เสี่ยวชุ่ยได้ยินเสียงนี้แล้วขมวดคิ้ว บ่นเสียงแ่เบาทันที “นางมาทำอะไร มิใช่เพราะนางหรอกหรือคุณหนูถึงได้ตกน้ำ?”
สาวใช้ใจตรงกับตนเอง เยี่ยนเจาเจาย่อมดีใจ
แต่เมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ นางจึงเอ่ยถามออกไป “เ้าเห็นคนผลักข้าหรือ?”
เสี่ยวชุ่ยส่ายหัว เยี่ยนเจาเจาจึงเก็บซ่อนความคิดไว้ในแววตา
นางมั่นใจถึงเก้าส่วนว่าเยี่ยนฟางหวาเป็คนผลักนาง บ่าวหญิงชราหรือสาวใช้คนอื่นๆ ต่อให้ไม่ชอบนางแค่ไหน ก็คงไม่กล้าขนาดลงมือ
ไม่มีพยานบุคคลเช่นนี้ การจะบดขยี้เยี่ยนฟางหวาคงต้องเปลืองสมองกันสักหน่อย
ทว่าเื่เล็กน้อยระดับนี้ช่างง่ายดายและชินชาสำหรับเยี่ยนเจาเจาในปัจจุบัน นางจัดอาภรณ์บนร่างและบอกให้เสี่ยวชุ่ยไปเปิดประตู
เยี่ยนเจาเจานั่งลงตรงตำแหน่งประธาน แม้นอายุเพียงแปดขวบ แต่บนร่างกลับมีความน่ากริ่งเกรงแบบที่ผู้คนไม่กล้ามองตรงมา เยี่ยนฟางหวาซึ่งได้รับการเชื้อเชิญจากเสี่ยวชุ่ย เงยหน้าขึ้นก็เห็นเยี่ยนเจาเจากำลังหาวหวอด
ถึงจะไม่สง่างาม ทว่าเมื่อเป็การกระทำของเยี่ยนเจาเจากลับดูน่ารักเป็พิเศษ
เยี่ยนเจาเจาไข้หายเกือบสนิทแล้ว แต่ใบหน้ายังซีดเซียวเล็กน้อย ตัวขดกลมนั่งอยู่ตรงนั้น ดวงหน้าเล็กเท่าหนึ่งกอบมือ แก้มอมชมพูและั์ตากลมโต ยามหันกลับมามองเยี่ยนฟางหวา แววยั่วเย้าที่แฝงในแววตาก็ปรากฏขึ้น
เยี่ยนเจาเจานั่งตรงตำแหน่งประธานราวกับเป็นายของทุกสิ่งรอบกาย เพียงแค่พลังในตอนนี้ก็กดข่มเยี่ยนฟางหวาจนหายใจแทบไม่ออกแล้ว
เยี่ยนฟางหวาชิงชังรูปโฉมของนางอย่างสุดซึ้ง วันนี้เจาเจาสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ปักลายบุปผาละลานตาจากด้ายทอง สวมรองเท้าปักไข่มุกตะวันออก ไข่มุกตะวันออกสองเม็ดนั้นทั้งใหญ่และแวววาว มองแวบเดียวก็รู้ว่ามาจากข้างในวัง บ่งบอกฐานะอันสูงส่งของเ้าของ
แน่นอนว่านางน้อยใจในโชคชะตา เหตุใดเยี่ยนเจาเจาจึงโชคดีเพียงนี้?
ด้านเยี่ยนเจาเจาเอง เมื่อพบเยี่ยนฟางหวาอีกหน ก็อดสังเกตนางไม่ได้
สมัยนั้นนางมีความสัมพันธ์เพียงผิวเผินกับเยี่ยนฟางหวา แต่เพราะเยี่ยนฟางหวาแสดงละครเก่งจนเคยชิน และทะเลาะวิวาทโดยตรงกับนางแค่เพราะเื่นกแก้วขาว เมื่อวันวานผันผ่าน เยี่ยนฟางหวากลับมาพูดจาดีๆ ง้อนางนิดหน่อย นางก็ไร้หัวคิด ทึกทักเอาเองว่าเยี่ยนฟางหวาสนิทชิดเชื้อกับตน
เยี่ยนฟางหวายามนี้อายุยังน้อย เพิ่งเริ่มโตเป็สาว เรือนร่างผอมสูง เปราะบางราวต้นหลิวลู่ลม ใบหน้าคล้ายเจาเจาหลายส่วน ดวงตารูปเมล็ดซิ่งที่ใสราวตากวางนั้นกำลังแสดงความน้อยอกน้อยใจ
นางกัดฟันสีขาวแน่น แต่ใบหน้ากลับอาบน้ำตา คิ้วเรียวดังใบหลิวโค้งงอ เห็นแล้วช่างน่าสงสารและเวทนา
อาจเพราะนางยังเยาว์นัก ใส่หน้ากากหลอกคนไม่เนียนเหมือนในภายภาคหน้า มุมปากบึ้งตึงจึงยังหลงเหลือร่องรอยความริษยาอยู่
“พี่สาว ท่านเข็ดฟันหรือ?”
