หลงเอ่อในอาภรณ์ไม่ได้บ่งบอกว่าอยู่ในฐานะใดก้าวเข้ามาในตลาดที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ด้วยท่าทีเช่นยาจกใบหน้าขะมุกขะมอม ผมเผ้ายาวรุงรัง ดึงเอาหมั่นโถ่วสีน้ำตาลขะมุกขะมอมเช่นเดียวกับใบหน้ามาปัดฝุ่นก่อนจะกัดกินเข้าไปคำใหญ่
“ยี้ เ้ายาจกไปห่างๆ ร้านข้า อย่ามาให้เห็น สกปรกสิ้นดี มายืนเรียกลูกค้าหน้าร้านข้าได้อย่างไรกัน”
เสียงเถ้าแก่ร้านก๋วยเตี๋ยวตวาดเสียงดังลั่น
หลงเอ่อขยับตัวไปตรงด้านหน้าร้านขายซาลาเปา
“คุณชาย หมั่นโถว่ของท่านมันคงเน่าเสีย ข้าแบ่งซาลาเปาข้าให้ท่านกินดีไหม”
“แมะแมะแม่นางอ่า ไม่เก็บไว้ขายหรือไร”
“ข้าขายได้ไม่กี่มากน้อยซาลาเปาข้าคงไม่อร่อยจึงไม่มีคนซื้อ ท่านชิมให้หน่อยดีไหม”
รับเอาซาลาเปามากัดเข้าไปทันที หยุดเคี้ยวเหลือบตามองหญิงสาวร่างเล็กตรงหน้า
“ไม่ได้แย่อะไร อร่อยเสียอีก อร่อยจริงๆ ข้าไม่ได้โป้ปด”
หญิงสาวร่างเล็กยิ้มกว้างสดใส หอบเอาซาลาเปาใส่ในห่อผ้าส่งให้หลงเอ่อจนหมด
“เอ่อ เอ่อมันมากไป เ้าจะขาดทุน”
“ไม่เป็ไร แค่มีคนกินข้าก็ดีใจแล้ว”
แต่ยังไม่ทันไรร่างเล็กก็ถูกกระชากให้ไปยืนด้านหลังร่างสูงใหญ่ของบุรุษวัยกลางคนยืนเผชิญหน้ากับหลงเอ่อ
“ขายไม่ได้ยังกล้ามาแจกให้ยาจกหรือไร กลับไปเ้าจะต้องอดข้าวเย็น”
“ท่านพ่อ ลูกแค่สงสารเขา”
“สงสารคนอื่นอย่าลืมสงสารตัวเ้าเองด้วยนะกัวหยิน”
ทั้งลากทั้งดึงร่างเล็กติดมือไป หลงเอ่อสะอึกเข้าใส่
“พี่ชายใจเย็นๆ” ชายวัยกลางคนแสยะยิ้ม
“เ้ายาจก แกกล้ามาขวางข้าหรือ” หลงเอ่อยกมือขึ้นตรงหน้าทั้งสองข้างยอมจำนน
“ข้าหรือจะกล้า แค่อยากให้ท่านเบามือหน่อยนางตัวเล็กนิดเดียว”
กัวหยินเหลือบตามองร่างขะมุกขะมอมของหลงเอ่อ
“ท่านไปเถิดอย่ามายุ่งเื่นี้เลย”
“อือ ข้าไม่ยุ่ง ไม่ยุ่งจริงๆ”
ชายวัยกลางคนยิ้ม
“ดีไปให้พ้น เ้ายาจกนางเป็ลูกเลี้ยงของข้า จะทำอะไรนางก็ได้ ข้าคงไม่ต้องขอยาจกอย่างเ้าก่อนใช่ไหม”
หลงเอ่อส่ายหน้ากัดฟันหันหลังเดินจากไป
วันต่อมา
“ซาลาเปาทั้งหมดนี่ ไท่จือให้ข้ามาซื้อเพื่อส่งเข้าไปในวังหลวง และในทุกวันเ้าจะต้องส่งซาลาเปาในร้านของเ้าเข้าวังหลวงตามบัญชาของไท่จือ”
กัวหยิน นิ่งงันทั้งดีใจและประหลาดใจ
“พรุ่งนี้เพิ่มจำนวนซาลาเปาเ้าอีกหนึ่งเท่าจากของเดิมนี่คือ เงินค่าซาลาเปาทั้งหมด”
