ท่าทีอันเยือกเย็นของฮั่วเยี่ยนไหวหายไป เขานั่งตัวตรงทันที แววตาเต็มไปด้วยความดุดัน “เ้าว่าอะไรนะ?”
“กล่าวให้ถูกต้องคือ เป็เืจิ้งจอกหิมะพ่ะย่ะค่ะ”
จิ้งจอกหิมะพันปีหาได้ยากยิ่ง แม้แต่ฮั่วเยี่ยนไหวยังเคยเห็นเพียงจิ้งจอกน้อยตัวนี้เท่านั้น!
“ไม่แน่ว่าอาจเป็จิ้งจอกหิมะตัวอื่นพ่ะย่ะค่ะ!” อิ๋งเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างขยิบตาให้คนชุดดำที่อยู่ตรงหน้าอย่างสุดแรง
น่าเสียดายที่คนชุดดำไม่ได้ชายตามอง จึงไม่เห็นว่าอิ๋งเฟิงขยิบตาให้ เขายังคงเอ่ยอย่างจริงจัง “จิ้งจอกตัวนั้นที่ท่านอ๋องทรงเลี้ยงไว้ มีาแจากคมมีดที่ข้อเท้าหน้าพ่ะย่ะค่ะ”
ปั้ก!
อิ๋งเฟิงเดินโซซัดโซเซ ก่อนจะล้มลงกับพื้น
อุณหภูมิภายในห้องลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะจุดหั่วหลง[1]เอาไว้ ทว่ากลับรู้สึกหนาวยิ่งกว่าข้างนอกที่อากาศหนาวเหน็บเสียอีก
ความจริงแล้วคนชุดดำไม่จำเป็ต้องพูดด้วยซ้ำ
นับั้แ่ที่ฮั่วเยี่ยนไหวได้ยินคำว่าเืจิ้งจอก เขาก็คาดเดาได้ถึงเจ็ดหรือแปดส่วนแล้ว
วันที่จิ้งจอกน้อยได้รับาเ็ เขาได้ตรวจดูาแทั้งหมดบนร่างของมันแล้ว เขาจึงย่อมมองเห็นรอยาแจากของมีคมนั้น เพียงแต่ในตอนนั้นเขาคิดว่าเป็ฝีมือของฉินจิ่นยวน
“เ้าเคยเห็นหลีเอ๋อร์ออกมาจากจวนสกุลไป๋หรือไม่?”
คนชุดดำส่ายศีรษะ “กระหม่อมเพียงจับตาดูอยู่ไกลๆ เท่านั้น เพราะกระหม่อมพบว่าคุณหนูใหญ่สกุลไป๋ดูเหมือนจะมีพื้นฐานวรยุทธ์อยู่บ้าง นางไวต่อลมปราณเป็อย่างยิ่ง กระหม่อมจึงไม่กล้าเข้าใกล้พ่ะย่ะค่ะ”
“เข้าใจแล้ว เ้าไปได้ จับตาดูต่อไป”
ขอเพียงจับตาดูอยู่ตลอด จะต้องมีตอนที่ความจริงเผยออกมาเป็แน่
“ท่านอ๋อง ท่านว่าคุณหนูใหญ่สกุลไป๋เป็ผู้บังคับให้จิ้งจอกน้อยทำเช่นนั้นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” อิ๋งเฟิงเอ่ยปากเมื่อเห็นว่าสีหน้าของฮั่วเยี่ยนไหวดูมืดมน
อิ๋งเฟิงนึกติเตียนจิ้งจอกน้อยอยู่ภายในใจเป็พันเป็หมื่นครั้ง
กินของเ้านายเขา ดื่มของเ้านายเขา แล้วยังนอนกับเ้านายเขาอีก ทว่าผลลัพธ์น่ะหรือ? กลับเอาชีวิตตนเองไปช่วยผู้อื่น แล้วต้องให้เ้านายเขาเป็คนช่วยชีวิตเสียอย่างนั้น
อิ๋งเฟิงคิดแล้วก็รู้สึกว่าเื่นี้ไม่ยุติธรรมกับฮั่วเยี่ยนไหวเลย!
