“ข้าเองก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะปรานีใครเช่นกัน” หลินเฟิงแสยะยิ้มอย่างเ็า
“หึๆ ข้าเคยพบสวะมามากมาย แต่ไม่เคยเห็นสวะคนไหนที่รนหาที่ตายเหมือนเ้าเลยสักคน” ยู่ฮ่าวแสดงท่าทางหยิ่งยโส ก่อนจะปรายตามองหลินเฟิงและกล่าวต่อไปว่า “ในเมื่อเ้าอยากตายนัก ข้าจะสนองให้ หากการทดสอบจบลงเมื่อไร นั่นคือเวลาตายของเ้า!!!”
ก็แค่ศิษย์สายนอกคนหนึ่งเท่านั้น จะอยู่หรือตายมันต่างกันตรงไหน??? ถึงอย่างไร ก็ไร้ค่าอยู่ดี!!! ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่คือหุบเขาเมฆพายุ และยังอยู่ในเขตลานประลองเป็ตาย ดังนั้นต่อให้ฆ่าคนไป ก็ไม่ถือว่าเป็ความผิดอะไร
“ไม่ต้องรอให้การทดสอบจบลงหรอก”
เมื่อเห็นหลินเฟิงส่ายหน้า ยู่ฮ่าวก็รู้สึกมึนงง ในขณะที่กำลังนึกแปลกใจอยู่นั้น หลินเฟิงก็ก้าวเท้าไปที่ลานประลองเป็ตาย
“หลินเฟิง เ้ากำลังทำอะไร?” จิ้งหยุนะโด้วยความใ
“จิ้งหยุน เ้าต้องเชื่อมั่นในตัวหลินเฟิงสิ เขามักจะสร้างปาฏิหาริย์ให้พวกเราแปลกใจอยู่เสมอ” หานหมานดึงแขนจิ้งหยุนไว้ ขณะที่พูดปลอบขึ้นมา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่หานหมานก็ชื่นชมหลินเฟิงจากใจ หลินเฟิงเป็คนที่มีคุณธรรมสูงส่งเทียมฟ้า และให้ความสำคัญกับมิตรภาพมาก นอกจากนี้หลินเฟิงยังสร้างความประหลาดใจให้กับพวกเขาเสมอ
ดวงตาของจิ้งหยุนสั่นไหวเล็กน้อย นางหันไปมองหานหมานอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า หานหมานพูดถูก หลินเฟิงมักจะสร้างปาฏิหาริย์ให้พวกเขาแปลกใจอยู่เสมอ
เพียงแต่จิ้งหยุนก็อดไม่ได้ที่จะเป็ห่วงหลินเฟิง การขึ้นไปยังลานประลองเป็ตาย และท้าทายศิษย์สายในมันไม่ใช่เื่ล้อเล่น ถ้าใครก็ตามที่้าจะเป็ศิษย์สายใน คนคนนั้นจะต้องพึ่งพาแค่ความแข็งแกร่งของตัวเองเท่านั้น ไม่มีทางที่โชคจะช่วยได้ ถ้าคิดจะก้าวเข้าสู่ศิษย์สายใน คนคนนั้นจะต้องมั่นใจว่าความแข็งแกร่งของตัวเอง เหนือกว่าศิษย์สายในคนปัจจุบัน
“หื้ม…?” ยู่ฮ่าวขมวดคิ้วเล็กน้อย เขายังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่หลินเฟิงทำ มีเพียงแค่หานหมานกับจิ้งหยุนเท่านั้นที่เข้าใจความคิดของหลินเฟิง เนื่องจากยู่ฮ่าวค่อนข้างเย่อหยิ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่คิดว่าหลินเฟิงจะกล้าท้าประลองกับเขา ซึ่งความจริงแล้วเขาก็ไม่เคยคิดว่าจะมีศิษย์สายนอกคนไหนกล้าท้าประลองกับเขา
เมื่อยู่ฮ่าวเห็นหลิ่วเฟยกำลังเดินลงจากเวทีประลอง เขาก็ฉีกยิ้มกว้างและเดินไปหาหลิ่วเฟย สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการจีบสาวงามที่มากด้วยพร์อย่างหลิ่วเฟย ส่วนเื่อื่นเอาไว้ทีหลัง
ลานประลองเป็ตายมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งเหล่าศิษย์สายนอกสามารถต่อสู้พร้อมกันบนส่วนต่างๆ ของลานประลองได้
