ฮาซึงจินรู้สึกเหมือนตกลงมาที่อุโมงค์น้ำแข็ง
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ลูกตาแทบถลนออกมาจากเบ้า ความโกรธเกรี้ยวที่ยากจะควบคุมก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลายเป็ความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำไปแล้ว
“เป็ไปได้...มันเป็แบบนี้ได้อย่างไร?”
ฮาซึงจินฝึกฝนคลื่นพลังธาตุดิน สำหรับคลื่นพลังธาตุดินแล้ว พวกเขาจะโดดเด่นในด้านพละกำลังและการป้องกัน เรียกได้ว่าพวกเขาเข้มแข็งและทรหดเหมือนศิลาและหนักแน่นเหมือนพื้นดิน ระดับความแข็งแกร่งทางกายภาพจัดว่าเป็ที่หนึ่งในบรรดานักรบคลื่นพลังธาตุอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกัน ด้วยความเชื่อมั่นนี้ ดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะใช้สองหมัดของตัวเองโจมตี
แต่ความจริงที่โหดร้ายได้ทำลายความมั่นใจของเขาจนหมดสิ้น
องค์าาน้อยตรงหน้าเพียงแค่ชกเบาๆ ก็สามารถทำลายคลื่นพลังธาตุดิน 4 ดาวระดับต้นที่ฮาซึงจินภาคภูมิใจจนย่อยยับอย่างง่ายดาย จากนั้นพลังที่รุนแรงที่เขาไม่รู้จักก็แล่นเข้าสู่ร่างของเขาแล้วทำลายแขนของเขาจนหัก
“เป็ไปได้อย่างไร? หรือว่าเขาทะลวงพลังไปถึงห้าดาวแล้ว?”
ความมั่นใจของเขาถูกทำลายลงไปในเวลาสั้นๆ ความภาคภูมิใจและความทระนงทั้งหมดของเขาถูกซุนเฟยทำลายจนสิ้น ช่องว่างระหว่างพลังที่ยิ่งใหญ่นี้ทำให้จิตใต้สำนึกของฮาซึงจินประเมินความแข็งแกร่งของซุนเฟยเกินความจริง และด้วยความคิดนี้ทำให้เขาหวาดกลัวไปทั่วิญญา ไม่กล้าที่จะสู้ต่อ ในจังหวะที่ลอยอยู่กลางอากาศ เขาโคจรคลื่นพลังอย่างบ้าคลั่ง เปลวไฟคลื่นพลังสีส้มก็สว่างวูบวาบขึ้นเหมือนก่อนหน้านี้ ท่ามกลางคลื่นพลังที่ปกคลุมร่างเขาอีกครั้ง เขาก็เปลี่ยนร่างเป็โคลนสีเหลืองแล้ว ทะลุหายไปในกองทราย
“เฮ้ย! นี่มันขี้ขลาดนี่? ” ซุนเฟยสถบออกมาก่อนจะด่าว่า “กระจอกแบบนี้ยังกล้าเป็มือสังหาร? มารดาเ้าสิ!”
ตาม!
