“มีเื่อะไรกัน! เธอคุยกันเบา ๆ ไม่ได้เหรอ ทำไมต้องเสียงดังด้วย แล้วตกลงที่ไปคุยกับลูกสะใภ้รองเป็ยังไง ลูกสะใภ้ยอมหรือไม่” เมื่อพ่อสามีฮุ่ยเหอ เดินเข้าบ้านมาก็ได้ยินเสียงภรรยาร้องโวยวายเสียงดังออกมาจากในบ้าน
“จะอะไรล่ะ ก็นังลูกสะใภ้รองตัวดีของคุณนะสิ! ฉันเข้าไปคุยด้วยดี ๆ มีอย่างที่ไหนทำนิสัยจองหองใช้ฉัน หล่อนบอกจะแยกบ้าน หล่อนอยากแยกก็จะแยกได้งั้นสิ! นังลูกสะใภ้อกตัญญู นังหมาป่าตาขาว งานการไม่ทำ รอแต่จะใช้เงินผัว ไม่รู้ลูกชายฉันทำเวรกรรมอะไร ถึงต้องทำงานเสี่ยงเป็เสี่ยงตาย ส่งเงินกลับมาให้ นังลูกสะใภ้จอมอกตัญญูคนนี้! นังคนเลี้ยงไม่เชื่อง นังหน้าไม่อาย โอ๊ยยย ฉันจะเป็ลม”นางฮุ่ยเห็นสามีเดินเข้ามาก็รีบเล่าเื่ ที่ลูกสะใภ้รองกล่าวกับตนเองให้สามีฟัง ยิ่งเล่าก็ยิ่งด่าไปด้วย เสียงก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ
ฮุ่ยเหอฟังภรรยาด่าลูกสะใภ้รองแล้วก็ปวดหัวกับเสียงแหลม ๆ ของภรรยา ก่อนจะนิ่งๆไป เมื่อฟังแภรรยากล่าวดี ๆแล้ว เขาก็ยิ่งไม่ชอบใจเช่นกันที่ลูกสะใภ้้าให้ลูกชายของเขาแยกครอบครัวออกไป
“ครอบครัวเราอยู่กันดี ๆ มีอย่างที่ไหนจะให้คนเขาแยกบ้านกัน ทำไมต้องแยกบ้าน เธอไม่พอใจอะไรบ้านนี้ ลูกรองไปเป็ทหารนาน ๆ จะกลับมาบ้านสักครั้ง ฝากเมียฝากลูกไว้กับพ่อแม่ อยู่ ๆ บอกจะแยกบ้านก็แยก มีแบบนี้ที่ไหน” เสียงของพ่อสามีดังออกไปถึงนอกบ้าน จนชาวบ้านที่เพิ่งกลับจากทุ่งนาพากันมาหยุดเดินและมุงดูอยู่หน้าบ้าน
เมื่อไม่กี่วันก่อน บ้านฮุ่ยก็มีเื่ที่สะใภ้รองเพิ่งแท้งบุตร วันนี้จะมีเื่อะไรกันอีก
“พ่อเบาเสียงหน่อย ชาวบ้านมามุงดูกันหมดแล้ว แล้วมีเื่อะไรกัน แม่ไปคุยกับน้องสะใภ้รองเป็ยังไงบ้าง” พี่ใหญ่ฮุ่ยเจียงเดินเข้ามาถาม
เขาก็เพิ่งกลับมาจากทุ่งนา ตามหลังผู้เป็พ่อมาห่างๆ คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน จึงไม่มีใครรู้เื่ ว่าที่บ้านเกิดเื่อะไรขึ้น ทำไมพ่อที่ไม่ค่อยยุ่งเื่อะไรในบ้านถึงโมโหขนาดนี้
วันนี้แม่ก็เลิกงานเร็วกว่าคนอื่นที่บ้าน เห็นว่าจะมาคุยกับน้องสะใภ้รองเื่ที่ภรรยาเขาทำให้น้องสะใภ้รองแท้งลูก
“เ้าใหญ่! ลูกกลับมากันแล้ว ลูกมาดู มาดูนังน้องสะใภ้อกตัญญูผู้นี้ของลูก มันบอกแม่ว่ามันจะให้น้องรองของแกแยกบ้านออกไป แบบนี้มันคงคิดว่าพ่อแม่ใกล้ตายแล้ว แม่โกรธจนจะเป็ลมอยู่แล้ว พอพ่อแกรู้ก็โมโหมากขนาดนั้นไง” แม่สามีเห็นลูกชายเดินเข้าบ้านมาก็รีบเดินไปดึงแขนลูกชายคนโต และรีบเล่าเื่ให้ลูกชายคนโตฟังทันที
