กวนฮุ่ยเอ๋อพาเซี่ยเสี่ยวหลานออกจากสำนักงานของภาควิชา
เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ถูกความดุดันของกวนฮุ่ยเอ๋อทำเอาใเช่นกัน อีกทั้งกวนฮุ่ยเอ๋อยังมาเพื่อช่วยเธอ เซี่ยเสี่ยวหลานคงไม่อาจหักหาญน้ำใจด้วยการแสดงท่าทีไม่ดีกับกวนฮุ่ยเอ๋อหลังออกจากสำนักงานได้ กลับกันเธอยังพูดจาอ่อนหวานกับกวนฮุ่ยเอ๋อ และครั้งนี้เธอพูดออกมาอย่างเต็มใจ
“คุณน้ากวน อย่าโกรธไปเลยค่ะ คนประเภทนี้จมอยู่แต่ในโลกของตัวเอง ฉันได้ยินมาว่าเธอมีอาการทางประสาท...”
กวนฮุ่ยเอ๋อถลึงตาใส่เซี่ยเสี่ยวหลานทันที ใครไม่รู้คงคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมาช่วยพูดแทนจี้หย่าน่ะสิ
“โจวเฉิงโทรมาหาที่บ้านแล้วบอกเื่นี้ ่เดือนแรกทางวิทยาลัยห้ามไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก เขาจึงมีเวลาคุยโทรศัพท์แค่สองนาที แม้โจวเฉิงจะไม่อยู่ปักกิ่ง ตระกูลโจวของเราก็ไม่ปล่อยให้คนอื่นรังแกเธอได้ง่ายๆ หรอก เื่นี้คุณอาโจวของเธอก็รู้ โชคดีที่ฉันมาเจอพอดี มิเช่นนั้นคงไม่รู้เลยว่าตระกูลจี้จะกร่างได้ถึงขนาดนี้ จริงสิ วันอาทิตย์มาที่บ้านด้วยล่ะ”
ไหนบอกว่าจะช่วยโจวเฉิงดูแลเธอกับเหล่าโจว ปากน่ะหวาน แต่ไม่เห็นไปเยี่ยมกันที่บ้านทุกสัปดาห์ตามที่เคยบอกไว้เลย
เซี่ยเสี่ยวหลานเพิ่งรู้ว่า ที่แท้วันนี้ไม่ใช่ความบังเอิญ กวนฮุ่ยเอ๋อตั้งใจมาหาเธอถึงที่นี่!
“คุณน้ากวน คุณน้ากับคุณอาโจวดีกับฉันจริงๆ ค่ะ!”
กวนฮุ่ยเอ๋อรู้สึกขัดเขินเล็กน้อย นิสัยชอบเก็บความรู้สึกของชาวจีนสืบสานมาอย่างยาวนานหลายพันปี คนในครอบครัวเธอไม่ค่อยแสดงความรู้สึกต่อกันอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ และเธอก็ไม่คิดว่าตนนั้นดีกับเซี่ยเสี่ยวหลานสักเท่าไร แต่เซี่ยเสี่ยวหลานพูดออกมาอย่างซื่อตรง ฟังจากน้ำเสียงแล้วเหมือนออกมาจากใจจริง
กวนฮุ่ยเอ๋อจึงเลี่ยงไปพูดเื่อื่น
“ฉันเห็นเธอกับเพื่อนร่วมหอสนิทกันใช้ได้เลยทีเดียว พวกเด็กสาวเมื่อกี้ปกป้องเธอมากจริงๆ นี่ก็ได้เวลาแล้ว ฉันขอเป็เ้ามือเลี้ยงอาหารพวกเธอสักมื้อแล้วกัน”
เดิมทีกวนฮุ่ยเอ๋ออยากเปลี่ยนเื่สนทนา แต่พอพูดจบถึงพบว่า ตนกำลังคิดเผื่อเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ดี
เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็รับรู้ได้
ไม่รู้เพราะเหตุใด ทั้งที่เตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่า หลังคบหากับโจวเฉิง หากพ่อแม่ของเขาไม่ชอบเธอ เธอก็คงทำได้เพียงเห็นอีกฝ่ายเป็เสมือนเ้านายเท่านั้น แต่พอกวนฮุ่ยเอ๋อทำดีด้วย เซี่ยเสี่ยวหลานก็รู้สึกว่าถ้าเป็เพียงหน้าที่ กวนฮุ่ยเอ๋อคงไม่บอกว่าอยากเลี้ยงอาหารเพื่อนร่วมหอห้อง 307 อย่างแน่นอน
เซี่ยเสี่ยวหลานกลัวตัวเองย่ามใจเกินไป และกวนฮุ่ยเอ๋อจะหาทางลงไม่ได้จึงรีบตอบรับทันที
“แล้วแต่คุณน้าเลยค่ะ”
กวนฮุ่ยเอ๋อเบ้ปากเล็กน้อย
คนโกหก บอกว่าแล้วแต่ฉัน ตอนฉันขอให้เลิกกับโจวเฉิงทำไมเธอถึงไม่ยอมเลิก?
หลังเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว กวนฮุ่ยเอ๋อก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า “อีกหน่อยทะเลาะกับใครพูดให้เสียงมันดังๆ หน่อย!”
เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังลงบันได ทันทีที่ได้ยินดังนั้นก็เกือบสะดุดล้ม
กวนฮุ่ยเอ๋ออยากกัดลิ้นตัวเองจริงๆ พูดอะไรก็ผิดไปเสียหมด ทำไมถึงไม่หุบปากเสียเล่า คิดได้ดังนั้นเธอจึงเร่งฝีเท้าเดินลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะได้ยินเสียงของเซี่ยเสี่ยวหลานดังมาจากด้านหลัง และพูดเตือนเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ช้าหน่อยค่ะคุณน้า ฉันจะทำตามที่คุณน้าบอกนะคะ ครั้งหน้าถ้าทะเลาะกับใครจะไม่เป็ฝ่ายเสียเปรียบแน่นอนค่ะ...”
จอมโกหก หลอกลวง คิดจะหลอกให้เธอใจอ่อนอีกแล้วสินะ!
ไม่ฟัง ไม่ฟัง เธอไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น!
จะว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ไปทำไม โจวเฉิงไม่ได้อยู่ตรงนี้สักหน่อย แสดงละครให้ใครดูกัน?
กวนฮุ่ยเอ๋อพยายามสะกดจิตตัวเองอยู่นานกว่าจะหลุดพ้นจากอิทธิพลของเซี่ยเสี่ยวหลานมาได้
เพื่อนห้อง 307 ต่างเป็ห่วงเซี่ยเสี่ยวหลานมาก หลังเซี่ยเสี่ยวหลานกับกวนฮุ่ยเอ๋อไปที่สำนักงานภาควิชา พวกเธอก็ยืนรออยู่ชั้นล่าง
เวลาผ่านไปนานพอสมควร อีกสองคนที่ไม่อยู่เมื่อครู่ก็รู้ข่าวแล้วเช่นกัน พวกเขาวางเื่อื่นไว้ก่อน และพากันมารอฟังผลลัพธ์จากเซี่ยเสี่ยวหลาน นอกจากสมาชิกห้อง 307 ยังมีหนิงเสวี่ยอีกคน
“เซี่ยเสี่ยวหลาน ฉันขอโทษแทนคุณน้าจี้ด้วย”
หนิงเสวี่ยชะเง้อมองข้างหลัง แต่ก็ไม่เห็นจี้หย่า
เซี่ยเสี่ยวหลานโบกมือ “เื่นี้ไม่เกี่ยวกับเธอหรอก เพื่อนนักศึกษาหนิงเสวี่ยไม่จำเป็ต้องคิดมาก”
ต่อให้หนิงเสวี่ยมีความสัมพันธ์กับจี้เจียงหยวน ก็ไม่ใช่หน้าที่ของหนิงเสวี่ยที่ต้องขอโทษแทนจี้หย่า พูดอีกอย่างคือ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ยอมรับคำขอโทษของหนิงเสวี่ย... หนิงเสวี่ยปรารถนาดี เซี่ยเสี่ยวหลานย่อมไม่ถือสาหนิงเสวี่ย แต่ถือสาจี้หย่า!
หนิงเสวี่ยเป็คนฉลาดจึงเข้าใจความหมายของเซี่ยเสี่ยวหลานทันที
เธอไม่ใช่พวกชอบตอแยเลยเดินผ่านตัวเซี่ยเสี่ยวหลานขึ้นไปหาจี้หย่าที่ชั้นบน
เพื่อนห้อง 307 เดินมารุมล้อมตัวเซี่ยเสี่ยวหลาน
“น้องหก ไม่เป็ไรใช่ไหม”
“ทางภาคว่าอย่างไรบ้าง”
“แม่ของจี้เจียงหยวนจะเกินไปแล้ว พูดเองเออเอง ทำเหมือนลูกชายตัวเองเป็ธนบัตรไปได้ ทุกคนถึงจะต้องชอบ!”
ความจริงทางภาควิชาไม่ได้จัดการปัญหาอย่างสมควร แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่อยากให้เหล่าเพื่อนร่วมหอผู้น่ารักเป็ห่วง จึงเปลี่ยนมาแนะนำพวกเธอกับกวนฮุ่ยเอ๋อแทน “นี่คือคุณน้ากวน เธอคือ...”