ชายร่างั์รู้ดีว่าซุนเฟย้าข้อมูลบางอย่างจากเขา ดังนั้นมีหรือที่าาองค์นี้จะปล่อยให้เบาะแสสำคัญอย่างเขาหนีรอดไปได้? เขาโบกมือ สุนัขั์สีดำที่นอนหมอบี้เีอยู่ก็พลันคำรามออกมา จากนั้นมันก็ะโขึ้นมาจากพื้นพุ่งเข้ามาหาเหมือนพายุ ซุนเฟยะโขี่หลังมันแล้วไล่ตามกลิ่นอายของชายคนนั้นไป
ซุนเฟยต้องยอมรับว่า ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้เทคนิคการหลบหนีของคลื่นพลังธาตุดินร้ายกาจมาก โดยเฉพาะฮาซึงจินที่ฝึกฝนพลังจนกลายเป็ยอดฝีมือสี่ดาวระดับต้น ด้วยวิธีการหลบหนีแบบนี้ทำให้ตามรอยได้ยาก และดูเหมือนว่าฮาซึงจินจะพยายามฝึกฝนวิธีการหลบหนีมามาก ดังนั้นหลังจากที่เขาทะลุเข้าไปในชั้นใต้หินแล้ว ก็ไม่เผยร่องรอยใดๆ ออกมาสักนิด ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในซอยเป็เพียงภาพลวงตา เหมือนไม่เคยมีฮาซึงจินปรากฏขึ้นเลย
แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ชายร่างั์คนนั้นได้รับาเ็ ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนอย่างเคย
บวกกับซุนเฟยจับกลิ่นอายของเขาั้แ่แรกแล้ว ดังนั้นจึงพอมีเบาะแสให้คลำหา ซุนเฟยรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายคลื่นพลังธาตุดินที่พรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาจึงรีบตบสะโพกของสุนัขั์สีดำให้รีบเร่งไล่ตามเขา
ฮาซึงจินเ้าเล่ห์มาก
หลังจากที่เขาดำดินแล้ว เขาพยามจะลดกลิ่นอายของตังเองให้ต่ำลงที่สุดแล้วค่อยๆ ฟื้นฟูพลังอย่างระมัดระวัง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาหลบหนี
เขาเคยหลบหนีจากการไล่ฆ่าของยอดฝีมือระดับหกดาวมาก่อน
ดังนั้นหลังจากที่ความกลัวในตอนแรกผ่านพ้นไป เขาก็เริ่มตั้งสติได้ คาดไม่ถึงจริงๆ ว่า ความจริงแล้วองค์าาอเล็กซานเดอร์ที่ไร้ชื่อเสียงคนนี้จะเป็ยอดฝีมือระดับห้าดาว การค้นพบที่เหนือความคาดหมายนี้ทำให้เขาใมาก ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโชคดี โชคดีที่ตัวเองมีปฏิกิริยาตอบสนองได้รวดเร็ว หลังจากที่เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่ายจึงไม่ลังเลที่จะรีบหลบหนี เขาจะไม่ยอมตกอยู่ในเงื้อมมือขององค์าาน้อยคนนั้นแน่นอน
“เื่นี้ต้องรีบกลับไปรายงานองค์ชายโอบินนา ไม่อย่างนั้น เกรงว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อแผนการขั้นต่อไป”
ฮาซึงจินที่อยู่ใต้ดินรุดไปข้างหน้าอย่างยากลำบาก แขนและมือของเขาได้รับาเ็สาหัสซึ่งมันได้ส่งผลกระทบต่อความเร็วในการหลบหนีของเขา
นับว่าโชคดีอีกอย่างที่เขาทำภารกิจนี้สำเร็จ
ไม่ต้องกังวลว่าหลังจากกลับไปแล้วจะไม่มีรายงานกลับไปรายงานองค์ชาย
แต่ตอนนี้เอง เื่ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ตูม ตูม!
เสียงดังสนั่นขึ้นมา ฮาซึงจินพลันตกตะลึง ยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็รู้สึกได้เหมือนมีพลังมหาศาลสองสายอยู่เหนือหัวของเขา ผืนดินหนาๆ บนหัวเขากำลังถูกขุด เื่นี้มันเกิดขึ้นเร็วมากจนควบคุมไม่ได้
“สมควรตาย!”
าาน้อยคนนั้นไล่ตามมาแล้ว
เขากำลังใช้พลังที่ป่าเถื่อนนั้นจู่โจมข้าที่อยู่ใต้ดิน? ...ไอ้เด็กสมควรตายมันพบร่องรอยการหลบหนีของข้าได้อย่างไร?
