เมิ่งอู่ชะงัก ก่อนเหลียวกลับมามอง เห็นเมิ่งเจียนเจียตามมาโดยที่ตนไม่รู้ตัว นางมัวแต่สนใจพวกชาวบ้าน จึงไม่ทันสังเกตว่าเมิ่งเจียนเจียแอบตามหลังพวกเขา
ในมือของเมิ่งอู่ถือเคียวเล่มหนึ่ง ั์ตาแบ่งแยกขาวดำชัดเจนจ้องเมิ่งเจียนเจีย ก่อนหันหลังกลับ แล้วเดินตรงไปหานางทีละก้าวพลางเอ่ยว่า “เ้ามาได้อย่างไร”
สายตาคู่นั้นของเมิ่งอู่เ็าดุจคมเคียวสีดำวาววับในมือของนาง
เมิ่งเจียนเจียอดถอยหลังไปเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวไม่ได้ นางเม้มริมฝีปาก เอ่ยเสียงแ่เบา “ข้า... สุขภาพของท่านย่ายังไม่แข็งแรงดี ฐานะทางบ้านก็ฝืดเคือง... ดังนั้นข้าจึงอยากช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้...”
ชาวบ้านเอ่ย “เจียนเจียเป็เด็กดี กตัญญูรู้คุณมาโดยตลอด”
เมิ่งเจียนเจียมองเมิ่งอู่ด้วยสายตาเว้าวอน ก่อนกล่าวว่า “น้องสาวเมิ่งอู่ ข้าจะไม่ขัดขวางเ้า ข้าแค่เดินตามหลังก็พอ หากคุณชายหวังสิงมีสิ่งใดไม่สะดวก ข้าสามารถช่วยเหลือได้”
เห็นได้ชัดว่าชาวบ้านต่างเป็ห่วงเมิ่งเจียนเจียที่เป็สตรีอ่อนแอ พวกเขากล่าว “เมิ่งอู่ ปล่อยให้นางตามมาเถิด นางเองก็ลำบาก”
เมิ่งเจียนเจีย้าจะเข็นเก้าอี้เข็นของอินเหิง แต่อินเหิงกลับบังคับเก้าอี้เข็นหันไปอีกทาง ทำให้เมิ่งเจียนเจียพลาดไป สองมือค้างเติ่งอยู่กลางอากาศอย่างกระอักกระอ่วน
อินเหิงไม่มองนางแม้แต่ผาดเดียว “ข้าไม่้าความช่วยเหลือ”
ูเาลูกนี้ไม่ใช่ของเมิ่งอู่ ในเมื่อเมิ่งอู่มาได้ เมิ่งเจียนเจียย่อมมาได้โดยธรรมชาติ เมิ่งอู่ไม่มีเหตุผลที่จะไล่นางไป ทุกคนต่างหาสมุนไพรของตนเอง ไม่เกี่ยวข้องกัน
คราแรกทุกคนกระตือรือร้น เดินทางหนึ่ง คุยกันอย่างคึกคักทางหนึ่ง
แต่หลังจากนั้นบรรยากาศในูเาลึกป่าเก่าแก่ก็เงียบขึ้นเรื่อยๆ เส้นทางก็ยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ
การที่เมิ่งอู่กับอินเหิงพาอันธพาลในหมู่บ้านมาด้วยหลายคนนับว่าถูกต้องแล้ว พวกเขาสามารถข่มขู่ชาวบ้านเหล่านี้ได้อย่างดี
ระหว่างทางบนเขา พวกเขาพบงู ทำให้ชาวบ้านสองคนใกลัวจนถอยหนี จากนั้นก็เจอแมงมุมพิษทั้งตัวใหญ่ทั้งมีลายดอก ทำให้ชาวบ้านอีกหลายคนถอยหนีเช่นกัน ต่อมาพวกเขาไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าอีกยาวไกลเพียงใดจึงพากันถอยกลับกลางคัน เหลือเพียงผู้ที่มีความอดทนและขยันขันแข็งสองสามคน
เมิ่งเจียนเจียก็เป็หนึ่งในนั้น
แม้นางเหน็ดเหนื่อยจนหอบหายใจ แต่ยังคงกัดฟันยืนหยัดต่อไป ชาวบ้านสองคนพยายามดูแลนางอย่างดีที่สุด นางกล่าวขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางสร้างความลำบากให้ผู้อื่นไปพลาง กล่าวอย่างน่าสงสารไปพลาง “ข้าไม่อยากเป็ภาระของทุกคน ไม่อยากสร้างความลำบากให้พวกท่าน...”
