เฟิ่งเฉี่ยนคิดไม่ถึงว่าเขาจะอ่อนไหวเช่นนี้ นางเพียงแค่พูดไปอย่างนั้นเอง เขาก็ถือเป็จริงเป็จังเสียแล้ว!
นางรีบเช็ดน้ำตาให้เขาพร้อมกับปลอบโยนว่า “เสด็จแม่เพียงแต่พูดว่าถ้าหาก...”
ไท่จื่อน้อยโผร่างเข้ามาในอ้อมกอดของนางและกอดนางแน่นเมื่อร้องไห้ฮือๆ “เย่เอ๋อร์ไม่อยากฟังคำว่า ถ้าหาก เย่เอ๋อร์้าอยู่กับเสด็จแม่ตลอดไป!”
หัวใจของนางสะท้านน้อยๆ!
หัวใจที่เพิ่งจะเข้มแข็งและตัดสินใจได้ ถูกเขาร้องไห้ใส่เช่นนี้ ไฟที่ลุกท่วมหัวใจเมื่อสักครู่ดับมอดลงทันที
“เย่เอ๋อร์เด็กดี ไม่ร้องไห้แล้ว! เสด็จแม่ปักเหอเปาใบใหม่ให้เ้าดีกว่า!”
ค่ำคืนนี้ บุตรชายท่องตำรา เฟิ่งเฉี่ยนปักเหอเปา สองแม่ลูกนั่งอยู่ใต้แสงตะเกียงดวงเดียวกัน บรรยากาศอบอุ่น
ภาพภายนอกดูแล้วทุกอย่างสงบเงียบและสวยงาม แต่ในใจเฟิ่งเฉี่ยนเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม!
เซวียนหยวนเช่อไม่ได้มาหานางจนแล้วจนรอด...
เขากำลังทำอะไรอยู่นะ?
เขาและองค์หญิงหลานซินจะ...?
ที่จริง นางให้คนไปสืบดูได้ แต่นางไม่ได้ทำเช่นนี้!
เพียงแค่คิดว่าชีวิตที่เหลืออีกหลายสิบปีของนาง นางจะต้องมีชีวิตที่ต้องรอคอยด้วยหัวใจที่ไม่เป็สุขเช่นนี้เสมอ หัวใจของนางก็เหมือนกับถูกมีดแทง!
ตลอดทั้งวันของวันนี้ ราวกับนางนั่งรถข้ามูเาอย่างไรอย่างนั้น!
นางเคยมี่เวลาที่หวานชื่นที่สุด อยู่ใกล้กับความรักอันงดงามที่สุดถึงเพียงนั้น...
นางเคยคิดเช่นกันว่านางจะเป็เช่นภรรยาธรรมดาสามัญทั่วๆ ไปที่รอคอยการกลับมาของสามี...
แต่ท้ายที่สุดที่แลกมานั้นกลับเป็ความผิดหวังและเศร้าสลดอันไร้ขีดจำกัด!
นางถามหัวใจของตัวเองอีกครั้ง นี่เป็ชีวิตที่นาง้าจริงๆ หรือ?
รุ่งเช้าของวันรุ่งขึ้น หลังจากส่งบุตรชายเข้าเรียนแล้ว เฟิ่งเฉี่ยนกลับมาตำหนักเว่ยยาง เท้าเพิ่งจะก้าวผ่านประตูเข้ามา บิดาก็ตามมาทันที
“เฉี่ยนเอ๋อร์ ได้ยินว่าเ้าถูกไทเฮาตบหน้าฉาดหนึ่ง?”
ข่าวออกไปเร็วเช่นนี้ กระทั่งบิดาของนางก็ทราบเื่แล้ว
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้า นับได้ว่าบิดาของนางยังมีมนุษยธรรมอยู่บ้างรู้สึกใส่นาง คาดไม่ถึงว่าประโยคถัดมาของเฟิ่งชังจะทำให้นางตกลงสู่ก้นหุบเหว!
“เ้าสมควรถูกตบ!” เฟิ่งชังมีสีหน้าเข้มงวด “ใจเ้าคิดจะเก็บฮ่องเต้ไว้เพียงคนเดียว ไม่คิดจะให้สนมและชายาคนอื่นๆ ถวายตัว แต่เ้าอย่าพูดออกมาเชียว! เฉี่ยนเอ๋อร์ เวลาที่เ้าอยู่ในวังก็ไม่น้อย ไฉนยังปรับตัวให้คุ้นชินกับชีวิตและความเหมาะสมในวังไม่ได้?”
เฟิ่งเฉี่ยนดื่มชาช้าๆ หลังจากวางถ้วยน้ำชาลงแล้วจึงเอ่ยปากเนิบๆ “ท่านมหาเสนาบดีเฟิ่ง หากท่านมาที่นี่เพื่อตำหนิติเตียนเปิ่นกง เอาเถิด ตอนนี้ท่านได้ตำหนิไปแล้ว ท่านกลับไปได้”
เฟิ่งชังตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่านางจะไล่แขกเช่นนี้ จึงพูดด้วยความโมโห “เ้าดูเ้า พูดเ้าแค่ไม่กี่ประโยคก็รับไม่ได้แล้ว นิสัยเช่นนี้ของเ้าจะยืนอยู่อย่างมั่นคงในวังได้อย่างไร?”
