ภายในห้องทดลองลับของกู่เทียน แสงจากหลอดทดลองที่เรียงรายอยู่รอบห้องสะท้อนกับแสงไฟสีขาวนวล ขวดแก้วที่บรรจุของเหลวสีแดงสดถูกจัดเรียงอย่างเป็ระเบียบ ขณะที่กู่เทียนกำลังจดบันทึกผลการทดลองต่าง ๆ ลงบนสมุดของเขา แต่แล้วเขาก็หยุดมือ พลางคิดย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อไม่เช้านี้…
หลังจากที่กู่เทียนยกระดับพร์ของพ่อแม่และคุณปู่จนถึงระดับ SSS แล้วมันทำให้เขาได้เข้าใจถึงพลังของพร์ระดับ SSS ที่ยกระดับมันโดยสาร FU มากขึ้นนั้นคือ
"มันทรงพลังเกินไป" กู่เทียนพึมพำกับตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็ "เทพีแห่งแสง" ของกวงเยว่ "บรรพบุรุษั" ของกู่หลง หรือ "เทพปีศาจนิรันดร์" ของกู่โม่ ทั้งสามพร์ล้วนมีพลังที่เหนือกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์ที่ปลุกพร์ขึ้นมาโดยธรรมชาติ หากไม่มีผู้ควบคุมสัตว์ร้ายที่มีพร์ระดับ SSS สายต่อสู้โดยตรง หรือ ผู้ควบคุมสัตว์ร้ายระดับจักรพรรดิ พวกเขาทั้งสามแทบจะไร้เทียมทานในระดับเดียวกันหรือต่อสู้ข้ามระดับก็ได้ แต่กู่เทียนก็เข้าใจที่มันทรงพลังขนาดนี้เพราะวัตถุดิบที่ใช้ยกระดับพร์นั้นมันล้ำค่าและหายากมาก
แต่เมื่อกู่เทียนก็มองย้อนกลับมาที่ตัวเอง…
พร์ของเขา คือ "ดวงตาแห่งเทพสรรพสิ่ง" ซึ่งสามารถสำรวจเส้นทางวิวัฒนาการของสัตว์ร้าย รวมถึงสามารถอ่านข้อมูลของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็ข้อมูลต่างๆ เส้นทางวิวัฒนาการ หรือแม้แต่ตอนนี้เขาก็สามารถหาจุดอ่อนของศัตรูได้ และกู่เทียนรู้ว่า เขาสามารถเลือกเส้นทางวิวัฒนาการที่แข็งแกร่งที่สุดให้สัตว์ร้ายของตัวเองได้ แต่ว่า... ถ้าเป็การต่อสู้จริง ๆล่ะ?
"มันเพียงพอแล้วจริง ๆ งั้นเหรอ?" กู่เทียนคิดในใจ
แน่นอนว่าไม่... ไม่มีทางพอ
ในระดับเดียวกัน ต่อให้สัตว์ร้ายของกู่เทียนถูกวิวัฒนาการในเส้นทางที่แข็งแกร่งที่สุด แต่หากต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีพร์ระดับ SSS เช่น ปู่ของเขา กู่โม่ที่สามารถลดพลังทั้งหมดของศัตรูลง 90% ถึงเงื่อนไขการใช้งานจะยากแต่ถ้าเตรียมตัวดีๆ ยังไงก็สามารถลดพลังคู่ต่อสู้ได้แน่นอน.... เมื่อคิดแบบนั้นแล้วกู่เทียนจะทำอย่างไงละ?
