เมื่อเห็นถึงใบหน้าเ็าของจวินจิ่วเฉิน กูเฟยเยี่ยนที่กำลังอารมณ์ดีก็หยุดชะงักในทันที
หญิงสาวก้มหน้าก้มตาก้าวเดินเข้าไปด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะโน้มกายแสดงความเคารพอย่างเชื่อฟัง แม้แต่น้ำเสียงก็ประหนึ่งว่าเป็เด็กดีและนอบน้อม “เตี้ยนเซี่ย”
จวินจิ่วเฉินยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกมา หัวหน้าาุโก็โบกมือเรียกกูเฟยเยี่ยนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “นังหนู มานี่ มานี่”
กูเฟยเยี่ยนเงยหน้าขึ้นมามองและเตรียมการป้องกันโดยไม่รู้ตัว หัวหน้าาุโ้าทำอะไรกัน? เหตุใดจู่ๆ จึงมีความเมตตา อ่อนโยนและกระตือรือร้นเช่นนี้? เมื่อสักครู่นี้ที่อยู่ในสนามรางวัล เขาไม่ได้มองตรงมาที่นางเลยด้วยซ้ำ!
หัวหน้าาุโไม่เพียงแต่จะมีความเมตตาและความอ่อนโยนเท่านั้น สายตาที่เขาทอดมองไปยังกูเฟยเยี่ยนถึงกับสามารถใช้คำว่า “อบอุ่น” มาอธิบายได้
“นังหนู มานี่สิ! เร็ว มานี่…”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนคิดว่าเป็เพราะตนเองก่อเื่ที่สนามประมูลและทำลายคำสรรเสริญของหุบเขาเสินหนง ทำให้หัวหน้าาุโเกิดความไม่พอใจ ดังนั้นจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจึงไม่พอใจเช่นกัน
แต่ดูท่าแล้วเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้น หัวหน้าาุโดีอกดีใจมากแต่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมีความไม่พอใจ นี่มันเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่?
กูเฟยเยี่ยนไม่มีเวลาให้คิดมากนัก นางยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนพลันส่งสายตาไปถามจวินจิ่วเฉินด้วยความหวาดกลัว
เมื่อเห็นเช่นนี้จวินจิ่วเฉินจึงเอ่ยออกมา “เข้าไปเถอะ ท่านหัวหน้ามีเื่จะถามเ้า”
เมื่อมีคำพูดที่ทำให้จิตใจสงบลงแล้ว กูเฟยเยี่ยนจึงกล้าเดินเข้าไป
หัวหน้าาุโพินิจพิจารณานางอย่างถี่ถ้วน ยิ่งมองยิ่งชื่นชอบ ั์ตาอบอุ่นยิ่งนัก “นังหนู ปีนี้เ้าอายุเท่าใด? ”
นี่…
นี่้าทำอะไรกันแน่?
กูเฟยเยี่ยนหันไปมองจวินจิ่วเฉินอีกครั้ง รอบนี้นางไม่ได้ส่งสายตาซักถามแต่เป็การขอความช่วยเหลือ
นางหวาดกลัว!
จวินจิ่วเฉินไม่สนใจนาง ทว่าได้ตอบกลับไปแทน “ปีนี้สิบแปดแล้ว”
หัวหน้าาุโลูบเคราไปมาพลางเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “นังหนู อายุยังน้อยแต่สายตาดีมาก เ้าบอกเหล่าฟูมาหน่อยว่าเมื่อสักครู่นี้เ้ามองออกได้อย่างไรว่าดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่นั้นผ่านการต้มมาแล้ว? ”
แม้ว่าหัวหน้าาุโจะไม่ได้ปรากฏตัวออกมา แต่ก็ได้สืบข่าวสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว สนามประมูลเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ถึงเพียงนี้ เขาโกรธอย่างแน่นอน ทว่านี่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการที่เขามีจิตใจรักและหวงแหนผู้ที่มีพร์
หลังจากที่เขาทำความเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วก็ได้ให้คนไปตามหาจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเพื่อมาดื่มน้ำชาและเรียกขอคนจากจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทันที เขาอายุปูนนี้แล้ว มีความหวังไม่มาก โดยความหวังของเขาก็คือการค้นหาคนรุ่นใหม่ที่มีพร์ยอดเยี่ยมและจิตใจดีมาสืบทอดวิชาความรู้ความสามารถ
เขาค้นหามานานหลายปีแล้วแต่ก็ไม่พบผู้ที่เหมาะสม เขาเคยพิจารณาคุณหนูสามตระกูลหานแต่สุดท้ายก็ปล่อยทิ้งไป บัดนี้เขาได้พบกับคนที่เหมาะสมที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ในสายตาของเหล่าผู้ชมในสนามประมูล นังหนูผู้นี้มีความสามารถมาก ทว่ามีความสามารถมากเพียงใดมีเพียงเขาที่เป็ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่ทราบดี
การวินิจฉัยสมุนไพรได้ในพริบตานับว่ามีความสามารถ
การวินิจฉัยสมุนไพรที่มีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายคลึงกันได้ในพริบตานับว่ามีความสามารถมากเล็กน้อย อย่างน้อยต้องเป็ผู้ที่มีทักษะสมุนไพรอายุสามสิบปีขึ้นไปถึงจะทำได้
การวินิจฉัยสมุนไพรแล้วระบุองค์ประกอบกับแหล่งที่มาได้ในพริบตานับว่าค่อนข้างมีความสามารถมาก อย่างน้อยต้องเป็ผู้ที่มีทักษะสมุนไพรอายุสี่สิบปีขึ้นไปถึงจะทำได้
แต่การที่สามารถมองสมุนไพรหายากอย่างทะลุปรุโปร่งได้ในพริบตานับได้ว่ามีความสามารถมาก อย่างน้อยต้องอยู่ในระดับอาจารย์แพทย์ของหุบเขาเสินหนงที่มีอายุเลขหกขึ้นไปถึงจะทำได้
ทว่าบัดนี้นังหนูคนนี้ไม่เพียงแต่จะมองสมุนไพรหายากอย่างทะลุปรุโปร่งได้ในพริบตาแล้ว แต่ยังมองออกได้ในชั่วพริบตาว่าเป็สินค้าต้องห้ามที่ผ่านการต้มมาแล้วอย่าง “สมุนไพรมือสอง” ! นี่มันนับได้ว่าสุดยอดจริงๆ
นางอายุเพียงแค่สิบแปดปีเท่านั้น พร์ของนางจะมากเพียงใดกัน?
