เมื่อได้ยินคำว่า “หวงฉวน” ิอวี่ก็สะดุ้ง มันจะ ... เป็กระบี่แบบไหนกันนะ?
หวงฉวนดินแดนปรโลก สัญลักษณ์แห่งความตาย!
จี้หงหลิงเล่าต่อไปว่า “ท่านลุงของข้าฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย จนสามารถไปยืนอยู่ตรงหน้ากระบี่หวงฉวน แต่กลับถูกพลังิญญาแห่งความตายที่เปล่งออกมาจากในตัวกระบี่เล่นงานจนาเ็! เพราะกระบี่เล่มนั้นทำร้ายไปถึงอวัยวะภายใน ท่านลุงถึงได้ตาย ก่อนตายเขาได้บอกข้าน้อยอีกว่า ...”
“ว่าอะไร?” ิอวี่ถาม
“ใต้กระบี่หวงฉวนไร้ทางรอด ปลิดิญญาทันทีที่ปลายกระบี่ไปถึง!”
ต่อให้ในเวลานี้คนที่พูดประโยคนี้จะเป็จี้หงหลิง แต่นางก็นึกสีหน้าท่าทางตอนที่ท่านลุงตายในตอนนั้นได้เป็อย่างดี มันเป็ความรู้สึกที่เสียวสันหลังอย่างมาก
ที่จริงจี้หงหลิงเองก็คิดอยากจะไปค้นหากระบี่หวงฉวนในดินแดนอสูรว่านโซ่วด้วยตัวเอง แต่ว่า ทุกครั้งที่นางเห็นภาพการตายของท่านลุงอย่างอนาถ ในใจของนางก็เกิดความหวาดกลัว พูดตรงๆ ก็คือ นางไม่อยากไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้น
แต่สิ่งที่บันทึกอยู่ในแผนที่นี้คือตำแหน่งที่อยู่ของกระบี่หวงฉวน ศาสตราวุธระดับเก้าเป็กระบี่แห่งราชันย์ ไม่ว่าิอวี่จะเดินทางไปค้นหากระบี่นี้หรือไม่ น้ำใจชิ้นนี้ก็ถือว่าใหญ่มาก!
“องค์ชายลองทำความคุ้นเคยกับวิธีการควบคุมมีดบินปี้ลั่วดูก่อน หากรู้สึกว่าไม่เหมาะสม ข้าค่อยเปลี่ยนเป็ของที่มูลค่าเทียบเท่าให้กับท่าน”
ระหว่างที่พูด จี้หงหลิงก็นำแผนที่ยื่นให้กับิอวี่ ที่จริงนางกำลังหยั่งเชิงิอวี่อยู่ เพื่อยืนยันพลังความสามารถของเขา
หากิอวี่สามารถหยิบมีดบินปี้ลั่วขึ้นได้ ก็แสดงว่าเขามีพลังความสามารถและพร์ที่แข็งแกร่งเหนือกว่านาง ถ้าอย่างนั้นมันก็คู่ควรที่นางจะสานสัมพันธ์ต่อ
ิอวี่มองดูรูปแบบของมีดบินแล้วจดจำลักษณะอย่างละเอียด จากนั้นก็หลับตาลงนึกภาพในใจ เขาเริ่มตั้งจิต น้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็กลายเป็จิติญญาที่มองไม่เห็นในทันที ราวกับกระแสน้ำที่ทะยานสู่ท้องฟ้า
มีดบินเก้าเล่มลอยขึ้นมากลางอากาศในทันที มีดบินที่มีน้ำหนักมากเมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของิอวี่กลับคล่องแคล่วว่องไวราวกับไร้น้ำหนัก ิอวี่สั่งให้มีดบินปี้ลั่วนั้นพุ่งออกไปปักอยู่บนกำแพงราวกับปักอยู่บนก้อนเต้าหู้
“มีดดี เพียงแต่ใช้งานครั้งแรกมันเกินแรงนิดหน่อย หากคิดอยากควบคุมมีดบินได้ทั้งหมดเก้าเล่ม ยังต้องฝึกอีกมาก”
ิอวี่บ่นพึมพำ จากนั้นเขาก็ตั้งจิต ดึงเอามีดบินออกมาจากกำแพงแล้วกลับมาอยู่ข้างกายเขาเหมือนเดิม
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น จี้หงหลิงเห็นด้วยตาทุกอย่าง นางอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง นางเคยลองพยายามอยู่ตั้งหลายครั้งถึงพอจะเริ่มควบคุมมันได้บ้าง แต่ิอวี่ใช้งานครั้งแรกก็สามารถฝึกได้ถึงระดับนี้เลย!
