หลินเฟิงมองซากศพบนพื้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งมีหลายคนที่อยากแย่งชิงปีศาจสิงโตเพลิงไปจากเขา แต่หลินเฟิงก็ได้ให้โอกาสพวกเขาให้ไสหัวไป แต่พวกเขากลับข่มขู่หลินเฟิงต่อ ในเมื่อเป็เช่นนั้นความตายคือหนทางเดียวของพวกเขา
หลินเฟิงไม่จำเป็ต้องลงมือเอง เพียงแค่สั่งคำเดียวผู้คนมากมายที่อยู่ด้านหลังเขาก็จะลงมือสังหารแทน
100 หินหยวนระดับกลางถือว่าไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย ผู้คนมากมายจึงพากันแย่งชิงปีศาจสิงโตเพลิง และสังหารคนเพียงไม่กี่คนจากนั้นก็นำมาประมูล ซึ่งขาดทุนแค่ 100 หินหยวนระดับกลาง หากนำไปประมูลจะได้เยอะกว่านี้มาก แน่นอนว่าผู้คนจึงยินดีที่ได้รับใช้หลินเฟิง
“เป็ไปตามคาด มีผู้ฝึกยุทธ์ที่มาจากเมืองหลวงเยอะมาก”
หลินเฟิงมองไปยังฝูงชนที่อยู่เบื้องหน้า ความแข็งแกร่งของพวกเขาล้วนอยู่ขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 7 และ 8 กระทั่งขั้นที่ 9 ก็ยังมี แม้พวกเขาจะดูเรียบง่าย แต่หากเปิดฉากฆ่า เกรงว่าจะสังหารคนอย่างง่ายดายราวกับตีสุนัข
หลินเฟิงจูงปีศาจสิงโตเพลิงเดินเข้าไปในลานประมูล
ระหว่างทางไปยังศาลาอันงดงาม ตามทางเดินกว้างขวางที่ทำมาจากแผ่นหินสีเขียว ทุกคนสามารถเดินได้อย่างอิสระ
หลินเฟิงลงมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย และเห็นสาวงามทั้งสองยืนอยู่ด้านข้าง พวกนางแต่งกายดูงามสง่า มีใบหน้าสีแดงระเรื่อสวยงามต้องตา ทำให้คนมองรู้สึกเพลิดเพลินไปกับความงดงามของพวกนาง
“คุณชายมีอะไรให้ช่วยหรือเ้าค่ะ?”
เมื่อเห็นหลินเฟิงจูงปีศาจสิงโตเพลิงเข้ามา หนึ่งในสาวงามจึงกล่าวถามหลินเฟิงด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง
“อืม ข้า้าลงประมูลปีศาจสิงโตเพลิงตัวนี้”
หลินเฟิงยิ้มขณะกล่าว
หญิงสาวมองปีศาจสิงโตเพลิง และกล่าวด้วยรอยยิ้มอีกครั้งว่า “โปรดตามข้ามาค่ะคุณชาย”
เมื่อพูดจบ หญิงสาวผู้นี้ได้พาหลินเฟิงไปตามทางเดิน มุ่งไปยังทิศทางด้านหน้า
เมื่อผู้คนที่นั่งอยู่ในศาลาเห็นปีศาจสิงโตเพลิง ก็อดไม่ได้ที่จะมองมันและเหลือบมองหลินเฟิง หรือว่าผู้นี้จะลงประมูลปีศาจสิงโตเพลิง?
