“ พวกท่านบอกว่าที่ไม่บูรณะซ่อมแซมจวนก็เพื่อหลอกตาให้คนข้างนอกรู้ว่าใกล้จะล่มสลายแล้ว และไม่มีทรัพย์สมบัติให้ใครมาแย่ง เพราะพวกท่านไม่มีกำลังที่จะต่อสู้และป้องกันชีวิตตัวเองได้”
“ ใช้แล้วแม่นางน้อย ตอนนี้มีเด็กหนุ่มสาวที่เป็สายตรง อยู่แปดคนแต่ละคนก็ป่วยนอนรักษาตัวอยู่ และห้ามออกไปไหน กลัวว่าจะเจอเหตุหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เืออก ส่วนพวกเราสายรองเป็ลูกเขยและลูกสะใภ้”
“ เพื่อเป็การไม่เสียเวลาพาข้าไปดูผู้าเ็ก่อนแล้วค่อยกลับมาคุยกันทีหลัง”เย่วซิงยืนขึ้น ชายชรารีบเดินนำหน้าพาเข้าไปยังส่วนด้านใน ที่ทะลุไปยังจวนที่มีเถาวัลย์ปกคลุมอยู่ แต่ข้างในยังดูสะอาดสะอ้านได้รับการดูแลเป็อย่างดี
“ ดูจากภายนอกมาตัดสินข้างในไม่ได้เลยจริงๆข้างนอก ทั้งทรุดโทรมมีแต่เถาวัลย์แต่ข้างในดูปกติทุกอย่าง”
“ อยู่ในห้องโถงของจวนใหญ่ตรงนี่แหละ เพราะถ้าให้อยู่คนละห้องเป็เวลานานกลัวพวกเขาจะเหงาเลยเอาให้มาอยู่ด้วยกันจะได้มีเพื่อนคุย”ชราชี้ให้เย่วซิงดูชายหนุ่มหกคน และหญิงสาวอายุระหว่างสิบห้าถึงยี่สิบปี
“ พวกเ้าออกมาคารวะอาจารย์เย่วซิงก่อน นางเป็ลูกศิษย์ของท่านกัวซินหยี ที่เป็บรรพชนของพวกเราท่านศึกษาด้านสมุนไพรและโอสถเพื่อที่จะมารักษาอาการเืไหลไม่หยุดของ ตระกูลเรา” หนุ่มสาวทั้งแปดคนได้ยินก็รีบเข้ามาคารวะเย่วซิง ที่ยังยืนงงอยู่
“ พวกเราขอคารวะอาจารย์ขอรับ” ชายหนุ่มทั้งหกพูดขึ้นก่อน“ พวกเราขอคารวะท่านอาจารย์เ้าค่ะ”
“ เออ! ข้ายังไม่ได้เป็อาจารย์ กำลังเป็ผู้ศึกษาเล่าเรียนเหมือนกัน พวกเ้าอย่าเรียกข้าแบบนั้นเลย”
“ ได้ยังไงกันท่านถึงกับศึกษาเล่าเรียนจนสามารถปรุงยาออกมาได้ ไม่เรียกว่าเป็อาจารย์แล้วเรียกเป็อะไรล่ะ” หญิงวัยกลางคนพูดขึ้น
“ แล้วแต่พวกท่านก็แล้วกัน นี่คือโอสถสิบเม็ดแรกที่จะให้กินก่อนส่วนที่เหลือ ใครเป็ผู้ดูแลตระกูลก็มารับจากข้าไป เพราะข้าจะมีเวลาอยู่ที่นี่ไม่นานต้องกลับไปยังมีหลายอย่างต้องทำ ส่วนพี่สาวกัวซินหยีก็ต้องถูกส่งตัวไปยังปรโลก”
“ อ้อ!เกือบลืมไป มีสมบัติที่พี่สาวขนมาจากในถ้ำเพื่อมามอบให้กับลูกหลานในตระกูล เดี๋ยวข้าออกไปยกมาให้”
“ ให้ข้าตามไปยกเถอะแม่นางน้อย” ชายชราพูดแล้วก็เดินตามเย่วซิง ไปที่รถม้ามีซูลี่นั่งเฝ้าอยู่
“ ถ้าท่านลุงจะช่วยยกก็ถือสองห่อนี้ไป ค่อยเอาไปแกะดูข้างในว่าคืออะไร”เย่วซิงลงจากรถม้า พร้อมกับหีบใบเล็ก
“ โอ้!!! มันคือสมบัติที่จะฟื้นฟูตระกูลกัวของพวกเรา ท่านบรรพชนมอบสมบัติให้กับพวกเรา ข้าจะใช้มันในทางที่ดีและรีบฟื้นฟูตระกูลให้เร็วที่สุด” ชายชราพูดขึ้นหลังจากที่เขาแกะหอผ้าออกกลางห้องโถง