ดูท่าองค์ชายสิบเจ็ดไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจริงๆ !
ที่ผ่านมา จี้หงหลิงคิดว่าิอวี่ก็แค่เด็กหนุ่มที่มาจากเขตเมืองเล็กๆ แต่ใครจะไปคิดว่าเขาไม่เพียงเป็ถึงองค์ชายแห่งราชวงศ์ต้าิ แต่เขายังมีพลังฝีมือที่สุดยอดเช่นนี้ด้วย
เดิมนางยังคิดอยากจะให้ิอวี่มาเป็ผู้ยุติการท้าชิงของเมืองใต้ดินหวังเฉิง ตอนนี้คิดดูแล้วก็น่าขำ ิอวี่เป็คนที่มีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ สถานที่เล็กๆ อย่างเมืองใต้ดินหวังเฉิงจะกักขังตัวเขาเอาไว้ได้อย่างไรกัน?
“ในเมื่อองค์ชายสิบเจ็ดคิดว่าใช้คล่องมือ ข้าก็มอบมันให้ท่านเลยแล้วกันนะ” จี้หงหลิงยิ้ม “ยังมีเกราะแขนเฮยจินกับแผนที่กระบี่หวงฉวนนี่ ท่านก็รับไว้ด้วยนะเ้าคะ”
“ที่อยู่ของกระบี่หวงฉวนมันยังมีสุดยอดเคล็ดวิชามีดบินปี้ลั่วอยู่อีกหนึ่งชุด น่าเสียดายที่ในเวลานั้นท่านลุงของข้าเอาเคล็ดวิชากลับมาได้แค่บางส่วนเท่านั้น ส่วนสุดยอดเคล็ดวิชาไม่ได้มา”
ิอวี่เข้าใจในทันที ดูท่าแล้ว หากได้กระบี่หวงฉวนมา น่าจะไม่ได้แค่ตัวกระบี่อย่างเดียว แต่ยังได้เคล็ดวิชาของกระบี่ แล้วก็เคล็ดวิชามีดบินด้วยแน่นอน!
พอคิดได้แบบนี้ ิอวี่ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มีผลงานไม่รับค่าจ้าง ของเหล่านี้ข้าชอบมาก เอาอย่างนี้ดีไหม นายหญิงจี้แจ้งราคาข้ามาได้เลยนะ”
ต่อให้ิอวี่จะชอบของพวกนี้มากแค่ไหน แต่เขาก็อยากจะได้มันมาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ได้มันมาง่ายๆ เพียงเพราะฐานะที่เขามี
จี้หงหลิงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าเช่นนั้น องค์ชายก็ทรงเกรงใจเกินไปแล้ว เอาอย่างนี้ดีไหมข้าให้เวลาองค์ชายสองปี องค์ชายต้องเสด็จเอาเงินมาจ่ายเดือนละหนึ่งล้านเหรียญหยกดำ หลังครบสองปีก็ถือว่าชำระเงินก้อนนี้จนครบดีไหม”
ราคารวมทั้งหมดยี่สิบสี่ล้านเหรียญหยกดำหรือ?
ที่จริงแล้ว แค่มีดบินปี้ลั่วศาสตราวุธระดับเก้าอย่างเดียวก็ขายได้สิบล้านแปดแสนเหรียญหยกดำแล้ว ส่วนเกราะแขนเฮยจินก็ทำจากเหล็กดำทองอย่างดี มีพลังในการคุ้มกันสูงมากและยังมีพื้นที่เก็บของหนึ่งร้อยตารางเมตร เป็ของที่หาได้ยากมาก ก็สามารถขายได้ถึงสองล้านเหรียญหยกดำ ส่วนแผนที่ซ่อนกระบี่หวงฉวน อย่างน้อยก็มีราคามีมูลค่าสูงถึงสี่ล้านเหรียญหยกดำ
เพราะกระบี่หวงฉวนนั้นเป็ศาสตราที่มีระดับสูงกว่าระดับเก้า ในราชวงศ์ต้าิ อาวุธเช่นนี้มีมูลค่าที่ประมาณการไม่ได้เลย ไม่ว่าจะตั้งราคาสูงแค่ไหนก็มีคนยอมควักกระเป๋าซื้อ และในความเป็จริงก็แทบจะหาซื้อไม่ได้เลย เพราะศาสตราวุธระระดับสูงแบบนี้มักตกไปอยู่ในมือของคนที่มีอำนาจความสามารถกันหมดแล้ว ถึงมีเงินก็หาซื้อไม่ได้เลย
ดังนั้น ราคายี่สิบสี่ล้านเหรียญหยกดำก็เป็ราคาที่ทำให้ิอวี่ถึงกับปาดเหงื่อ มันเป็ราคาที่เกินความสามารถของิอวี่มาก แล้วยังต้องมาเดือนละครั้ง คิดว่าคงไม่ได้แค่เอาเงินมาให้แน่ ...
