วันอังคาร
เป็อีกหนึ่งคาบเรียนวิชาสมุนไพรที่ธรรมดาเรียบง่าย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าสังเกต นอกจากเฮอร์ไมโอนี่ที่ทำคะแนนให้กริฟฟินดอร์ได้หนึ่งแต้มแล้ว เนวิลล์ที่มักจะเก็บตัวเงียบก็สามารถตอบคำถามของศาสตราจารย์ สเปราต์ได้อย่างถูกต้อง จนได้รับเสียงปรบมือจากทั้งห้อง
หลังจากนั้น คาบเรียนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่ทุกคนตั้งตารอก็มาถึง ยกเว้นเดม่อน
เขานั่งประจำที่ท้ายห้องฝั่งมุมอย่างเงียบ ๆ ั้แ่เนิ่น ๆ
พฤติกรรมแบบนี้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่พอใจ แม้แต่รอนกับแฮร์รี่ก็ยังงงๆ ทำไมเดม่อนถึงเลือกจะี้เีในคาบเรียนสำคัญแบบนี้?
“เขาอาจจะคิดว่าตัวเองเก่งเื่การป้องกันตัวจากศาสตร์มืดอยู่แล้ว ไม่จำเป็ต้องฟังบทเรียนมั้ง”
เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองไปยังมุมห้อง พร้อมบอกความเห็นของเธอกับรอนและแฮร์รี่
“งั้นเหรอ?” รอนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ถ้าเป็เดม่อนก็ไม่แปลกหรอก หมอนั่นเล่นจัดการเด็กสลิธีรินปีสี่บนรถไฟไปแล้วนี่นา”
“แต่ฉันไม่คิดว่าเดม่อนเป็คนแบบนั้นนะ” แฮร์รี่พูดพลางเหลือบมองไปที่เขา เดม่อนกำลังอ่านหนังสือชื่อ “คาถาพื้นฐานและการแก้คาถา” ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“โอ้โห พอเถอะเพื่อน นายพูดจาน่าคลื่นไส้กว่าเราซะอีก!”
รอนยังพูดไม่จบ จู่ ๆ กลิ่นกระเทียมแรง ๆ ก็ลอยมาจากทางไกลจนเขาแทบจะอาเจียน
เดม่อนยกมือขึ้นพัดกลิ่นตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ พยายามอดกลั้นไม่ใช้คาถาลมกวาดอากาศ
ชายผู้นั้นคือ ควีเรลล์ ศาสตราจารย์วิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดประจำปีหนึ่ง และเป็ร่างที่โวลเดอมอร์สิงสู่ในขณะนี้
ใน่เวลาที่ยังไม่พร้อม เดม่อนยังไม่อยากสร้างปัญหากับพวกนั้น อย่างน้อยก็รออีกไม่กี่เดือน ให้พร้อมก่อนเถอะ
แต่ถึงเดม่อนจะทนได้ เด็กคนอื่น ๆ ก็เริ่มบ่นไม่หยุด เพราะเนื้อหาที่ควีเรลล์สอนทั้งชั่วโมงมีแต่เื่ความเชื่อพื้นบ้านไร้สาระ แถมยังติดอาการพูดตะกุกตะกัก ไม่มีแม้แต่คาถาเดียวที่ถูกสอน
เดม่อนมองดูเหล่าเด็ก ๆ ที่เริ่มหมดอารมณ์จะเรียน แล้วอยากพูดว่า “รู้นะว่าพวกนายร้อนใจ แต่ใจเย็นก่อนเถอะ…เพราะของจริงมันยังมาไม่ถึง”
ตลอดบ่ายวันนั้น รอนกับแฮร์รี่เอาแต่นั่งบ่นในห้องนั่งเล่นว่า ศาสตราจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดของพวกเขาแย่ขนาดไหน เนวิลล์ที่ปกติไม่ค่อยพูดก็ยังร่วมวงด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาก็ผิดหวังไม่แพ้กัน
“พูดจริงนะ! ถ้าควีเรลล์ยังเป็แบบนี้อยู่ล่ะก็ ฉันว่าควรให้เดม่อนมาสอนแทนเถอะ! เขาออกจะเป็ ‘เ้าชายแห่งการดวล’ นะ!”