“ แม่หนูพวกข้าไม่มีอะไรจะตอบแทนเ้ารับปิ่นทองนี้ไว้เถอะ” หญิงวัยกลางคนยื่นปิ่นปักผมให้กับเย่วซิง
“ ท่านป้าไม่ต้องหรอกเ้าค่ะ เพราะพี่สาวมอบสิ่งที่ล้ำค่าให้ข้าคือการสั่งสอนเื่สมุนไพรการปรุงยา และรักษาคนเจ็บป่วยถือว่าเป็ของมีค่าที่สุดแล้ว พวกท่านไม่จำเป็ต้องมอบอะไรให้ข้าอีก”
เย่วซิงเดินมาที่หม้อสีดำตั้งอยู่“ พี่สาว้าให้ข้าทำอะไรให้อีก หรือว่าแค่นี้ท่านก็หมดห่วงแล้ว”
“ ข้า้าให้พวกเขาฟื้นฟูตระกูลให้กลับมารุ่งเรืองเหมือนเดิม แต่คงใช้เวลานานแค่ให้พวกเขาเอาเถาวัลย์และพวกหญ้าออกจากตัวจวนไปก่อน ในโถงห้องที่เก็บป้ายิญญาของผู้ล่วงลับ เ้าช่วยไปดูหน่อยยังมีิญญาที่เป็ห่วงลูกหลานหรือคนหนุ่มสาวที่เสียอายุไปยังอยู่ในนั้นไม่ได้ไปปรโลกหลายคน”
“ จริงหรือคนเราตายไปก็ไม่เหลืออะไรแล้ว มีแต่จิติญญาแล้วช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้ แต่เก็บมาเป็ทุกข์ของตนไม่ยอมไปปรโลก เอาไว้ค่อยท่องมนต์ให้ไปปรโลกพร้อมกับพี่สาวก็แล้วกัน”
“ ท่านลุงพี่สาวให้รีบบูรณะซ่อมแซมจวนเป็การด่วนก่อน เื่ฟื้นฟูตระกูลเอาไว้ทีหลังเพราะข้าอยู่ที่นี่นานไม่ได้ต้องส่งพี่สาวไปยังปรโลก อ้อ! ยังมีิญญาอีกหลายดวงที่อยู่ห้องโถงที่ตั้งป้ายิญญาบรรพชนไว้ ข้าจะส่งพวกเขาไปพร้อมกัน”
“ ได้ข้าจะลงมือเดี๋ยวนี้”ชายชราพูดแล้วก็หายไป เย่วซิงได้ยินเสียงที่ดังขึ้นข้างนอกเลยเดินออกมาดูเพราะม้าของนางและซูลี่ยังอยู่ข้างนอก
“ โอ๊ะ! ไม่เสียชื่อตระกูลใหญ่มีฝีมือไม่เบากันทีเดียว แต่ละคนมีพลังธาตุแค่เวลาไม่นานจวนเก่าทรุดโทรม ที่เต็มไปด้วยหญ้าเถาวัลย์บนหลังคาก็หายไปหมดแล้ว”
มีคนในตระกูลที่เป็ชายใช้พลังธาตุช่วยกัน ตัดต้นไม้ดึงเถาวัลย์ลงมาและเริ่มซ่อมแซม ส่วนที่ทรุดโทรมเสียหายส่วนผู้หญิงก็ช่วยกันเก็บกวาดอยู่ด้านล่าง
“ พี่สาวเป็ยังไงบ้างท่านพอใจหรือยัง จวนนี้ใช้เวลาไม่นานก็ดูดีขึ้นมาแล้ว แต่ทำไมท่านยังมีสีหน้าวิตกกังวลอยู่ล่ะ”เย่วซิงถามิญญาสาว
“ พวกเขามีแต่คนที่สูงอายุทั้งนั้น หนุ่มสาวก็มีแต่ที่เ้าเห็นแล้วแบบนี้จะปกป้องจวนที่บูรณะขึ้นมาใหม่ได้ยังไงกัน”
“ พี่สาว้ากำลังคน หรือผู้มีฝีมือมาปกป้องและเข้ามาเป็ส่วนหนึ่งในตระกูลกัวของท่าน”
“ ใช่แล้วข้า้าให้พวกเขา หาคนที่มีวรยุทธและมีฝีมือมาอยู่ในตระกูล แต่ข้ากังวลว่าถ้าหากพวกเขาทรยศหักหลังในวันข้างหน้าล่ะ ผู้ช่วยปกป้องเป็ผู้ทำลายนี่แหละที่ทำให้ข้าเป็ห่วงกังวล”
“ พี่สาวจะคิดมากทุกเื่แทนพวกเขาทุกอย่างไม่ได้นะเ้าคะ ไม่อย่างนั้นท่านจะเป็ห่วงทุกอย่างเมื่อไหร่ที่ท่านจะปลดวางได้ล่ะ”
