสองคน...”
แม่นมพลันเข้าใจความหมายของอนุรอง “อี๋เหนียงหมายความว่า อนุห้ากับคุณหนูหกเป็พวกเดียวกันตั้งนานแล้วหรือเ้าคะ?” จู่ๆ นางก็นึกถึงชุ่ยเอ๋อร์ “สาวใช้คนนั้น ถึงกับกล้าหลอกลวงอี๋เหนียง!”
“ไม่ สาวใช้คนนั้นอาจจะไม่ได้หลอกข้า”
อนุรองพยายามสงบสติอารมณ์ของตน “ในเมื่อหลิ่วอวิ๋นซูไม่เชื่อใจนังเด็กนั่นแล้ว ก็อาจจะไม่ได้พูดความจริงกับเด็กนั่น เพียงแค่คิดจะแสดงงิ้วต่อหน้าพวกเราเท่านั้น นังแพศยานั่นถึงกับกล้าร่วมมือกับคุณหนูหก!”
ณ เวลานี้ อนุรองถึงได้เริ่มเสียใจขึ้นมา เหตุใดตอนแรกนางจะต้องใช้หลิ่วอวิ๋นซูมาโจมตีเหลยซื่อให้ได้ด้วย ทั้งยังไม่คิดจะดึงนางมาเป็พวกอีก มิฉะนั้นตอนนี้นังจิ้งจอกนั่นก็คงไม่สามารถพลิกฐานะขึ้นมาได้!
เดินผิดก้าวเดียว หมากล้มทั้งกระดาน!
“อี๋เหนียง เหตุใดท่านโหวจึงได้เรียกคุณหนูหกไปหรือเ้าคะ?”
“จะเพราะอะไรอีกเล่า คง้าให้นางปกป้องครรภ์ของนังแพศยานั่นแน่ๆ!” แบบนี้ไม่ดีแน่ นับว่าอนุรองพอจะมองออกว่าอวิ๋นซูมีวิชาแพทย์สูงส่ง หาก้าลงมือในอาหารของพวกนาง เกรงว่าจะทำไม่ได้แล้ว เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดีเล่า?
จินตนาการได้เลยว่าั้แ่วันนี้เป็ต้นไป ภายในเขตเรือนของอนุห้าจะมีองครักษ์คอยปกป้องดูแล เกรงว่าตนเองอยากจะพบนางสักครั้งก็ยากแล้ว
ภายในห้อง
ชางหรงโหวประเมินสตรีตรงหน้าอีกครั้ง อนุห้าชมเชยอวิ๋นซูต่อหน้าเขาราวกับเป็หนึ่งในใต้หล้า นางไม่ได้พูดถึงเื่ชะมดเชียง เพียงพูดว่าอวิ๋นซูช่วยดูแลร่างกายนางจนดีขึ้นแล้ว สามารถทำเื่ที่ท่านหมอคนอื่นทำไม่ได้
สามปีมาแล้วที่ไม่มีข่าวดี ทว่าตอนนี้อนุห้ากลับตั้งครรภ์ขึ้นอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าฝีมือของอวิ๋นซูเยี่ยมยอดเพียงใด
ความจริงแล้วในใจของชางหรงโหวสนใจอยู่เื่หนึ่ง นั่นคือคำพูดของซินแสที่แม่นราวกับเทพเซียนผู้นั้นในตอนที่อวิ๋นซูเกิด แต่วันนี้ดูแล้ว บุตรีอนุภรรยาคนนี้ไม่ใช่ตัวโชคร้ายอะไรเลย อย่างน้อยก็นำพาชีวิตใหม่มาสู่จวนโหวของพวกเขา
“บิดาอยากให้เ้าปกป้องครรภ์ของอนุห้า เ้าเต็มใจหรือไม่?”
“อวิ๋นซูจะพยายามสุดความสามารถเ้าค่ะ”
“หากมีอะไรที่เ้า้า ก็พูดออกมาเถิด!”
