หลังจากนั้นสักพักหนึ่งชายใส่สูทผูกไทก็เดินออกมา นั่นก็คือผู้จัดการฝ่ายบัญชีของสโมสรหวงเจีย หวังฉี
หลังจากโทรศัพท์เสร็จเหลียงเซิงก็ดูกระวนกระวายตลอดเวลา เมื่อเห็นหวังฉีกำลังเดินมาเขาก็รีบเดินไปหาและกล่าว “พี่หวัง ผมหวังว่าพี่จะสบายดีนะ”
“ฮ่าๆๆ นายน้อยเหลียง ผมไม่เคยคิดว่าคุณจะมีเวลามาสนุกที่นี่ในวันนี้ด้วยถ้าคุณ้าอะไรบอกผมมาได้เลย”
ในการมาเมืองเว่ยเฉิงครั้งก่อนเหลียงเซิงได้ยินว่าสโมสรหวงเจียเป็สถานบันเทิงไฮโซเขาจึงมาเที่ยวที่นี่บ่อยครั้งและได้รู้จักกับหวังฉีหวังฉีเห็นว่าคนคนนี้ค่อนข้างใจป้ำและนับได้ว่าเป็ป๋า ทุกครั้งเขาจะได้รับทิปส่วนหนึ่งดังนั้นเขาจึงดูแลเหลียงเซิงเป็อย่างดีมาโดยตลอด
เมื่อเขาเห็นเหลียงเซิงมาที่นี่อีกครั้งมันก็เหมือนกับว่าเขาได้เห็นธนบัตรม้วนใหม่
“ฮ่าๆๆ มันมีเื่เล็กที่ผมอยากจะรบกวนพี่หวังหน่อย”เหลียงเซิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คืนนี้ผมมาสนุกกับเพื่อนไม่กี่คนแต่ผู้หญิงที่เป็พนักงานต้อนรับบอกว่าห้องถูกจองหมดแล้วถ้าอย่างไรพี่หวังจะช่วยจัดห้องหรูให้เราได้หรือเปล่า? เื่เงินไม่มีปัญหาตราบใดที่ผมไม่เสียหน้าก็พอ”
หวังฉีขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนี้จริงๆ แล้วห้องหรูมักจะถูกสงวนไว้ให้กับบุคคลสำคัญบ่อยๆ อย่างเช่นห้อง 888 ของฉินเฟิงก็ไม่เคยเปิดให้ใช้เลยเหมือนกับว่ามันกลายเป็ห้องส่วนตัวของฉินเฟิงไปแล้ว
และตอนนี้มันก็ยังเหลือห้องหรูอีก2ห้องที่เปิดให้ใช้ได้ ทำไมพนักงานต้อนรับถึงบอกว่าห้องเต็ม?
หวังฉีพาเหลียงเซิงมาที่แผนกต้อนรับด้วยความโกรธเหลียงเซิงชี้พนักงานต้อนรับคนที่ไม่ให้ห้องเขาหวังฉีมองไปที่เธอขณะถามอย่างเ็า “เกิดอะไรขึ้น? มีแขกอยากจะเช่าห้องแต่เธอบอกว่าห้องเต็มหมดแล้ว มันยังเหลืออีกสองห้องไม่ใช่หรือไง?”
พนักงานต้อนรับไม่คิดว่าเหลียงเซิงจะรู้จักกับผู้จัดการหวังในสถานการณ์ปกติเธออาจจะเชื่อฟังคำสั่งของผู้จัดการหวัง แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่กลัวเลยสักนิด เพราะว่านายน้อยฉินเป็คนออกคำสั่งแก่เธอเอง แม้ว่าจะมี 10 ผู้จัดการหวังมาไต่สวนเธอ เธอก็ไม่กลัว
“ผู้จัดการหวังคะ ห้องถูกจองเต็มหมดแล้วค่ะ”พนักงานต้อนรับพูดอย่างสงบขณะกะพริบตาส่งซิกให้กับหวังฉี
ทว่าหวังฉีกลับไม่รู้ตัวและโกรธแทน“เธอยังจะพูดว่ามันถูกจองหมดแล้วอีกเหรอ? เธออยากให้ฉันพาไปดูอีกสองห้องที่เหลือไหม?เกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน? เธอไม่อยากทำงานที่นี่ต่อไปแล้วหรือไง?”