“ข้าจ่ายมัดจำให้ก่อนครึ่งปี”
ิอวี่กระแอมไอ จากนั้นก็หยิบถุงเก็บของสีดำที่มีเงินหกล้านเหรียญหยกดำที่เหลือของเขาออกมา จากนั้นก็เอาของที่เหลืออื่นๆ ทั้งหมดใส่ไปในเกราะแขนเฮยจิน แล้วก็โยนถุงเก็บของสีดำให้กับจี้หงหลิง
“ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น อีกครึ่งปีให้หลัง ข้าจะเอาเงินที่เหลือมาจ่ายให้” พูดจบ ิอวี่ก็ลุกขึ้นคำนับแล้วเดินไปทางประตู
น้ำเสียงของจี้หงหลิงนุ่มนวลและเศร้า “องค์ชายจะไม่อยู่สนทนาอีกสักหน่อยหรือเ้าคะ?”
จี้หงหลิงมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองมาก ไม่ว่าจะเป็หน้าอกที่อวบอิ่ม ทรวดทรงองค์เอว หรือจะเป็ผิวพรรณที่ขาวเรียบเนียน ทั้งยังมีความสง่างามที่ออกมาจากภายใน ล้วนแต่ทำให้ผู้ชายหลงใหล
แต่ิอวี่กลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของเขานั้นสนใจแต่กระบี่หวงฉวน
ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ผู้ชายที่ได้พบจี้หงหลิงล้วนแต่เห็นนางเป็ดั่งสมบัติล้ำค่า ไม่เหมือนิอวี่ที่ให้ความสำคัญกับกระบี่มากกว่าตัวนาง
ก่อนหน้านี้จี้หงหลิงส่งสัญญาณให้แล้วหลายต่อหลายครั้ง หากเป็ผู้ชายทั่วไปคงหลงนางจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว แต่ว่าิอวี่กลับไม่สนใจเลย
แต่นี่ก็ทำให้จี้หงหลิงยิ่งสนใจในตัวของิอวี่มากขึ้นกว่าเดิมอีก หากเป็เหมือนผู้ชายที่ยอมนางทั่วไปแล้ว นางจะไม่อยากไปสนใจเลย การสยบผู้ชายอย่างิอวี่ได้จึงเป็เื่ที่ท้าทาย ทำให้นางรู้สึกมีความสุขมา
“ข้ายังมีเื่ที่ต้องทำอีก คงอยู่ต่อไม่ได้จริงๆ ” ิอวี่หันหลังกำลังจะเดินออกไป แต่กลับถูกจี้หงหลิงห้ามเอาไว้อีกครั้ง
“ช้าก่อน”
จี้หงหลิงยิ้ม “พูดมาตั้งนาน องค์ชายยังไม่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของข้าเลย เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าจะถอดผ้าคลุมสีแดงนี่ออก องค์ชายค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะอยู่ต่อหรือไม่ก็ได้”
พูดจบ นางก็ค่อยๆ ถอดผ้าสีแดงออก เผยโฉมใบหน้าอันงดงามหมดจดออกมา!
เดิมดวงตาเยี่ยงพญาเหยี่ยวของนางก็กระชากิญญาผู้ที่ได้พบเห็นแล้ว เมื่อจี้หงหลิงถอดผ้าคลุมสีแดงออก เสน่ห์ก็แทบจะล้นทะลักออกมาจนหมด
ใบหน้าที่งดงามมีเสน่ห์เย้ายวนใจ ผิวพรรณขาวผ่อง ริมฝีปากที่มีรอยยิ้ม และไฝเสน่ห์อีกหนึ่งเม็ด ทำให้นางดูน่าหลงใหลอย่างยิ่ง ต่อให้นางจะสวมชุดสีแดงหลวม แต่ก็ปิดบังรูปร่างอันเร่าร้อนของนางเอาไว้ไม่อยู่
จี้หงหลิงยืนขึ้นมาแล้วเดินไปหาิอวี่ ิอวี่ถอยหลัง นางก็ขยับเข้าหา ิอวี่ถอยหลังไปอีก นางก็ขยับเข้าหาอีก ...
