การต่อสู้ดุเดือดท่ามกลางหยาดฝนยามค่ำคืน ผ่านไปชั่วขณะก็จบลงในที่สุด
เย่เฟิงใช้ลูกไฟจู่โจมอย่างฉับพลันขณะที่อีกฝ่ายย่ามใจ วินาทีถัดมาก็เข้าปลิดชีพอีกฝ่ายอย่างไม่เหลือซาก!
หลงหว่านเอ๋อร์และหนานฟางเคยเห็นเปลวสุริยะมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงไม่ตื่นใ เพียงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าชูชูที่มองเห็นจากระยะไกลว่าเย่เฟิงปล่อยลูกไฟก็หน้าซีดด้วยความใ
ความจริงแล้วเย่เฟิงเป็ใครกันแน่ ทำไมถึงสามารถปล่อยลูกไฟได้? เท่าที่ชูชูทราบ ในยุทธจักรไม่มีวิทยายุทธ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้!
ลวดสลิงเส้นยาวสองเส้นเชื่อมเย่เฟิงกับมือปราบิญญานิโคตินไว้ด้วยกัน จากนั้นร่างของฝ่ายหลังก็ถูกชายหนุ่มใช้มือทั้งสองข้างคว้าร่างก่อนโยนลงทะเล
ตูม เสียงร่างมือปราบิญญานิโคตินร่วงลงไปในน้ำพร้อมกับไฟที่แผดเผาร่างดับลง จากนั้นเย่เฟิงใช้สองมือดึงลวดสลิงเพื่อลากร่างของมือปราบิญญานิโคตินเข้าไปในบ้าน แล้วปลดมือสองข้างของอีกฝ่ายก่อนะโไปยังลานบ้าน
ฉัวะ!
กระบี่สีทองเล่มยาวปรากฏออกมาพร้อมฟาดฟันอันธพาลทั้งห้าคนที่ตกตะลึงตาค้างพูดอะไรไม่ออกและถูกสังหารอย่างไม่ทันตั้งตัว
เดิมเย่เฟิงคิดจะไว้ชีวิตพวกเขา แต่นึกไม่ถึงว่าระหว่างการต่อสู้ เขาจะต้องใช้เปลวสุริยะออกมา เมื่อพวกเขาเห็นไพ่ตายของเย่เฟิงแล้ว จึงไม่อาจไว้ชีวิตพวกเขาต่อไปได้อีก
ในเมื่ออีกฝ่าย้าเอาชีวิตเขาแล้วโยนลงทะเล ดังนั้นเย่เฟิงเองก็ไม่รังเกียจที่จะจัดการคนเหล่านี้ด้วยวิธีการของพวกมันเอง
คิดสังหารคน อย่างนั้นก็ตระหนักบ้างหากต้องถูกสังหารเสียเอง!
เย่เฟิงแผ่พลังลมปราณพร้อมก้าวลงน้ำทะเลเย็นเฉียบ คลื่นทะเลปั่นป่วนซัดร่างอันธพาลทั้งห้าลอยออกไป พายุฝนยังกระหน่ำตกลงมาไม่หยุด อีกทั้งคลื่นทะเลที่ปั่นป่วนเป็ครั้งคราว เชื่อว่าอีกไม่นานศพของพวกเขาคงถูกกระแสน้ำฝังจมอยู่ใต้ทะเล
ต่อให้พวกเขาถูกค้นพบก็ไม่มีทางสืบสาวราวเื่มาถึงตัวเย่เฟิงได้
หลังจากนั้นเย่เฟิงก็กลับไปชั้นบนของบ้าน เมื่อเปิดตามองก็อดยิ้มไม่ได้ เมื่อครู่หลังเขาลากศพของมือปราบิญญานิโคตินเข้ามา หนานฟางก็รีบจุดเทียนอีกครั้ง จากนั้นเริ่มค้นอุปกรณ์ในร่างของคนตาย
แม้ชายคนนี้จะถูกไฟคลอกตาย แต่อาวุธที่อยู่ในร่างของเขาล้วนเป็อุปกรณ์ชั้นยอด! โดยเฉพาะรองเท้าคู่นั้น และหน้าไม้ขนาดเล็กที่ทำจากเหล็กชั้นดีรวมถึงลูกศรหน้าไม้ขนาดเล็กทั้งเจ็ดดอก ดูจากลักษณะของมันแล้ว ต่อให้จ่ายเงินหลายสิบล้านก็ไม่อาจหาซื้อได้!
“นี่เป็รองเท้าบูทพลังดีดไฟฟ้า ใช้งานได้เมื่อชาร์จไฟเต็ม มันทำให้ผู้ที่สวมใส่สามารถะโได้อย่างต่อเนื่องและไกลมากกว่าปกติถึงสามเท่า! ส่วนหน้าไม้นี่สามารถยิงได้เพียงเจ็ดครั้งเท่านั้น แต่ใน่เวลาสำคัญถือว่ามีประโยชน์มากทีเดียว...”