ถุงเงินหนักอึ้งถูกวางลงบนมือของกัวหยิน ชายวัยกลางคนที่เป็บิดาเลี้ยงของกัวหยินรีบรับเอาถุงเงินมาถือไว้
“ฮ่าาาาขอบคุณใต้เท้าพรุ่งนี้ข้าจะทำซาลาเปามามากหน่อย” รวบถุงเงินใส่ไว้ในอกเสื้อ
กัวหยิน ห่อซาลาเปาอย่างเป็ระเบียบเรียบร้อย ย่อกายลงงดงามส่งห่อซาลาเปาให้กับคนจากวังหลวง
"ใต้เท้านี่คือส่วนของท่าน กัวหยินขอบคุณใต้เท้าที่ ช่วยซื้อซาลาเปาจนหมด"
"เ้าทั้งแจกทั้งแถมทั้งๆ ที่ซาลาเปาขายได้"กัวหยินก้มหน้า
"พรุ่งนี้ข้าจะนำเงินที่ได้ไปซื้อวัตถุดิบกับแป้งสาลีมาโม่ให้มากหน่อยจะได้พอแบ่งปัน ท่านพ่ออย่าโกรธไปเลยเงินนั่นก็มากมาย"
"เห็นแก่ว่าได้เงินมายเยอะข้าจึงไม่ถือโทษเ้า แต่พรุ่งนี้จะต้องได้เงินเยอะกว่านี้เข้าใจใช่ไหมกัวหยิน"
ก้มหน้านิ่ง คงต้องโม่แป้งจนมือแตกจึงจะได้ซาลาเปามากกว่านี้มารดาป่วยทำงานหนักไม่ไหวพ่อเลี้ยงก็เอาแต่ร่ำสุรากับหลงใหลหญิงงามในหอนางโลมกัวหยินต้องทำซาลาเปามาขายนำเงินซื้อข้าวปลาให้น้อง แต่ไม่วายที่พ่อเลี้ยงยังตามมารับเงินขายซาลาเปา
วังหลวง
"นางเป็อย่างไรบ้างรับเอาเงินของข้าไปหรือไม่"
"พ่ะย่ะค่ะหากแต่บิดาเลี้ยงของนางเป็ผู้รับถุงเงินไปนางยังใจดีแบ่งซาลาเปา ออกเป็ส่วนให้กับพวกข้าแทนคำขอบคุณซาลาเปาของนางรสดีอีกทั้งเนื้อแป้งยังนุ่มเนียน"
"พรุ่งนี้นำคนไปรับซาลาเปานางมาอีกแล้วเ้าก็ให้เงินกับนาง"
"ไท่จือ ข้าน้อยคิดว่าวิธีนี้ไม่ได้ผลตกเย็นคนของเราพบว่าบิดาเลี้ยงของนาง ตรงเข้าไปในหอนางโลมแจกเงินทองเหมือนได้มาฟรีแต่เป็แม่นางน้อยกัวหยินคนนั้นที่นั่งโม่แป้งจนดึก"
"ข้าควรจะทำอย่างไรดี"
"หญิงงามผู้มีจิตใจคุณธรรมหายากยิ่ง ไท่จือท่านเองก็น่าจะรู้ดีในข้อนี้ อีกอย่างฝ่าาและฮองเฮาก็ไม่เคยกะเกณฑ์เื่ที่..เื่ที่ไท่จือจะรักชอบใครเช่นนั้นหญิงงามจิตใจดีเช่นนี้ไท่จือท่านควรส่งเสริมนาง"
หลงเอ่อยิ้ม บางทีหญิงบ้านป่า เหมือนเจียเฟยและกัวหยินอาจเหมาะที่จะเป็คู่ครองมากกว่าบุตรีขุนนางหรือองค์หญิงต่างแคว้นที่รอให้คนเอาอกเอาใจพวกนาง และยังชอบทำตัวตรงตามระเบียบแบบแผน แม้ไม่มีเื่ให้หนักใจแต่ก็ไม่เกินคาดหมาย
บ้านป่า
“ท่านแม่ซาลาเปาของเรามีคนมาซื้อจนหมดข้าไม่ต้องทนนั่งขายอยู่ที่นั่นจนเย็นย่ำ”