จนกระทั่งิอวี่นั้นถอยหลังชนกำแพง จี้หงหลิงถึงได้แนบชิดตัวของเขา นางใช้ขาเรียวยาวเกี่ยวไปที่่เอวของิอวี่ แล้วยกมือขวาดันไปที่กำแพง หน้าอกของนางแนบไปที่หน้าอกของิอวี่ ใบหน้าของนางอยู่ห่างจากเขาแค่เพียงหนึ่งนิ้วมือเท่านั้น
แสงไฟสีแดงอ่อนในห้อง และของสวยงามที่อยู่ใกล้เพียงคืบ ทำให้บรรยากาศมันดูคลุมเครือแปลกๆ
จี้หงหลิงกระซิบไปที่ข้างหูของิอวี่ แล้วพูดอย่างนุ่มนวลว่า “อือ ... องค์ชาย ไม่ทราบว่าของขวัญพิเศษชิ้นนี้ที่ข้าเตรียมเอาไว้ให้ เป็อย่างไรบ้าง ... ”
ถูกต้อง ของขวัญพิเศษที่จี้หงหลิงหมายถึงนั้น ก็คือตัวนางเอง!
เมื่อนางยั่วยวนขั้นสูงสุดแบบนี้ ยังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่ต้านทานได้ แล้วิอวี่จะยกเว้นไปได้อย่างไร?
เพียงแต่ ั้แ่ิอวี่ได้พบกับเฮยจี เขาก็เหมือนมีพลังต้านทานความงามสูงขึ้นมาก ต่อให้จี้หงหลิงจะยั่วยวนและมีเสน่ห์แค่ไหน แต่ก็เทียบกับเฮยจีไม่ได้เลย ... มันกลับทำให้ิอวี่นึกถึงวันแรกที่เขาได้พบเฮยจี ภาพที่นางอยู่ใต้แสงจันทร์ด้วย
นั่นถึงเรียกว่างดงามไร้ที่ติ ...
ิอวี่ถอนหายใจ แต่เปลือกนอกก็ยังแสดงความชื่นชม เขาพูดว่า “อือ ข้ารู้สึกว่าใบหน้าของนายหญิงจี้นั้นงดงามยิ่งนัก รูปร่างก็สมส่วนมีเสน่ห์เหนือผู้ใด ทำให้ข้าตะลึงอย่างมาก ฮ่าฮ่า เอาล่ะ ข้าขอตัวก่อนนะ”
ระหว่างที่พูด เขาก็มุดออกมาตรงช่องว่างระหว่างมือขวาของจี้หงหลิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หมุนตัวไปทางประตูใหญ่ทันที
“ท่าน ... ท่านไม่ชอบหรือ?” จี้หงหลิงมองไปที่ิอวี่ด้วยความตะลึง
“ข้าก็บอกแล้วไง มีเสน่ห์เหนือผู้ใด เ้าสุดยอดมาก ข้าเอาใจช่วยนะ”
ิอวี่ชูกำปั้นขึ้นเพื่อให้กำลังใจ จากนั้นก็ปิดประตูห้องแล้วจากไปทันที
จี้หงหลิงยืนอึ้งไป นางจับไปที่หน้าของตัวเองจากนั้นก็วิ่งไปส่องกระจกที่โต๊ะ นางก็ยังสวยเหมือนเดิมนี่นา
เมื่อครู่จากจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นนางััได้ว่าิอวี่ก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากผู้ชายทั่วไป แต่ว่าทำไมผู้ชายคนอื่นแทบเป็บ้า แต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่ได้รู้สึกว่านางสวยที่สุดจริง แต่ตอบตามมารยาทกลับมาเท่านั้นเอง ...
อีกทั้งิอวี่ยังชมนางเยอะแยะ ไม่ว่าใครก็ฟังออกว่ามันเป็คำพูดที่เอาไว้ใช้หลอกเด็กสามขวบ!
จี้หงหลิงนั่งลงบนเก้าอี้ ในใจของนางเริ่มรู้สึกสนใจในตัวิอวี่มากขึ้น
“ิอวี่ สักวัน ข้าจะทำให้เ้ายอมสยบต่อข้าให้ได้!”
นางเอ่ยคำสาบานออกมาอย่างจริงจัง จี้หงหลิงเดินกลับมาที่อ่างน้ำนมอีกครั้ง คิดจะจีบผู้ชาย ก็จะต้องดูแลตัวเองให้สวยที่สุดก่อน
ที่จริงจี้หงหลิงสวยมาก แค่นางยังสู้เฮยจีไม่ได้เท่านั้นเอง
ถ้ามีสักวันที่จี้หงหลิงได้พบเฮยจี ไม่รู้ว่าสีหน้าของนางจะเป็อย่างไรบ้าง!