แต่ดูเหมือนทุกคนจะเข้าใจตรงกันว่าหากขึ้นไปบนลานประลองพร้อมกัน จะยิ่งทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
แน่นอนว่าผู้ท้าประลองจะต้องมีความมั่นใจในตัวเอง รวมไปถึงความกล้า ถึงจะสามารถขึ้นมาบนลานประลองเป็ตายนี้ ซึ่งศิษย์สายนอกส่วนใหญ่มักจะไม่กล้า พวกเขากลัวว่าตัวเองจะไปแสดงท่าทางเงอะๆ งะๆ ออกมา และทำให้เหล่าผู้าุโไม่พอใจ ผู้ที่ก้าวขึ้นไปได้จะต้องเป็คนที่แข็งแกร่งและมีพร์สูงส่ง จึงจะสามารถขึ้นไปบนเวทีเพื่อท้าประลองภายใต้สายตาของผู้คนนับหมื่นที่คอยจับจ้อง
ในขณะที่หวังหม่างกำลังจะก้าวขึ้นไปบนลานประลองเป็ตาย เขาก็เห็นใครบางคนก้าวขึ้นมาบนเวทีด้วยเช่นกัน
“เฮ้ สหาย” หวังหม่างะโเรียกหลินเฟิงไว้ ในฐานะที่เขาเป็ศิษย์สายนอกอันดับ 3 ความแข็งแกร่งของเขาล้วนเป็ที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน เขาเชื่อว่าหลินเฟิงก็น่าจะรู้จักเขาและยอมถอยให้เขาขึ้นไปท้าประลองก่อน
แต่สิ่งที่หวังหม่างไม่คาดคิดก็คือหลินเฟิงหันมามองเขาแวบเดียว แล้วพยักหน้าให้อย่างส่งๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนลานประลองเป็ตายต่อ ราวกับว่าจะไม่ยอมถอยให้เขาขึ้นไปก่อน
หวังหม่างขมวดคิ้ว เขามีชื่อเสียงมากในหมู่ศิษย์สายนอก แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟิงจะไม่ไว้หน้าเขา ขณะที่กำลังจะเปิดปากพูด หลินเฟิงก็เดินไปยังกลางลานประลองแล้ว ทำให้เขาได้แต่อ้าปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ
“ไอ้ปัญญาอ่อนเอ้ย” หวังหม่างสบถอย่างโมโห ก่อนจะกลับไปยืนอยู่ที่เดิม และปล่อยให้หลินเฟิงขึ้นไปท้าประลองก่อน นี่เป็ครั้งแรกที่มีคนกล้าขึ้นมาแทรกแบบนี้
ไม่เพียงแค่หวังหม่างเท่านั้นที่ประหลาดใจ แม้แต่ฝูงชนเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจด้วยเช่นกัน เมื่อเห็นหลินเฟิงเดินอาดๆ มาที่กลางเวทีตัดหน้าหวังหม่าง แต่ไม่ช้ารูม่านตาของพวกเขาก็พลันหดลง และทันใดนั้นเสียงร้องอย่างตื่นใก็ดังขึ้นเป็ระลอกๆ ทำให้คนอื่นที่ไม่รู้เื่ของหลินเฟิงก่อนหน้านี้ได้รู้ว่าคนคนนี้เป็ใคร
“เป็เขานี่?! ไม่ใช่ว่าเขาถูกสัตว์อสูรปีศาจลึกลับกลืนกินไปแล้วเหรอ? ที่แท้เขาก็ยังมีชีวิตอยู่!” คนที่เคยเห็นหลินเฟิงถูกโยนเข้าไปในปากของสัตว์อสูรปีศาจลึกลับ กล่าวขึ้นมาอย่างใ
“คนคนนี้...” หานหมาน จิ้งหยุนและพั่วจวินต่างก็ประหลาดใจเช่นกันกับปฏิกิริยาของคนรอบข้าง
แต่ทว่าหานหมานก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขาเริ่มตระหนักได้ว่าหลินเฟิงนั้นแข็งแกร่งกว่าเขามาก และความรู้สึกนี้ก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อเห็นหลินเฟิง
เหนือลานประลองเป็ตาย รูม่านตาของม่อเสียพลันหดเล็กลง เป็ไปได้อย่างไร? ทำไม... ทำไมเ้าเด็กนี่ถึงยังมีชีวิตอยู่?