“ซาลาเปาของเ้ารสชาติดียิ่งนักใครได้กินก็ต้องติดใจ กัวหยินของแม่ได้เงินมาก็เอาเงินไปซื้ออาภรณ์สวยๆ เสียบ้างเ้าเข้าสู่วัยสาวทำงานหนักเพียงลำพังแม่เองช่วยไม่ได้มากนักเ้าห่วงแม่ห่วงน้องมากไป บ้านนี้มีเพียงเ้าที่พึ่งพาได้ แม่อยากให้เ้าได้สิ่งตอบแทนเสียบ้าง”
“ท่านแม่ท่านพ่อรับเงินไว้เสียหมดไว้พรุ่งนี้ข้าจึงจะขอรับเงินมาให้ท่าน”
“สามีชั่ว นั่นข่มเหงเ้าอีกแล้ว ข้าจะฆ่าเขาเสียแม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ยอม”
“นางหญิงชั่ว ใครกันจะฆ่าข้า”
ฝ่ามือหนาสะบัดเข้าใส่ใบหน้าเล็กจนล้มลงกับพื้น
“ท่านพ่อ ได้โปรดอย่าทำร้ายท่านแม่”
“พวกเ้ามีหน้าที่หาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ก็ต้องหาเงินมาใครคิดเป็ศัตรูกับข้าอย่าหาว่าข้าไม่เตือน” ถ่มน้ำลายลงพื้น
มารดาของกัวหยินหยิบมีดในครัวมากำไว้ลุกพลวดพุ่งเข้าใส่สามีแต่เ้าคนถ่อยกลับหันมาบีบคอแน่น
“ตายเสียบังอาจนัก”
“ท่านพ่ออย่า” เงื้อมือขึ้นตั้งใจจะฟาดลงไปที่ใบหน้าของกัวหยิน
“ไท่จือเสด็จจจจจ”
มือใหญ่ของหลงเอ่อซัดเข้าใส่ร่างสูงใหญ่ของบิดาเลี้ยงของกัวหยินจนเซถลาลงไปกองกับพื้น ล้มลุกคลุกคลาน เงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าดวงตาเหลือกถลน ขยับกายคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อเห็นคมกระบี่ขององครักษ์จ่อเข้าที่คอหอย
“ไท่จือโปรดไว้ชีวิตด้วย ไท่จือได้โปรด”
“องครักษ์จับตัวคนผู้นี้ไปขังไว้ในคุกหลวงรอการไต่สวน”
“ขอบพระทัยไท่จือ ขอบพระทัยไท่จือ”
หลงเอ่อพยุง กัวหยินให้ลุกขึ้น ด้วยสายตาห่วงใย
“เ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่”
กัวหยินก้มหน้าหลบตาส่ายหน้าไปมา
“ท่าน ท่าน”
กัวหยินจำได้ว่าคือยาจกเมื่อวันก่อนไม่ผิดแน่ ทรุดกายลงกับพื้น
“ไท่จือ กัวหยินล่วงเกินท่านแล้ว”
“ล่วงเกินหรือ ข้ากลับรู้สึกขอบคุณเ้า ที่ให้ซาลาเปาข้าในวันนั้น”
“แต่นั่นเพียงของเหลือกัวหยินหวังว่าไท่จือจะไม่ถือสา”
“ไม่ถือ ข้ามารับเ้าเข้าไปในวังหลวงช่วยสั่งสอนคนในห้องเครื่องทำซาลาเปารสเลิศ”
เอื้อมมือดึงร่างเล็กให้ลุกขึ้น มารดาถอนหายใจยาว
“เ้ายินดี เข้าวังไปกับข้าไหม” ทอดเสียงอ่อนโยน
“ข้า ข้า”
“ข้านำเกี้ยวมารับเ้าเข้าวัง เ้าไม่เห็นใจข้าหน่อยหรือหากจะปฏิเสธไม่กลัวว่าข้าจะเสียใจหรือ”
“ถือว่าข้าขอร้อง” กัวหยินพยักหน้าช้าๆ หลบตาเสีย