กวนฮุ่ยเอ๋อให้เกียรติเซี่ยเสี่ยวหลานมาก เธอจึงส่งยิ้มให้เพื่อนห้อง 307 อย่างเป็มิตร
“น้าเป็แม่ของโจวเฉิงน่ะ เสี่ยวหลานกับโจวเฉิงกำลังดูใจกันอยู่ คนหนึ่งกำลังเรียนหนังสือ อีกคนทำงานแล้ว ทั้งคู่จึงไม่ได้เจอกันบ่อยนัก ทุกคนต่างหากที่คอยดูแลเสี่ยวหลาน ไปเถอะ น้าขอเลี้ยงอาหารพวกเธอสักมื้อ พอดีว่าน้าพกสตางค์มาเยอะพอตัว อย่าได้เกรงใจกันล่ะ”
ที่แท้คนรักของเซี่ยเสี่ยวหลานชื่อโจวเฉิง
‘Zhou [1] ’ ย่อเป็ ‘Z’ นาย Z ผู้ลึกลับก็คือโจวเฉิง... เดี๋ยวนะ ชื่อนี้คุ้นหูมากเลยทีเดียว
เมื่อครู่คุณน้าว่าอย่างไรนะ ลูกชายของเธอทำงานแล้วเลยไม่ค่อยได้เจอกับเสี่ยวหลาน? เช่นนั้นไก่พะโล้ที่ตลาดนัดตอนวันหยุดพักผ่อนของการฝึกทหารเล่า ไม่ต้องใช้ความสามารถในการวิเคราะห์มากมายนัก แค่เอาเื่ทั้งหมดมาเชื่อมโยงกัน ใครบ้างจะไม่กระจ่างแจ้ง
ซูจิ้งอ้าปากค้าง “เสี่ยวหลาน คุณน้าหมายถึงครูฝึกโจวหรือ”
หัวหน้าครูฝึกโจวที่สูงร้อยแปดสิบกว่า ทว่าออร่าพุ่งกระจายเกินสิบแปดเมตรคนนั้นน่ะหรือ!
หลังผ่านความตกตะลึง สายตาของซูจิ้งก็แสดงออกถึงความนับถือเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างชัดเจน ฝึกทหารแค่ครึ่งเดือนก็ได้คบหากับหัวหน้าครูฝึกแล้ว? ไม่ใช่แค่ลงมือฉับไว แต่จิตใจยังกล้าหาญมากอีกด้วย ครูฝึกโจวหน้าตาหล่อเหลา ทว่าเ็าเหลือเกิน ตอนฝึกไม่เป็มิตรกับใคร เซี่ยเสี่ยวหลานกลับคว้าเขามาครองได้ ไม่สิ ไม่แน่อาจจะเป็ครูฝึกโจวที่ไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของเซี่ยเสี่ยวหลานได้มากกว่า
“คิดอะไรของเธอ ฉันกับโจวเฉิงรู้จักกันั้แ่ปีที่แล้ว เขาแค่บังเอิญมาเป็ครูฝึกของพวกเราเท่านั้น!”
สมาชิกห้อง 307 ทายตัวตนของนาย Z มานานแสนนาน แต่ไม่มีใครคิดถึงโจวเฉิงเลยสักคน
หากไม่ใช่เพราะกวนฮุ่ยเอ๋ออยู่ด้วย สิ่งที่รอเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่คงเป็ ‘การบีบให้รับสารภาพ’
กวนฮุ่ยเอ๋อไม่ได้พาพวกเธอไปร้านอาหารหรูหราแต่อย่างใด แค่หาร้านอาหารเล็กๆ สะอาดสะอ้านหน้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น เด็กนักศึกษาย่อมมีเงินไม่มากนัก ต่างกับกวนฮุ่ยเอ๋อที่ได้เงินเดือนจำนวนไม่น้อย เงินไม่ขาดมือ เธอจึงสั่งเนื้อสัตว์ให้กับพวกเด็กๆ อย่างใจกว้าง
เพื่อนร่วมหอรู้สึกเกรงใจมาก ต้องบอกว่าพอแล้วอยู่หลายครั้ง กวนฮุ่ยเอ๋อถึงจะหยุดสั่ง
ตอนรออาหารขึ้นโต๊ะ เฉินอีอีที่ปกติเป็คนพูดน้อยก็ถามขึ้นมาเสียงเบา “คุณน้าคะ ทางภาควิชาได้บอกไหมคะว่าจะจัดการปัญหาให้เสี่ยวหลานยังไง จี้เจียงหยวนกลับมาจากอเมริกา ครอบครัวของเขาคงไม่ธรรมดาใช่ไหมคะ”
กวนฮุ่ยเอ๋อยิ้ม “เด็กดี ขอบใจนะที่เป็ห่วงเสี่ยวหลาน ทางภาควิชาบอกให้คุณนายจี้รับปากว่าจะไม่มาคุกคามเสี่ยวหลานอีก แต่น้ารู้สึกว่าสำหรับคนที่มาก่อกวนผู้อื่นตามใจชอบอย่างคุณนายจี้ วิธีการนี้มันออกจะเบาไปหน่อย น้าอยากให้เธอขอโทษเสี่ยวหลานต่อหน้า แน่นอนว่าเื่นี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจา ถ้าจัดการได้แล้ว เสี่ยวหลานจะบอกทุกคนเป็คนแรกอย่างแน่นอน”
‘เจรจา’ อย่างไรคงไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ มันคือการต่อรองของพวกผู้ใหญ่ บนโต๊ะอาหารมีแต่นักศึกษาผู้ไร้เดียงสา กวนฮุ่ยเอ๋อจึงไม่ได้พูดออกไปอย่างชัดเจนนัก
เชิงอรรถ
[1] สะกดแบบพินอิน ซึ่งเป็ระบบการถอดเสียงภาษาจีนด้วยอักษรภาษาอังกฤษ อ่านว่า “โจว”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้