นี่เป็คำถามที่กู่เทียนคิดมาตลอดหลายปี ั้แ่ก่อนที่เขาจะได้เห็นพลังของพ่อแม่และคุณปู่เสียอีก และคำตอบมันก็ง่ายๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากเลบ นั้นก็คือ สัตว์ร้ายที่สามารถเติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด
นี่คือข้อสรุปที่เขาได้มาจากการวิจัยของตัวเองตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขามีแิเกี่ยวกับการสร้างสัตว์ร้ายที่สามารถเติบโตได้โดยไร้ขีดจำกัด และตอนนี้ เซียวไป๋ กำลังแสดงให้เห็นว่า ทฤษฎีของเขาสามารถเป็จริงได้ แต่ทุกอย่างกลับเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เขาคิดไว้มาก
แต่เดิม เซียวไป๋ เป็เพียง ัขาวธรรมดา ที่เขาเลือกมาใช้ในการทดลอง แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเพียงเพราะอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน
ในวันนี้ กู่เทียนกำลังทำการทดลองเกี่ยวกับการสร้างสาร FU โดยใช้ลูกน้องของหลิวเฟิงในการทดสอบและหนึ่งในนั้นมีคนที่มีพลังเกี่ยวกับเื ชายคนนั้นเป็หนึ่งในคนที่ได้รับการพัฒนาพร์ไปถึงระดับ SSS ได้สำเร็จ และชายคนนั้นก็มีชะตากรรมเดียวกับคนอื่นๆ นั้นก็คือ ร่างของเขาะเิ
เืของชายคนนั้นกระจายไปทั่วทั้งห้องทดลอง และในขณะเดียวกัน เซียวไป๋ ที่เพิ่งตื่นขึ้นมาก็เข้ามาหากู่เทียนด้วยความคิดถึง แต่เซียวไป๋กลับััเข้ากับ เศษเืที่ฟุ้งกระจายอยู่อากาศ และจากนั้น... มันก็เริ่มวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว
แม้แต่กู่เทียนเองก็ใ เขารู้ว่าเซียวไป๋มีเส้นทางในการวิวัฒนาการหลากหลายอยู่แล้ว แต่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า มันจะสามารถดูดซับแค่ละอองเืที่อยู่ในอากาศแล้วก็วิวัฒนาการเลย แต่เมื่อกู่เทียนมองไปที่ร่างกายของเซียวไป๋ข้อความที่ปรากฏตรงหน้าทำให้หัวใจของกู่เทียนเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น
[ชื่อ: ัโลหิต]
[ระดับพลัง: เหล็กดำระดับต่ำ]
[เผ่า: ั]
[ธาตุ: เื, ลม]
[ความสามารถพิเศษ: ต้นกำเนิดโลหิต (SSS) , เพลิงขาว (S) , เกล็ดเงิน (S) , ลมหายใจั (S) ]
[ศักยภาพ: เหนือจักรพรรดิ]
[เส้นทางวิวัฒนาการ: 0 เส้นทาง]
กู่เทียนหายใจลึกก่อนจะตัดสินใจตรวจสอบรายละเอียดของความสามารถพิเศษระดับ SSS ที่ปรากฏขึ้นมา
[ต้นกำเนิดโลหิต (SSS) : เมื่อกลืนกินเืจากสิ่งมีชีวิตใด ๆ จะถูกหลอมรวมเป็สายเืพิเศษของตนเอง และกลายเป็ส่วนหนึ่งของพลังที่สามารถใช้โดยัเือย่างถาวร]
กู่เทียนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น
ในตอนแรก กู่เทียนรู้สึกใไม่น้อยเมื่อพบว่าพร์ระดับ SSS "ต้นกำเนิดโลหิต" ของเซียวไป๋สามารถดูดกลืนและใช้งานความสามารถของผู้อื่นได้ เพราะก่อนหน้านี้พร์ของลูกน้องของหลิวเฟิงคนนั้นไม่ได้เป็แบบนี้ เดิมมีความสามารถของชายคนนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็ะเลยก็ว่าได้ แต่ถึงแม้มันจะทรงพลังขนาดไหน ก็ยังต้องอาศัยสัตว์ร้ายเป็สื่อกลางในการใช้งานอยู่ดี และเมื่อลูกน้องของหลิวเฟิงสูญเสียสัตว์ร้ายทั้งหมดของตัวเองไป ความสามารถนั้นก็แทบไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง เขาจึงไม่ต่างจากคนธรรมดาคนหนึ่งเลย แต่ที่ความสามารถเซียวไป๋ไม่เหมือนของชายคนนั้นกู่เทียนก็พอมี ข้อคิดเห็นในใจอยู่