ทว่าหลินเฟิงไม่ได้สนใจสายตาของผู้คน แต่มองบรรยากาศรอบๆ ลานประมูลแทน ที่นี่มีบรรยากาศดีมาก นอกจากนี้ยังหรูหรามากอีกด้วย จึงทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนถูกมนตร์สะกด และมันยังช่วยบรรเทาความตึงเครียดในการประมูลด้วย
สุดทางเดินสีเขียวคือเวทีประมูล ด้านหลังเวทีมีม่านขนาดใหญ่สองผืนปิดอยู่ และด้านหลังม่านนั้นคือเื้ัของการประมูล
“คุณชาย เชิญทางนี้เ้าค่ะ”
มีหอคอยอยู่ไม่ไกล ทั้งสองข้างปรากฏทางเดินสองเส้น สาวงามนางนี้พาหลินเฟิงมายังทางเดินเส้นแรกจนมาถึงด้านหลังม่าน
อย่างไรก็ตามด้านหลังม่านยังคงมีม่านกั้นอีก และนี่คือสถานที่สำหรับคนที่นำสิ่งของมาประมูล
“ผู้อาวสุโสหรง คุณชายท่านนี้้าประมูลปีศาจสิงโตเพลิงเ้าค่ะ”
หญิงสาวหันไปกล่าวกับชายชราผู้หนึ่งที่นั่งอยู่หลังเวที เมื่อชายชราเห็นเขาจูงปีศาจสิงโตเพลิงเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นยืน และมองปีศาจสิงโตเพลิงด้วยแววตาสนใจ
“ปีศาจสิงโตเพลิงของตระกูลไป๋ สุดท้ายก็อยู่ในมือเ้า”
ชายชรายิ้มให้กับหลินเฟิง ดูเหมือนว่าจะเป็รอยยิ้มดีใจ
“ตระกูลไป๋?” หลินเฟิงกล่าวเสียงต่ำ
“ลานประลองเชลยนั่นอยู่ในความดูแลของตระกูลไป๋” ชายชรากล่าวขณะยิ้ม คาดไม่ถึงว่าเื่นี้หลินเฟิงจะไม่รู้
“ลานประลองเชลยอยู่ในความรับผิดชอบของตระกูลไป๋ ไม่สงสัยเลยว่าวันนั้นทำไมฝูงชนถึงเรียกไป๋เจ๋อว่านายน้อย นอกจากนี้คนของตระกูลไป๋ได้ระดมพลและบุกรุกสำนักเทียนอี้ อย่างไรก็ตามวันนั้นชายหนุ่มชุดเหลืองถูกเขาทำร้าย รวมทั้งวันนี้ชายหนุ่มชนชั้นสูงจากลานศักดิ์สิทธิ์แห่งเสวี่ยเยว่ พวกเขาทั้งสองนั้นมีสถานะอะไร ไม่ว่าจะเป็ไป๋เจ๋อหรือคนจากลานประลองเชลยต่างก็เกรงกลัวพวกเขา”
หลินเฟิงรำพึงในใจ ไม่รู้ว่าจะมีความสัมพันธ์เช่นไร และวันนี้ชายหนุ่มชนชั้นสูงนั่น้ามอบปีศาจสิงโตเพลิงให้กับมู่ฟ่าน ดูเหมือนว่าเขาพูดไปแต่ไม่ได้คิดทำจริง
“ฮ่าๆ ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ตระกูลไป๋ไปบุกสำนักเทียนอี้ มีคนถูกสังหารมากมาย แม้แต่ไป๋เจ๋อก็ถูกสังหาร ดูเหมือนว่าชะตากรรมของตระกูลไป๋จะจบสิ้นแล้ว ลานประลองเชลยคงได้เปลี่ยนเ้าของในเร็วๆ นี้แน่นอน”
ชายชรากล่าวด้วยั์ตาไม่กะพริบ แววตาของเขาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นโอกาส
หลินเฟิงนั้นไม่รู้เื่ดังกล่าว แต่เขาเข้าใจดีว่าเมืองขนาดกลางแห่งนี้มีเพียงเ้าเมืองหนึ่งคน แต่ที่นี่มีหลายเขต แต่ละเขตจะถูกแบ่งระหว่างตระกูลจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น ตระกูลของพวกเขาได้ลานประมูล และตระกูลไป๋ได้ลานประลองเชลย พวกเขาทั้งสองต่างแข่งขันกันมาโดยตลอด แต่ลานประลองเชลยกลับทำเงินได้มากกว่าลานประมูล
“ส่วนการประมูล เ้ามีอะไรที่้าเป็พิเศษหรือไม่?”
ชายชรามองหลินเฟิงและกล่าวต่อไปว่า “อย่างเช่น ราคาในการเริ่มประมูล หรือสามารถแลกเปลี่ยนเป็เงินตรา?”