“นิสัยของมันดูเหมือนจะบังคับได้อย่างนั้นหรือ?”
“...”
“ไม่เลยพ่ะย่ะค่ะ”
ในเวลานี้ ‘ตัวเอก’ ที่ทั้งสองคนกล่าวถึงกำลังย่องเข้ามาในบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวของฮั่วเยี่ยนไหว
ไอร้อนสีขาวลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือบ่อน้ำพุร้อน อากาศข้างนอกหนาวจัดจนหนาวเหน็บไปถึงกระดูก ทว่าข้างในราวกับวสันตฤดูสี่ฤดูกาล
ฮั่วเยี่ยนไหวช่างรู้จักหาความบันเทิงเสียจริง
ครึ่งชั่วยามต่อมา
ฮั่วเยี่ยนไหวพาร่างอันเหนื่อยล้าลงไปแช่ในบ่อน้ำพุร้อน เขาถอดเสื้อผ้าออก เผยให้เห็นผิวสีทองแดง กล้ามเนื้อแข็งแรงเป็ลอนงดงาม มีเพียงผ้าคลุมตัวบดบังร่างกายส่วนล่างเท่านั้น
เขาบิดคอที่ปวด เดินเท้าเปล่าอ้อมฉากกำบังลม และเตรียมจะลงไปแช่ในบ่อน้ำพุร้อน
ทันใดนั้น สายตาของเขาก็นิ่งค้าง
ก้อนบางอย่างลอยอยู่บนผิวน้ำอย่างไร้ชีวิตจิตใจ มันเคลื่อนไหวไปตามระลอกคลื่น
รูม่านตาของเขาหดลงทันที มิน่าเล่า เขาหาจนทั่วแต่กลับไม่พบหลีเอ๋อร์ ที่แท้มันมาอยู่ตรงนี้นี่เอง!
ทว่าเหตุใดมันถึงได้ลอยอยู่บนผิวน้ำได้?
หรือเป็ตะคริวเพราะเจ็บแผลตอนแช่น้ำ...
ฮั่วเยี่ยนไหวไม่กล้าคิดอีกต่อไป เขาะโลงไปในบ่อน้ำพุร้อนแล้วอุ้มเ้าก้อนสีขาวออกมาวางไว้บนพื้นทันที
ขนของจิ้งจอกน้อยเปียกโชก มันนอนขุดคู้เป็ก้อนกลมๆ ขนาดเล็กอยู่บนพื้น
“หลีเอ๋อร์ หลีเอ๋อร์”
เขาไม่สนใจหยดน้ำบนร่างกายของตนเอง ทำเพียงเช็ดหน้าลวกๆ เท่านั้น ก่อนจะผลักจิ้งจอกน้อยอย่างเบามือ พร้อมส่งเสียงเรียกสองครา
ร่างกายของมันไม่ไหวติงแม้แต่น้อย
สีหน้าของฮั่วเยี่ยนไหวแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย ความหวาดกลัวที่อธิบายไม่ได้กำลังกลืนกินเขา เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาจะกลัวการสูญเสียหลีเอ๋อร์ถึงเพียงนี้
แม้ว่ามันจะลอบออกจากจวนไปเขาก็ไม่เคยขัดขวาง เพราะนั่นคืออิสรภาพของมัน และเขาก็เชื่อว่ามันจะต้องกลับมา
ทว่าเขากลัวว่าจะต้องสูญเสียเ้าตัวเล็กนี้ไปตลอดกาล
เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร เห็นได้ชัดว่านี่เป็เพียงจิ้งจอกตัวหนึ่งเท่านั้น
ริมฝีปากของฮั่วเยี่ยนไหวัักับปากแหลมเล็กของจิ้งจอก ก่อนจะเริ่มผายปอด
จิ้งจอกน้อยตื่นขึ้นยามที่ฮั่วเยี่ยนไหวประทับริมฝีปากลงมา
ทว่ามันไม่กล้าลืมตา
ช่างน่าอับอายเสียจริง!