“ท่านน้าท่านกับน้องๆ ของกัวหยินเองก็ต้องเข้าไปในวังหลวงข้ากำชับให้หมอหลวงช่วยดูแลอาการาเ็ของท่านในทันทีหากไปถึง”
มือเล็กที่ถูกกุมไว้พาเดิน ขึ้นไปบนเกั้ยวหลังใหญ่ กัวหยินดึงมือออกช้าๆ
“ทะทะไท่จือ กัวหยินไม่บังอาจ” ยืนนิ่งไม่ยอมขึ้นเกี้ยว
หลงเอ่อช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนพาเดินขึ้นไปบนเกี้ยว ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน
“เฮ้อ ข้าก็ไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เสียด้วย เคลื่อนเกี้ยว”
ขันทีข้างกายอมยิ้ม กัวหยินซบหน้ากับอกกว้างด้วยความเขินอาย
หลงเอ่อถอนหายใจยิ้มเป็สุข บางที่สิ่งที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่สูงที่สุด เช่นเดียวกับสิ่งที่ถูกใจที่สุดอาจไม่อยู่บนยอดเขาเช่นกัน
เจียเฟยกับม่อเฉวียนมีทายาทแล้วเขาจะช้าอยู่ไยให้ม่อเฉวียนสบประมาท
เกี้ยวเคลื่อนตัวไปยังวังหลวง พรุ่งนี้เขาจะพากัวหยินเข้าเฝ้าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ และกำหนดการแต่งตั้งไท่จือเฟยก็จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้
ยิ้มกว้างสดใส หันมองคนตัวเล็กข้างๆ ที่บัดนี้มีเพียงแววตาตื่นตระหนกแววตาเศร้าสร้อยที่เขาเคยเห็นหายไปเสียแล้ว
“ไม่ต้องกลัว ข้าจะอยู่ข้างๆ เ้า”
กุมมือกัวหยินที่ยิ้มให้เขาในครั้งแรกเป็รอยยิ้มที่หลงเอ่อสัญญาว่าจะให้รอยยิ้มนี้คงอยู่ตลอดไป
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะผิดถูกขออภัย
พบกันใหม่ในเื่ต่อๆ ไป
ตอนพิเศษ2
"พี่ใหญ่ๆๆๆๆๆๆ"
มู่เฉวียนวิ่งเข้ามาในห้องที่ม่อเฉวียนกับเจียเฟยกำลังนอนกอดก่ายกันนางถือวิสาสะเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
ร่างอวบของเจียเฟยที่นอนตะแคงกำลังจะลุกขึ้นแต่ม่อเฉวียนกลับกดให้นอนในท่าสบาย
"ไม่ต้องข้าจัดการนางด้วยตัวเอง"
"แต่ฝ่าาสายแล้วเพคะ"ม่อเฉวียนจุมพิตที่หน้าผากเนียน
"เ้าต้องพักผ่อนจะลุกไปไหนทำอะไรข้าดูแลเ้าเองดีไหมข้าทำแทนเ้าไม่ต้องลุกเดี๋ยวลุกของเราจะลำบากไปด้วย"เจียเฟยยิ้ม
"พี่ใหญ่ฝ่าาททททท"เสียงมู่เฉวียนยังดังอยู่ด้านนอกม่อเฉวียนถอนหายใจจุมพิตที่ริมฝีปากบางอีกครั้งแล้วก้าวออกจากห้องไป
"ฮือออออออพี่ใหญ่ เ้าองครักษ์คนนั้นเ้าคนผีทะเลนั่น"สะอื้นดังๆ จนม่อเฉวียนต้องถอนหายใจอีกครั้งยกมือขึ้นจับไหล่บางทั้งสองข้างของมู่เฉวียน