อวิ๋นซูมองคิ้วที่ยกสูงของบุรุษผู้นี้ ที่แท้ชางหรงโหวก็มี่เวลาที่ปลื้มปีติเช่นนี้ด้วย
“ตอนที่อี๋เหนียงออกไปเดินข้างนอก จำเป็ต้องมีองครักษ์อยู่ข้างกาย ห้ามไม่ให้ใครเข้าใกล้เ้าค่ะ”
“นี่เป็เื่แน่นอนอยู่แล้ว”
“อาหารของอี๋เหนียง ก็ต้องให้ข้ายืนยันเสียก่อนจึงจะทานได้”
ชางหรงโหวคิดครู่หนึ่ง น่าจะมีวิธีการที่ครอบคลุมมากกว่านี้ “เช่นนั้นให้อนุห้าย้ายไปอยู่กับเ้าในเรือนไผ่ เสื้อผ้า อาหาร ความเป็อยู่ เ้าสามารถดูแลได้ทั้งหมด ข้าจะส่งคนไปคุ้มครองที่เรือนไผ่ หากผู้ใดไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ก็มิอาจเข้าไปได้!”
อวิ๋นซูเข้าใจดีว่าหากทำเช่นนี้ เมื่ออนุห้าเกิดเื่อะไรล้วนเป็ความผิดของนางทั้งหมด แต่จะอย่างไรนางก็เชื่อมั่นในวิชาแพทย์ของตน ยิ่งไปกว่านั้นนางจำเป็ต้องปกป้องลูกของอนุห้าไว้ให้ได้ นี่จะทำให้นางได้รับความสำคัญจากชางหรงโหวมากขึ้นอีกขั้นอย่างแน่นอน
หาก้าแก้แค้น หาก้าพบสองคนนั้น เพียงแค่บุตรีอนุภรรยาที่ไร้ความสำคัญคนหนึ่งของจวนโหวมิอาจทำได้ นาง้าการสนับสนุนจำนวนมาก
วันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าจัดงานเลี้ยงฉลองขึ้นเป็พิเศษ ด้านหนึ่งก็เพื่อต้อนรับชางหรงโหว ด้านหนึ่งก็เพื่อประกาศให้ทุกคนทราบข่าวดีเื่อนุห้าตั้งครรภ์
สีหน้าของเหลยซื่อซีดเซียวไม่น้อย ั้แ่คุณชายสามถูกไล่ไปยังค่ายทหาร ท่านโหวก็ไม่มาที่ห้องของนางอีกเลย หลิ่วอวิ๋นฮว๋าเองก็ร้อนใจยิ่งนัก ท่านพ่อไม่มาถามไถ่เื่ของนางเลยด้วยซ้ำ
ตระหนักถึงวิกฤตอย่างร้ายแรงห่อหุ้มอยู่บนศีรษะของสองแม่ลูก ส่วนข่าวที่อนุห้าตั้งครรภ์ก็เป็การราดน้ำมันลงบนกองเพลิงอย่างไม่ต้องสงสัย
“ฮ่าๆ ซูเอ๋อร์ เสวี่ยซวี่ พวกเ้ามานี่”
ทุกคนหน้าเปลี่ยนสี ฮูหยินผู้เฒ่าถึงกับเรียกชื่ออนุห้าเชียวหรือ!
แม่นมถือกล่องไม้สีแดงรูปทรงยาวที่แกะสลักอย่างละเอียดงดงามออกมา ฮูหยินผู้เฒ่าแย้มยิ้ม หยิบผ้าสีขาวราวหิมะ เนื้อผ้าอ่อนนุ่มออกมาจากข้างในสองพับ “นี่คือผ้าไหมหิมะจากตะวันตก มีเพียงพระสนมในวังที่จะมีใน หากเอาไว้ที่ข้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร เช่นนั้นก็ให้พวกเ้าแล้วกัน”
เหลยซื่อมือสั่น ฮูหยินผู้เฒ่าถึงกับนำผ้าล้ำค่าเช่นนั้นให้อี๋เหนียงกับลูกอนุคนหนึ่งเลยเชียวหรือ นี่ไม่ใช่ว่ากำลังตบหน้าภรรยาเอกอย่างนางอยู่หรือ?