หนานฟางวิเคราะห์รายละเอียดของมันอย่างรวดเร็ว สำหรับสิ่งของชิ้นอื่นถูกลูกไฟของเย่เฟิงทำลายไปหมดแล้ว
“ของสองอย่างนี้นายเอาไปก็แล้วกัน” เย่เฟิงโบกมือ “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็ถึงเวลาเอาร่างหมอนี่ออกไปได้แล้ว”
เย่เฟิงนำร่างของมือปราบิญญานิโคตินเข้ามาในบ้านก็เพื่อตรวจสอบว่าเขามีอุปกรณ์อะไรที่สามารถยึดมาใช้ได้บ้าง และการกระทำของหนานฟางก็ตรงกับความ้าของเย่เฟิงพอดี เมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็จัดการร่างของมือปราบิญญานิโคตินเช่นเดียวกับร่างของพวกอันธพาลก่อนหน้านี้
“ไม่มีอะไรแล้ว ของอย่างอื่นพังไปหมดแล้ว ทั้งยังไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกเรา”
หนานฟางส่ายหน้าพลางยิ้มออกมา มือข้างหนึ่งถือรองเท้าบูทพลังดีดไฟฟ้า ส่วนมืออีกข้างก็ถือหน้าไม้ขนาดเล็ก เขาชอบพวกมันมากทีเดียว
ก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าคิดเลยด้วยซ้ำว่าตนจะมีโอกาสกอบโกยอุปกรณ์ของมือปราบิญญานิโคติน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เฟิง ทุกอย่างย่อมกลายเป็เื่ง่ายดาย
“หว่านเอ๋อร์ นี่มันเป็เื่จริงเหรอ?” ชูชูลากตัวหลงหว่านเอ๋อร์ไปกระซิบถาม “มือปราบิญญานิโคตินอะไรนั่น ไม่ใช่ว่าเขาเป็นักโทษหนีคดีที่มีพลังบ่มเพาะถึงสี่สิบปีเหรอ? คนที่แข็งแกร่งระดับนั้นทำไมถึงถูกเสี่ยวเฟิง...”
“เขาเองก็ไม่ใช่คนธรรมดา”
หลงหว่านเอ๋อร์หรี่ตาลงเล็กน้อย เธอไม่ได้พูดเื่ของเย่เฟิงออกไปมากนัก
“หว่านเอ๋อร์ หนานฟาง มานี่หน่อยสิ” เย่เฟิงเดินเข้าไปในห้อง เมื่อศัตรูถูกจัดการเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่เขาต้องอธิบายเื่บางอย่าง “ดูดซับพลังนี่ซะ ฉันมีเื่ที่จำเป็ต้องให้เธอไปจัดการ”
เขานำาาปะการังออกมา ปะการังสีแดงลักษณะเหมือนเขากวางคู่หนึ่งปรากฏต่อสายตาของทุกคน ท่ามกลางความมืด เมื่อแสงเทียนตกกระทบก็ส่องประกายประหลาดออกมา
“นี่มัน... าาปะการัง?”
หลงหว่านเอ๋อร์ตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อััถึงคลื่นพลังจากาาปะการัง เธอแทบไม่อยากเชื่อเลย สมบัติ์ที่ผู้คนในยุทธจักรต่าง้าเพื่อใช้มันเพิ่มระดับพลังได้มากถึงห้าปี เธอไม่อยากจะเชื่อว่าตอนนี้มันจะมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ เย่เฟิงสามารถทำได้จริงด้วย เขาสามารถคว้าาาปะการังมาไว้ในมือได้สำเร็จ!
“ใช่แล้ว อย่ามัวช้าอยู่เลย รีบดูดซับพลังของมันเร็วเข้า”
เย่เฟิงโยนาาปะการังไปให้หลงหว่านเอ๋อร์รับไว้
สิ่งนี้ทำให้หญิงสาวถึงกลับตกตะลึงจนทำตัวไม่ถูก “ให้ฉันทำอะไรนะ?”
“ให้เธอดูดซับมันเพื่อเพิ่มระดับพลังบ่มเพาะไงล่ะ เด็กโง่” เย่เฟิงยิ้มบางพร้อมโยกหัวเธอไปมาเบาๆ อย่างเอ็นดู “เส้นลมปราณของฉันยังไม่แข็งแรงพอ ดูดซับพลังจากมันไม่ได้”
หลงหว่านเอ๋อร์แทบจะร้องไห้ ของล้ำค่าเช่นนี้ อีกฝ่ายกลับมอบมันให้เธอง่ายดายอย่างนี้เลยหรือ?
นี่มันช่วยเพิ่มพลังบ่มเพาะได้ถึงห้าปีเลยนะ!
