ในห้องของหลี่หวง เสียงหัวมากมายหล่นลงกระทบกับพื้นดังขึ้นและ หลี่หวง ที่ตัวเปื้อนไปด้วยเืพูดขึ้น
“อัพเกรดหน่วยลับเงาทมิฬให้ข้าซะ”
[พบบั๊กระบบ……………ทำการแก้ไขโดยด่วน] ทันใดนั้นเสียงของระบบแทรกขึ้นทันที
[ทำการแก้ไขบั๊กเสร็จสิ้น ต่อจากนี้ท่านจะไม่ได้รับแต้มจากการสังหารกองทัพที่ถูกอัญเชิญมา] เสียงของระบบตอบอย่างเร่งรีบ
หลี่หวงไม่สนใจพร้อมพูดขึ้น “อัพเกรดหน่วยลับเงาทมิฬให้ข้าซะ”
ระบบไม่รู้จะพูดอะไรดี […....]
สุดท้ายมันก็ยอมอัพเกรดให้ [หน่วยลับเงาทมิฬ ระดับที่ 2 : พวกเขามีการบ่มเพาะพลังระดับทะเลิญญาขั้นที่ 9 เป็หน่วยข่าวกรองชั้นยอด และยังเป็หน่วยลอบสังหารที่สามารถรับประกันการสังหารได้อย่างแน่นอน พวกเขามีความสามารถในการผสานตัวเป็หนึ่งเดียวกับเงาและสามารถลบตัวตนไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็นได้ สามารถสร้างได้ 50 คนต่อวันและพวกเขามีความภักดีต่อโฮสท์ 100% และไม่มีวันทรยศเด็ดขาด (อัพเกรดใช้ 10,000 แต้ม) ]
[แต้มสังหารทั้งหมด: 8880 แต้ม]
[ท่านไม่คิดว่าการกระทำของท่านโหดร้ายไปหรือเปล่า]
หลี่หวงพูดขึ้น "ข้าก็แค่อยากทดสอบว่าพวกเขาภักดีต่อข้าจริงรึเปล่าเท่านั้น เรียกหน่วยลับเงาทมิฬที่เหลือออกมาซะ"
ระบบนิ่งเงียบ [……………..]
สุดท้ายมันก็ทำตามคำสั่งของ หลี่หวง ทันที [รับทราบโฮสท์]
ทันใดนั้นหน่วยลับเงาทมิฬอีก 40 คนก็โผล่มาและคุกเข่าตรงหน้าของ หลี่หวงทันทีและหลี่หวงมองไปที่หน่วยลับเงาทมิฬตรงหน้าอย่างลึกซึ้ง เขาพูดขึ้น “ทำความสะอาดห้องนี้ซะ”
"รับทราบขอรับ!"
ในขณะที่หน่วยลับเงาทมิฬทั้ง 40 คนทำหน้าที่เก็บกวาดซากศพและทำความสะอาดห้องบัลลังก์ หลี่หวงนั่งลงอย่างสงบ เขาไม่รีบร้อน ท่ามกลางความเงียบสงัดในห้องที่เคยเต็มไปด้วยกลิ่นเื เขาหยิบตำรา "วิชาจักรพรรดินิรันดร์กาล" ขึ้นมาและเริ่มศึกษามันทันที
ตำรานี้ไม่เหมือนวิชาใดๆ เนื้อหาภายในเต็มไปด้วยพลังงานลี้ลับและการบ่มเพาะวิชานี้จะทำให้ร่างกายของผู้ฝึกเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมหาศาล ทุกครั้งที่พลังิญญาไหลผ่าน ร่างกายจะยิ่งแข็งแกร่งและทนทานมากขึ้น
หลี่หวงเริ่มหลับตาและเข้าสมาธิ ปล่อยให้พลังชี่หมุนเวียนไปทั่วร่างกายของเขาอย่างช้าๆ ตามหลักการของวิชา ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีแดงที่ลึกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพลังิญญาหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกาย พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในทุกลมหายใจ
เวลาผ่านไปไม่นาน หลี่หวงก็สามารถฝึกฝนวิชาจักรพรรดินิรันดร์กาลได้อย่างสมบูรณ์ ร่างกายของเขารู้สึกถึงพลังที่แตกต่าง ความแข็งแกร่งที่ไม่เคยััมาก่อน ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ตนได้ก้าวเข้าสู่ระดับพลังใหม่แล้ว ไม่เพียงแค่การควบคุมชี่ที่พัฒนาขึ้น แต่ทุกเซลล์ในร่างกายของเขากลับแข็งแกร่งขึ้นเป็เท่าทวี ยิ่งกว่าที่เขาเคยคาดคิด และเวลาก็ร่วงเลยผ่านมาจนถึงเช้าแล้ว
ทันใดนั้น เสียงเรียกดังขึ้นจากนอกห้องบัลลังก์ ขัดจังหวะสมาธิของเขา
เสียงจากนอกห้องบัลลังก์ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะเบาๆ ชายในชุดขันทีพูดอย่างนอบน้อม "ท่านจักรพรรดิ ถึงเวลาที่พระองค์ต้องเสด็จไปร่วมการประชุมพระราชสำนักแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
หลังจากคิดคำนวณแผนการในใจ หลี่หวงยิ้มอย่างเ็าและเดินออกจากห้องบัลลังก์ทันที ขันทีเฒ่าที่เฝ้ารออยู่หน้าห้องถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นหลี่หวงอยู่ก็เปิดประตูออกมา ชุดสีขาวที่ หลี่หวง สวมใส่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงสดของเือย่างน่าสยดสยอง ดวงตาสีแดงที่เปล่งประกายทำให้หลี่หวงดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ขันทีเฒ่ารู้สึกขาของตนเองสั่นระริก เช่นเดียวกับสาวใช้สองคนที่อยู่ด้านหลัง พวกนางต่างก้มหน้าลงอย่างรวดเร็วไม่กล้ามองหลี่หวง
หลี่หวงเหลือบมองพวกเขาเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “นำทางไปสิ”
ขันทีเฒ่าเงยหน้าขึ้นด้วยอาการตกตะลึง “ฝ่าา... ท่าน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนหรือไม่?”