หลังจากที่ิอวี่เดินออกจากห้องมา เขาก็รู้สึกสับสนไปหมด
ั้แ่เขาได้รู้จักเฮยจี ผู้หญิงอย่างจี้หงหลิงในสายตาของิอวี่ก็ไม่ได้สวยเท่าไร วินาทีที่นายหญิงจี้ยั่วยวนเขา ในหัวของเขากลับมีแต่หน้าของเฮยจีเต็มไปหมด
บ้าชะมัด เพราะเฮยจีทำให้มาตรฐานความสวยงามของเขามันสูงมาก แล้วต่อไปเขาจะไปหาคนรักได้จากไหนล่ะเนี่ย?
ิอวี่มึนสุดๆ แต่พอคิดว่าเขาได้เกราะแขนเฮยจินกับมีดบินปี้ลั่ว รวมถึงกระบี่หวงฉวนด้วย เขาก็รู้สึกดีใจมาก มากจนแสดงออกมาทางสีหน้า
ผู้ดูแลซ่งเห็นสีหน้าท่าทางของิอวี่ก็แอบคิดในใจว่าเ้าหนูนี่มีบุญจริงๆ เอาชนะใจคนอย่างนายหญิงได้ด้วย
และตลอดเส้นทางที่เดินผ่านลานประลอง ทุกคนก็หันมามองิอวี่ด้วยสีหน้าท่าทางที่อิจฉาอย่างมาก
“เห็นหน้าองค์ชายสิบเจ็ดไหมสดชื่นเชียว ดูเหมือนเพิ่งจะ ... แค่กๆ ”
อีกคนกำหมัดแน่นแล้วพูดด้วยความโมโหว่า “ฮุ แค่สองก้านธูปเอง ร้ายกาจแล้วเหรอ? ข้าเองก็ทำได้”
“พอเถอะ เ้าคิดมากไปก็ไม่มีบุญอย่างิอวี่หรอก” มีคนพูดแบบปลงๆ
“ถ้าเ้าไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเ้าเป็ใบ้หรอกนะ!”
ทุกคนพูดคุยกัน น้ำเสียงดูปวดใจกันเหลือเกิน คิดว่าเื่ในวันนี้น่าจะแพร่กระจายไปทั่วแน่
......
ตอนที่ิอวี่กำลังจะออกจากเมืองใต้ดินหวังเฉิง บนลานประลองยุทธ์ของทางราชสำนัก กลับมีไฟส่องสว่าง!
ลานประลองที่มีรัศมีกว่าพันเมตรล้อมรอบไปด้วยนายทหารชั้นยอด พวกเขาแต่ละคนถือคบเพลิงในมือ ทำให้ทั่วทั้งลานประลองยุทธ์สว่างไสว
แสงสว่างไสว ราวกับตอนกลางวัน!
ตรงกลางลานประลอง ิเสวียนสวมชุดลายัสีน้ำเงินยืนอยู่ตรงกลาง เสวียปู้หุ่ยที่รูปร่างสูงใหญ่ราวสองเมตรยืนอยู่ตรงข้ามเขา ส่วนอีกด้านหนึ่งมีเซิ่นเจิ่นโหวยืนอยู่
ด้านหน้าลานประลอง ิเฉินเหยียนนั่งอยู่บนบัลลังก์ัอยู่ท่ามกลางเหล่าวีรบุรุษ เพื่อเตรียมพร้อมออกเดินทางไปดินแดนอสูรว่านโซ่วในเช้าวันต่อไป!
“เสวียนเอ๋อร์ ก่อนออกเดินทาง ให้ข้าดูหน่อยสิว่าเ้าก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว”
สายตาของิเฉินเหยียนนั้นคาดหวังมาก แล้วก็กังวลมากเช่นกัน
ก่อนจะเดินทางไปที่ดินแดนอสูรว่านโซ่ว ิเฉินเหยียนคิดอยากจะทดสอบความสามารถของิเสวียนก่อน ขอแค่ิเสวียนแสดงความสามารถที่สุดยอดออกมาเท่านั้น ิเฉินเหยียนถึงจะวางใจได้ เพราะเขาจะไม่ยอมให้ลูกชายสุดที่รักของเขานั้นต้องเป็อะไรไปเด็ดขาด!
เหล่าผู้กล้ามารวมตัวกัน พลังอำนาจก็ราวกับสามารถถล่มูเาได้ทั้งลูก ิเสวียนตอบรับด้วยสีหน้าท่าทางนิ่งเรียบ เขาหันไปมองเสวียปู้หุ่ยกับเซิ่นเจิ่นโหว แล้วพูดว่า “ท่านทั้งสอง เชิญ”