ศิษย์สายนอกคนหนึ่งถูกสัตว์อสูรปีศาจลึกลับกลืนกินเข้าไป สิ่งเดียวที่รออยู่ก็คือความตาย แต่ทำไมมันถึงรอดมาได้?
“นั่นเขา!” หนานกงหลิงเองก็รู้สึกใ ดวงตาของเขาเป็ประกายขึ้นมา ดี!!! รอดกลับมาได้ย่อมเป็เื่ดี!!! ชายหนุ่มคนนี้คือความหวังของนิกาย และที่สำคัญคือเขาจะได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับผู้าุโเป่ยและผู้าุโคง ที่ต้องจืดจางลงเพราะม่อเสีย!!!
“ฮ่าๆๆ เ้าเด็กนั่นยังไม่ตาย! หนังเหนียวดีจริงๆ เ้าเด็กคนนี้” เสียงหัวเราะดังออกมาจากห้องเล็กๆ ในหุบเขาแห่งหนึ่ง เมื่อฟังๆ ดูแล้วคล้ายจะแช่งชักหลินเฟิงอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ทว่าในน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความดีใจ
“เ้ายังคงทำให้ข้าประหลาดใจอยู่เสมอ เ้าเด็กนี่” ผู้าุโเป่ยยิ้มออกมาเมื่อเห็นหน้าของหลินเฟิง ครั้งแรกที่พบกันเด็กคนนี้ได้สร้างความประทับใจให้กับเขา ครั้งที่สองที่ได้พบกัน หลินเฟิงก็สามารถตีกลองทั้ง 8 ใบบนหน้าผาจงกู่ได้ ซึ่งเื่นี้ได้สร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้าุโเป่ยและผู้าุโคงเป็อย่างมาก และคราวนี้เขาถูกสัตว์อสูรปีศาจกลืนกินเข้าไป แต่ทว่ากลับสามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้ โดยไม่มีาแเลยสักนิด นี่สินะ… ที่เขาเรียกกันว่า ‘ปาฏิหาริย์’
ในตอนนั้นยู่ฮ่าวได้เดินมาข้างกายของหลิ่วเฟย และเหลือบไปเห็นหลินเฟิงกำลังก้าวขึ้นไปบนลานประลองพอดี “เฟยเฟย เ้าดูสิ คาดไม่ถึงเลยว่าเ้าสวะนั่นจะกล้าขึ้นไปบนลานประลอง ช่างรนหาที่ตายจริงๆ”
หลิ่วเฟยขมวดคิ้ว นางไม่ชอบใจที่ยู่ฮ่าวเรียกชื่อเล่นของนาง หลิ่วเฟยเงยหน้าขึ้น และมองไปที่ลานประลองเป็ตาย ทันใดนั้นดวงตากลมโตก็พลันเปล่งประกายขึ้นมา
“เขายังไม่ตาย!!!”
หลิ่วเฟยประหลาดใจเป็อย่างมาก ในดวงตาคู่งามเผยรอยยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมา
“ยังไม่ตายก็ดี ข้าจะต้องทำให้เ้าพ่ายแพ้ด้วยมือของข้า”
เมื่อยู่ฮ่าวเห็นรอยยิ้มที่น่าหลงใหลของหลิ่วเฟย ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยปากถามอย่างเอาใจว่า “เฟยเฟย ก่อนหน้านี้เป็เพราะเ้าอยากปล่อยไอ้สวะนั่นไป ข้าถึงไม่สังหารมัน แต่ครั้งนี้ขอเพียงแค่เ้าเอ่ยปากมา ข้าจะขึ้นไปสังหารมันทันทีหลังการทดสอบจบ”
“เ้าเนี่ยนะจะฆ่าเขา?” หลิ่วเฟยหันมามองยู่ฮ่าว ถึงแม้ว่าเขาจะจิติญญาแห่งดาบและมีพลังโจมตีที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ติดแหง็กอยู่ในขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 1 มาเป็เวลาหนึ่งปีแล้ว ถ้าหากเผชิญหน้ากับหลินเฟิงจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าใครฆ่าใครกันแน่
นอกจากนี้สิ่งที่หลิ่วเฟย้ามากที่สุดก็คือ การเอาชนะหลินเฟิงด้วยตัวเอง
“ใช่ เพียงแค่เ้าพยักหน้า ข้าจะสังหารมันเพื่อเ้า” ยู่ฮ่าวยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ
“ยู่ฮ่าว...”
