หลิงเมิ่งอยากจับตัวเธอไว้ แต่บางเื่แม้อยากทำก็ทำไม่ได้
ต้องขอบคุณอู๋อู๋ที่ตั้งใจเตรียมงานอย่างขยันขันแข็ง ในห้องจัดเลี้ยงชิงหลงมีโต๊ะหกสิบสี่ตัวตั้งอยู่เต็มพื้นที่
ด้านล่างเวทีมีคนราวๆ หกร้อยกว่าคน ท่ามกลางคนเ่าั้หลายคนเป็ผู้บริหารคณะกรรมการเทศบาล และเพื่อนของหลิงจื้อเฉิง นั่นเป็เหตุผลที่เธอยังอยู่เฉย และไม่กล้าทำอะไรต่อหน้าสายตาของทุกคนที่มองอยู่
มือทั้งสองกำกระโปรง เธอทำได้เพียงยืนมองซูอินซึ่งกำลังเป็จุดสนใจของผู้คน สถานการณ์ที่มันควรเป็ของเธอ
บนเวทีเปิดสปอตไลต์สว่างมาก มุมที่ซูอินยืนอยู่สามารถเห็นเหงื่อบางๆ บนหน้าผากของหลิงเมิ่ง
ร้อนใจแล้วหรือ
มุมปากของซูอินยกขึ้นก่อนเธอจะดึงสายตากลับมา
“วันนี้หลิงเมิ่งกลับมาอยู่กับตระกูลหลิง ฉันเชื่อว่าด้วยฐานะของตระกูลหลิง หลังจากนี้เธอคงได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข แต่พวกเราก็ไม่สามารถละเลยชีวิตคนในชนบท ยังคงมีเด็กอีกมากที่ขาดคุณภาพชีวิตที่ดี สภาพของหลายๆ ครอบครัวแย่กว่าตระกูลซูที่ให้กำเนิดฉันและเลี้ยงดูหลิงเมิ่งด้วยซ้ำ เด็กบางคนถูกบังคับให้ออกจากโรงเรียนกลางคัน ความรู้เปลี่ยนโชคชะตา สำหรับเด็กนักเรียนยากจนเหล่านี้ การเรียนจึงเป็วิธีที่ง่ายที่สุด เพราะเป็สิ่งเดียวที่จะเปลี่ยนชีวิตของตนเองและชะตากรรมของครอบครัว อย่างไรก็ตาม เป็เพราะความยากจนที่ปิดกั้นโอกาสของพวกเขาั้แ่เนิ่นๆ เมื่อได้รู้เื่นี้ ฉันรู้สึกเศร้ามาก”
ซูอินขมวดคิ้ว เธอนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ “ฉันเป็แค่นักเรียน ไม่มีความสามารถมากพอ แต่ฉันจะพยายามใช้พลังที่อ่อนแอนี้ช่วยเหลือพวกเขา ในวาระโอกาสที่ดีครั้งนี้ ฉันมีเื่อยากประกาศค่ะ เงินที่ได้รับในวันเกิดปีนี้จำนวนครึ่งหนึ่งจะนำไปใช้ในการกุศล เพื่อช่วยเหลือเด็กชนบทที่ครอบครัวยากจนของเมืองนี้”
“เงินที่ได้รับในวันเกิดมาจากแขกทุกท่าน เมื่อดื่มน้ำจงอย่าลืมแหล่งกำเนิดของน้ำ[1] ขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้าค่ะ”
ประโยคหลังซูอินเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะก้มตัว ฝ่ามือของเธอยังเปียกชื้นอยู่เลย
เป็ครั้งแรกของเธอทั้งในอดีตและปัจจุบันที่รู้สึกประหม่ามากขนาดนี้
เงียบไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าใครเป็คนนำจนเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยงชิงหลง
อันดับแรก เพราะสาวน้อยคนงามมีจิตใจเมตตา
อันดับต่อมา เื่การกุศลหากเป็คนทั่วไปย่อมไม่คัดค้าน แต่การบริจาคที่ผูกมัดเช่นนี้ทำให้บางคนไม่พอใจ เงินที่หามาแต่ละเดือนแทบจะไม่พอใช้อยู่แล้ว ทำไมต้องเอาไปช่วยคนอื่น หลายคนมีความคิดเช่นนี้ เมื่อครู่เด็กสาวกล่าวอย่างชัดเจนว่า เงินที่ได้เป็ของขวัญวันเกิดเธอจะนำไปบริจาค และยังได้กล่าวถึงพวกเขาเื่การนำเงินส่วนนี้ไปใช้ พยายามเต็มที่ในการระบุผู้ที่มอบเงิน และให้เกียรติพวกเขาอย่างมาก
พวกเขาจำเป็ต้องปรบมือ และทำให้มันดูเป็การปรบมือด้วยความยินดีมากขึ้นสักหน่อย
เสียงปรบมือดังเหมือนเกลียวคลื่น คงไม่ต้องบอกว่าหลิงเมิ่งและอู๋อู๋ที่อยู่บนเวที และคนมากมายกำลังมองมา สิ่งที่พวกเธอทำได้ก็คือยิ้มเข้าไว้