แต่ในเมื่อเดินมาไกลถึงเพียงนี้แล้ว จะปล่อยให้นางกลับไปคนเดียวได้อย่างไร การปล่อยให้นางกลับไปคนเดียวยังอันตรายยิ่งกว่า
ยามนี้ใกล้ค่ำแล้ว แต่ก่อนเมิ่งอู่ไม่เคยเดินลึกเข้ามาขนาดนี้
พวกเขาเดินผ่านเนินเขาด้านนี้ไปถึงเนินเขาด้านหลัง
ไม่คาดคิดว่าพอเดินออกจากป่า ทัศนียภาพเบื้องหน้าก็เปิดกว้างขึ้น ทุกคนร้อนและเหนื่อยล้า แต่พอเงยหน้ามองก็ถูกทิวทัศน์เบื้องหน้าสะกดสายตา
ด้านหลังเนินเขาปกคลุมไปด้วยูเาป่าไม้เขียวขจีเป็ลูกคลื่นทอดยาวนับพันหลี่
มีเพียงต้องเห็นคีรีเขียวด้วยตาตนเองเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าูเาแม่น้ำเป็นิรันดร์ ใต้หล้ายิ่งใหญ่สูงส่ง แล้วค่อยรู้สึกได้ถึงความเล็กจ้อยที่ไม่สลักสำคัญของมนุษย์ปุถุชน
ตรงกลางที่ถูกล้อมรอบไปด้วยบรรพตเป็หุบเขาลึก หมอกจางๆ เคลื่อนเข้าปกคลุมหุบเขาเสมือนจริงเสมือนภาพลวงตา
ยามนี้เป็เวลาพลบค่ำ ดวงอาทิตย์ที่ใกล้ลับขอบฟ้าค่อยๆ จมลงไปในหุบเขาลึกที่ห่างไกล เมฆแดงฉานดุจเปลวเพลิง ดวงตะวันแดงเข้ม ทิวทัศน์งามเหลือหลาย
ครึ่งค่อนวันมานี้เมิ่งอู่มุ่งมั่นกับการมองหาสมุนไพร ภายในตะกร้าของนางเต็มไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด ไม่ได้หยุดพักแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นตะวันตกดินเช่นนี้ ความตึงเครียดในใจของเมิ่งอู่พลันคลายลง นางรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย
การเดินทางครั้งนี้ชาวบ้านต่างได้รับประโยชน์มาก ในเวลานี้เมื่อทุกคนกลับมามีสติ พวกเขาก็เริ่มค้นหาสมุนไพรต่อไป พอหาสมุนไพรจนพอใจแล้วก็จะได้รีบกลับเรือน
ยามนี้เป็เวลาเช่นนี้แล้ว พอกลับไปถึงหมู่บ้าน น่าจะใกล้เที่ยงคืนกระมัง
เดินไปข้างหน้าอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงริมผา คนทั้งหมดพยายามไม่เฉียดเข้าไปใกล้บริเวณนั้น
เมิ่งอู่ให้อินเหิงกับเหล่าอันธพาลถอยห่างออกไปเล็กน้อย ส่วนตนเองก้าวขึ้นหน้าสองก้าวไปดูริมหน้าผา
บริเวณนี้ชื้น แต่แสงแดดส่องถึง สมุนไพรล้ำค่าบางชนิดอาจเจริญเติบโตอยู่ตามซอกหินบนหน้าผาสูงชัน หากนางไม่ไปดูสักหน่อย พลาดไปคงน่าเสียดายยิ่ง
ทว่าเพิ่งไปถึงริมหน้าผา ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องด้วยความตระหนกใสุดขีดดังขึ้นข้างกาย
เมิ่งอู่เงยหน้ามองก็เห็นเมิ่งเจียนเจียเดินเข้ามาใกล้เช่นกัน
เพียงแต่ยามนี้สีหน้าของนางซีดเผือด ตัวสั่นเทาอย่างหนัก
โชคร้ายที่นางยืนอยู่ตรงตำแหน่งที่ดินค่อนข้างร่วน บริเวณนี้ไม่เคยมีผู้ใดเหยียบย่างเข้ามา ดินตรงนั้นรับน้ำหนักไม่ไหวจึงเกิดรอยแตกขึ้น
เมิ่งเจียนเจียยืนอยู่ที่ขอบรอยแตกนั้น
รอยแตกค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น ถ้าดินแตกออกหมด เมิ่งเจียนเจียก็จะร่วงลงไปในเหวลึกพร้อมกับพื้นดินส่วนนั้น
เมิ่งเจียนเจียมิกล้าแม้แต่จะขยับตัว ขาของนางอ่อนแรง หากนางขยับตัวแม้เพียงนิดเดียว ดินใต้เท้าของนางอาจจะแตกออกทันที
ในสถานการณ์เช่นนี้ผู้ใดจะกล้าเข้าไปช่วยดึงนางเล่า เกรงว่าดินฝั่งนี้จะไม่มั่นคงด้วย หากดึงนางขึ้นมา พวกเขาอาจร่วงลงไปในเหวลึกพร้อมกัน
นางร่ำไห้อย่างน่าเวทนา น้ำตาไหลพราก มองผู้คนรอบด้านด้วยสายตาวิงวอน "ช่วยข้าด้วย... ขอร้องพวกเ้าช่วยข้าด้วย..."