นางเพียงหลับไปยามแช่น้ำ เมื่อตื่นขึ้นมาก็ถูกจูบเสียอย่างนั้น
ถึงแม้นี่จะเป็การผายปอด
ทว่าถึงอย่างไรก็เป็จูบแรกของนางเชียวนะ!
ไป๋เซี่ยเหอลอบกลืนน้ำลาย ใบหน้าร้อนผ่าว หากไม่มีเส้นขนปุกปุยปิดบังเอาไว้ เกรงว่าใบหน้าของนางจะแดงยิ่งกว่าผิงกั่วเสียอีก
เสียงกลืนน้ำลายนั้นไม่ดังนัก
ทว่าก็ดังพอที่จะทำให้ฮั่วเยี่ยนไหวที่อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมได้ยิน
ฮั่วเยี่ยนไหวอุ้มจิ้งจอกน้อยเดินออกไปข้างนอก
อิ๋งเฟิงเฝ้าอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นฮั่วเยี่ยนไหวเดินออกมาอย่างกะทันหัน ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความสงสัย ท่านอ๋องเพิ่งเข้าไปไม่ใช่หรือ? อาบน้ำเสร็จเร็วปานนี้เชียว?
“ท่านอ๋อง เหตุใดใบหน้าของท่านถึงได้แดงปานนี้? เป็ภูมิแพ้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
พวงแก้มของจิ้งจอกร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม
ดวงตาสีดำของฮั่วเยี่ยนไหวฉายแววแปลกประหลาดเล็กน้อย “ร้อนน่ะ”
“น้ำในบ่อร้อนถึงเพียงนั้นเชียวหรือพ่ะย่ะค่ะ? ไม่น่าร้อนถึงขั้นนั้นหรอกกระมัง”
จิ้งจอกน้อยที่นอนอยู่บนฝ่ามือของฮั่วเยี่ยนไหวแทบจะได้ยินเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโหของเขา
นางยื่นอุ้งเท้าสีขาวปุกปุยไปปิดตาตนเองเพราะทนดูต่อไปไม่ไหว ข้างกายของฮั่วเยี่ยนไหวมีคนที่ซื่อบื้อถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?
“ท่าม้าหกชั่วยาม”
“โอ๊ย” อิ๋งเฟิงโอดครวญ เขาทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือ? เหตุใดถึงต้องทำโทษเขาด้วยเล่า!
น้ำพุร้อนบ่อนี้ต้องไม่ถูกโฉลกกับเขาเป็แน่ เขาถึงต้องถูกทำโทษทุกครั้งที่มา
อยากร่ำไห้ทว่าไร้น้ำตา!
เมื่ออยู่ในห้องหนังสือ จิ้งจอกน้อยก็แสร้งทำเป็เพิ่งตื่น ก่อนจะสะบัดขน ทำให้หยดน้ำสาดกระเซ็นไปทั่ว
แม้แต่สาสน์ที่มีความสำคัญบนโต๊ะหนังสือก็ไม่เว้น
ฮั่วเยี่ยนไหวมองสาสน์ที่มีคราบหมึกเปรอะเปื้อนเป็ดวง ก่อนจะทอดถอนใจเล็กน้อยจนแทบสังเกตไม่เห็น
“วุ่นวายอีกแล้ว!”