เมื่อเห็นหวังฉีโกรธมากพนักงานต้อนรับก็รู้สึกผิดนิดหน่อยและอธิบาย “ผู้จัดการหวังคะ เบื้องบนบอกมาว่าสองห้องนั้นห้ามให้เช่าค่ะ”
หวังฉีแปลกใจเขาไม่แน่ใจว่าเบื้องบนที่เธอพูดถึงคือใครนอกจากผู้จัดการทั่วไปแล้วเขามีอำนาจมากที่สุดในสโมสรหวงเจียในเมื่อวันนี้ผู้จัดการหลิวหยุด ยังจะมีคนที่สูงกว่านั้นอีกเหรอ?
“ใครกัน? บอกมันให้มาที่นี่ซะ ฉันอยากจะเห็นจังว่าใครที่ร่ำรวยจนไม่อยากทำธุรกิจอีกต่อไปแล้วฉันจะบอกให้นะ ฉัน้าให้ห้องพวกนั้นเปิดใช้ ต่อให้นายน้อยฉินมาก็ตาม”หวังฉีพูดอย่างโมโหขณะชี้หน้าไปที่พนักงานต้อนรับ
ทว่าพนักงานต้อนรับสาวสวยก็ดูจะไม่กังวลเลยสักนิดเธอปล่อยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจแทน เพราะว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้จัดการหวังคือนายน้อยฉินนั่นเอง
“เสี่ยวหวังเอ๋ย นายพูดถูกแล้ว ฉันสั่งเอง มีอะไรที่นายไม่พอใจหรือเปล่า?”จู่ๆ เสียงของฉินเฟิงก็ดังออกมาจากข้างหลังของหวังฉี
หวังฉีรู้สึกว่าเสียงนี้มันดูคุ้นหูเมื่อเขาหันหน้าไปก็ใจนเกือบจะล้มลงกับพื้น
เหลียงเซิงยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาเห็นฉินเฟิงเดินมาหา เขาก็รู้สึกเหมือนกับลำไส้จะะเิออกมาด้วยความโกรธในเมื่อไอ้เด็กนี่มันตั้งใจก่อปัญหาให้เขา มันจะต้องชดใช้อย่างสาสม
“เฮ้ย ไอ้เด็กเวร วางท่าใหญ่โตซะจริง แกเป็บอสของสโมสรหวงเจียนี้หรือไงฮะ?แกคิดว่าแกจะหยุดพ่อไม่ให้ได้ห้องเหรอ?” เหลียงเซิงมองฉินเฟิงด้วยสีหน้าเยาะเย้ยเขาชี้หวังฉีและบอกอย่างวางก้าม “ดูซะ ไอ้เด็กน้อย นี่คือพี่ชายแสนดีของฉันเขาคือผู้จัดการทั่วไปของสโมสรหวงเจีย เขาอยู่จุดสูงสุดของที่นี่แกคิดว่าแกเป็ใครวะ?”
เมื่อรู้ว่าจักรยานของฉินเฟิงใช้ช่องจอดรถสองช่องและสามารถเข้ามาในสโมสรหวงเจียได้ด้วยตัวเองเหลียงเซิงเดาว่าเขาคงรู้จักใครสักคนที่นี่
อย่างมากเขาอาจจะรู้จักผู้ดูแลหรือรองผู้จัดการตอนนี้มีหวังฉียืนอยู่ข้างๆ เขาอยากจะหักหน้าฉินเฟิง
แกอยากจะขโมยผู้หญิงของฉันเหรอ? หน่อมแน้มเกินไป!