เยี่ยนเจาเจาหลุดหัวเราะ รอยยิ้มไร้เดียงสาบนใบหน้าน่ารักน่าชังราวกับเป็เด็กน้อยวัยแปดขวบที่แสนใสซื่อบริสุทธิ์
ใสซื่อบริสุทธิ์กับผีอะไร ชาติก่อนบ้านใหญ่เหยียบย่ำนาง ดูดโลหิตนางจนแห้ง แล้วยังสร้างชื่อเสียงสุภาพเยือกเย็นเปี่ยมคุณธรรมอันดีงามให้แก่เยี่ยนฟางหวาแทน หากชีวิตยังมีเื่งามหน้าเช่นนี้เกิดขึ้นอีกครา เยี่ยนเจาเจาจะตัดหัวตัวเองให้พวกเขาเตะเล่นเลย
เมื่อเยี่ยนฟางหวาได้ยินคำพูดนั้น ใบหน้าจึงกระดากอายเล็กน้อย รู้สึกว่าเยี่ยนเจาเจากำลังซ่อนความนัยบางอย่างในการกระทำ ทว่าเยี่ยนเจาเจาไม่เอ่ยถึงหัวข้อนี้อีก กลับเอ่ยถามเื่อื่นขึ้นมา “ข้าเพิ่งดีขึ้น พี่มาหาข้าทำไมหรือ?”
คำพูดตรงเข้ากลางใจของเยี่ยนฟางหวาพอดิบพอดี น้ำตาบนหน้าไหลอาบลงมาทันที ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความคับข้องใจ “น้องหญิง ข้ารู้ว่าเ้าชิงชังข้าเพราะของกระจุกกระจิกนั่น พี่จึงมาชดใช้ให้เ้าที่นี่แล้ว”
บ่าวหญิงข้างกายเยี่ยนฟางหวารับไม้ต่อทันควัน “ใช่แล้ว คุณหนูห้า คุณหนูของพวกเราไม่รู้มาั้แ่แรก ถึงอย่างไรก็เป็พี่น้องกัน อย่าได้โกรธคุณหนูของพวกเราเพียงเพราะของเล่นชิ้นเดียวเลยเ้าค่ะ”
มาไม้เดิมสินะ บ่าวหญิงกับเยี่ยนฟางหวา คนหนึ่งเล่นบทแม่พระ คนหนึ่งเล่นบทใส่ร้าย ทั้งที่เยี่ยนเจาเจาไม่ทันทำสิ่งใด แต่กลับโดนโยนความผิดมาให้ทีละอย่างจนชื่อเสียงค่อยๆ เสื่อมเสีย
บ่าวหญิงที่กำลังพูดคนนี้ดูเหมือนยิ้มแย้ม ทั้งที่ความจริงใจคออำมหิตยิ่งนัก คนลงมือทุบตีเสี่ยวชุ่ยยามนั้นก็คือนาง
เยี่ยนเจาเจาเม้มปากยิ้มพลางพยักหน้า “นั่นสินะ”
เยี่ยนฟางหวาลอบดีใจ คิดว่าตบตาเื่นี้ผ่านไปได้แล้ว คาดไม่ถึงว่าเยี่ยนเจาเจาจะวกกลับมาออกคำสั่งกะทันหัน “เสี่ยวชุ่ย เอาแส้ทองของข้ามา”
“อาเหวิน อาอู่ จับกุมนังมารที่ทำผิดร้ายแรงต่อฝ่าาไว้!”
เสียงของเยี่ยนเจาเจาดังกึกก้อง ประจวบเหมาะกับเสียงฟ้าผ่าข้างนอก ผสานเสียงฟ้าร้องลือลั่นที่แลบแปลบปลาบผงาดทั่วนภา รอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์บนดวงหน้าของเยี่ยนเจาเจาเผยความร้ายกาจออกมาลางๆ
เสียงฝนตกปรากฎขึ้นฉับพลัน กลิ่นอายเย็นชื้นด้านนอกปะทะเข้ามา เยี่ยนฟางหวามองเห็นความเ็าฝังลึกจากรอยยิ้มของเด็กสาวตรงหน้า
เยี่ยนฟางหวาใจกระตุก ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ก่อนลอบด่าตนเองว่าไม่เอาไหน แค่เสียงฟ้าร้องทำพิษเท่านั้น เด็กโง่อย่างเยี่ยนเจาเจาหรือจะน่ากลัว
นางไม่เชื่อหรอกว่าเยี่ยนเจาเจาจะอาจหาญจับกุมนางจริงๆ
เยี่ยนเจาเจาเห็นความโล่งใจในดวงตาของเยี่ยนฟางหวาได้อย่างรวดเร็ว และกลั้นยิ้มไม่อยู่
นางคิดจริงหรือว่าตนไม่กล้าจับนาง?