ในยุทธจักรไม่ว่าใครต่างก็ให้ความสำคัญกับพลังบ่มเพาะเป็ลำดับแรก ต่อให้เป็คู่สามีภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาก็มีน้อยมากที่จะยอมมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้อีกฝ่าย
“เร็วเข้า อย่ามัวเสียเวลาเลย” เย่เฟิงโน้มตัวเข้าไปกระซิบหยอกล้อข้างหูเธอ “ถ้าอยากขอบคุณฉัน คืนนี้ก็ทำตัวน่ารักๆ เข้าไว้ล่ะ”
ทันทีที่จบประโยค ใบหน้าเล็กของหลงหว่านเอ๋อร์พลันแดงซ่าน นึกด่าเขาอยู่ในใจ ‘เ้าคนบ้ากาม’
เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วเธอจึงไม่ลังเลอีก เธอเดาได้ว่าเดี๋ยวเย่เฟิงคงอธิบายเื่สำคัญพวกนี้ให้ฟังในภายหลังแน่ ดังนั้นจึงไม่กล้าเสียเวลาอีก หญิงสาวหยิบาาปะการังมาไว้ด้านข้างพร้อมนั่งสมาธิและเริ่มดูดซับพลังฟ้าดินจากมัน
จุดก่อกำเนิดของเธอค่อยๆ เปลี่ยนความเข้มข้นของพลังฟ้าดินให้กลายเป็พลังลมปราณ ขั้นตอนนี้ไม่ได้ปรากฏพายุไต้ฝุ่นเช่นเดียวตอนที่อยู่หมู่บ้านชาวประมง ปรากฏการณ์เช่นนั้นนับว่าเป็กรณีพิเศษที่เกิดขึ้นได้ยากมาก
ระดับพลังลมปราณของหลงหว่านเอ๋อร์เริ่มเลื่อนระดับขึ้นเรื่อยๆ!
่เวลาที่เธอเริ่มฝึกฝนวรยุทธ์นั้นนับว่านานกว่าเย่เฟิงมากทีเดียว นั่นทำให้เส้นลมปราณมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับระดับพลังบ่มเพาะมากกว่ายี่สิบปีด้วยซ้ำ ซึ่งไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่สามารถดูดซับพลังได้
“หนานฟาง ส่วนอันนี้ฉันให้นายดูดซับพลัง”
เย่เฟิงหยิบต้นปะการังขนาดเล็กออกมาให้หนานฟาง
ชายหนุ่มปวดใจอยู่บ้างที่ต้นปะการังเหล่านี้สูญเสียพลังฟ้าดินไปเกือบครึ่งหนึ่ง ทำให้ผลลัพธ์ของมันไม่ดีเท่าตอนแรก แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็สามารถเพิ่มระดับพลังลมปราณของหนานฟางได้
เขามอบให้หนานฟางหนึ่งต้น ทั้งยังมอบให้หลงหว่านเอ๋อร์และชูชูอีกคนละหนึ่งต้น
าาปะการังนั่นสามารถดูดซับพลังได้หมดในครั้งเดียว บอกได้ว่าตอนนี้หลงหว่านเอ๋อร์สามารถเพิ่มระดับพลังบ่มเพาะได้มากถึงหกหรือเจ็ดปีในการดูดซับพลังมันเพียงครั้งเดียว!
ด้านชูชู...
“หว่านเอ๋อร์ ต่อไปเธอก็สอนวิทยายุทธ์ของตระกูลหลงให้น้าชูชูแล้วกัน” ประกายตาของเย่เฟิงฉายแววเย็นเยียบ “ในเมื่อเธอออกจากตระกูลหลงแล้วก็ไม่จำเป็ต้องรักษาหน้าหลงโม่หรานอีก บนโลกนี้มีเพียงความแข็งแกร่งของตัวเราเท่านั้นที่จะรับรองความปลอดภัยของตัวเองได้”
“มันไม่ใช่เื่ดีเลยนะ หากหลงโม่หรานรู้เข้า...”
ชูชูตื่นตระหนก
“ต่อให้ไม่ฝึก น้าคิดเหรอครับว่าคนอย่างหลงโม่หรานจะยอมปล่อยน้าไป?” เย่เฟิงยิ้มบางพลางโบกมือ “วางใจเถอะครับ ผมกับหลงหว่านเอ๋อร์ในตอนนี้ ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับหลงโม่หรานอีกก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะไม่ได้”
ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทางเป็ธรรมชาติ อาศัยว่าตอนนี้เขาและหลงหว่านอ๋อร์ต่างก็เป็ผู้ฝึกวิถีเซียน หากพวกเขาร่วมมือกันใช้วิชาเซียนจู่โจมอีกฝ่าย ย่อมต้องสามารถสังหารหลงโม่หรานได้แน่นอน!
น่าเสียดายที่คำพูดของเขาในสายตาชูชูเป็เพียงคำปลอบเพื่อให้สบายใจเท่านั้น
ชูชูพยักหน้า เธอแอบเห็นด้วยกับเย่เฟิง ไม่ว่าเธอจะฝึกวิทยายุทธ์ของตระกูลหลงหรือไม่ หลงโม่หรานก็ไม่มีทางยอมปล่อยเธอไปอยู่ดี ดังนั้นการฝึกวรยุทธ์ย่อมเป็ทางเลือกที่ดีกว่า อย่างน้อยเธอก็หวังว่าใน่เวลาคับขัน ตนยังจะพอมีประโยชน์ช่วยเหลืออะไรพวกเขาได้บ้าง...