เฉินชุ่ยอวิ๋นขมวดคิ้วทันทีเมื่อทราบเื่ “เจี้ยนเหวินนี่จริงๆ เลยนะ ทำไมส่งเงินให้แกมากมายขนาดนั้น? เฮ้อ เขามือเติบขนาดนี้ได้ยังไงกัน ไม่ได้ๆ
พวกเรารับเงินเขามาไม่ได้ หยวนหยวน แกฟังคำแม่นะ ส่งเงินคืนเขาไปซะ!”
เจิ้งหยวนไม่เอาด้วยหรอก มาถึงมือเธอแล้วเธอจะคืนได้อย่างไร?
เฉินชุ่ยอวิ๋นมองออกว่าเธอไม่พอใจจึงพยายามเกลี้ยกล่อม “หยวนหยวน พวกเราได้รับสินสอดของสกุลเฝิงมาเยอะแล้วนะ เพราะฉะนั้นจะรับเงินก้อนนี้ไว้อีกไม่ได้หรอก! ฟังแม่เถอะ
อย่าให้เจี้ยนเหวินคิดว่าครอบครัวเราชอบเอาเปรียบเลย”
เจิ้งหยวนรู้ ความจริงนี่เป็เงินที่เฝิงเจี้ยนเหวินตั้งใจให้เธอโดยเฉพาะ เพราะก่อนหน้านี้เธอส่ง ‘ของราคาแพง’ ชิ้นหนึ่งให้เขา สิ่งที่เขาทำคือการดีมาดีตอบ แต่เฉินชุ่ยอวิ๋นไม่รู้เื่นี้ เธอรู้แค่ว่าเฝิงเจี้ยนเหวินส่งเงินก้อนใหญ่ให้ลูกสาวอีกแล้ว แถมลูกสาวเธอยังคิดจะรับไว้อย่างหน้าไม่อาย!
อันที่จริงเจิ้งหยวนจะแอบซ่อนไว้ ไม่หยิบออกมาก็ได้ แต่ซ่อนไปมันก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่ได้ขาดแคลนอาหารการกินอะไรหรอก เธออยากเอาเงินมาใช้กับครอบครัวอย่างเปิดเผยต่างหาก
ครั้นคิดจนตกแล้ว เธอจึงอธิบาย “เฝิงเจี้ยนเหวินเขียนในจดหมายไว้แล้วว่าฉันไม่ต้องเกรงใจ เขาบอกว่าต่อไปก็เป็ครอบครัวเดียวกันแล้ว แม่ให้ฉันส่งเงินคืนเขาไป มันจะไม่ใช่การเว้นระยะห่างเหรอ?” ว่าจบก็ยื่นจดหมายให้เฉินชุ่ยอวิ๋นอ่าน
ยืนยันสิ่งที่ตัวเธอพูด
เฉินชุ่ยอวิ๋นไม่รู้หนังสือเลยปัดจดหมายออก เอ่ยด้วยความโมโห “แต่แกยังไม่ได้แต่งงานเลยนะ!”
เจิ้งหยวนหรี่ั์ตาลง “ปลายปีก็แต่งแล้ว ช้าหรือเร็วเท่านั้นเองค่ะ”
“ไม่ได้ พวกเราเก็บเงินนี้ไว้ไม่ได้อยู่ดี แกไม่ส่งคืนเขาก็ไม่เป็ไร พวกเราส่งไปให้แม่สามีแกแทนแล้วกัน”
“โอ๊ย แม่คะ จะเอาเงินให้บ้านสามีฉันได้ยังไง” เจิ้งหยวนเริ่มล้างสมองเฉินชุ่ยอวิ๋นด้วยเหตุผลข้างๆ คูๆ “แม่ แม่ลองคิดดูนะ หากแม่สามีฉันรู้ว่าลูกชายตัวเองให้เงินฉันมากขนาดนั้นทั้งที่ยังไม่ทันแต่งงานกัน เธอจะดีใจลงเหรอคะ? คงรู้สึกว่าลูกชายแต่งเมียแล้วลืมแม่แทนหรือเปล่า? ต่อไปฉันจะเข้ากันได้ดีกับเธอยังไง!”
เฉินชุ่ยอวิ๋นคิดตาม ฟังแล้วดูมีเหตุผลอยู่นะ “งั้นเงินนี้ ยังไงเธอ… ก็จะเก็บไว้เองเหรอ?”