สายตาของอนุรองเต็มไปด้วยความอิจฉาอย่างเข้มข้น ส่วนอนุสี่นั้นดวงตาเปล่งประกายระยิบระยับ แต่เพียงไม่นานก็เบนสายตาลงอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ขอบคุณท่านย่าเ้าค่ะ” “ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าเ้าค่ะ”
ทั้งสองสบตากันด้วยรอยยิ้ม เมื่อตกอยู่ในสายตาของทุกคนก็เป็การกระตุ้นคลื่นลมขึ้นมา ทั้งสองไปมีสัญญาณลับเช่นนี้กันั้แ่เมื่อใด? ในใจของพวกนางเกิดความคิดเหมือนกัน ใช้สายตาหวาดกลัวเล็กน้อยมองไปยังอวิ๋นซู
คุณหนูหกผู้นี้ช่างมีฝีมือเหลือร้าย! สามารถโน้มน้าวให้ฮูหยินผู้เฒ่าทำตาม้าได้ ตอนนี้ก็ยังญาติดีกับอนุห้าที่กำลังได้รับความโปรดปราน! คุณชายสามที่ยโสโอหังถูกส่งออกไปแล้ว ฮูหยินและหลิ่วอวิ๋นฮว๋าบุตรีภรรยาเอกเพียงหนึ่งเดียวก็ได้รับความเ็า ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูหกทั้งสิ้น
ความรู้สึกเช่นนี้ราวกับคุณหนูหกใช้มือกวนน้ำในจวนโหวในยามที่ทุกคนไม่รู้ตัว ทำให้เื่ราวทุกอย่างเปลี่ยนไปตามใจนางอย่างเงียบเชียบ รู้ตัวอีกทีพวกนางก็รับมือไม่ทันเสียแล้ว
อาหารมื้อนี้ บางคนกลืนไม่ลง บางคนกินอย่างเพลิดเพลิน มีเพียงอารมณ์ของคนผู้เดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“คุณหนูหก ต้องโทษอี๋เหนียงแล้วที่ลากเ้ามาเกี่ยวข้อง” ภายในห้อง ในที่สุดอนุห้าก็สามารถเข้าออกได้อย่างเปิดเผย นางมองสตรีงดงามสุกใสราวสายน้ำตรงหน้าอย่างขออภัย
อวิ๋นซูทำเพียงแย้มยิ้มบาง “ต่อให้อี๋เหนียงไม่ทำเช่นนี้ อวิ๋นซูก็จะกล่าวกับท่านพ่อเ้าค่ะ”
ความจริงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อนุห้าล้วนไม่โทษอวิ๋นซู ระยะนี้นางตระหนักได้ตั้งนานแล้ว อวิ๋นซูไม่เหมือนกับคุณหนูคนอื่น นางไม่มีจิตใจที่คิดทำร้ายผู้คน แต่ก็ยังมีความเหี้ยมโหดเช่นกัน หากผู้ใดมีใจคิดมุ่งร้าย นางจะตอบโต้โดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน
ได้อยู่ข้างกายอวิ๋นซู นางกลับรู้สึกสบายใจ ความสบายใจเช่นนี้มิอาจหาได้แม้กระทั่งจากตัวท่านโหว
วันหน้าเมื่อคลอดลูกออกมา นางจะต้องให้ลูกของนางเรียนรู้กับอวิ๋นซูอย่างใกล้ชิดให้ดี
“ผ้าไหมหิมะจากตะวันตกนั่น ข้ามิอาจใช้ได้ คุณหนูหกนำทั้งหมดไปตัดชุดเถิด” อนุห้าไม่คุ้นชินกับการใส่ชุดที่ทำจากผ้าประเภทนั้น นางเพียง้าใช้ชีวิตเรียบง่าย
“ผ้าไหมนี่ ข้าเองก็ใช้ไม่ได้”
“เหตุใดเล่า?”
อวิ๋นซูมองไปที่ท้องของอนุห้าปราดหนึ่ง “ขั้นตอนการทำไหมหิมะจากตะวันตก ต้องเพิ่มขั้นตอนการย้อมสีเข้าไป การย้อมสีผ้านี้มีผลกระทบกับสตรีมีครรภ์ หากข้าสวมชุดที่ทำจากไหมหิมะนี้ สะบัดอยู่ข้างกายอี๋เหนียงทั้งวัน จะมีผลอย่างไรเ้าคะ?”