"หยุดร้องแล้วค่อยๆ เล่า"
"ก็ได้ เ้าองครักษ์นั่นไม่ยอมแต่งกับข้าจนกว่าเขาจะได้รั้งตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร"ม่อเฉวียยิ้มส่ายหน้าไปมาคิดว่าเื่ใหญ่อะไรที่ไหนได้ก็แค่เื่ที่หานตงเล่นตัวไม่สิเขาคงแค่ไม่อยากให้ใครครหาว่าเขาต่ำต้อยกว่าองค์หญิงรองมู่เฉวียน
"ทำไม"
"เขาบอกว่าอึกๆ อึกๆ เขาต่ำต้อยกว่าข้าเป็ใครเพียงองครักษ์ปลายแถวเลยไม่กล้าแต่งข้าทั้งที่เสด็จแม่ประทานอนุญาตแล้ว เขาๆๆ อึกๆ ก็ยังไม่เห็นใจยอมแต่งกับข้า"
ม่อเฉวียนดึงร่างเล็กเข้ามาซบอก
"เดี๋ยวพี่ใหญ่จัดการให้เ้าเองดีไหม เ้าหมอนี่บังอาจทำองค์หญิงรองน้ำตาริน"
"ฮืออออข้าบอกเขาแล้วว่าพี่ใหญ่จะแต่งตั้งเขาในฐานะหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรก็เพียงเื่ง่ายนิดเดียวแต่เขาไม่ยอมบอกว่าเขาไม่ได้ไต่เต้าด้วยตัวเอง"
"นับเป็เื่ที่ดีนะหากเขาคิดแบบนั้นต่อไปจึงไม่มีใครกล้าครหาเขา ข้าจะพูดกับเขาเื่นี้ให้เขาค่อยๆ เข้าใจว่าเ้าไม่อาจรอได้ดีไหม"
"พี่ใหญ่ต้องจัดการเขา ข้าขายหน้าไม่น้อยลงทุนไปขอร้องเขาให้แต่งกับข้าเขาแค่บอกว่าจะแต่งแต่ต้องรอจนกว่าเขาจะได้รั้งตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร แต่จะต้องด้วยตัวเขาเองมิใช่พี่ใหญ่แต่งตั้งเขาเพราะเห็นแก่หน้าข้าฮืออออแบบนี้ข้าไม่รอไปอีกสิบปีหรือไรฮือออออ"
เจียเฟยพาร่างอวบออกมายืนพฟังคนทั้งสอง ม่อเฉวียนกับมู่เฉวียนรีบเข้าไปพยุงให้เจียเฟยไปนั่งที่แท่นนั่ง
"องค์หญิงไม่ควรไปใส่ใจเื่นี้แต่งหรือไม่ก็เื่ของเขา องครักษ์ผู้นี้แต่ก่อนข้าเห็นว่าเขาทำหน้าเศร้าเมื่อองค์หญิงไม่รักพอองค์หญิงไปง้อเขาเขากลับเล่นตัวเชอะต้องให้เป็ฝ่ายรอเสียจนอ่อนใจเสียบ้าง องค์หญิงเชื่อเจียเฟยทำตามแผนการของเจียเฟยไม่นานองครักษ์ตัวร้ายนั่นจะต้องมาคุกเข่าขอแต่งกับองค์หญิงเอง"ม่อเฉวียนยิ้ม
"เชื่อฮองเฮาของข้าเถอะมู่เอ่อร์นางดำเนินกลยุทธ์แบบนี้ไงพี่ใหญ่ของเ้าจึงไปไหนไม่รอดถึงคิดจะอยากไปก็ไปไม่รอดเพราะนางเป็หนึ่งเดียวในหัวใจ"กดจมูกโด่งที่หน้าผากเบาๆ เจียเฟยยิ้ม
"แล้วข้าควรทำอย่างไรอึกๆๆๆ"
สองวันผ่านไป
"หรูหรานท่านเห็นองค์หญิงรองหรือไม่"หานตงที่ถือกระบี่เดินไปเดินมาหน้าตำหนักของมู่เฉวียนสีหน้าร้อนรน