“แยกบ้าน!! น้องสะใภ้จะแยกบ้านเหรอ? ไม่ได้นะ! ถ้าน้องสะใภ้แยกบ้านแล้วเงินเดือนทหารของน้องรอง ที่ส่งมาล่ะ อย่างนี้บ้านใหญ่ก็ไม่ได้...หมายถึงคุณแม่...ก็จะไม่ได้เงินตรงนี้ แล้วหลานชายคนโตของคุณแม่ จะเอาเงินที่ไหนไปเล่าเรียน ไหนจะคูปองต่าง ๆ ที่น้องรองส่งมาอีกล่ะ คุณแม่จะให้น้องรองแยกบ้านไม่ได้นะคะ ก็แค่แท้งลูกไปคนหนึ่ง พอน้องรองกลับมาก็มีลูกใหม่อีกสักกี่คนก็ได้แล้ว ทำไมต้องก่อเื่ราว ให้ใหญ่โตด้วย กับอีกแค่เื่แค่นี้” สะใภ้ใหญ่ที่เดินตามหลังพี่ใหญ่ฮุ่ยเจียง ผู้เป็สามีเข้าบ้าน ก็ได้ยินเื่ราวเช่นกัน เธอใมาก ที่น้องสะใภ้้าจะแยกบ้าน หลังจากเสียงลูกในท้องไป เธอไม่เข้าใจนักไม่รู้น้องสะใภ้จะเสียใจอะไรนักหนา แท้งแล้วก็ท้องใหม่ได้ ทำไมน้องสะใภ้รองถึงชอบทำให้เป็เื่ใหญ่ด้วยก็ไม่รู้
“เื่นี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่สะใภ้ใหญ่เลยนะคะ! ฉันยังไม่ได้เอาเื่พี่เลยนะ ที่พี่สะใภ้ใหญ่ทำร้ายฉัน และปล่อยให้ฉันนอนจมกองเลือกอยู่บนพื้น พี่กลับยืนดูอยู่เฉย ๆ ไม่ยอมเขามาช่วยไม่พอ พี่ยังวิ่งหนีความผิดออกไปอีก แทนที่จะรีบไปเรียกให้ใครมาช่วยฉัน พี่กลับไม่ไปเรียกใครมาช่วยฉันเลย คงคิดว่าฉันตายไปแล้วจะไม่มีใครรู้ว่าพี่สะใภ้ใหญ่ทำร้ายฉันสินะ"ฟางเซียนเดินเข้ามาใกล้พี่สะใภ้ใหญ่
“ไม่ใช่นะ ใครไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอเสียลูกไป และฉันก็ไม่ได้หนีด้วย ฉัน…ฉันแค่ใ”สะใภ้ใหญ่รีบปฏิเสธคำพูดน้องสะใภ้รอง
"ใเหรอ? พี่ใมากขนาดนั้นเลย! ถ้าวันนั้นคุณป้าเฉินข้างบ้าน ไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเ้าของร่าง...ของฉัน ตอนนี้ฉันคงได้ตายไปแล้ว และเื่นี้สามีของฉันก็ยังไม่รู้เื่ ถ้าเขารู้ว่าพี่สะใภ้ใหญ่ เป็คนทำให้เมียเขาเกือบตาย (ตายไปแล้ว) และทำให้เขาต้องสูญเสียลูกที่ยังไม่ได้เกิด! เขาจะคิดยังไง! แค่ฉันขอแยกบ้านออกมาอยู่เองมันผิดตรงไหน พี่ควรขอบคุณฉันสิ ที่ไม่ไปแจ้งทางการ ว่าฉันถูกพี่ทำร้ายจนเสียลูกในท้องไป และยังคิดปล่อยให้ฉันตายเพื่อหนีความผิดก็ดีเท่าไรแล้ว”ฟางเซียนกดดันพี่สะใภ้ใหญ่คนเห็นแก่ตัว
สะใภ้ใหญ่ถึงแม้จะกลัว แต่เธอก็ยังทำใจกล้าใส่น้องสะใภ้รอง ด้วยรู้ว่าสามีและพ่อแม่สามีจะช่วยเหลือเธอ
“เฮอะ!! ดูสิ ดูเอาเถอะ คุณพ่อคุณแม่ ดูสิ่งที่น้องสะใภ้รองพูดเขาสิคะ ฉันเป็พี่สะใภ้ใหญ่ของน้องรอง สามีของน้องสะใภ้รองนะ นี่เหรอ…คำพูดที่ใช้พูดกับพี่สะใภ้ใหญ่ น้องสะใภ้ที่ไหนจะใช้คำพูดคำจากับพี่สะใภ้ใหญ่ของตัวเองแบบนี้บ้าง อีกอย่างเธอก็ยังไม่ตาย จะมากล่าวหากันแบบนี้ไม่ได้ แล้วใครว่าฉันไม่อยากเรียกคนมาช่วยล่ะ ฉันแค่ใเลยไม่ทันคิดเท่านั้น แบบนี้ก็ผิดเหรอ? แล้วสิ่งที่น้องสะใภ้รองพูดออกมาล่ะ หรือว่านี่ก็เป็นิสัยที่แท้จริงของน้องสะใภ้รอง นี่คงเก็บเอาไว้ไม่ไหวแล้วสินะ