“ผู้จัดการทั่วไปหวัง ขอห้องหรูผมตอนนี้เลย ผมอยากจะเห็นว่าไอ้เด็กนี่มันจะทำอย่างไรแกขี่จักรยานเส็งเคร็งนั่นมาที่นี่และยังพยายามจะวางท่าใหญ่โตงั้นเหรอ? พ่อจะตอกกลับให้หน้าหงายเลย”
เหลียงเซิงปล่อยคำหยาบทุกคำที่เขาเก็บกดไว้ในใจแต่แม้จะรอสักพักหนึ่ง เขาก็ไม่เห็นหวังฉีทำอะไร เมื่อเขาหันไปดูเขาก็เห็นหวังฉีจ้องฉินเฟิงด้วยความหวาดกลัว ปากของเขาพะงาบๆหลายครั้งโดยที่พูดอะไรไม่ออก
“พี่หวัง เป็อะไรไป? รีบหาห้องให้ผมเร็วเข้าสิคุณก็รู้ว่ามีทิปก้อนใหญ่รออยู่” เหลียงเซิงกระตุ้นหวังฉีอีกครั้ง
หวังฉียังไม่หายดีจากอาการใฉินเฟิงก็พูดขณะหัวเราะ “ไง ผู้จัดการทั่วไปหวัง คุณเลื่อนขั้นเป็ผู้จัดการทั่วไปั้แ่เมื่อไรเนี่ยแม้แต่ผมก็ไม่ยักกะรู้เลย”
หวังฉีรู้สึกอยากจะวิ่งชนกำแพงตาย
เขาถูกครอบงำโดยความโลภและ้าจะเปิดห้องหรูให้เหลียงเซิงเพื่อที่จะได้ทิปส่วนที่เขาพล่ามว่าจะไม่ไว้หน้าฉินเฟิง นั่นก็แค่พูดโม้ไปเรื่อย
ตอนนี้ฉินเฟิงอยู่ต่อหน้าเขาแล้วสีหน้าของหวังฉีมืดมนราวกับมีคนตายทั้งครอบครัวเขาดูเหมือนจะร้องไห้และพูดอย่างเลิ่กลั่ก “นายน้อยฉินครับ ข้าน้อยไม่รู้จริงๆว่าคุณสั่ง ไม่อย่างนั้นแม้ว่าจะเป็นายกเทศมนตรีของเมืองเว่ยเฉิงผมก็จะไม่เปิดห้องให้เขาแน่นอน อย่าว่าแต่นายน้อยเหลียงกะโหลกกะลานี่เลยนายน้อยฉินครับ คนโง่เขลาเบาปัญญาย่อมไม่ควรถือสาได้โปรดให้อภัยแก่ข้าน้อยในครั้งนี้ด้วยครับ”
ชายวัยสามสิบกำลังอ้อนวอนต่อหน้าผู้คนเหลียงเซิงรู้สึกค่อนข้างใกับฉากนี้
ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าสโมสรหวงเจียมีเ้าของเป็ผู้ชายที่รวยที่สุดในเมืองเว่ยเฉิงฉินหวง และหวังฉีก็พูดกับหนุ่มคนนี้ว่านายน้อยฉินเขาถึงขนาดเริ่มคุกเข่าและเลียแข้งเลียขา นอกจากลูกชายคนเดียวของฉินหวงฉินเฟิงแล้ว ยังจะมีใครที่มีอำนาจขนาดนั้นได้อีก?