รอนบ่นเสียงดัง และหัวข้อก็เริ่มเปลี่ยนไปพูดถึงเดม่อนผู้ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ
“เ้าชายแห่งการดวลเหรอ...” แฮร์รี่ทวนคำอย่างแ่เบา เขารู้สึกว่าเดม่อนดูไม่สนใจกับฉายานั้นสักเท่าไหร่
“ทำไมล่ะ? ฉายานี้โคตรเจ๋งเลยไม่ใช่เหรอ!”
รอนดูภูมิใจแทนอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ตอนอยู่บนรถไฟ เขาอยู่ตรงจุดที่เห็นเดม่อนชี้ไม้กายสิทธิ์ใส่นักเรียนปีสี่ด้วยท่าทางสุดเท่
เนวิลล์พยักหน้าคล้อยตาม เพราะเขาเองก็เห็นเหตุการณ์ใกล้ชิดยิ่งกว่ารอน
ซีมัสที่ไม่ทันได้เห็นทั้งหมดตอนนั้นก็ทำท่าจะถามรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ทันใดนั้นเอง เฮอร์ไมโอนี่ที่เพิ่งกลับมาจากห้องสมุดก็เดินเข้ามาถามทั้งสี่ว่า:
“พวกนายมีใครรู้ไหมว่าเดม่อนไปไหน?”
“ไม่ใช่อยู่ที่ห้องสมุดเหรอ?”
“ชัวร์ว่าไม่อยู่แน่นอน”
เธอเดินตรวจทั่วห้องสมุดก่อนจะกลับมาเพื่อยืนยันข้อนี้
“ไม่อยู่ห้องสมุดงั้นเหรอ? แล้วเขาจะไปไหนได้อีก?” รอนเริ่มสงสัย “อย่าบอกนะว่าหมอนั่นมีอะไรปิดบังพวกเรา ไม่แฟร์เลยนะ! พวกเราก็รูมเมทกันนี่นา!”
“บางทีเขาอาจจะมีเหตุผลส่วนตัวก็ได้” แฮร์รี่พูดปกป้องแทนเดม่อน
“ก็อาจจะเป็แบบนั้นล่ะนะ หวังว่าพวกนายจะหาคำตอบมาได้นะ”
เฮอร์ไมโอนี่วางหนังสือแล้วเดินออกจากห้องนั่งเล่นอย่างสงบ รอนกับแฮร์รี่ได้แต่มองเธอหายไปตรงบันได ก่อนจะปรากฏตัวอีกทีที่ประตูทางออก
“เฮอร์ไมโอนี่ ไม่อยู่คุยกับพวกเราหน่อยเหรอ?”
“ฉันมีหนังสืออีกเป็ตั้งต้องอ่านนะ ไม่มีเวลามาเสียกับพวกนายหรอก แต่ถ้ามีอะไรน่าสนใจแล้วเล่าให้ฉันฟังบ้าง ขอบใจล่วงหน้า”
“เธอ...ดูถูกพวกเรารึเปล่าวะ?” รอนหันไปถามแฮร์รี่แบบงง ๆ
“อืม...ดูเหมือนจะใช่นะ”
แฮร์รี่รู้สึกว่าเฮอร์ไมโอนี่คงจะดูถูกรอนมากกว่าเขา แต่เพื่อรักษาน้ำใจเพื่อน เขาจึงตอบไปแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีเวลาจะมานั่งคิดเื่นี้นานนัก
เช้าวันพฤหัสบดี เด็กปีหนึ่งทุกคนแทบจะบ้าคลั่ง
เพราะมีประกาศติดไว้ในห้องนั่งเล่นของกริฟฟินดอร์ พวกเขากำลังจะได้เรียนบินกับไม้กวาด! แม้ว่าจะเรียนร่วมกับเด็กบ้านสลิธีรินก็ตาม
ั้แ่่กินอาหารเช้า เฮอร์ไมโอนี่ก็เอาแต่ท่องข้อควรรู้ในการบินที่เธออ่านมาจากหนังสือ “ต้นกำเนิดของควิดดิช” ทำเอาแฮร์รี่กับรอนปวดหัวกันทั้งคู่
เดม่อนกินอาหารเช้าเงียบ ๆ ไม่ได้ร่วมวง ส่วนเนวิลล์ตั้งใจฟังทุกคำอย่างจดจ่อ
ในขณะที่ซีมัส ฟินนิกัน ก็กำลังเล่าประสบการณ์ตอนเด็กที่เขาบินไปทั่วทุ่งั้แ่เพิ่งมีเวทมนตร์ใหม่ ๆ
รอนก็ไม่ยอมน้อยหน้า เล่าว่าเขาเคยขี่ไม้กวาดเก่าของพี่ชายเกือบชนเข้ากับเครื่องร่อน!