“ ข้าอยากให้พวกเขาซื้อทาส ที่มีวรยุทธเข้ามาอยู่ที่จวนนี้ อย่างน้อยห้าสิบคนขึ้นไป แต่ที่ข้าห่วงกังวลก็คือถึงจะมีใบเอกสารการเป็ทาสอยู่ ก็กลัวว่าพวกเขาจะทรยศ”
“ ถ้าคิดจะทำก็ไม่ต้องกลัวถ้ากลัวก็ไม่ต้องคิดทำเ้าค่ะ พวกเขามีแต่คนชราทั้งนั้นและเป็คนดูแลตระกูล ถ้าปล่อยให้เื่นี้เกิดขึ้นได้ ก็สมควรให้ตระกูลนี้ล่มสลายไปเลยเ้าค่ะ”เย่วซิงที่เริ่มมีโมโห ที่ิญญาเริ่มมีปัญหาไม่จบ ถ้าเป็แบบนี้นางก็จะปล่อยทิ้งไว้ ถือว่าไม่มีอะไรต้องตอบแทนกันแล้ว
“ เด็กน้อยเ้าอย่าพึ่งโกรธหรือโมโห ที่ข้าพูดเพื่อที่จะให้เ้าช่วยวางขายอาคมไว้เหนือจวน อย่างที่เ้าทำไว้ที่บ้านของเ้าข้าจะได้หมดห่วง”
“ แล้วพี่สาวก็พูดมาตั้งเยอะแยะทำไมไม่บอกั้แ่ต้น ข้าให้เวลาถึงพรุ่งนี้ถ้าพี่สาวยังไม่ยอมไปปรโลกข้าก็จะเดินทางกลับ”เย่วซิงยื่นคำขาด
เย่วซิงเดินออกห่างมาจากหม้อสีดำ“ ข้ากลายเป็คนรับใช้ของิญญาไปั้แ่เมื่อไหร่ แค่้าช่วยเหลือ เห็นได้ชัดว่าิญญายังมีห่วงอาวรณ์ในตระกูลแบบนี้จะสมัครใจไปปรโลกได้ยังไงกัน”
“ เฮ้ย! ช่วยแล้วจะทิ้งจะขว้างกลางทางก็ไม่ได้ ถือว่าภารกิจไม่สำเร็จทั้งที่เดินทางมาไกลถึงเพียงนี้ ยังดีที่เสียเวลาหลายวันอยู่ในถ้ำยังได้ความรู้มา”
“ ท่านลุง ในเมืองนี้มีแหล่งขายทาสที่มีวรยุทธสูงไหม พี่สาว้าให้ท่านซื้อทาสเ่าั้มาสักห้าสิบคนเพื่อมา คุ้มครองตระกูลกัว ข้าจะอยู่ที่นี่ถึงพรุ่งนี้เช้าเท่านั้น ถ้าบรรพชนของท่านยังเป็ห่วงในตระกูล ข้าก็จะปล่อยให้ดวงิญญาของนางถูกลงโทษที่หลบหนี ยมทูตมาหลายปี”
“ได้ๆ ข้าจะไปหาซื้อทาสเดี๋ยวนี้ บรรพชนจะได้สบายใจและยอมไปปรโลก”ชายชรารีบเอารถม้าออกไปพร้อมกับคนรับใช้
“พี่ซูลี่อยู่ที่นี่เราก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ พวกเราเข้าไปเดินเล่นดูร้านค้าในเมืองกันเถอะเอารถม้าไปด้วย เผื่อเจอร้านรับซื้อผลไม้มีพลังจะได้ขายที่เหลือ”
“ ที่นี่คึกคักกว่าร้านค้านอกเมืองน่าจะเป็เพราะว่าอยู่ใกล้กับสำนักเทพสุริยันเป็แน่ เหมือนมีประกาศรับลูกศิษย์อีกสามเดือนข้างหน้า”เย่วซิงเดินไปดูประกาศติดอยู่หน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง
“ ไม่ใช่ว่าอดีตพี่สาวทั้งสี่เลี้ยงฉลองกัน เมื่อได้รับการติดต่อจากสำนักนักศึกษาเพื่อให้มาเรียนที่นี่ ไปตั้งหลายเดือนก่อนทำไมถึง เพิ่งจะมีประกาศรับลูกศิษย์กันล่ะ”
“ คุณหนูเ้าคะพี่สาวของท่านมีธาตุแสงที่หายาก ทางสำนักรับเป็พิเศษเข้ามาก่อนให้เป็ลูกศิษย์สายใน ที่มีประกาศรับก็คือลูกศิษย์สายนอกทั่วไปเ้าค่ะ ข้าได้ยินจากที่พ่อบ้านคุยกัน”