"เอ องค์หญิงไม่ได้อยู่ที่ตำหนักหรือเ้าคะข้าน้อยก็รับบัญชาไทเฮาให้ตามองค์หญิง"
หานตงขมวดคิ้วคม
"ข้านึกว่านางอยู่ที่ตำหนักไทเฮาข้ามาที่นี่สองวันมานี้ไม่พบนางนางไปที่ไหนได้"หรูหรานส่ายหน้า
"ข้าน้อยได้ยินว่า อีกไม่กี่วันไท่จือแคว้นฉินจะส่งคนพร้อมกองกำลังอารักขามารับองค์หญิงรองไปที่แคว้นฉินเพื่อร่วมฉลองงานมงคลอะไรสักอย่างเดิมส่งเทียบเชิญฝ่าากับฮองเฮาด้วยแต่ฝ่าาทรงห่วงใยฮองเฮาที่ทรงพระครรภ์การเดินทางยากลำบากจึงไท่จือจึงระบุว่าต้องเป็องค์หญิงรอง"
หานตงขมวดคิ้ว
"ทำไมนางไม่บอกข้าสักคำ"
"เอ่่นี้องค์หญิงคงกำลังยุ่งๆ ฮองเฮาทรงให้แช่น้ำอบบำรุงผิวพรรณและ ให้นางในหอตัดเย้บมาตัดอาภรณ์ใหม่ให้กับองค์หญิงป่านนี้องค์หญิงคงรั้งที่ตำหนักชิงหนิงกง ท่านองครักษ์ไปที่นั่น วานบอกองคืหญิงด้วยว่าไทเฮาทรงมอบเครื่องประดับสำหรับร่วมงานมงคลแคว้นฉินให้ไปที่ตำหนักพระพันปีด้วย"
คราวนี้ยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
"แค่ไปงานมงคลทำไมต้องแช่น้ำอบ ทำไมต้องมอบเครื่องประดับ หรือว่า.....จะส่งไปในตำแหน่งไท่จือเฟย"สาวเท้ายังตำหนักชิงหนิงกง
ตำหนักชิงหนิงกง
"คิคิคิคิ สวยที่สุดองค์หญิงจะต้องงดงามที่สุดในงานวันนั้น"
"พี่สะใภ้ท่าลก่าวเกินไปแล้วข้าแค่หวังว่าพี่ชายหลงเอ่อจะไม่ต้องขายหน้า"
"องค์หญิงงดงามเพียงนี้เกรงว่าใครเห็นจะต้องตกตะลึง ฮ่าาาาไท่จือเองก็คงคาดไม่ถึง"
"องครักษ์หานตงขอเข้าพบองค์หญิงรองมู่เฉวียน"ขันทีหน้าห้องขานดังๆ ประตูเปิดออกหานตงเดินเข้าไปข้างในสายตาพุ่งตรงไปยังมู่เฉวียนในอาภรณ์งดงามใบหน้าที่แต่งแต้มจนงดงามอ่อนหวาน หานตงถอนหายใจยาว
"องค์หญิงหานตงมีเื่อยากจะกราบทูล"
"ว่ามา"
"เชิญองค์หญิงที่ศาลา"มู่ฌแวียนหันมองเจียเฟยที่พยักหน้าขึ้นลง
"ไปเถอะค่ะองค์หญิงในเมื่อ ท่านองครักษ์มาถึงนี่แล้วต่อไปก็เป็องค์หญิงที่จะต้อง....บอกข่าวดีกับท่านองครักษ์"คำพูดของเจียเฟยยิ่งทำให้หานตงร้อนรุ่มรีบคว้ามือบางของมู่เฉวียนพาออกจากตำหนักชิงหนิงกง
"เอะเบาหน่อย"
"องค์หญิงข่าวดีอะไร"
"ก็ข่าวดีเื่ที่ท่านไม่แต่งกับข้า........"หานตงดึงร่างบางมาแนบกายกดริมฝีปากกับปากบาง ถอนริมฝีปากออกช้าๆ ก็มุ่เฉวียนงดงามเพียงนี้ เขาจะห้ามใจได้อย่างไรยิ่งคิดว่าหากมู่เฉวียนเปลี่ยนใจจากเขา
