ขณะจางเจิ้นซานสำนึกเสียใจก็ไม่ปล่อยโอกาสให้ศัตรูได้พักหายใจ มันยกหมัดขวาขึ้นพร้อมกับดวงตาทอประกายอำมหิตก่อนจะพุ่งเข้าใส่ไป๋หยุนเฟย!
ไป๋หยุนเฟยที่เพิ่งตกลงใจได้พลันมองเห็นจางเจิ้นซานชิงจังหวะจู่โจมก่อน สีหน้าจึงแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะสะบัดแขนขวาที่เกือบจะฟื้นฟูเสร็จ หลังจากสูดลมหายใจลึกก็พุ่งเข้าปะทะพร้อมกับทวนที่กระชับอยู่ในมือ
ยามที่เข้าประมือกันครานี้ ทั้งคู่กลับระมัดระวังกว่าเดิม ไป๋หยุนเฟยต้องเฝ้าระวังท่าร่างอันพิสดารและแขนที่สามารถยื่นยาวออกได้ทุกเมื่อ ขณะที่จางเจิ้นซานกริ่งเกรงทวนเปลวอัคคีในมือไป๋หยุนเฟยอย่างยิ่ง แม้แต่จะใช้ฝ่ามือปัดกระแทกปลายทวนที่แทงเข้าหาออกไปยังไม่กล้าจึงได้แต่อาศัยการหลบหลีกแทน มิหนำซ้ำท่าเท้าเหยียบคลื่นของไป๋หยุนเฟยก็สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าแก่มันไม่น้อย
กระนั้นหลังจากผ่านไปราวยี่สิบกระบวนท่า ไป๋หยุนเฟยจึงค่อยตกเป็ฝ่ายเสียเปรียบอีกครั้งก่อนจะถูกฝ่ามือของจางเจิ้นซานฟาดใส่อย่างต่อเนื่อง เคราะห์ดีที่ฝ่ามือเหล่านี้ไม่รุนแรงเท่าก่อนหน้า เนื่องเพราะพลังิญญาจางเจิ้นซานหลงเหลืออยู่ไม่มากจึงไม่กล้าผลีผลามใช้พลังธาตุเพื่อจู่โจม อีกทั้งไป๋หยุนเฟยยังป้องกันตนเองด้วยเกราะิญญาไหมทอง จึงเป็เหตุให้ไป๋หยุนเฟยสามารถยืนหยัดได้จนถึงยามนี้
แม้ไป๋หยุนเฟยตกเป็ฝ่ายเสียเปรียบแต่ก็ไม่มีร่องรอยความแตกตื่นบนใบหน้าแม้แต่น้อย ขณะรุกรับกระบวนท่ากับศัตรูดวงตาก็ทอประกายวูบราวกับลอบวางแผนบางอย่างไว้...
จางเจิ้นซานย่อกายหลบหลีกทวนที่กวาดขวาง ก่อนจะฉวยโอกาสเตะกวาดใส่ขาทั้งสองข้างของศัตรู ไป๋หยุนเฟยโยกร่างถอยหลังครึ่งก้าวก็หลบเลี่ยงเท้านี้พ้น
จางเจิ้นซานจึงฉวยโอกาสนี้รุกต่อเนื่อง หลังจากยืดกายขึ้นก็ไม่หยุดชะงัก ใช้ท่าเท้าธารน้ำแข็งไถลไปเบื้องหน้าไป๋หยุนเฟยที่ยังถอยหลังไม่ทันทรงตัวได้ในชั่วพริบตา ก่อนจะยื่นมือขวาเป็กรงเล็บคว้าใส่ลำคอไป๋หยุนเฟย!
ไป๋หยุนเฟยจึงไม่มีทางเลือกได้แต่เอนหลังอีกคราเพื่อหลบเลี่ยงกรงเล็บขณะเดียวกันทวนเปลวอัคคีก็สาบสูญไป ยามที่จะนำหนามธารน้ำแข็งออกมาต่อสู้กับศัตรู จางเจิ้นซานตรงหน้าก็แค่นเสียงเ็าพร้อมกับกรงเล็บแปรเปลี่ยนเป็ฝ่ามือฟาดใส่ไหล่ซ้ายของไป๋หยุนเฟยขณะเดียวกันแขนมันก็พลันยืดยาวขึ้นอีกสองนิ้วเศษ!