เมื่อนึกถึงความจริงที่เขาขอให้มาสโมสรหวงเจียของตระกูลฉินเฟิงเพื่อสนุกและเยาะเย้ยฉินเฟิงมาตลอดทางใบหน้าเหลียงเซิงก็เกือบจะเป็สีเขียว เขาอยากจะสับฉินเฟิงให้เป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“ฮึ่ม ถ้าแกเป็ฉินเฟิงแล้วไง? ไอ้เด็กเวรคอยดูก่อนเถอะ ฉันจะบอกอะไรให้นะว่าแกมันก็แค่นายน้อยในเมืองเว่ยเฉิงต่อหน้าตระกูลเหลียงแห่งเมืองหลวง แกมันก็แค่มดตัวหนึ่ง”เหลียงเซิงเสียหน้าไปมากในวันนี้และไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อ หลังจากพ่นพวกคำเสียดสีเขาก็ออกจากสโมสรหวงเจียด้วยความเกรี้ยวกราด
“ติ๊ง...ขอแสดงความยินดีแก่โฮสต์ฉินเฟิงที่ทำภารกิจทำให้จ้าวหลิงเซียนและหานอิ๋งอิ๋งสงบศึกเป็เวลา10 นาทีได้สำเร็จ คุณได้รับแต้มสำราญ 100 แต้มเป็รางวัล”
เมื่อเหลียงเซิงออกไปปุ๊บเสียงไร้อารมณ์เหมือนหุ่นยนต์ก็ดังออกมาในหัวของฉินเฟิงทันที
เขามองไปที่โซฟาด้วยความใและเห็นผู้หญิงสองคนกับบุคลิกที่แตกต่างกันแต่ทั้งคู่ที่งดงามปานเทพธิดาได้นั่งหันหลังให้กัน พวกเธอทั้งคู่ดูเหม่อลอยและเขาก็ไม่รู้ว่าพวกเธอคิดอะไรกันอยู่
ภารกิจเสร็จทั้งอย่างนี้เนี่ยนะ? ฉินเฟิงแทบจะไม่เชื่อสายตา
“หลิงเซียน เหลียงเซิงมันโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงกลับไปแล้วเธออยากจะกินอะไรไหม?” ฉินเฟิงมาหาผู้หญิงทั้งสองและถาม
ในตอนแรกผู้หญิงสองคนด่ากันและกันในใจแต่หลังจากนั้นสักพักหนึ่ง พวกเธอทั้งคู่ก็จมลงสู่ห้วงความคิดของตัวเอง
จ้าวหลิงเซียนสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างฉินเฟิงและหลินเป้ยเป้ยปกติแล้วหลังจากที่ฉินเฟิงได้ฟันผู้หญิงเขาจะไม่ไปพบเธออีกเป็ครั้งที่สองทว่าหลินเป้ยเป้ยดูจะเป็ข้อยกเว้น ซึ่งทำให้จ้าวหลิงเซียนรู้สึกค่อนข้างไม่มีความสุข
หานอิ๋งอิ๋งกำลังคิดหาวิธีที่จะทำให้ฉินเฟิงเป็ของเธออยู่จากข้อมูลที่เธอได้มา ฉินเฟิงเป็แค่นายน้อยเ้าสำราญขี้หลีก่อนหน้านี้หานอิ๋งอิ๋งมั่นใจมากว่าเธอจะชนะใจเขาได้ แต่เธอก็ค่อยๆพบว่าเขาไม่ได้เป็เหมือนอย่างที่ข้อมูลบอกไว้
ด้วยการจมอยู่กับความคิดของตัวเองทั้งอย่างนั้นผู้หญิงทั้งสองจึงสงบศึกกันโดยปริยายเป็เวลา 10 นาทีซึ่งทำให้ฉินเฟิงเสร็จภารกิจพอดี
“ไม่ ไม่เป็ไร พอดีมีใครบางคนมันทำให้ฉันหมดอารมณ์ฉันเลยอยากกลับบ้านแล้ว”จ้าวหลิงเซียนลุกขึ้นและจ้องหานอิ๋งอิ๋งอย่างเ็าแล้วก็เดินออกจากสโมสรหวงเจีย
“คุณหาน ผมจะพาหลิงเซียนไปส่งที่บ้านถ้าเราเจอกันอีกครั้งค่อยคุยกันนะครับ”
ฉินเฟิงยิ้มให้หานอิ๋งอิ๋งแล้วก็ตามจ้าวหลิงเซียนไป
เมื่อเธอเห็นฉินเฟิงออกไปแล้วสายตาของหานอิ๋งอิ๋งก็เต็มไปด้วยความโกรธและไม่พอใจ เธอสาบานเงียบๆ ว่า “ฉินเฟิงรอก่อนเถอะ สักวันฉันจะต้องทำให้นายเป็ของฉันให้ได้และจะทำให้นายเชื่อฟังคำสั่งฉันโดยสมบูรณ์”
...