หัวหน้าาุโจำได้ว่าตอนที่ตนเองยังเป็เด็ก เขายังไม่มีความสามารถเท่านี้เลย!
กูเฟยเยี่ยนจะไปทราบได้อย่างไรว่าหัวหน้าาุโจะคิดมากถึงเพียงนี้ นางถึงกับมองรอยยิ้มของหัวหน้าาุโด้วยความกังวล
หญิงสาวตอบกลับไปด้วยความสัตย์จริง “เมื่อมองไปแล้วพบว่าสีของสมุนไพรตัวนั้นมีความผิดปกติ โดยปกติแล้วดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ที่ตากแห้งแล้วจะมีสีที่ค่อนข้างซีด โดยเฉพาะเกสรดอกไม้ อีกทั้งใบของมันก็ไม่ควรจะม้วนเยี่ยงนี้ แม้ว่าสีของสมุนไพรต้นนั้นจะไม่แตกต่างจากดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ปกติมากนัก แต่ข้าก็ยังรู้สึกได้ว่ามันผิดปกติ ข้าไปสูดดมดูแล้วจึงพบว่ากลิ่นก็มีความแตกต่างกันเล็กน้อย”
หัวหน้าาุโเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “มันแตกต่างกันอย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนครุ่นคิดก่อนจะตอบว่า “ความแตกต่างนั้นมีความละเอียดอ่อนมาก ข้าไม่ทราบว่าจะพูดอย่างไรดี แต่ว่าข้าเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง”
หัวหน้าาุโยิ้มไม่หุบเลย เขามองไปที่กูเฟยเยี่ยนด้วยความดีใจจนพูดไม่ออก คำตอบของกูเฟยเยี่ยนเป็คำตอบที่เขา้า
การที่อาจารย์แพทย์คนหนึ่งจะไปถึงระดับเขตแดนขั้นสูงของสมุนไพรได้จะต้องมีสัญชาตญาณ!
ในขณะนี้กูเฟยเยี่ยนตระหนักได้แล้วว่า การที่หัวหน้าาุโท่านนี้มีความกระตือรือร้นต่อนางอย่างกะทันหันเป็เพราะเขาให้การยอมรับในทักษะยาสมุนไพรของนาง! นางลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกพลันส่งยิ้มกลับไปให้หัวหน้าาุโ
ในขณะเดียวกันจู่ๆ ถังจิ้งที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ได้โพล่งออกมา “ข้านึกออกแล้ว ก่อนหน้านี้ภายในเมืองจิ้นหยางล้วนมีข่าวลือแพร่สะพัด ว่าแพทย์หญิงตัวน้อยนามสกุลกูของห้องยาสำนักหมอหลวงมีความสามารถมากกว่าศาสตราจารย์แพทย์หนานกง ศาสตราจารย์แพทย์หนานกงยังไม่สามารถวินิจฉัยลิ่วตันซางลู่ออกมาได้ แต่นางกลับวินิจฉัยได้ในทันที ที่เขาพูดกัน…คงไม่ใช่เ้าใช่ไหม? ”
หลังจากที่ถังจิ้งเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา หัวหน้าาุโก็เกิดความใพลางหันไปมองจวินจิ่วเฉินทันที “ที่แท้…ที่แท้ก็เป็เช่นนี้นี่เอง! จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ดูเหมือนว่าท่านจะต้องแนะนำตัวนางใหม่แล้วล่ะ”
กูเฟยเยี่ยนมองไปที่เ้านายของตนด้วยความอึดอัดเล็กน้อย เดิมทีสีหน้าของจวินจิ่วเฉินก็ไม่ค่อยจะดีนัก ทว่ายามนี้กลับย่ำแย่กว่าเดิมเสียอีก!