“หินหยวนก็พอแล้ว” หลินเฟิงกล่าวตอบ
“ย่อมได้ ตอนที่พวกข้าทำการประมูล แขกผู้มีเกียรติอาจใช้บางอย่างเพื่อแลกกับมัน พอการประมูลเสร็จสิ้น ข้าจะนำหินหยวนมาให้เ้า แต่ลานประมูลของพวกข้าต้องได้ส่วนแบ่ง”
“ก็ได้ เมื่อราคาประมูลเป็ที่แน่นอนแล้ว รบกวนท่านลด 100 หินหยวนระดับกลาง เพราะว่านี่คือสัญญาที่ข้าได้ให้ไว้กับพวกเขา”
หลินเฟิงกล่าวเพิ่มเติม
“ไม่มีปัญหา” ชายชราพยักหน้า หลังจากตกลงเป็ที่เรียบร้อยแล้ว ชายชราก็มอบแผ่นสัญญาสีทองให้กับหลินเฟิง จากนั้นกล่าวกับหลินเฟิงว่า “เมื่อการประมูลจบลง ให้นำแผ่นสัญญาสีทองมาที่นี่ เพื่อแลกหินหยวน”
“อืม” หลินเฟิงพยักหน้า จากนั้นเดินออกไปข้างนอก
สาวงามที่มากับหลินเฟิงกล่าวว่า “คุณชาย ลานประมูลของพวกเรามีสิ่งของมากมาย เมื่อเห็นว่ามีสิ่งของที่ท่านชื่นชอบ ท่านก็สามารถเสนอราคาประมูลได้เลยนะเ้าคะ”
“แน่นอน” หลินเฟิงยิ้มตอบ เขาไม่จำเป็ต้องสนใจอีกฝ่าย หากเขาชื่นชอบอะไร แน่นอนว่าเขาจะต้องประมูล
“คุณชาย ทางนี้เ้าค่ะ” หญิงสาวชี้แนะหลินเฟิงมาตลอด จนมาถึงพื้นที่ที่อยู่ใกล้เวทีการประมูล ที่นี่มีศาลาหลังงามแยกออกมาหนึ่งหลัง ภายในนั้นมีคนนั่งอยู่มากมาย
นอกจากนี้หลินเฟิงยังพบว่า ท่ามกลางผู้คนมากมายนี้ มีหลายคนที่สวมหน้ากากเช่นเดียวกับหลินเฟิง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
“พาข้ามาที่นี่ทำไม?” หลินเฟิงกล่าวถามอย่างสงสัย
“คุณชาย ที่นี่คือเขตของเหล่าชนชั้นสูง แขกผู้มีเกียรติที่นำสิ่งของล้ำค่ามาประมูลกับพวกเรา รวมทั้งเหล่าคนชนชั้นสูง ถึงจะสามารถนั่งเขตนี้ได้ เมื่อนั่งอยู่ในนี้ หากคุณชายชื่นชอบของสิ่งใด แน่นอนว่ามีสิทธิพิเศษเ้าค่ะ”
สาวงามอธิบายให้หลินเฟิงฟังด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน อีกทั้งรอยยิ้มของนางยังเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์
“เขตของเหล่าชนชั้นสูง!” หลินเฟิงหัวเราะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายๆ คนถึงสวมหน้ากาก เพราะการประมูลสิ่งของล้ำค่าพวกเขาจึงไม่เปิดเผยตัวตน ซึ่งเป็การตัดปัญหาที่จะมารบกวนไปได้ ส่วนคนที่ไม่สวมหน้ากากต่างมีลักษณะที่โดดเด่น หรืออาจเป็เหล่าขุนนาง
เมื่อผู้คนเห็นหลินเฟิง แต่ก็แค่เหลือบมองแค่แวบเดียว เพราะพวกเขาไม่ได้สนใจ
“คุณชาย โปรดนั่งตรงนี้นะเ้าคะ”
หญิงสาวกล่าวกับหลินเฟิง ขณะแนะนำที่นั่งในศาลา
หลินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย ที่นั่งที่สาวงามเลือกให้เขานั้นเป็มุมที่ดีมาก สามารถเห็นลานประมูลได้ชัดเจน โดยเฉพาะเวทีการประมูล
หญิงสาวนางนี้ไม่เพียงแค่งามและเย้ายวนเท่านั้น แต่ยังใส่ใจผู้มาเยือนทุกคนอีกต่างหาก หญิงสาวนางนี้ช่างรู้ใจยิ่งนัก
หลินเฟิงมาถึงที่ที่หญิงสาวแนะนำ และนั่งลงบนเก้าอี้หินทันที
“หืม?”
แต่ในขณะนั้นหลินเฟิงรู้สึกว่าด้านหลังมีคนจ้องมองเขาอยู่ จนอดสงสัยไม่ได้จนต้องค่อยๆ หันหลังไป
ด้านหลังของเขามีชายหนุ่มที่สวมชุดหรูหรา มองเขาด้วยแววตาเยือกเย็นและกล่าวอย่างเ็าว่า “ไสหัวไป เ้าไม่รู้เหรอว่ากำลังบังข้าอยู่?”
หลินเฟิงประหลาดใจ เมื่อหญิงสาวได้ยินเช่นนั้นกลับกล่าวอย่างสุภาพว่า “คุณชายท่านนี้มีตำแหน่งที่สามารถนั่งที่นี่ได้ หากบังสายตาของท่าน ก็หวังว่าท่านจะเข้าใจนะเ้าคะ”
“เ้ามีสถานะอะไรถึงพูดกับข้าเช่นนี้ได้?” ชายหนุ่มหันไปมองนาง ถึงพบว่าหญิงสาวนางนี้งดงามอย่างคาดไม่ถึง และยังมีรูปร่างที่เร่าร้อน จนชายหนุ่มผู้นี้อดไม่ได้ที่จะกวาดสายตามองร่างของนางอย่างหื่นกระหาย จากนั้นกล่าวว่า “เป็เพียงแค่หญิงรับใช้แท้ๆ แต่หากเ้ามากับข้า ข้าจะทำให้เ้าเพลิดเพลินไม่รู้ลืมเชียวล่ะ”