เหนียนอีหลานใจนสูญเสียสติ นางเพียงก้มหน้าไม่หยุด ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยความคับข้องใจและไม่เต็มใจ
นางอยากมีชีวิตอยู่ นี่คือสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอด ทว่าในสายตาของท่านยาย...ข้าไม่สมควรมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง!
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงไม่สนใจเหนียนอีหลาน นึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ั์ตาก็ยิ่งดำมืด “ดี ดียิ่งจ้าวเยี่ยน ช่างดียิ่งฉางไทเฮา!”
แม้จะคาดเดาได้นานแล้วว่าพวกเขาวางแผนอยู่เื้ั ทว่าในยามนี้มั่นใจแล้ว ในใจของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงยังคงปั่นป่วน จากหลังม่านบนรถม้า นางหันไปมองทางประตูอันชิ่ง เห็นฮ่องเต้หยวนเต๋อกับฮองเฮาอวี่เหวินเสด็จออกมาอย่างเร่งรีบ ด้านหลังพวกเขา สตรีในชุดเรียบง่ายกับบุรุษชุดขาวก็ตามมาติดๆ เช่นกัน
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงหรี่ตา ในใจคำรามแ่เบา ฉางไทเฮา นางคิดใคร่ครวญแผนการมาอย่างแยบยล นางคงจะไม่ได้คิดว่าฉู่ชิงยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน
"วันนี้ตำแหน่งแม่ทัพหลวง...ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนล้มเหลว!"
เสียงของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงกล่าวขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน ั์ตาแฝงความหมายล้ำลึก เหตุการณ์เพลิงไหม้นั่น โรคระบาดนั่น รวมถึงเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนี้ เป็ไปได้อย่างไรที่การชิงตำแหน่งแม่ทัพหลวงจะล้มเหลว?
คำพูดเหล่านี้เข้ามาในหัวใจของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง
นางในยามนี้ ในใจรู้สึกสับสนอย่างยิ่ง นางโกรธการหลอกลวงของฉางไทเฮา การที่แผนการของฉางไทเฮาล้มเหลวสามารถบรรเทาความเกลียดชังในหัวใจนางได้เล็กน้อย ทว่าเป็เช่นนี้ สัญญาที่ตระกูลหนานกงกับฉางไทเฮาตกลงกันก่อนหน้านี้ ฉางไทเฮาไม่ได้รับประโยชน์อันใด ตระกูลหนานกงเองก็ไม่ได้รับประโยชน์เช่นกัน!
ไม่เพียงแค่นั้น การเผชิญหน้าในวันนี้ได้เปิดเผยท่าทีเสแสร้งว่าไม่ปรารถนาสิ่งใดของฉางไทเฮาออกมา เช่นเดียวกับตระกูลหนานกงที่ความทะเยอทะยานถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน ฮ่องเต้ผู้ครองอำนาจบนบัลลังก์ผู้นั้น ถึงแม้ตาจะมืดบอดไปชั่วขณะ ทว่าจะเลอะเลือนไปตลอดได้อย่างไร!
ทว่ายามนี้พวกเขาจะทำอันใดได้อีก?
ฉางไทเฮาถอนหายใจ เห็นคนมากมายค่อยๆ มารวมตัวกันอยู่ข้างหน้าประตูอันชิ่ง ั์ตาผู้ผ่านโลกมามากฉายแววเคร่งขรึมเป็พิเศษ ชั่วครู่ใหญ่จึงเอ่ยอย่างเ็าว่า “ฉี่เอ๋อร์ ประคองข้าลงไป ล้มเหลวก็คือล้มเหลว ทว่าบรรยากาศคึกคักเช่นนี้ พวกเราตระกูลหนานกงจะไม่ไปร่วมวงได้อย่างไร!”