การแปรเปลี่ยนกระบวนท่ากลางคันทำให้ไป๋หยุนเฟยไม่อาจหลบเลี่ยงได้พ้น จึงถูกฝ่ามือฟาดใส่อีกคราจนร่างพลิกหันไปด้านซ้ายโดยไม่อาจควบคุม ขณะเดียวกันเนื่องเพราะเมื่อครู่ไป๋หยุนเฟยถูกซัดขณะล่าถอยจึงไม่อาจตั้งหลักได้มั่น แทนที่จะใช้ท่าเท้าเหยียบคลื่นหลบหลีกออกไปได้กลับต้องโซเซไปสองก้าวจนกลายเป็หันหลังให้แก่จางเจิ้นซาน
ดวงตาจางเจิ้นซานสาดประกายอำมหิต ก่อนจะยกแขนขวาขึ้นฟาดฝ่ามือใส่กลางหลังไป๋หยุนเฟยโดยไม่รีรอ ฝ่ามือนี้ฟาดใส่อย่างหนักหน่วงยิ่ง มันมั่นใจว่าต้องทำร้ายศัตรูาเ็ทั้งยังทำให้ศัตรูเสียหลักมากกว่าเดิม!
เป็ดังคาด ไป๋หยุนเฟยส่งเสียงคำรามก่อนจะโซเซออกไปครึ่งก้าว ราวกับจะคุกเข่าทรุดลงเพราะไม่อาจฝืนทนฝ่ามือนี้ได้!
เจตนาฆ่าฟันในดวงตาจางเจิ้นซานเข้มข้นขึ้น มันสืบเท้าไปด้านหน้าหนึ่งก้าวโดยไม่ลังเลพร้อมกับชะงักมือขวาเล็กน้อย ชั้นน้ำแข็งก่อตัวปกคลุมบนฝ่ามือขวาอย่างฉับพลันจนฝ่ามือทั้งข้างแปรเปลี่ยนไปราวกับสร้างจากน้ำแข็ง กระแสอากาศเย็นที่แผ่ซ่านออกมาอย่างน่าหวาดหวั่นไม่ว่าผู้ใดพบเห็นก็ต้องสั่นสะท้าน
เคล็ดิญญา ฝ่ามือธารน้ำแข็ง!!
ใน่ต้นการต่อสู้จางเจิ้นซานใช้ออกด้วยเคล็ดิญญานี้เช่นกัน แต่ก่อนหน้าเพียงรวบรวมพลังธาตุน้ำแข็งปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น และครั้งที่สองที่ใช้ออกกลับถูกไป๋หยุนเฟยหลบเลี่ยงได้จึงต้องฝืนแปลงกระบวนท่าเป็หมัดแขนยาวแทน
ครานี้ หลังจากเก็บงำพลังไว้เนิ่นนาน ยามที่ฟาดฝ่ามือออกจางเจิ้นซานจึงใช้พลังิญญาที่เหลืออยู่น้อยนิดไปกว่าครึ่ง!
ความเย็นะเืจึงเข้มข้นยิ่งนัก!
แม้แต่อากาศรอบฝ่ามือก็ราวกับถูกผนึกแข็ง ฝ่ามือนี้เคลื่อนแหวกอากาศที่ราวกับแน่นหนักขึ้นพุ่งตรงใส่ท้ายทอยไป๋หยุนเฟยพร้อมกับเสียงฝ่าอากาศดังครืนครั่น!
กระนั้นจางเจิ้นซานที่ถูกครอบงำด้วยโอกาสที่จะรุกไล่ศัตรูได้กลับไม่พบเห็นว่ายามไป๋หยุนเฟยถูกฝ่ามือที่สองฟาดใส่ ดวงตากลับทอประกายปัญญา ทั้งยังไม่สังเกตว่าไป๋หยุนเฟยกลับนิ่งค้างหลังจากหันหลังให้มิหนำซ้ำยังซุกซ่อนมือขวาที่กล้ามเนื้อปูดโปนเส้นเืดำเบ่งพองขึ้นเอาไว้ด้านหน้า!