ยิ้มจนหน้าจะเป็ตะคริว
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนกว่าเสียงปรบมือจะเงียบ พิธีกรขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งเพื่อเชิญเ้าภาพวันเกิดอีกคนอย่างหลิงเมิ่งขึ้นไป
สคริปต์ที่เธอเตรียมไว้อย่างดิบดีก่อนหน้านี้ไม่มีประโยชน์แล้ว แต่ถึงมันจะกะทันหัน หลิงเมิ่งก็แสดงได้ไม่เลว อีกทั้งในตอนท้ายยังให้สัญญาเช่นกันว่าเงินที่ได้ในงานวันเกิด ครึ่งหนึ่งเธอจะนำไปช่วยเด็กนักเรียนที่ยากจน
เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง
แต่ในเมื่อซูอินสร้างผลงานไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เสียงปรบมือครั้งนี้จึงไม่ดังสนั่นเท่ากับเมื่อครู่
เปรียบเทียบกันแล้วว่าสิ่งที่เกิดก่อนและหลังมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้เมฆหมอกก่อตัวหนาขึ้นในใจของหลิงเมิ่งอีกครั้ง
อยู่บนเวทีต่อหน้าผู้คน เธอยังอดทนไว้ได้ แต่เมื่องานเลี้ยงเริ่มขณะเดินกลับเข้าห้องพักด้านหลังเวที เธอก็หัวเสียจนเตะเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้าง
ซูอินที่เดินตามหลังมาเกือบโดนลูกหลง เธอใจนคว้าไมโครโฟนในมือไว้แน่น
เมื่อครู่ที่เดินลงมาจากเวที พิธีกรลากหลิงจื้อเฉิงไปคุยด้วย จึงส่งไมโครโฟนให้เธอนำไปเก็บในห้องพักด้านหลังเวที
ซูอินรู้ว่าพิธีกรหลายคนมักจะมีไมโครโฟนเป็ของตนเอง เมื่อมีงานก็มักจะพกติดตัวมาด้วย ไมโครโฟนหลายตัวมีราคาแพง คุณภาพไม่ธรรมดาตามไปด้วย เป็สิ่งที่พิธีกรหวงแหนมาก
การยื่นมือเข้าช่วยเื่เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เธอไม่ปฏิเสธ
ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญมาเห็นหลิงเมิ่งเช่นนี้
เมื่อเห็นตัวการผู้กระทำผิด ความโกรธของหลิงเมิ่งจึงมีที่ระบายเธอะเิทันที
“หัวหอมอย่างเธอมันมีค่าตรงไหน[2]”
ซูอินคิดว่าตัวเองเป็คน มิใช่หัวหอม คำพูดของหลิงเมิ่งไม่เกี่ยวข้องกับเธอ อีกทั้งในวันนี้เธอไล่บดขยี้คู่ต่อสู้ในทุกๆ ทางอย่างไร้ที่ติ สำหรับผู้ชนะอย่างเธอจึงไม่คิดถือสา
ดังนั้นเธอไม่สนใจหลิงเมิ่งและเดินผ่านหน้าอีกฝ่ายไป
ถูกเมินหรือ!
หลิงเมิ่งรู้สึกโกรธก่อนจะสาวเท้าก้าวตามซูอินไปแล้วดึงสายสะพายไหล่ของซูอิน แรงดึงค่อนข้างแรง ทำให้ชุดที่ปกปิดมิดชิดกลายเป็ชุดเปิดไหล่ทันที
มือสองข้างถือไมโครโฟน ซูอินทำอะไรไม่ถูกก่อนจะเลื่อนนิ้วหัวแม่มือไปที่สวิตช์เปิดปิด
“ซูอิน เธอมีสิทธิ์อะไรมาร่วมงานฉลองวันเกิดครั้งนี้ ไม่ละอายใจบ้างหรือ”
จริงๆ เลย…ซูอินส่ายหน้า จากนั้นดันสวิตช์ขึ้นไป้าเบาๆ
“นี่เธอไม่รู้หรือว่าเงินของขวัญวันเกิดนั่นมันควรเป็ของใคร เด็กชนบทอย่างเธอใครจะมาให้ของขวัญ ต้องหน้าหนาขนาดไหน กล้าพูดต่อหน้าคนอื่นได้ยังไงว่าจะแบ่งเงินไปครึ่งหนึ่ง แล้วยังบอกว่าจะบริจาคให้เด็กนักเรียนยากจน เธอรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้ตัวเองก็เป็นักเรียนยากจนเหมือนกัน พ่อแม่เธอยังก้มหน้าทำนาเพื่อหากินอยู่เลย ใส่ชุดก็ไม่เจียมตัวมาเข้าร่วมงานเลี้ยง แล้วยังกล้าทำเื่แบบนี้อีก ใครให้เธอเสนอหน้ากัน!”