ไม่ว่าอย่างไรเธอก็รู้สึกแย่มากอยู่ดี
เจิ้งหยวนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ “ในเมื่อเขาให้ฉัน ฉันก็จะรับไว้ค่ะ เขาอยู่ในกองทัพ ตำแหน่งสูงต่ำยังไงก็นายทหารคนหนึ่ง ได้รับเงินเดือนเดือนละหลายสิบหยวน ตัวเขาไม่จำเป็ต้องใช้เงิน คงมีเงินเก็บไม่น้อย เงินจำนวนเท่านี้ไม่ได้มากมายสำหรับเขาแน่”
เฉินชุ่ยอวิ๋นชักรู้สึกว่าลูกสาวตัวเองเกินจะบรรยายมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเหนื่อยใจจนปวดหน้าผากตุบๆ ก่อนจะวางหนิวหนิวลงบนพื้นให้เขาวิ่งเล่นเองแล้วจับมือของเจิ้งหยวน พยายามเอ่ยเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงลึกซึ้งจริงจัง “หยวนหยวนเอ๋ย แกทำแบบนี้ไม่ได้นะ เอาเงินของคนเขามาหน้าตาเฉยเพราะเห็นว่าเงินเขาเยอะไม่ได้! ใช่ บ้านเราจน บ้านเราไม่มีเงิน
แต่ยากจนขนาดไหนก็ไม่อาจสูญเสียความเป็คนได้ แกชอบหาผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้
ต่อไปมันต้องกลับมาทำร้ายตัวเองแน่นอน”
ฉันเปล่านะ ฉันไม่ได้ทำ ฟังฉันอธิบายก่อน!
เจิ้งหยวนหัวเราะแห้งๆ สองคำรบและพยายามล้างมลทินให้ตัวเอง “แม่ ฉันคิดแบบนี้น่ะค่ะ หากคืนเงินไปมันดูไม่ค่อยดีจริงๆ ฉันเลยกะจะเก็บไว้ แต่ฉันรับมาแล้ว ไม่ใช้เพื่อตัวเองแน่นอน ฉันคิดจะเอาเงินนี้ซื้อของไปส่งให้คุณพ่อคุณแม่เจี้ยนเหวินเขาบ่อยๆ เป็การกตัญญูแทนเจี้ยนเหวินค่ะ” เธอเว้น่ครู่หนึ่งให้คนเป็แม่ได้มีเวลาคิดตาม “แม่ว่าเป็ยังไงคะ?”
เฉินชุ่ยอวิ๋นครุ่นคิดสักพัก รู้สึกว่าวิธีนี้เหมือนจะใช้ได้จึงฝืนใจพยักหน้า “เอาแบบนี้แล้วกัน”
เจิ้งหยวนไม่ได้พูดแบบขอไปทีเท่านั้น ชาตินี้เธอตั้งใจจะผูกสัมพันธ์อันดีกับพ่อแม่สามีจริงๆ ชาติก่อนเธอได้รับความทุกข์ทรมานจากปัญหาระหว่างแม่ผัวลูกสะใภ้แสนสาหัสจนเธอกับหลินเสี่ยวหยางต้องเลิกรากัน ชีวิตนี้เธอจะไม่ยอมให้พ่อแม่ของสามีขัดขวางความสุขในการแต่งงานอีก แน่นอน หากพ่อแม่สามีมีเหตุผลคงจะดี แต่ถ้าไร้เหตุผลและจงใจหาเื่เหมือนแม่สามีชาติที่แล้ว เธอก็จะไม่อดทนให้ลำบากตนเองเช่นกัน
ว่ากันตามตรงยุคสมัยนี้ไม่ค่อยมีอะไรน่าให้เป็ของขวัญนัก คนปกติมักจะซื้อของจำพวกขนม ไม่ก็น้ำตาลก้อนไปเยี่ยมญาติกัน แต่ในยุคสมัยนี้ ทั้งยังเป็ชนบทนั้นหาซื้อยากอย่างยิ่ง สหกรณ์ในตำบลก็ไม่มี ต้องไปร้านโชห่วยในอำเภอเท่านั้น แถมมีเงินเฉยๆ ยังไม่พอ ต้องมีคูปองด้วย!