“ เป็แบบนี้นี่เอง ยังมีเวลาค่อยตัดสินอีกทีหนึ่งว่าจะมาเรียน เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าจบจากที่นี่”เย่วซิงเดินมองหาร้านค้ารับซื้อผลไม้มีพลังหรือรับซื้อสมุนไพร
“ พี่ซูลี่ข้าอยากได้ชุดเดินป่ารวมถึงรองเท้าด้วย อย่าลืมเตือนข้าตอนนี้เราหาร้านรับซื้อผลไม้มีพลังก่อน อยู่บนรถมาหลายวันแล้วดีที่พวกมันยังมีสภาพดีอยู่”
รอบนี้ไม่ได้ยกผลไม้มีพลังมาด้วย แต่เอามาเป็แค่ตัวอย่างเท่านั้น ถ้าตกลงซื้อขายได้ค่อยไปยกมาจากรถม้า ที่จอดอยู่ด้านนอกทางเข้าตลาดร้านค้า
“ พวกเ้ามีเยอะหรือไม่ข้าให้ผลละหกมุกิญญาเล็ก ถ้าพวกเ้าอยากขายก็ขนมาได้เลยข้ารับซื้อไม่อั้น” เถ้าแก่เ้าของร้านผู้มีรูปร่างอ้วนท้วนแต่มีใบหน้าที่ดูใจดีพูดขึ้น
“ ได้เ้าค่ะท่านรอสักครู่ข้าต้องไปขนมาจากบนรถม้า”ซูลี่วิ่งยกผลไม้มีพลังมาจากหลังรถม้า
“ โอ้ !มีเยอะทีเดียวพวกเ้าเก่งมากที่หามาได้เยอะขนาดนี้ หามาจากป่าที่ไหนกัน คงไม่ได้หามาจากป่าจันทร์ดับที่กำลังมีข่าวกันอยู่ตอนนี้ใช่หรือไม่”
“ ไม่ใช่หรอกเ้าค่ะผลไม้พวกนี้มาจาก หมู่บ้านต้าซานที่มีป่าพลังอยู่ไม่ไกล จากหมู่บ้าน”ซูลี่รีบตอบ
“ เถ้าแก่แล้วป่าจันทร์ดับ มีข่าวอะไรหรือเ้าคะ ที่นั่นมีผลไม้มีพลังเยอะหรือ”เย่วซิงถามด้วยความสนใจ
“ ข่าวดังขนาดนั้นพวกเ้าก็ไม่รู้ น่าจะมาจากต่างถิ่นน่ะสิ ก็มีข่าวว่าใครเข้าไปในป่านั้นเป็อันหายสาบสูญ ไปโดยไร้ร่องรอยและบางครั้งก็ได้ยินเสียงต่อสู้คล้ายกับเสียงกระบี่ และมีเสียงโหยหวนดังออกมาวันพระจันทร์ดับอย่างไรล่ะ”
“ ชื่อนี้เพิ่งก่อตั้งหรือมีชื่อมานานแล้วเ้าคะป่าจันทร์ดับ”
“ ชื่อนี้มีมาตั้งนานแล้วแต่เหตุการณ์นี้เพิ่งมีข่าวออกมาสองสามเดือนที่แล้วนี่เอง ทำให้ผลไม้มีพลังขึ้นราคาก่อนหน้านี้ถ้าเ้าเอามาขายก็จะได้ราคาอยู่ที่ผลละห้ามุกิญญาเล็กเท่านั้น”
“ แล้วป่าที่ว่านี้ไกลจากที่นี่ไหมเ้าคะ เผื่อข้าจะได้ระวังตัวไม่เดินเข้าไปใกล้”
“ ออกจากตลาดนี้ไปทางทิศตะวันตกไกลออกไปประมาณสามสิบลี้ เ้าก็จะเจอเขากับป่าและขุนเขาสลับซับซ้อน กันมากมายในนั้น เพราะเป็ป่ากว้างกินพื้นที่ไปครึ่งหนึ่งของเมืองเทียนถางแห่งนี้”
“ มีคนหายสาบสูญไปทางการไม่ได้ส่งเ้าหน้าที่ไปตรวจสอบหรือเ้าค่ะ สาเหตุที่หายสาบสูญไป”
“ แรกๆก็มีแม่หนู แต่เ้าหน้าที่ก็หายไปด้วย ตอนหลังมานี่จึงไม่มีใครเข้าไปในป่านั่นมีแต่พวกนายพราน ที่ล่าสัตว์อยู่ด้านนอก ไม่กล้าเข้าไปด้านในเหมือนกัน ขนาดมีญาติผู้สาบสูญจ้างด้วยราคาแพง นายพรานเ่าั้ยังไม่กล้าเข้าไป”