เธอขมวดคิ้วย่น หลิงเมิ่งเอานิ้วจิ้มลงบนศีรษะของซูอิน พ่นคำพูดจนน้ำลายกระเด็นในอากาศ
แม้ว่าจะไม่ได้ยกไมโครโฟนขึ้นมาชิดปาก แต่เสียงแหลมๆ นั้นเข้าไปในเครื่องอย่างชัดเจน
ในห้องจัดเลี้ยงชิงหลงที่มีกำแพงกั้น พนักงานเสิร์ฟในชุดเครื่องแบบเรียบร้อยเข็นรถอาหารแล้ววางจานลงบนโต๊ะ แขกที่คุ้นหน้าคุ้นตาพูดคุยกันอย่างอบอุ่น การผลัดถ้วยคืนจอก[3] ทำให้บรรยากาศค่อยๆ ครึกครื้น
ทันใดนั้นเสียงที่ถูกปิดก็ดังขึ้นอีกครั้ง คำพูดที่ไร้ความปรานีได้ยินอย่างชัดเจน
และเสียงนี้…เพิ่งจะได้ยินไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ ทุกคนในงานเริ่มฟังออกว่าเ้าของเสียงคือใคร
เสียงในงานเงียบลง ทุกคนเริ่มหันมามองหน้ากัน
สีหน้าของหลิงจื้อเฉิงเปลี่ยนไป…
อู๋อู๋ตอบสนองต่อเื่นี้เร็วกว่าหลิงจื้อเฉิง เธอไม่สนใจเื่มารยาทอีกต่อไป ทิ้งภรรยาของบุคคลสำคัญอย่างผู้บริหารคณะกรรมการเทศบาล และรีบวิ่งไปที่ห้องพักหลังเวที
ในห้องพัก ซูอินถอนหายใจแรง
ั้แ่ตกปากรับคำหลิงจื้อเฉิงว่าจะมาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ เธอก็คิดไว้แล้วว่าจะแย่งโอกาสในการเป็จุดสนใจมาจากหลิงเมิ่ง ั้แ่แรกจนถึงตอนนี้เธอไม่เคยอยากได้เงินของตระกูลหลิง
เมื่อชาติก่อนหลิงเมิ่งก็ใช้เงินที่ได้รับจากวันเกิดไปเป็เงินลงทุน ในตอนนั้นมีจำนวนสองแสนหยวนพอดี
และในวันที่หลิงจื้อเฉิงมาหาเธอ ในบัตรของเธอมีเงินเจ็ดแสนหยวน
น้ำพุแห่งจิติญญาของซูอินจำเป็ต้องได้รับบุญกุศล นับั้แ่กลับชาติมาเกิดใหม่ เธอรู้สึกซาบซึ้งและขี้เกรงใจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เธอไม่รู้สึกแย่เลยที่ต้องนำเงินสองแสนหยวนออกมาจากเงินเจ็ดแสนหยวนไปช่วยเหลือเด็กนักเรียนยากไร้
ในตอนแรกเธอคิดว่าจะรอให้งานเลี้ยงครั้งนี้จบลง จากนั้นหาโอกาสอธิบายกับตระกูลหลิงอย่างชัดเจน แต่ไม่คิดว่าหลิงเมิ่งจะทำเกินไปเช่นนี้
เธอเองจึงทำได้เพียงดำเนินการต่อไป
“วันดีๆ แบบนี้ อีกทั้งยังเกิดเื่ดีๆ ทำไมเธอทำแบบนี้ล่ะ ในเมื่อด้านนอกทุกคนมากันพร้อมแล้ว มีเื่อะไรพวกเราออกไปพูดกันข้างนอกดีกว่า”
มือของซูอินถือไมโครโฟนก่อนจัดระเบียบสายสะพายไหล่ โดยไม่ได้สนใจหลิงเมิ่ง เธอหมุนตัวเดินออกมาที่ห้องจัดเลี้ยง
-------------------------------------------------------------------
[1] เมื่อดื่มน้ำจงอย่าลืมแหล่งกำเนิดของน้ำ อุปมาว่าเมื่อมีความสุขแล้วก็ไม่ลืมแหล่งที่ให้ความสุข
[2] หัวหอมอย่างเธอมันมีค่าตรงไหน กล่าวเป็นัยคือ คนอย่างเธอไม่มีค่า ใช้ในความหมายดูถูก เพราะหัวหอมเป็เพียงสิ่งเล็กๆ ที่ไม่สำคัญ
[3] ผลัดถ้วยคืนจอก อุปมากล่าวถึงความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน การเคารพซึ่งกันและกัน มักใช้สื่อความหมายว่า ได้มาร่วมดื่มกับคนที่สนิทคุ้นเคยกันดี