"ไม่แต่งแล้วอย่างไรอย่าบอกนะว่า จะไปแต่งกับไท่จือแคว้นฉิน"
"ก็ท่านไม่แต่งกับข้าท่านเื่มากปัญหาเยอะ ข้าก็ควรไปเสีย หากข้ารอท่านคงสิบปีกระมั้ง" หานตงกอดร่างบางแนบอกแน่น
"ไม่ให้ไป ข้ายอมแล้วไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ข้ายอมแต่งยอมแต่งกับองค์หญิงแล้วแล้วยอมให้คนครหาเพียงเพื่อได้อยู่กับองค์หญิง"
เพียงคิดว่ามู่เฉวียนจะไปเขาก็สะท้อนใจยิ่งนัก นางตัดเขาได้ง่ายดายแต่เขากลับไม่อาจทนได้ ไม่เห็นนางแค่เพียงสองวันที่ไปที่ตำหนักไม่ได้พบหน้ากันหานตงก็แทบจะขาดใจ
"ยอมแต่งแล้วหรือยอมแต่งง่ายดายเพียงนั้นหรือแต่เกรงว่าอย่างไรข้าก็ต้องไป"มู่เฉวียนเริ่มสนุกที่ได้แกล้งให้หานตงร้อนรน หานตงกอดไม่ยอมปล่อย
"ข้าไม่ให้ไป"น้ำเสียหนักแน่น
"เช่นนั้นข้าบอกข่าวดี ว่าฝ่าาให้ท่านอารักขาข้าไปยังแคว้นฉินเพื่อร่วมพิธีแต่งตั้งไท่จือเฟย"หานตงอ้าปากค้าง
"ในที้่สุดท่านก็เลือไท่ตจือแคว้นฉิน"
"นี่เลิกคิดไปคนเดียวได้ไท่จือแคว้นฉินพบรักแท้้าแต่งไท่จือเฟยนามกัวหยินเป็สามัญชนที่คู่ควร แล้วข้าไปเพราะเป็แขกคนสำคัญ พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ไปไม่ได้ จึงวานให้ข้าทำหน้าที่แทนและท่านก็ต้องอารักขา ข้าไปหลังจากนั้นพอกลับมาพี่ใหญ่จึงจะประทานงานแต่งงานของเราสองคน
หานตงยิ้ม รวบเอวบางมากอดไว้ก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากบาง
"ท่านจะแต่งกับข้าไหมองค์หญิงรอง"
"ข้ากำลังคิดว่าจะอยู่ที่นั่นนานหน่อยยังไม่เร่ง"
"ไม่ได้นะไม่เช่นนั้นฝ่าากับไท่จือแคว้นฉินทำคะแนนนำโด่งเราสองคนอาจมีลูกช้ากว่าพวกเขาเ้ายอมได้หรือ"
มู่เฉวียนยิ้มเอียงอาย
"ท่านก็เร่งหน่อยสิ"
"พูดมาแบบนี้ ข้าอารักขาท่านไปที่แคว้นฉิน พอไปถึงแคว้นฉินองค์หญิงรองดวงใจของข้าก็ตั้งครรภ์พอดี555"
มู่เฉวียนทุบอกกว้างเบาๆ
"แต่ก็ดีนะๆๆๆ"หานตงยิ้มก้มลงจุมพิตที่ปากบางหวานดูดดื่ม
เจียเฟยยืนยิ้มอยู่ที่ไกลๆ ม่อเฉวียนกอดรวบจากด้านหลัง
ขอบใจเ้าขอบใจขันทีหน้าหวานที่ทำให้ข้ามีวันนี้วันที่รู้ว่าหัวใจข้ามีเพียงเ้าคนเดียว
ดอกเหมยร่วงโรย
ไปแล้วกลับใบสีเขียวเริ่มผลิใหม่ราวกับหัวใจรักที่กำลังเบ่งบาน
ขอได้รับคำขอบคุณ จันทร์ส่องแสง ไว้พบกันใหม่เื่ต่อไป
ขอบคุณที่อยู่ร่วมกันมาขอบคุณแรงใจคนอ่านไม่ว่าจะหนึ่งคนหรือพันคนก็คือกำลังใจ