เหมือนกับขามาฉินเฟิงรีบพาจ้าวหลิงเซียนขึ้นจักรยาน 28 นิ้วเพื่อไปส่งที่บ้าน
บางทีอาจเพราะเธออารมณ์ไม่ดีจ้าวหลิงเซียนเงียบตลอดทางและไม่ได้พูดกับฉินเฟิง
เมื่อพวกเขาถึงบ้านตระกูลจ้าวจ้าวหลิงเซียนก็ทักทายพ่อของเธอกับฉินหวงและขึ้นบันไดไปเมื่อเห็นว่าฉินหวงกับอาจ้าวยังคุยกันไม่จบมาสักพักหนึ่ง ฉินเฟิงจึงออกไปก่อนและขับจักรยานไปที่โรงแรมหวงเจีย
หลังจากเสร็จสองภารกิจในคืนนี้ฉินเฟิงก็ได้รับแต้มสำราญมา 300 แต้มเขากระตือรือร้นที่จะใช้พวกมันและใช้โอกาสจับสลากฟรี 3 ครั้ง
เขาปั่นเร็วขึ้นและจักรยานโบราณขนาดยางเส้นผ่านศูนย์กลาง 28 นิ้วก็พุ่งผ่านทั้งถนนราวกับลูกธนู ในขณะที่เขาเร่งความเร็วไปข้างหน้าฉินเฟิงก็เริ่มเหงื่อออกเขาพบได้ทันทีว่าการขี่จักรยานเป็การออกกำลังกายที่ค่อนข้างดีและตัดสินใจจะใช้มันแทนที่แบทโมบิลอย่างรวดเร็ว
เพื่อที่จะมาถึงโรงแรมหวงเจียให้ไวที่สุดฉินเฟิงผ่านซอยมากมาย เมื่อมาถึงสุดซอยก็มีแสงไฟคู่หนึ่งสว่างออกมาทำให้เขาต้องหยุดเพราะมองไม่เห็น
ฉินเฟิงทิ้งจักรยานไว้บนพื้นและใช้มือป้องดูเขาหรี่ตาผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
คนตัวผอมสูงยืนอยู่หน้าไฟรถฉินเฟิงมองไม่เห็นหน้าตา แต่เห็นว่าเขากำลังยกมือขึ้นในมือถืออะไรบางอย่างสีดำที่เล็งมาหาเขา
“ฮ่าๆๆๆ!”
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก็ดังออกมาเมื่อฉินเฟิงได้ยินเสียงนี้ก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เหลียงเซิงนั่นเอง
“ฉินเฟิง นายน้อยฉิน” เหลียงเซิงหัวเราะสักพักหนึ่งก่อนที่จะพูดเสียงของเขาดูเหมือนจะเย้ยหยัน “แกคิดว่าแกเจ๋งมากเหรอ? มือแกคุมได้ทั้งฟ้าในเมืองเว่ยเฉิงและไม่มีใครกล้าหาเื่แกฮ่าๆๆ พ่อเห็นนายน้อยเ้าสำราญอย่างแกมาหลายคนแล้ว แกมันก็แค่กบในกะลาพ่อจะบอกให้นะ แกยังหน่อมแน้มเกินไปที่จะต่อกรกับฉัน!”