เขารับรู้มาตั้งนานแล้วว่าหัวหน้าาุโมีจิตใจชื่นชอบผู้ที่มีความสามารถ และรับรู้ด้วยว่าหัวหน้าาุโกำลังตามหาผู้สืบทอดมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้่เวลาที่อยู่ในสนามรางวัลเมื่อสักครู่นี้เขาจึงพูดโกหกและไม่ได้แนะนำตัวกูเฟยเยี่ยน
เดิมทีเขาค่อนข้างพอใจเมื่อพบว่ากูเฟยเยี่ยนที่อยู่บนแท่นประมูลมีความเด็ดขาด แต่เขาคิดไม่ถึงว่ากูเฟยเยี่ยนจะแสดงความสามารถที่ยอดเยี่ยมออกมาจนดึงดูดความถูกอกถูกใจของหัวหน้าาุโ
ก่อนที่กูเฟยเยี่ยนจะมา เขาแทบจะทะเลาะกับหัวหน้าาุโแล้ว
หัวหน้าาุโไม่เพียงแต่จะอาศัยว่าตนเองอายุมากกว่ามาต่อว่าคนอื่นแล้ว แต่ยังกดดันเขาอีกด้วย หัวหน้าาุโข่มขู่ว่าหากเขาไม่ปล่อยตัวนาง ท่านก็จะอาศัยนามของหุบเขาเสินหนงไปเรียกขอคนกับฟู่หวง! กว่าเขาจะเกลี้ยกล่อมหัวหน้าาุโในการให้กูเฟยเยี่ยนเป็คนเลือกโอกาสด้วยตนเองได้นั้นไม่ง่ายเลย ทว่าบัดนี้กลับมีเื่ของลิ่วตันซางลู่ปรากฏขึ้นมา? จวินจิ่วเฉินลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “ในส่วนของเื่นั้น นางคือผู้ที่ช่วยเหลือศาสตราจารย์แพทย์หนานกง”
เขาเอ่ยพลางจงใจส่งสายตาเป็นัยให้กับหัวหน้าาุโ หัวหน้าาุโที่ดีอกดีใจมากเกินไปจึงตระหนักได้ว่าไม่ควรพูดถึงเื่ราวของลิ่วตันซางลู่มากนัก เพราะไม่มีผู้ใดทราบว่าขโมยที่เป็คนในคือใคร
หัวหน้าาุโไม่ได้พูดคุยหัวข้อนี้ต่อ แต่ตั้งใจเอ่ยถามออกมา “นังหนูน้อย เ้าเรียนรู้ทักษะสมุนไพรมาจากที่ใดกัน? อาจารย์เป็ใคร?” เมื่อได้ยินเช่นนี้กูเฟยเยี่ยนจึงรีบยกสำนวนคำพูดชุดเดิมที่ได้พูดกับนายก้อนน้ำแข็งเหม็นและจิ้งหวางออกมา “ข้าเรียนรู้ด้วยตนเองจากหนังสือสมุนไพรของบรรพบุรุษเ้าค่ะ”
เรียนรู้ด้วยตนเอง?
เื่นี้เกินความคาดหมายของหัวหน้าาุโมาก ทางด้านของหัวหน้าสนามประมูลแดนบูรพากับถังจิ้งที่อยู่ด้านข้างก็ตกตะลึงเช่นกัน
เรียนรู้ด้วยตนเองยังเก่งถึงเพียงนี้ หากว่ามีอาจารย์สอนแล้วจะเก่งถึงเพียงใดกัน?
หัวหน้าาุโครุ่นคิดไปถึงตระกูลกูของเมืองจิ้นหยางแต่ก็ไม่มีความทรงจำมากนัก เขาไม่ได้ไล่ถามต่อแต่ถามคำถามที่จริงจังมากขึ้น “นังหนูน้อย เ้าอยากจะอยู่ที่หุบเขาเสินหนงเพื่อเรียนรู้ทักษะสมุนไพรกับเหล่าฟูหรือไม่? ในอนาคตจะได้อุทิศตนรับใช้ท่านเ้าสำนักหุบเขา? ”
เมื่อกูเฟยเยี่ยนได้ยินเช่นนี้จึงเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของหัวหน้าาุโ
นางอดสงสัยไม่ได้ว่าการที่หัวหน้าาุโ้าให้นางอยู่ที่นี่ทำให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่พอใจหรือ? เป็ไปได้หรือไม่ว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยวางแผนที่จะรั้งนางไว้ข้างกาย? หลังจากที่ผ่านไปสามเดือนแล้วเขาจะไม่ไล่นางออกไป?
ความคิดนี้ทำให้กูเฟยเยี่ยนแอบดีใจอยู่ไม่น้อย ทว่านางไม่กล้ามั่นใจนัก นางไม่ได้ตอบกลับหัวหน้าาุโในทันที แต่หันไปส่งสายตาซักถามจวินจิ่วเฉิน…