่เวลาสำคัญ ฮาซึงจินไม่สนใจอะไรแล้ว
เขาพยายามกระเสือกกระสนไปด้านหน้า ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะกระอักเืออกมาไม่หยุด แต่ความก็อดทนพยายามที่จะหลบหนีการโจมตีต่อไป พลังที่รุนแรงทั้งสองสายนั้นทะลุชั้นใต้ดินเฉียดหลังของเขาไปนิดเดียว
ไม่รอให้เขาฟื้นตัว เขาก็ได้ยินเสียงดังสนั่น พลังมหาศาลยังคงจู่โจมเพื่อเจาะพื้นดินลงมา ซึ่งมันตรงกับตำแหน่งที่ฮาซึงจินอยู่ ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุลงมาชั้นใต้ดินได้
ฮาซึงจินใอย่างมาก
เขาพยายามหนีตายไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
การที่เขาพยายามหลบหนีทั้งๆ ที่ยังาเ็ มันทำให้อาการาเ็ทั่วร่างของเขาร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ
บนพื้นดิน
‘ลมกรดทมิฬ’ กลายเป็พายุสีดำขณะที่วิ่งไปข้างหน้าตามรอยเบาะแสแปลกๆ อย่างบ้าคลั่ง ซุนเฟยะโลงจากหลังของสุนัขั์สีดำ ทันทีที่เท้าแตะพื้นเขาก็เงื้อหมัดชกลงไปที่พื้น ฝุ่นคลุ้งกระจายไปทั่ว รอยหมัดที่ประทับอยู่บนพื้นปริแตกออกมาเหมือนใยแมงมุม รอยแตกกระจายไปทุกทิศทุกทาง
หมัดที่แฝงไปด้วยพละกำลังมหาศาลของคนเถื่อนเลเวล 21 สามารถชกทะลุพื้นได้ เพื่อบีบให้ฮาซึงจินวิ่งหนีเหมือนหนู
ความจริงแล้วไม่กี่สิบวินาทีก่อน ซุนเฟยเกือบจะไล่ตามชายคนนี้ไม่ทันและทำร่องรอยหาย
แต่่เวลาสำคัญ ‘ลมกรดทมิฬ’ กลับแสดงความสามารถในการติดตามเหยื่อให้ซุนเฟยได้ตกตะลึง หลังจากที่ ‘น้ำยาฮัลค์’ ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างร่างกาย ไม่เพียงทำทำให้รูปร่างของสัตว์เลี้ยงตัวนี้ใหญ่ขึ้น แต่ยังยกระดับประสาทัักลิ่นของมันเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ระหว่างที่วิ่งด้วยความเร็วสูง ‘ลมกรดทมิฬ’ ก็ใช้ปลายจมูกคอยดมกลิ่นบนพื้น ทำให้สามารถค้นหาตำแหน่งของฮาซึงจินได้อย่างแม่นยำไม่มีผิดพลาดสักครั้ง
สัตว์เลี้ยงตัวนี้คือ GPS บอกตำแหน่งดีๆ นี่เอง
ดังนั้น หนึ่งคนหนึ่งสุนัขจึงทำตัวเหมือนแมวหยอกหนู ไล่ต้อนฮาซึงจิน
ความจริงแล้ว ซุนเฟยสามารถลากฮาซึงจินออกมาจากใต้ดินได้อย่างง่ายๆ แต่จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ตัวเองควรจะคลำหาแตงไปตามเครือ บางทีหากไล่ตามหลังมันไป ไม่แน่ว่าอาจพบคนที่อยู่เื้ัก็ได้ และอาจได้ค้นพบเบาะแสมากยิ่งขึ้น คิดได้ดังนั้น เขาจึงพยายามคุกคามฮาซึงจินแต่กลับไม่คิดจะให้มันตาย
ตูม ตูม ตูม!
เขาชกลงบนพื้นอย่างต่อเนื่อง ทุกหมัดที่ชกลงไปมักจะเฉียดร่างฮาซึงจินเสมอ ซุนเฟยเหมือนตัวเองกำลังเล่นเกมตีแมวอยู่ หนึ่งคนหนึ่งสุนัขต่างรู้สึกบันเทิงใจเอามากๆ อีกทั้งเป้าหมายของซุนเฟยก็เหมือนจะประสบความสำเร็จทีละขั้น เพราะทิศทางที่ฮาซึงจินหลบหนีอยู่ใต้ดินก็ค่อยๆ เริ่มชัดเจนขึ้นมา
มันกำลังไปทางสถานที่รับรองเมืองแซมบอร์ด
ที่นั่นเป็สถานที่ที่ไว้รับรองคณะทูตทุกอาณาจักรที่มาร่วมยินดีกับการขึ้นครองบัลลังก์ของซุนเฟยอย่างเป็ทางการ
“เวรเอ๊ย สุดท้ายไอ้พวกต่างเมืองมันก็แอบวางแผนการร้ายจริงๆ ด้วย...ให้บิดาดูหน่อยสิว่า มีไอ้ลูกหมาตัวไหนมันกล้าวางแผนสังหารบิดา?”