ชั่วขณะที่จางเจิ้นซานฟาดฝ่ามือออก ไป๋หยุนเฟยพลันยืดตัวขึ้น ร่างมันหยุดโงนเงนไหวเอนพร้อมกับใช้เท้าขวาที่อยู่ด้านหน้าเป็จุดหมุนพลิกกายหันร่างกลับ ดวงตาที่สาดประกายเขม้นมองฝ่ามือที่ฟาดเข้ามาก่อนจะชกหมัดขวาออกพร้อมเสียงครืนครั่นเช่นกัน!
วิชาระลอกคลื่น พลังหมัดเก้าทบ!
“ปัง!!”
ฝ่ามือและกำปั้นปะทะชนกัน กลับส่งเสียงะเิปะทุดังสะท้านอย่างไม่คาดคิด จากนั้นทั้งคู่กลับลอยละลิ่วไปด้านหลังแทบจะพร้อมเพรียงกัน!
ขณะที่ไป๋หยุนเฟยอยู่กลางอากาศ ก็ปรากฏร่องรอยฝืนยิ้มที่มุมปากอีกคราก่อนจะกัดฟันพลิกกาย หลังจากลงสู่พื้นได้ก็ต้องถอยไปอีกสิบกว่าก้าวอย่างต่อเนื่องด้วยร่างที่สั่นระริกก่อนจะยั้งกายทรงตัวได้
มันถูกกระแทกลอยละลิ่วติดต่อกันถึงสามครั้งสามครา แต่ละครั้งล้วนทำให้ไป๋หยุนเฟยย่ำแย่ยิ่งขึ้นทั้งยังต้องล่าถอยไกลขึ้นกว่าครั้งก่อน นี่ย่อมหมายความว่าแต่ละครั้งทำให้ไป๋หยุนเฟยาเ็สาหัสขึ้นทุกที
ความเย็นะเืแผ่ซ่านขึ้นมาจากกำปั้นของไป๋หยุนเฟยแต่สุดท้ายก็หยุดยั้งลงที่หัวไหล่ แขนขวาทั้งข้างกลายเป็ซีดขาวน่าหวาดหวั่นราวกับถูกแช่แข็งไปมิหนำซ้ำถึงกับไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย ไป๋หยุนเฟยรีบชักนำพลังิญญาถ่ายเทไปยังแขนขวาจึงค่อยสามารถควบคุมได้ทีละน้อย จากนั้นคลายหมัดเล็กน้อย ทวนเปลวอัคคีก็ปรากฏในมือในชั่วพริบตา ไป๋หยุนเฟยจึงค่อยกระชับทวนอย่างแแ่
ความร้อนแผดเผาทะลักจากด้ามทวนเข้าสู่แขนขวา จิตใจไป๋หยุนเฟยจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย จากนั้นจึงทุ่มเทควบคุมพลังิญญาชักนำให้โคจรทั่วแขนขวาร่วมกับกระแสความร้อนจากทวนเพื่อขับไล่ความเย็นะเืออกจากแขนของตน
จางเจิ้นซานก็ถูกกระแทกปลิวกระเด็นออกไป แต่นับว่าสถานการณ์ยังไม่เลวร้ายเท่าไป๋หยุนเฟย เพียงพลิกกายเล็กน้อยกลางอากาศก็หยั่งเท้าลงพื้นได้อย่างมั่นคง
กระนั้นเมื่อเงยหน้าขึ้นมองไป๋หยุนเฟยที่ตรงหน้า แววตาจางเจิ้นซานก็ปรากฏแววอัศจรรย์ใจและไม่เชื่อถือ กระทั่งยังมีร่องรอยของ... ความว้าวุ่นใจ
แขนขวาทั้งข้างของจางเจิ้นซานสั่นระริกไม่หยุดยั้ง ความเ็ปแสนสาหัสพลุ่งขึ้นจากแขน ยามที่ฝ่ามือและหมัดของไป๋หยุนเฟยกระแทกถูกพลังระลอกแรกกลับไม่หนักหน่วงเท่าใดอย่างน้อยก็ไม่นับเป็อย่างไรต่อพลังป้องกันของผู้บรรลุด่านภูติิญญาเช่นมัน แต่พริบตาต่อมาพลังหมัดระลอกแล้วระลอกเล่าก็พลันปะทุขึ้น ราวกับตะปูที่ถูกตอกใส่กำแพงอย่างต่อเนื่อง คลื่นพลังเหล่านี้แผ่กระจายออกไม่หยุดยั้งั้แ่ฝ่ามือทะลักไปทั้งแขน!