เขาสั่งให้คนไปนำผ้าสะอาดมา ก่อนจะห่อตัวจิ้งจอกน้อยไว้ในผ้า
สายตาตกอยู่บนอุ้งเท้าหน้าของจิ้งจอกน้อยอย่างเป็ธรรมชาติ
“าแนี้ได้มาอย่างไร?” เขารู้อยู่แก่ใจว่านี่คือเื่ส่วนตัวของจิ้งจอกน้อย ทว่ากลับอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
หากเป็ผู้อื่น ไม่ต้องพูดถึงาแเลย ต่อให้แขนหัก เขาก็จะไม่ชายตามอง
เขาไม่รู้ตัวเลยว่า จู่ๆ เขาก็ปรารถนาให้จิ้งจอกน้อยไม่มีความลับกับเขา
หัวใจของจิ้งจอกน้อยหม่นหมองลงเล็กน้อย การได้พักอาศัยอยู่ในจวนเซ่อเจิ้งอ๋องและได้รับความโปรดปรานจากฮั่วเยี่ยนไหวไม่มีทางทำให้นางลืมว่าเขาเป็บุคคลเช่นไร
เขาเกิดความสงสัยขึ้นแล้ว
เมื่อเห็นจิ้งจอกน้อยเงียบไป แววตาของฮั่วเยี่ยนไหวก็หม่นหมองลงเล็กน้อยเช่นเดียวกัน
หรือจะเลี้ยงไม่เชื่องอย่างที่คิด...
ดวงตาสีดำขลับของจิ้งจอกน้อยดูล่อกแล่ก ก่อนที่มันจะยกอุ้งเท้าขวามาทำท่าทางบางอย่างเหนืออุ้งเท้าซ้าย ท่าทางดังกล่าวนั้นดูน่าขบขันและน่ารักเป็อย่างยิ่ง
“ใช้มีดกรีดหรือ?” แม้ว่าฮั่วเยี่ยนไหวจะรู้อยู่แล้ว ทว่าเขาก็ยังอยากจะทราบเหตุผล “เพราะอะไร?”
ช่วยชีวิตคน!
ทว่าไป๋เซี่ยเหอครุ่นคิดอยู่นานก็ไม่รู้ว่าควรจะทำท่าทางอย่างไรดี
เมื่อฮั่วเยี่ยนไหวเห็นจิ้งจอกน้อยใช้อุ้งเท้าหน้าเกาศีรษะ ในใจก็อ่อนยวบลง “หรือเพราะ้าช่วยชีวิตคุณหนูใหญ่สกุลไป๋ ไป๋เซี่ยเหอกระมัง”
เมื่อคำว่าไป๋เซี่ยเหอลอยเข้ามาในหู
รูม่านตาของจิ้งจอกน้อยก็หดลงเล็กน้อย รู้สึกกระสับกระส่ายอย่างอธิบายไม่ได้
จะให้นางบอกว่านางช่วยเหลือตัวนางเองอย่างนั้นหรือ!
“เ้ามีความสัมพันธ์อันดีกับไป๋เซี่ยเหอสินะ?”
ไป๋เซี่ยเหอก็คือตัวนางเองไม่ใช่หรือ?
จิ้งจอกน้อยผงกศีรษะ
ฮั่วเยี่ยนไหวเงียบลงอย่างกะทันหัน ริมฝีปากบางเม้มแน่น แม้สีหน้าจะไม่ได้ย่ำแย่ ทว่าอุณหภูมิในห้องกลับลดลงอย่างอธิบายไม่ได้อีกครา
นึกไม่ถึงว่าจิ้งจอกน้อยจะปล่อยให้ตนเองเสียเืมากมายปานนั้นเพื่อช่วยชีวิตไป๋เซี่ยเหอ
มิน่าเล่า มันถึงได้ปรากฏตัวด้วยท่าทีอิดโรยทุกคราไป
มิน่าเล่า เขาถึงได้พบมันครั้งแรกบริเวณใกล้ๆ กับจวนสกุลไป๋
มิน่าเล่า มันถึงได้ปรากฏตัวอย่างอิดโรยเป็ครั้งที่สอง หลังจากไป๋เซี่ยเหอช่วยชีวิตฮ่องเต้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เื่ราวทั้งหมดก็เชื่อมโยงกันทันที!
------------------------
[1] หั่วหลง หมายถึง เครื่องทำความร้อนชนิดหนึ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้