เฟิ่งเฉี่ยนเงียบงัน
เฟิ่งชังคิดว่านางฟังคำพูดของเขา จึงพูดต่อ “ข้าเป็บิดาของเ้า เ้าจะเ้าอารมณ์บ้างข้าก็ทนได้! แต่คนอื่นนั้นไม่เหมือนกัน พวกนางเดิมทีก็เห็นเ้าเป็อริ รอคอยให้เ้าร่วงลงมาจากตำแหน่งฮองเฮา! เ้าไม่รู้จักซื้อใจคน ยังเอาแต่ล่วงเกินผู้อื่น เ้าว่าเ้าทำเช่นนี้เป็การรนหาที่ตายหรือไม่?”
เฟิ่งเฉี่ยนยังคงเงียบงัน
เฟิ่งชังเห็นว่าเกริ่นมาพอสมควรแล้วจึงเข้าเื่ทันที “แต่เ้าไม่ต้องกังวล พ่อได้คิดหาวิธีแทนเ้าเรียบร้อยแล้ว จะหาคนเข้าวังมาช่วยเ้าอย่างรวดเร็ว”
เฟิ่งเฉี่ยนขมวดคิ้วน้อยๆ ได้ยินเขาพูดต่ออีก “เ้ายังจำ เซียนเอ๋อร์ น้องบุญธรรมของเ้าได้หรือไม่ นางกำลังจะกลับมา! พ่อคิดจะให้นางเข้าวัง ให้นางมาเป็แขนซ้ายแขนขวาของเ้า ช่วยเ้าแย่งชิงความโปรดปราน!”
ม่านตาของเฟิ่งเฉี่ยนหดเล็กลง นัยนต์ตาของนางกลายเป็สีน้ำตาลอ่อน
เฟิ่งชังมองนางแล้วถอนใจราวกับเห็นอกเห็นใจ “เฉี่ยนเอ๋อร์ เ้าไม่อาจไม่ยอมรับว่า เวลาไม่ละเว้นคน เ้าเองได้ผ่าน่เวลาที่งดงามที่สุดไปแล้ว ไม่อาจไปแย่งชิงกับเด็กสาวๆ เ่าั้! บุรุษนี่นาล้วนเหมือนกันทั้งสิ้น มักจะชอบเด็ดดอกไม้สีสันสดใส! เซียนเอ๋อร์สาวกว่าเ้า รูปโฉมบุคลิกก็เหนือกว่าเ้า เชื่อว่าฝ่าาเห็นแล้วจะต้องหวั่นไหวแน่นอน! ถึงเวลานั้นเ้าเพียงแค่หนุนคลื่นลมให้สูง ส่งเสริมให้เซียนเอ๋อร์ได้รับความโปรดปราน ถึงเวลานั้นทั้งตำหนักในก็ไม่มีใครเป็คู่ต่อสู้ของพวกเ้าสองพี่น้องแล้ว!”
เฟิ่งเฉี่ยนพลันหัวเราะออกมา นางตบมือเมื่อกล่าวว่า “ความคิดเยี่ยมยอด ช่างเป็ความคิดที่เยี่ยมยอด!”
เฟิ่งชังได้ยินเช่นนั้นยินดียกใหญ่ “เ้าก็คิดว่าเป็วิธีการที่เยี่ยมยอดเช่นกัน? เช่นนั้นก็ดีแล้ว! ตอนแรกข้ายังกลัวว่าเ้าจะดื้อรั้นหัวแข็ง ไม่ยอมรับปากง่ายๆ! บิดาเช่นข้ายังได้เตรียมคำพูดไว้เต็มท้องเพื่อจะเกลี้ยกล่อมให้เ้าเห็นด้วย! ในเมื่อเ้ารับปากย่อมดีที่สุด บิดาจะได้ลงมือเตรียมการเื่นี้ั้แ่ตอนนี้...”
เฟิ่งเฉี่ยนหัวเราะเสียงเย็นแล้วส่งแขก “หากไม่มีเื่อื่น เชิญท่านกลับไปเถิด เปิ่นกง้าพักผ่อน”
เฟิ่งชังสังเกตสีหน้าท่าทางของนางแล้วอ้าปากยังคิดจะพูดอะไรอีก แต่เห็นสีหน้าของนางไม่รับแขก จึงยอมแพ้แล้วประสานมือ “เช่นนั้นกระหม่อมทูลลา!”
รอกระทั่งเฟิ่งชังออกไป มือที่ถือถ้วยน้ำชาของเฟิ่งเฉี่ยนกำแน่นขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งถ้วยน้ำชาในมือนางแตกเป็สี่ห้าส่วน เืไหลออกมาจากฝ่ามือของนางที่สั่นสะท้านไม่หยุด!
นางยังคงไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าศัตรูของนางมาจากคนนอกเท่านั้น อย่างน้อยๆ นางก็มีสกุลเฟิ่งเป็ูเาที่พึ่งพิงได้ ตอนนี้นางเพิ่งจะเข้าใจว่าหากคนในครอบครัวของตนเองลงมือขึ้นมานั่นจึงจะเรียกว่าโเี้ที่สุดและน่ากลัวที่สุด!
นางรู้ว่าไม่ว่านางจะรับปากหรือไม่ เฟิ่งชังล้วนคิดหาวิธีส่งบุตรสาวบุญธรรมของเข้าเข้าวังมาแน่นอน! เพราะในสายตาของเขานางแก่เกินไป และควบคุมยากเกินไป เขา้าหมากตัวใหม่ที่เป็คนซื่อสัตย์และเชื่อฟังยิ่งกว่า!
เฟิ่งเฉี่ยนหนอเฟิ่งเฉี่ยน เ้ายังมัวลังเลอะไรอยู่อีก?
เ้าจะต่อสู้กับสตรีที่เข้ามาในวังรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้หรือ?
เ้าเอาชนะความโหดร้ายของกาลเวลาได้หรือไม่?
เ้าสามารถเก็บกักหัวใจของบุรุษคนหนึ่งได้หรือ?
นางไม่มีความมั่นใจเลย!
สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เฟิ่งเฉี่ยนลุกขึ้นมาจากที่นั่ง
ถึงเวลาต้องตัดสินใจแล้ว!
ดวงหน้าที่อยู่ในความมืดนั้นดวงตาพลันเปล่งประกายกล้า ดวงตาของนางเจิดจ้าจนน่าใ!
เปลวไฟในแววตาของนางกำลังกระพือโหม เืลมกำลังเดือดพล่าน!
เริ่มั้แ่วินาทีนี้เป็ต้นไป จิ้งจอกเงินนักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งยุคกลับมาแล้ว!
ทว่าก่อนที่จะจากไป นางจะต้องทำเื่ๆ หนึ่งก่อน ไม่ทำไม่ได้...
นอกประตูวัง ม้าเร็วหลายตัวที่กำลังวิ่งโผนทะยานพลันหยุดลง ผู้ที่อยู่ข้างหน้าสุดสวมอาภรณ์สีเงินยวง สีหน้าเคร่งขรึม เขาดึงสายบังเหียนให้ม้าหยุดลง องครักษ์ผู้ทำหน้าที่เฝ้าประตูวังเข้ามาจูงม้า ทหารที่เหลือคุกเข่าลงพูดพร้อมกันว่า “ถวายบังคมฝ่าา!”
เซวียนหยวนเช่อะโลงจาหลังม้าเดินผ่านกลุ่มคนก้าวผ่านประตูวัง
ลั่วหยิ่งะโลงมาจากหลังม้าอีกตัวหนึ่งแล้วโยนสายบังเหียนให้ทหารนายหนึ่ง จากนั้นรีบเดินตามเข้าไป!
“ฝ่าา เหนื่อยมาตลอดทั้งคืน พระองค์จะกลับไปสรงน้ำและพักผ่อนสักหน่อยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“ไม่ต้องแล้ว! เมื่อคืนซือคงจวินเย่ส่งข่าวมาเชิญให้เจิ้นไปตรวจสอบร่องรอยของพญายมราชแต่กลับคว้าน้ำเหลว เื่นี้ไม่ชอบมาพากล!” เขาพลันนึกอะไรขึ้นได้ สีหน้าของเซวียนหยวนเช่อ่อนโยนลงหลายส่วน “เื่ที่เจิ้นออกจากวังเมื่อคืน เ้าได้ไปบอกกับฮองเฮาเหรือไม่?”
ลั่วหยิ่งตอบ “กระหม่อมได้กำชับจ้าวกงกงให้นำความไปบอกพ่ะยะค่ะ!”
เซวียนหยวนเช่อเอ่ยเสียงหนัก “เหตุใดเ้าไม่ไปด้วยตัวเองเล่า?”
ลั่วหยิ่งตะลึงงัน เขาััได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงจึงรีบกล่าวว่า “เดิมทีกระหม่อมคิดจะไปด้วยตัวเอง แต่จ้าวกงกงขันอาสา บอกว่าจะไปบอกความแทนกระหม่อม ดังนั้นกระหม่อม...”
เห็นสีหน้าของฮ่องเต้ไม่สบอารมณ์ เขารีบสำนึกผิด “กระหม่อมสำนึกผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
เซวียนหยวนเช่อนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “เ้าไปตำหนักเว่ยยางด้วยตนเองเดี๋ยวนี้ บอกฮองเฮาว่าคืนนี้เจิ้นจะไปกินข้าวที่ตำหนักของนาง!”
คิดถึงนางแล้วความเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งคืนพลันสลายไป
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ!” ลั่วหยิ่งรับคำสั่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้