ไม่ว่าพลังหมัดทะลักผ่านส่วนใด กล้ามเนื้อกระดูกบนแขนส่วนนั้นก็ถูกกระแทกกระทั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า สองสามครั้งยังไม่นับเป็อย่างไรได้ ผ่านครั้งที่สี่ครั้งที่ห้ายังพอทนทานได้ แต่เมื่อคลื่นพลังทบซ้อนถึงครั้งที่เจ็ดครั้งที่แปด แม้ขณะที่เพ่งสมาธิกับฝ่ามือธารน้ำแข็ง ต่อให้เป็ร่างกายของผู้บรรลุด่านภูติิญญาเช่นจางเจิ้นซานก็ยังไม่อาจทนทานได้!
แขนขวาทั้งข้างจางเจิ้นซานเ็ปแทบตายราวกับถูกฉีกกระชาก แม้แต่กระดูกก็ดุจดังถูกขยี้แหลกละเอียด บนหน้าผากปรากฏเหงื่อกาฬพรั่งพรูไม่หยุด
“นี่เป็เคล็ดิญญาที่ทำร้ายเว่ยซวีและจ้าวผิง? ความกล้าแข็งของพลังอย่างน้อยเหนือกว่าที่จ้าวผิงบอกเล่ามาหลายเท่าตัวนัก!!” จางเจิ้นซานครุ่นคิดในใจขณะที่โคจรพลังิญญาเพื่อเยียวยาแขนขวาที่าเ็
“อีกอย่าง พลังป้องกันของมันนับว่าเหนือล้ำสุดหยั่ง! ทั้งสองฝ่ามือของข้าฟาดถูกมันชัดๆ จากพลังป้องกันที่มันแสดงให้เห็นก่อนหน้า ย่อมเป็ไปไม่ได้ที่จะส่งผลเพียงเท่านี้! อีกทั้งมันยังสามารถวางแผนรับมือข้า โดยจงใจแสดงท่าทีพ่ายแพ้ก่อนจะทุ่มกำลังจู่โจมใส่ในพริบตา! นี่หมายความว่าอย่างน้อยยามรับฝ่ามือที่สองมันก็ทราบว่าสามารถต้านทานได้โดยไม่รับาเ็! เป็ไปไม่ได้... มันทำเช่นนี้ได้อย่างไร...?”
ไม่ว่าจางเจิ้นซานจะอัศจรรย์ใจเพียงใดหรือคาดเดาอย่างไร ก็ไม่อาจหาคำตอบได้พบ เนื่องเพราะนี่เป็ความลับที่มีไป๋หยุนเฟยทราบเพียงผู้เดียว!
ชั่วขณะที่จางเจิ้นซานแปรเปลี่ยนจากกรงเล็บเป็ฝ่ามืออย่างกะทันหันก่อนจะฟาดใส่ไหล่ซ้ายด้วยหมัดแขนยาว ไป๋หยุนเฟยก็เตรียมใช้ท่าเท้าเหยียบคลื่นหลบหลีกท่าจู่โจมถัดไป แต่ยามที่ความคิดนี้ปรากฏในจิตใจกระแสพลังิญญาก็ถูกดึงดูดเข้าสู่เกราะิญญาไหมทองบนร่างโดยไม่อาจควบคุม จากนั้นพลังจากฝ่ามือที่ทะลักเข้าสู่ร่างกลับกลายเป็แ่เบาอ่อนจางไป!
ผลกระทบเพิ่มเติมของเกราะิญญาไหมทอง : เมื่อถูกจู่โจม มีโอกาส 5% ที่จะเพิ่มพลังป้องกันขึ้นอีก 50% เป็เวลา 3 วินาที
การกระตุ้นสัมฤทธิ์ผล!!