เมื่อมองไปยังสตรีที่ตอนนี้มีใบหน้าเปล่งปลั่ง ในใจของอวิ๋นซูก็อ่อนโยนลงเล็กน้อย บางทีอาจเป็เพราะยังรู้สึกผิดต่อบุตรที่ไม่ได้เกิดของตนในชาติก่อน อวิ๋นซูจึงมีความคิดแน่วแน่ที่จะต้องปกป้องลูกของอนุห้าเอาไว้ให้ได้
การเป็แม่คน มักจะมีความยึดมั่นถือมั่นว่าจะปกป้องลูกด้วยชีวิตอยู่
ฮูหยินผู้เฒ่าราวกับเห็นแก่หน้าหลานในอนาคต จึงเรียกให้อวิ๋นซูไปช่วยฝังเข็มระบายเืน้อยลงมาก กลับกัน เมื่อมีโอกาสก็จะมาเยี่ยมด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้อนุห้าออกจากเรือนไผ่เป็อันขาด
ท่านโหวเองก็เป็เพราะอนุห้าตั้งครรภ์ จึงเปลี่ยนไปค้างกับอนุสี่ อนุรองโกรธจนไฟลุกเต็มท้องแต่กลับไม่มีที่ระบาย
ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะสงบสุขยิ่งนัก เหลยซื่อเศร้าโศกจนเจ็บป่วย จนวันหนึ่งระหว่างทางที่จะไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าก็เป็ลมล้มลงกับพื้น
สำหรับคนบางคนเื่นี้นับเป็โอกาส หรือหากไม่ใช่ก็ทำให้มันกลายเป็โอกาสเสีย
นอกจวนโหว หญิงชราคนหนึ่งทำท่าทางหลบๆ ซ่อนๆ เดินไปเดินมาอยู่ตรงประตูหลัง ประตูมีเสียงเคาะดังขึ้นสามครั้ง หญิงชราคนนั้นก็เคาะกลับไปสามครั้ง คนผู้นั้นถึงจะเปิดประตูห้อง
“ของสิ่งนี้ของเ้าเป็ของจริงหรือของปลอม?”
“ย่อมเป็ของจริงแน่นอนเ้าค่ะ ลูกชายข้าทำงานอยู่ในวัง นี่คือ...ความลับที่พวกเขาต่างก็รู้”
แม่นมมองไปรอบๆ ครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงหยิบทองแท่งหนึ่งออกมาส่งให้ถึงมือหญิงชราคนนั้น
“เื่นี้ห้ามให้ผู้อื่นรู้เป็อันขาด”
“ฮี่ๆๆ เข้าใจแล้วเ้าค่ะ หญิงชราเช่นข้าไม่ทำลายหม้อข้าวตัวเองหรอก!”
เมื่อเห็นเงาร่างนั้นจากไปไหล แม่นมก็แย้มยิ้มเย็น นำของสิ่งนั้นกลับไปในจวน
อนุรองเปิดห่อผ้านั้นออก ข้างในเป็ผ้าไหมหิมะขนาดเล็กชิ้นหนึ่ง ในวังมีความลับหนึ่งที่น้อยคนจะรู้ กงกง1 บางคนที่ได้รับพระกรุณาจากราชนิกุลแอบเก็บส่วยไว้เล็กน้อย จากนั้นจึงนำมาขายให้กับครอบครัวชั้นสูงที่้า เพียงแต่ใครก็มิอาจพิสูจน์ได้ว่าเป็สิ่งของที่กงกงท่านใดปล่อยออกมา
ที่อนุรองทราบเป็เพราะนางพบว่าครีมกุหลาบกระปุกหนึ่งของหลิ่วอวิ๋นฮว๋า เป็ของที่มีเพียงสนมในวังเท่านั้นถึงจะมี ด้วยเหตุนี้จึงสืบไปตามเงื่อนงำ จนสามารถหาหญิงชราคนนั้นพบ
ใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มเย็นเยียบ ครั้งนี้เป้าหมายของนางไม่ใช่เหลยซื่อ แต่เป็นังแพศยาที่เพิ่งจะพลิกชีวิต แล้วยังมีคุณหนูหกที่คิดว่าตนฉลาดผู้นั้นอีกด้วย!
***********************
คำอธิบายเพิ่มเติม
1 กงกง เป็คำเรียกขันทีในวัง