เด็ก ๆ ที่มาจากครอบครัวพ่อมดแม่มดต่างก็พูดถึงควิดดิชกันไม่หยุด จนกระทั่งเหล่านกฮูกมาส่งของ ทำให้ทุกคนเงียบลงชั่วคราว
เนวิลล์ได้รับลูกแก้วช่วยจำจากคุณย่า ถ้าเขาลืมอะไรสักอย่าง มันจะเปลี่ยนเป็สีแดง ซึ่งตอนนี้มันกำลังแดงแปร๊ด!
เนวิลล์หน้าหมองลงทันที ความตื่นเต้นเกี่ยวกับการบินก็ลดลงไปเยอะ
และในตอนนั้นเอง เดรโก มัลฟอยก็เดินผ่านโต๊ะกริฟฟินดอร์ เห็นลูกแก้วที่เป็สีแดงแล้วก็หัวเราะออกมา
เขาหันไปหาเดม่อน พร้อมพูดขึ้นอีกครั้งว่า:
“เดม่อน นายไม่เลือกเข้าบ้านสลิธีรินนี่มันเสียของชัด ๆ”
เขายืนหมุนตัวอย่างกับนกยูงแผ่หาง แล้วพูดกับทุกคนว่า:
“ดูสิ เ้าชายแห่งการดวลผู้ยิ่งใหญ่ของเราอยู่กับพวกโง่เง่าแบบนี้ทุกวัน เขาไม่กลัวจะติดเชื้อความงี่เง่าบ้างเหรอ?”
“มัลฟอย ถ้าไม่อยากพลาดคาบคาถาตอนเช้าเพราะกลายเป็หินล่ะก็ ฉันว่าเงียบปากซะเถอะ”
เดม่อนวางไส้กรอกลงโดยไม่แสดงความโกรธแม้แต่น้อย
พอได้ยินคำว่า “กลายเป็หิน” มัลฟอยนึกถึงเหตุการณ์บนรถไฟทันที ใบหน้าถึงกับซีดเผือดแล้วรีบเดินหนีไปอย่างหัวเสีย
“คอยดูเถอะ!” เขาหันกลับมาขู่เสียงดังเมื่อเดินห่างออกไปได้สามก้าว
“เพ็ตริฟิคัส โททาลัส!”
เดม่อนะโออกไปทันที ทำเอามัลฟอยถึงกับสะดุ้งตัวะโ ขนลุกซู่ แต่เขาสังเกตได้ทันว่าเดม่อนไม่ได้ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาเลย คงแค่ขู่เล่น
เมื่อเข้าใจสถานการณ์แล้ว หน้าของมัลฟอยก็ยิ่งดูไม่จืด ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนนักเรียน เขาก็รีบเดินจากไปอย่างอับอาย
เหตุการณ์นี้ทำให้แฮร์รี่กับรอนลืมเื่บินไปชั่วคราว หันมานินทามัลฟอยแทนว่าเขาน่ารังเกียจขนาดไหน
(จบบท)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้