ซุนเฟยไล่ตามเข้าไป
ตอนนี้ท้องฟ้าได้กลายเป็สีดำแล้ว คนที่เดินอยู่บนท้องถนนก็ยิ่งน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ทหารของเมืองแซมบอร์ดทุกนายต่างกำลังเฝ้ายามกันอย่างแข็งขัน เมื่อได้ยินเสียงดังสนั่นก็รีบพุ่งเข้าไปขวาง
“ถอยไป!” ซุนเฟยตะคอกมาแต่ไกล “ด้วยคำสั่งของข้า ให้ทหารทุกนายถอนตัวออกจากสถานที่รับรองแห่งนี้ ที่นี่ไม่จำเป็ต้องปกป้อง!”
“อ๊ะ...เป็องค์าาอเล็กซานเดอร์!”
ไม่ช้า พวกทหารก็จำได้ว่าคนที่ขี่หลังสุนัขั์สีดำท่าทางองอาจก็คือองค์าาอเล็กซานเดอร์ แต่พวกเขาก็ไม่ทราบว่าศัตรูอยู่ที่ใด ทว่าหลังจากที่ได้ยินรับสั่ง ทหารทุกคนก็ไม่ลังเลที่จะถอนตัวสักนิด ชั่วพริบตาก็เหมือนกระแสน้ำกระจายตัวออกจากสถานที่รับรอง
ซุนเฟยไม่คิดจะหยุด เขายังคงไล่ตามเข้าไปในสถานที่รับรอง
คณะทูตทั้งหมดยี่สิบกว่าอาณาจักรที่มาถึงเมืองแซมบอร์ด ต่างก็ถูกพามารวมตัวกันที่สถานที่รับรองแห่งนี้ เพราะซุนเฟยไม่ได้สนใจที่จะมาต้อนรับองค์ชายหรือคณะทูตพวกนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ เขาจึงปล่อยให้สุนัขั์สีดำดมกลิ่นไล่ตามฮาซึงจินเข้าไป
ไม่ช้าเหล่าคณะทูตที่อยู่ที่นี่ต่างพากันตื่นใกับท่าทางแบบนี้
“ใครกล้ามาบุกเข้ามาที่นี่?”
“บังอาจ องค์ชายข้ากำลังพักผ่อนอยู่ ใครไม่อยากมีชีวิตแล้ว?”
“จับตัวมาให้ข้า...”
เสียงะโอย่างโมโหดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในอาคารสองฝั่ง เพียงแต่ความเร็วของซุนเฟยและสุนัขั์สีดำเร็วมาก ทำให้คนปกติมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แค่รู้สึกเหมือนมีพายุพัดผ่านด้านหน้า จากนั้นก็มีเสียงตูมดังจากไกลๆ มียอดฝีมือบางส่วนที่พอจะมองออกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กลิ่นอายที่หนึ่งคนหนึ่งสุนัขเผยออกมา ทำให้พวกเขาดับความคิดที่จะไปหาเื่ทันที
ไล่ตามมาได้ประมาณสองร้อยกว่าเมตร ฮาซึงจินก็ได้พุ่งเข้าไปลานหินโอ่อ่ากว้างขวางแห่งหนึ่งแล้วหยุดหนี
“ดูเหมือนว่าจะหาที่มาพบแล้ว”
ซุนเฟยที่ขี่หลังสุนัขั์สีดำที่กำลังะโข้ามกำแพงสูงสี่เมตรกว่าๆ เข้าไปในลานหิน ทันใดนั้นผู้คุมกันจำนวนหลายสิบคนก็กรูกันออกมาทั่วทุกสารทิศ แต่ในบรรดาพวกเขาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลังเพียงหนึ่งดาวเท่านั้น ซุนเฟยปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาลออกมา ทำให้ทุกคนรู้สึกหายใจได้อย่างยากลำบาก ได้แต่ยืนนิ่งๆ ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใคระโห้ามหรือเข้าไปขวางซุนเฟยเลย
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!
สุนัขั์สีดำดมกลิ่นก่อนจะเห่าไปทางห้องโถงั์ที่อยู่ห่างออกไป
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้