ขณะที่ยู่ฮ่าวกำลังยิ้มเก๊กหล่ออยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงะโเรียกชื่อของตัวเอง ดังขึ้นมา
“ยู่ฮ่าว ไสหัวเ้าขึ้นมาบนลานประลอง เดี๋ยวนี้!!!”
หลินเฟิงยืนอยู่กลางลานประลองอย่างเต็มภาคภูมิ เขาเชิดหน้าขึ้นขณะที่ทุกคนพากันจ้องมองมาที่เขา
รอยยิ้มของยู่ฮ่าวพลันแข็งค้าง เดิมทีเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไม หลินเฟิงถึงเดินไปที่ลานประลอง แต่เสียงะโของหลินเฟิงได้ทำให้เขาเข้าใจความคิดของหลินเฟิงแล้ว
ที่แท้มันก็อยากจะท้าประลองกับเขา...
ในการทดสอบของนิกาย หากศิษย์สายในหรือศิษย์หลักคนไหนถูกท้าทาย นั่นแสดงว่าคนที่ถูกท้าคือคนที่อ่อนแอ ดังนั้นจึงถูกคนอื่นขอท้าประลอง
แต่ในตอนนี้ยู่ฮ่าวกำลังถูกท้าทาย โดยคนที่เขา้าจะสังหารเพื่อเอาใจหลิ่วเฟย
แต่เขาไม่คิดเลยว่า หลินเฟิงจะทำการท้าทายเขาในระหว่างการทดสอบของนิกาย นี่มันไม่ต่างอะไรกับการถูกตบหน้าท่ามกลางสาธารณชน!!!
สีหน้าของยู่ฮ่าวพลันอึมครึมขึ้นมา ก่อนจะจ้องไปยังหลินเฟิงด้วยสายตาเ็า
“เฟยเฟย ไอ้สวะนั่นมันท้าทายข้า ดีเลย ข้าจะฆ่ามันแทนเ้าต่อหน้าทุกคนซะ!”
เห็นได้ชัดว่ายู่ฮ่าวไม่เคยสงสัยในความแข็งแกร่งของตัวเองเลย เขาเดินตรงไปยังลานประลองด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง
ทันใดนั้นฝูงชนก็พากันนินทาขึ้นมา หลินเฟิงช่างบ้าระห่ำจริงๆ
เขาไม่เพียงเดินขึ้นไปบนลานประลองตัดหน้าหวังหม่างเท่านั้น แต่ยังกล้าท้าทายยู่ฮ่าวอีกด้วย
ในหมู่ศิษย์สายใน ยู่ฮ่าว ไม่ใช่ศิษย์สายในที่อ่อนแอที่สุด แน่นอนว่าก่อนการทดสอบของนิกายจะเริ่มขึ้น บรรดาศิษย์สายนอกที่้าเข้าร่วมการประลอง ต่างพากันรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับศิษย์สายในมาก่อน ซึ่งยู่ฮ่าวถูกจัดอยู่ในประเภทรายชื่อที่ห้ามท้าประลอง ด้วยจิติญญาแห่งดาบของเขา และพลังที่แข็งแกร่งมากกว่าศิษย์สายในทั่วๆ ไป ดังนั้นจึงไม่มีศิษย์สายนอกคนไหนที่กล้าท้าทายเขา
ยู่ฮ่าวเองก็ไม่คิดเช่นกัน
ยู่ฮ่าวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหลินเฟิง แล้วกล่าวด้วยวาจาอวดดีว่า “ตอนแรกข้าก็คิดจะให้เ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักพัก แต่ในเมื่อเ้าอยากตายเร็วๆ นัก ข้าก็จะสนองให้”
“ข้าก็ไม่รีบฆ่าเ้าเช่นกัน” หลินเฟิงปรายตามองอย่างดูแคลน เขาไม่สนใจยู่ฮ่าว และหันไปมองที่ฝูงชนแทน
“หลี่หลิน ไสหัวเ้าขึ้นมาซะ!”
หลินเฟิงะโออกมาอีกครั้ง ในตอนที่อยู่หอซิงเฉิน หลี่หลินไม่กล้าเผชิญหน้ากับเสิ่นเฉิน ดังนั้นจึงหันมาระบายอารมณ์ใส่หลินเฟิงแทน ซึ่งบัญชีแค้นนี้หลินเฟิงยังคงจำได้ดี
ทุกคนต่างตกตะลึงกับการกระทำของหลินเฟิง หลี่หลินก็เป็ศิษย์สายในคนหนึ่งเช่นกัน ชายคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่???