แต่ยิ่งคิดไปก็ยิ่งปวดหัว วันนี้กู่เทียนทำงานมามากพอแล้ว กู่เทียนตัดสินใจวางทุกอย่างลงชั่วคราว เขาปิดสมุดบันทึกพร้อมยิ้มบาง ๆ แล้วมองไปที่เซียวไป๋ที่กำลังว่ายไปมาในถังบรรจุของเหลวสีเื ัน้อยกำลังกลืนกินโลหิตอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายของมันเปล่งแสงสีแดงจาง ๆ
ขณะเดียวกัน กู่เทียนก็นึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้ให้เืของ พ่อแม่และคุณปู่กับเซียวไป๋เลย กู่เทียนจึงรีบหยิบขวดเืที่เก็บเืมาจากคุณปู่ของเขาก่อนหน้านี้แล้วเทมันใส่ในหลอดทดลองไปให้ัน้อยทันที เซียวไป๋ใช้สายตาที่เปล่งประกายสีแดงเข้มจ้องมองก่อนจะตวัดลิ้นยาวของมันดูดซับของเหลวสีแดงสดเข้าไปทันที พลังงานจากเืของกู่โม่ถูกกลืนหายไปในพริบตา ก่อนที่ร่างของเซียวไป๋จะเริ่มเปล่งแสงอ่อน ๆ อีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน ข้อความจากกู่โม่และกวงเยว่ที่แจ้งว่าภารกิจสำเร็จแล้วถูกส่งเข้ามา กู่เทียนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป เขาพอใจที่แผนการทุกอย่างเป็ไปตามที่วางไว้ จากนั้นไม่นานกู่เทียนก็ส่งข้อความไปยังตระกูลเมิ่งเพื่อแจ้งข่าวให้พวกเขาทราบ และอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว พร้อมยืนยันว่าพวกเขาจะรีบมาถึงเมืองแห่งสายฝนโดยเร็วที่สุด
เมื่อจัดการเื่ของตระกูลเมิ่งเรียบร้อยแล้ว ข้อความจากกู่หลงก็ดังขึ้น แจ้งว่ากู่หลงทำภารกิจสำเร็จแล้วเช่นกัน กู่เทียนพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรออกไปหาใครบางคน เสียงสัญญาณดังขึ้นเพียงสองครั้งก่อนที่ปลายสายจะรับ
"เริ่มแผนการต่อไปได้เลย ทุกอย่างพร้อมแล้ว" กู่เทียนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาอย่างสั้น ๆ แต่หนักแน่น
"เข้าใจแล้ว"
1 วันผ่านไป
ทันใดนั้นเอง เสียงดัง “ฟุ่บ!” แสงสีทองส่องประกายผ่านหน้าต่างขนาดใหญ่ด้านหลังของห้อง นกฟีนิกซ์ตัวใหญ่ที่งดงามจนหาเปรียบมิได้ค่อย ๆ บินเข้ามายังเมืองแห่งสายฝน
ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ ต่างหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพและวิดีโอ เสียงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นดังขึ้นรอบด้าน
“นั่นมัน... นกฟีนิกซ์ทองคำ! สัตว์ระดับสูงขนาดนี้ไม่ค่อยปรากฏในเมืองระดับกลางของเรามาก่อนเลย!”
“อาจจะเป็คนใหญ่คนโตจากเมืองระดับสูงก็ได้นะ!”
นกฟีนิกซ์ทองคำได้พุ่งตรงไปยังใจกลางเมืองที่เป็ที่ตั้งของหอการค้าแห่งดวงดาวทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้