ในเรือนหิมะมรกตของตนเอง นอกจากการเข่นฆ่าแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่เยี่ยนเจาเจาไม่กล้าทำ
คราวก่อนที่เยี่ยนเจาเจาตกหลุมพรางของนาง ทั้งหมดเป็เพราะนางอยู่บ้านใหญ่
แต่ขณะนี้อยู่ท่ามกลางเรือนหิมะมรกตของเยี่ยนเจาเจา ทั้งลานเรือนล้วนมีแต่คนขององค์หญิงฉงหยาง มีกระทั่งองครักษ์ลับสองนาย อาเหวินและอาอู่ที่นางเพิ่งเรียกเมื่อสักครู่ก็ถูกส่งมาจากฮองเฮา
องครักษ์สองนายนี้ฟังแต่คำพูดของนาง ไม่เคยฟังคำสั่งของผู้อื่น
เมื่อได้ยินเยี่ยนเจาเจาอ้างถึงฮองเฮา พวกเขาก็ปรากฎตัวต่อหน้าเยี่ยนเจาเจาเกือบจะในทันที ครู่เดียวก็มัดเยี่ยนฟางหวาสำเร็จ
เดิมทีเยี่ยนฟางหวาคิดว่าเยี่ยนเจาเจาคงด่าทอนาง และเป็การดีหากตบนางสักฉาดสองฉาด นางพาเด็กรับใช้มาหลายสิบคนก็เพื่อให้คนนอกเห็นว่าเยี่ยนเจาเจาด่าประจานและลงมือร้ายแรงต่อพี่สาวแบบนางอย่างไร
แต่นางไม่เคยคิดว่าเยี่ยนเจาเจาจะกล้าเรียกคนมามัดนาง สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที “เยี่ยนเจาเจา เ้าทำอะไร?” แม้แต่คำว่าน้องสาวก็ยังไม่เรียก
เยี่ยนฟางหวาในอีกเจ็ดแปดปีให้หลังยังเก็บอาการเก่งกว่านี้ น่าเสียดายเหลือเกินที่ตอนนี้นางยังเด็กนัก เลยขาดความอดทนไปสักหน่อย
ทว่าเยี่ยนเจาเจาคร้านจะสนใจนาง เสี่ยวชุ่ยนำแส้ทองมาแล้ว เจาเจาสะบัดข้อมือหยิบแส้มาตวัดใส่ปลายเท้าบ่าวหญิงนั่น เสียงแส้ดังกระแทกหูทำเอาบ่าวหญิงสะดุ้ง กรีดร้องถอยหลังไปสองก้าวจนล้มคะมำกับพื้น
“ของพระราชทานจากฝ่าา พบแส้ดุจพบพระพักตร์ฝ่าา พวกเ้าบังอาจไม่คุกเข่า!”
อาเหวินกับอาอู่คุกเข่าลง พลางตะคอกเสียงเ็าด้วยความดุดัน น่ากลัวจนหญิงรับใช้เป็โขยงข้างหลังเยี่ยนฟางหวาเข่าทรุดกันหมด
เยี่ยนเจาเจาเหวี่ยงแส้ทองอีกสองครั้ง ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม สั่งเพียงอาเหวินและอาอู่ “พวกเ้าหามนางออกไป พวกเราจะเข้าวังกัน”
“เตรียมม้า และนำขบวนเสด็จองค์หญิงครึ่งขบวนที่ท่านป้าให้คราวที่แล้วด้วย!”
น้ำเสียงของเยี่ยนเจาเจายังคงนุ่มนวล ทว่าั์ตากลับสนุกสนานไม่นำพา
เยี่ยนเจาเจารู้ว่าเยี่ยนฟางหวาริษยาที่ท่านป้าโปรดปรานนางที่สุด เกรงว่าขบวนเสด็จองค์หญิงแบบครึ่งขบวนน่าจะทำให้นางโกรธจนหน้ามืดเลยกระมัง
เมื่อเยี่ยนฟางหวาได้ยินประโยคนี้ ขอบตาแดงก่ำยิ่งกว่าเดิมดังคาด แม้ขณะนี้นางจะร่ำไห้งดงามดังดอกสาลี่ต้องหยาดฝนเพียงใด ก็ยังต้องหันกลับมาตวัดสายตาแข็งกร้าวใส่เยี่ยนเจาเจาอยู่ดี
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้