ผลกระทบที่รอคอยมาเนิ่นนานในที่สุดก็บังเกิดขึ้น ไป๋หยุนเฟยลอบยินดีในใจพร้อมกับละทิ้งความคิดที่จะหลบหลีกและเปลี่ยนเป็อาศัยแรงจากฝ่ามือแสร้งเป็เสียหลักเนื่องจากแรงปะทะจากกระบวนท่า จากนั้นโงนเงนหันหลังให้แก่ศัตรู
ยามที่หันกายกลับ ไป๋หยุนเฟยก็รวบรวมพลังเข้าสู่แขนขณะเดียวกันก็คำนวณในใจ : สามลมหายใจ... โอกาสอันเหมาะสมยังมาไม่ถึง!
จากนั้น จางเจิ้นจานก็ไม่หยุดชะงักจู่โจมต่อเนื่องอีกฝ่ามือที่ถึงกับรุนแรงกว่าฝ่ามือแรกด้วยซ้ำ!
สามลมหายใจต่อจากนี้เป็่เวลาที่เกราะิญญาไหมทองเพิ่มพลังป้องกันขึ้นอีกครึ่งหนึ่ง! จางเจิ้นซานมั่นใจต่อฝ่ามือที่สองนี้อย่างยิ่ง แต่แท้จริงแล้วไป๋หยุนเฟยกลับไม่ต้องต้านรับพลังที่รุนแรงอย่างที่คาดคิด!
เมื่อฝ่ามือธารน้ำแข็งจู่โจมมาถึง หลังจากรวบรวมพลังเกือบสามลมหายใจ ในที่สุดการตอบโต้ของไป๋หยุนเฟยอย่างกะทันหันก็ทำให้จางเจิ้นซานาเ็ถูกกระแทกถอยหลังออกไป!!
จะมีใครที่ฝีมือกล้าแข็งเช่นไป๋หยุนเฟยได้อีก เมื่อใดที่ลงมือก็ไม่เคยมีเื่ราวเกินจากที่คาดการณ์ไว้เช่นนี้ ผู้ที่ถูกฝ่ามือของจางเจิ้นซานล้วนต้องถูกสังหารอย่างแน่นอน
กระนั้นกระบวนท่าจู่โจมต่อเนื่องของจางเจิ้นซานที่สามารถสังหารศัตรูอื่นได้อย่างโเี้ กลับไม่ประสบผลเนื่องเพราะผลกระทบเพิ่มเติมจากสิ่งของที่ถูกอัพเกรดขึ้น!
นั่นก็เพราะศัตรูของมันคือไป๋หยุนเฟย!
ปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้ส่งผลลัพธ์ให้เกิดสถานการณ์เช่นปัจจุบัน ซึ่งก็คือแขนขวาของคนทั้งสองนั้นาเ็อย่างสาหัสยิ่งนัก!
ไป๋หยุนเฟยแสดงท่าทีนิ่งเฉยจ้องมองจางเจิ้นซานตรงหน้าที่เยียวยาอาการาเ็อยู่เช่นเดียวกัน ยามที่รู้สึกว่าอาการาเ็บนแขนขวาเริ่มทุเลาลงก็ลอบถอนหายใจโล่งอก ยามกะทันหันไป๋หยุนเฟยยังไม่อาจรักษาอาการาเ็อย่างละเอียด ได้แต่กวาดตามองรอบด้านอย่างลอบเร้นขณะที่สมองครุ่นคิดหาหนทางอย่างเร่งร้อน
“ข้าไม่อาจลงมือต่อสู้ได้อีกต่อไปแล้ว! ข้าหลงเหลือพลังิญญาอยู่ไม่มาก หาก้าใช้ท่าเท้าเหยียบคลื่นเพื่อหลบหนีก็ไม่อาจใช้พลังออกมากเกินไปอีก! ทุกกระบวนท่าที่ประมือกัน ก็จะยิ่งทำให้ข้าตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น!”
“บัดซบ!! แม้ไม่้าละทิ้งการต่อสู้ แต่ก็ไม่มีทางเลือกได้แต่หลบหนีไปเช่นนี้!”