ชาวบ้านและอันธพาลล้วนจนปัญญา "จะช่วยได้อย่างไร..."
ในไม่ช้าก็มีคนตอบสนอง กล่าวว่า "จริงสิ กิ่งไม้! เจียนเจีย เ้าอดทนไว้ก่อน ข้าจะไปหากิ่งไม้ในป่ามาให้!"
ดังนั้นจึงมีคนสองสามคนรีบวิ่งกลับเข้าป่า เพื่อหากิ่งไม้ที่แข็งแรงพอ
แต่หากรอให้พวกเขานำกิ่งไม้กลับมาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าเมิ่งเจียนเจียจะตกลงไปแล้วหรือยัง
เมิ่งเจียนเจียมองเมิ่งอู่กับอินเหิงด้วยสายตาวิงวอนขอร้อง ริมฝีปากสั่นระริก "เมิ่งอู่ ช่วยข้าด้วย... ข้ารู้ว่าเ้าช่วยข้าได้ เมิ่งอู่ ขอร้องละ..."
เมิ่งอู่กล่าวราบเรียบ "ลำบากเ้าแล้วจริงๆ เพื่อสุขภาพของท่านย่า เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว ถึงกับยืนหยัดจนถึงยามนี้"
เมิ่งเจียนเจียใกล้จะพังทลายแล้ว น้ำตาร่วงดั่งหยาดฝน "ข้ารู้ว่าแต่ก่อนข้าทำเื่ไม่ดีไว้หลายอย่าง ข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษเ้า ต่อไปข้าจะไม่ทำอีกแล้ว จะไม่ทำอีกแล้ว..."
รอยแยกขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ร่างของเมิ่งเจียนเจียโอนเอนไปมา นางกรีดร้องด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง
เมิ่งอู่กล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า “ข้าถามเ้า ยาพิษที่ท่านแม่ข้ากับเฉินฟางกินเข้าไปเกี่ยวข้องกับเ้าหรือไม่”
เมิ่งเจียนเจียส่ายหน้ารัวๆ “ยาพิษอันใด... ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้อันใดทั้งนั้น! เมิ่งอู่ ช่วยข้าด้วย ข้าสาบานว่าข้าไม่เคยทำร้ายพวกเขา หากข้าทำร้ายพวกเขา ขอให้ฟ้าดินลงโทษ!”
เมิ่งอู่ไม่เคลื่อนไหว ด้วยเพราะเกรงว่าการเคลื่อนไหวกะทันหันของนางจะทำให้เกิดอันตราย อินเหิงจึงเอื้อมมือมาจับมือนางไว้
ฝ่ามือของเมิ่งอู่พลันอบอุ่นขึ้น นางได้ยินอินเหิงกล่าวว่า “อย่าใจร้อน รอให้พวกเขานำกิ่งไม้มาช่วยนางดีกว่า เสี่ยงเกินไป”
เมิ่งอู่กล่าวกับเมิ่งเจียนเจีย “หรือยามนี้เ้าลองะโข้ามมาสิ อาจมีโอกาสรอด”
เมิ่งเจียนเจียร่ำไห้ "พวกเ้าจะใจดำปล่อยให้ข้าตายหรือ... อ๊าย!"
ก้อนหินและกรวดทรายร่วงหล่นลงไปในเหวลึก พื้นดินใต้เท้าของนางรับน้ำหนักไม่ไหว พังทลายลงแล้ว เมิ่งเจียนเจียเสียหลักเอนไปด้านหลัง
ใน่เวลาวิกฤตนั้นเอง เมิ่งอู่สะบัดมือออกจากมือของอินเหิงอย่างแรง แล้วพุ่งตัวไปข้างหน้า คว้าตัวเมิ่งเจียนเจียไว้ ก่อนดึงนางกลับมา