หลี่หวงพูดขัดทันที “ไม่ต้องเปลี่ยน ยังไงมันก็จะเปื้อนอีก นำทางไปซะ”
ขันทีเฒ่ารู้สึกตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว รีบก้มหน้าและนำทางไปยังห้องประชุมทันที ขณะที่ในใจเขาครุ่นคิดอย่างสับสน ทำไมเขาถึงไม่สามารถมองเห็นระดับการบ่มเพาะพลังของหลี่หวงได้ แต่เขาก็นึกได้ว่าหลี่หวงไม่เคยมีการบ่มเพาะมาก่อนนี่นา เขาคิดต่อและนึกถึงความน่ากลัวของหลี่หวงเมื่อกี้เขาคิดว่า คนแบบนี้มันจะไม่มีการเพาะปลูกจริงงั้นเหรอ
ในขณะเดียวกัน ภายในห้องประชุมพระราชสำนัก ขุนนางและแม่ทัพมากมายกำลังรวมตัวกันอยู่ บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด องค์ชายหลายคนก็ปรากฏตัวอยู่ด้วยเช่นกัน บนที่นั่งสูงสุดของห้อง ประดับด้วยผ้าแพรสีทองและปักลายั พระราชินีของจักรพรรดิองค์ก่อนนั่งอย่างสง่างาม เธอมองทุกคนด้วยสายตาที่เฉียบคม ทุกคนที่นี่กำลังรอจักรพรรดิอยู่
แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด จักรพรรดิหลี่หวงก็ยังไม่ปรากฏตัวขึ้นมาสักที
หนึ่งในขุนนางคนสำคัญเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ "ฝ่าายังไม่เสด็จอีกหรือ?"
อีกคนหนึ่งหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน "เ้าจะคาดหวังอะไรจากคนที่ไร้ค่าอย่างเขากัน?"
อีกหลายคนก็หัวเราะเบาๆ และนายพลคนหนึ่งพูดขึ้น "ข้าละไม่เข้าใจจริงว่าทำไมท่านจักรพรรดิถึงได้เลือกองค์ชาย 8 ที่ไร้ความสามารถแทนที่จะเป็องค์ชายหรือองค์หญิงคนอื่นๆ กัน"
เสียงซุบซิบนินทาเริ่มดังขึ้นภายในห้อง บางคนหัวเราะเยาะ หลายคนพยักหน้าตามความคิดเห็นเ่าั้ บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ไม่มีใครให้ความสำคัญกับหลี่หวงอย่างแท้จริง
ทันใดนั้นเอง ประตูของพระราชสำนักก็เปิดออกอย่างแรง เสียงดังสนั่นทำให้ทุกคนในห้องเงียบสนิท ทุกคนให้ไปมองที่ประตูทันทีพร้อมภาพที่ทุกคนเห็นต่อมาจะทำให้บางคนใมากนั้นก็คือมีหัวของคนคนหนึ่งกลิ้งเข้ามาท่ามกลางห้องประชุม และมันได้หยุดนิ่งตรงกลางห้องพร้อมกับเืที่ไหลออกจากาแที่คอของมัน
ขณะที่เสียงสะอื้นและความตกตะลึงเริ่มแพร่กระจาย ทุกคนก็หันไปมองที่ทางเข้าที่กำลังมีคนเดินเข้ามาและทุกคนก็ต้องใเพราะนั้นคือจักรพรรดิองค์ปัจจุบันของราชวงศ์เพลิง์ หลี่หวง
เมื่อ หลี่หวงก้าวเข้ามาภายในห้องประชุม เสื้อผ้าของเขายังคงเต็มไปด้วยเื ชุดสีขาวถูกย้อมด้วยสีแดงสด ดวงตาสีแดงของเขาส่องประกายอย่างน่าหลงใหลและน่าหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน ทุกสายตาจับจ้องไปที่เขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
หลี่หวงมองไปยังขุนนางและแม่ทัพทุกคนที่อยู่ในห้อง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ทรงอำนาจ และแฝงไปด้วยความเหี้ยมเกรียม "เวลาพบจักรพรรดิ พวกเ้าไม่ทำความเคารพงั้นหรือ?"
ทุกคนในห้องต่างตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้