คงไม่พอใจที่คุณแม่เก็บเงินเดือนน้องรองเอาไว้เอง หรือไม่พอใจที่คุณแม่เอาเงินมาส่งให้ลูกชิวได้เรียน ส่วนลูกชายของน้องสะใภ้รองยังไม่ได้เรียน ก็เลยอยากจะแยกบ้านและเก็บเงินเดือนน้องรองเอาไว้เอง นังน้องสะใภ้จอมี้เี คนอื่นเหนื่อยแทบตายตากแดดทั้งวัน ส่วนตัวเองเอาแต่แต่งตัวสวย ๆ ให้ใครดู สามีก็ไม่อยู่บ้าน หรือแต่งให้ผู้ชายในหมู่บ้านดูกัน”สะใภ้ใหญ่โมโห เป็แค่สะใภ้รองของลูกชายคนรอง บังอาจจะมาเถียงกับหล่อนที่เป็สะใภ้ใหญ่ ที่มีหลานชายคนโตให้กับตระกูลของบ้านเหรอ เหอะ
“ใครกันแน่ที่ี้เี! ั้แ่แต่งงานเข้ามา เคยมีวันไหนบ้างที่พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ใช้ฉันทำงานบ้าง ถ้าไม่เอาเปรียบฉันก็แย่งของกิน มีอะไรบ้างที่บ้านเดิมของฉัน เอามาให้แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ไม่แย่งไปจากฉัน ลูกฉันไม่เคยได้กินอิ่มเลย แต่พี่สะใภ้กลับเอาไปให้ลูกชายของพี่กินจนอิ่ม โดยไม่คิดจะแบ่งให้ลูกของฉันเลย ฉันก็ยอมให้ไม่เคยว่าพี่สะใภ้ใหญ่เลย
แม้ฉันจะไม่ได้ลงไปทำงานในทุ่งนาแบบพวกพี่ แต่ก็ใช่ว่าฉันจะอยู่เฉยๆ เป็นังี้เีอย่างที่พี่สะใภ้ใหญ่พูด งานบ้าน ทำอาหาร ซักผ้าให้คุณพ่อคุณแม่ พี่ชาย น้องชาย หลานชาย หรือแม้แต่เสื้อผ้าของพี่สะใภ้ใหญ่ ก็เป็ฉันที่เป็คนซักให้ ฉันเป็คนรับผิดชอบงานบ้านแทบทั้งหมด แม้แต่บางครั้งพี่สะใภ้ใหญ่ยังเอาที่นอนที่ลูกชายพี่สะใภ้ใหญ่ทำเปื้อนฉี่ พี่สะใภ้ใหญ่ยังเอามาโยนให้ฉันซัก ฉันก็ไม่เคยว่าพี่สะใภ้ใหญ่เลย แต่ทำไมถึงมาทำร้ายฉันแบบนี้!” ฟางเซียนกล่าวรัวเร็วและเน้นหนักในประโยคสุดท้าย เธอยังชี้หน้าพี่สะใภ้ใหญ่เป็การย้ำอีกด้วย
“ไม่จริง! คุณอย่าไปเชื่อที่น้องสะใภ้บอกนะคะ เธอใส่ร้ายฉัน ฉันไม่ได้ทำแบบที่เธอพูดเลยนะ เสื้อผ้าฉัน หรือที่นอนของลูกชายเรา ฉันเป็คนซักเองทั้งหมด อาจจะมีบ้างที่เวลาฉันทำงานในทุ่งนาเหนื่อยเกินไป ก็จะเอาไปให้น้องสะใภ้รองช่วยซัก แต่แค่เสื้อผ้าที่ใส่ในวันนั้นเท่านั้นที่ฉันให้เธอซักให้ ไม่ได้รังแกเธออย่างที่เธอพูดเลยนะ ใคร ๆ ก็ทำงานกัน เธอก็มีหน้าที่ซักผ้า ดูแลบ้านอยู่แล้ว จะซักเพิ่มอีกหน่อยจะเป็อะไรไป แล้วฉันก็ไม่ได้เป็แบบที่เธอบอกด้วย เธออย่ามาใส่ร้ายกันนะ” พี่สะใภ้ใหญ่บอกกับพี่ใหญ่ก่อนจะใช้สายตาจ้องมองฟางเซียน
ก่อนจะกล่าวกับน้องสะใภ้รองว่า“สะใภ้รองหล่อนก็มีหน้าที่ซักผ้าอยู่แล้ว จะซักเพิ่มอีกหน่อยจะเป็อะไรไป แล้วฉันก็ไม่ได้ใช้ให้หล่อนทำทุกวันสักหน่อย นานๆฉันขอให้เธอช่วยเองนะ อยากมาพูดให้ทุกคนคิดว่าฉันไปรังแกหล่อนสิ!”