โชคดีที่เจิ้งหยวนมีโรงแรมขนาดใหญ่ติดตัวอยู่ สิ่งที่ไม่ขาดแคลนเลยคือของกินพวกนี้
เธอเขียนจดหมายตอบกลับให้เฝิงเจี้ยนเหวินที่บ้านเสร็จ แล้วค่อยเบี่ยงทิศเข้าอำเภอเมืองโดยบอกว่าจะไปซื้อของ จึงถือโอกาสนำจดหมายของเฝิงเจี้ยนเหวินไปส่งที่ว่าการไปรษณีย์ด้วยเลย
คราวนี้เธอไม่ส่งของให้เฝิงเจี้ยนเหวินแล้ว เธอเขียนแค่จดหมายให้ แต่ใช้สำนวนเป็กันเองมากขึ้นเหมือนจดหมายที่เฝิงเจี้ยนเหวินเขียนหาเธอ ไม่ได้เขียนรูปแบบทางการเหมือนจดหมายสองฉบับก่อนหน้านี้ โดยเริ่มเปลี่ยนจากคำเรียกขานเป็อันดับแรก เมื่อก่อนเรียกสหายเฝิงเจี้ยนเหวิน คราวนี้เธอเปิดจดหมายด้วยชื่อที่สนิทสนมขึ้นอย่าง ‘พี่เจี้ยนเหวิน’ ต่อมาค่อยเอ่ยถึงเงินหนึ่งร้อยหยวน แล้วตำหนิเขาว่าไม่ควรส่งเงินให้เธอมากขนาดนั้น เด็กสาวยังไม่ออกเรือน ไม่ต้องดูแลบ้านเช่นเธอมีของที่ต้องซื้อไม่เยอะหรอก แต่เธอจะเก็บเงินร้อยหยวนนั้นไว้ไม่คืนเขา โดยบอกว่าจะใช้เงินพวกนี้แสดงความกตัญญูต่อผู้เฒ่าสกุลเฝิงทั้งสองอย่างดี ให้เขาวางใจได้ สุดท้ายก็ขอให้เฝิงเจี้ยนเหวินอยู่ในกองทัพดูแลตัวดีๆ อย่าาเ็หรือป่วยไข้ สวมเสื้อผ้าเพิ่มหากอากาศเย็น นอกจากนี้ เธอยังสอบถามเกี่ยวกับงานอดิเรกของเขาและชีวิตความเป็อยู่ในกองทัพ เพื่อให้เราสองคนรู้จักกันมากขึ้น
สรุปก็คือแม้ไม่อาจพบหน้าเฝิงเจี้ยนเหวินตรงๆ แต่เจิ้งหยวนคิดว่าตนเองสามารถเริ่มปลูกต้นรักกับเฝิงเจี้ยนเหวินผ่านทางจดหมายได้ ความรักน่ะ ยิ่งสื่อสารกันมากเท่าไรจะยิ่งลึกซึ้งขึ้นเท่านั้น ซึ่งตราบใดที่คนสองคนรู้จักกันดี แม้จะเกิดอุปสรรคระหว่างกันและกันแค่ไหน อย่างน้อยๆ ทางฝั่งเฝิงเจี้ยนเหวินก็จะไม่เปลี่ยนไปง่ายๆ และสำหรับตัวเจิ้งหยวนแล้ว แต่งงานปลายปีกับ ‘เพื่อนทางจดหมาย’ ที่ผูกสัมพันธ์กันมาระยะหนึ่งย่อมดีกว่าผู้ชายแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง
หลังส่งจดหมายเสร็จ เจิ้งหยวนไม่ได้อยู่ในอำเภอเมืองนานนัก เธอไปร้านโชห่วยดูว่ามีขนมอบแบบไหนบ้างแค่ครู่เดียวก็กลับบ้านแล้ว และนำขนมประเภทแป้งชั้นดีหลายจิน รวมถึงลูกอมกระจุกกระจิกจำนวนหนึ่งที่เป็ของหายากทั้งสิ้นติดตัวไปด้วย ขนมอบมีแป้งทอดเคลือบน้ำเชื่อม ข้าวเหนียวแท่งทอด ขนมโก๋ถั่วเขียวและขนมหางเป็ด [1] เจิ้งหยวนเลือกอันที่มีในร้านโชห่วย แต่ขนมที่เธอหยิบออกมาจากมิตินั้นอร่อยกว่าที่ร้านโชห่วยมาก รสชาติหวานหอมและไม่เลี่ยน แค่ได้กลิ่นก็น้ำลายสอแล้ว
ลูกอมในโรงแรมก็มีหลากหลายชนิด บรรจุภัณฑ์ล้วนเป็ของดีทั้งนั้น เจิ้งหยวนเลือกลูกอมรสนมตรากระต่ายขาวที่มีในยุคนี้ เพราะห่อของลูกอมรสนมตรากระต่ายขาวตลอดหลายสิบปีไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ยังคงเป็สีฟ้าขาวราบเรียบแต่ดูสวยงาม ข้างบนมีภาพกระต่ายขาวกำลังวิ่งตัวหนึ่ง หากไม่ตั้งใจมองย่อมไม่มีใครรู้ว่าลูกอมรสนมผลิตขึ้นเมื่อไร
ไม่ว่าจะเป็ขนมรสติดหวานมันหลากหลายชนิด หรือลูกอมรสนมที่โด่งดังแล้วในยุคนี้ ก็มีแรงดึงดูดมหาศาลต่อพวกเด็กๆ ทั้งสิ้น หนิวหนิวกับเทียนเลี่ยงดวงตาพลันเปล่งประกายทันทีหลังจากเห็นมัน และกลืนน้ำลายหลายอึก
เชิงอรรถ
[1] ขนมหางเป็ด หมายถึง อาหารประเภทพายเนื้อร่วนที่ทำเป็รูปทรงหางเป็ด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้