ต่อให้ไม่ได้รับผลประโยชน์แต่อย่างใด นางก็ต้องมองเื่นี้ให้เข้าใจชัดเจนกับตาตัวเอง
“ขอรับ” หนานกงฉี่ตอบรับ พลางประคองฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงลงจากรถม้า ม่านรถม้าปิดลง บนรถม้า เหนียนอีหลานที่ตัวแข็งทื่อมาโดยตลอดในที่สุดก็รู้สึกโล่งใจ ทว่าเพียงพริบตา นอกรถม้ากลับมีเสียงเย็นเยียบดังเข้ามา...
“เื่เมื่อคืน เื่วันนี้ หากเ้ากลับไป จะกลับไปบอกแม่เ้าว่าอย่างไร?”
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเอ่ยปาก เสียงที่ค่อยๆ ดังออกมา ราวกับเข็มที่ทิ่มแทง ทำให้เหนียนอีหลานที่โล่งใจพลันตึงเครียด ความหมายของท่านยาย...
เหนียนอีหลานมิได้โง่เขลา ทันใดนั้นนางจึงรีบเร่งกล่าวตอบ “เมื่อคืนมิได้มีอันใดเกิดขึ้น วันนี้เป็ท่านยายที่คิดหาวิธีช่วยอีหลานออกมาจากสวนร้อยสัตว์...”
"ดี ดีมาก" ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ด้านนอกรถม้า เสียงไม้เท้ากระทบพื้นดังขึ้นอีกครั้ง และค่อยๆ ห่างออกไป เหนียนอีหลานยังคงคุกเข่าอยู่บนรถม้า ราวกับว่าทั่วทั้งตัวถูกสูบเรี่ยวแรง
ดีมากงั้นหรือ? ความหมายของท่านยายคือละเว้นชีวิตให้นางแล้วหรือ?
เหนียนอีหลานไม่มั่นใจ ทว่าสิ่งเดียวที่นางมั่นใจคือ วันเวลาหลังจากนี้ของนางจะไม่สุขสบายเหมือนวันวานอีกแล้ว!
ด้านนอกประตูอันชิ่ง
เมื่อฮ่องเต้หยวนเต๋อและฮองเฮาอวี่เหวินมาถึง ทุกคนคุกเข่าลงกับพื้น ทว่าฮ่องเต้หยวนเต๋อกลับไม่สนใจผู้ใด เขาเร่งรีบไปตรงหน้าของฉู่ชิง มองบุรุษบนหลังม้าโดยไม่ตรัสสิ่งใดเป็เวลานาน
ท่ามกลางสายตาของทุกคน ฉู่ชิงพลิกตัวลงจากหลังม้า และโค้งคารวะฮ่องเต้หยวนเต๋อ "กระ...ฉู่ชิงคารวะฝ่าาพ่ะย่ะค่ะ!"
เสียงใสก้องกังวาน อัดแน่นไปด้วยพลังเปี่ยมล้น น่ายำเกรงและน่าเกรงขาม ทำให้ผู้คนหวาดหวั่นได้เช่นเดิม
ฉู่ชิง... ผู้คนตรงนั้นจำเสียงของฉู่ชิงได้ พวกเขาจำเสียงนี้ได้ นี่เป็แม่ทัพหลวงฉู่ชิงจริงงั้นหรือ?!
ทว่าโรคระบาดในค่ายเสินเช่อ และเหตุการณ์ไฟไหม้นั่น...
ฮ่องเต้หยวนเต๋อทอดพระเนตรบุรุษตรงหน้า ยากจะปกปิดความตื่นเต้น เขายังไม่ตาย คาดมิถึงว่าเขายังไม่ตายจริงๆ!
ฮ่องเต้หยวนเต๋อก้าวไปข้างหน้าและพยุงให้ฉู่ชิงลุกขึ้นด้วยตัวพระองค์เอง ทว่าเพิ่งจะก้าวไปข้างหน้าได้ก้าวเดียว ฉางไทเฮาที่ตามมาติดๆ กลับเข้าไปดึงฮ่องเต้หยวนเต๋อเสียก่อน
นางไม่สนใจสายตาของทุกคน ฉางไทเฮาพระพักตร์จริงจัง คว้าข้อพระหัตถ์ของฮ่องเต้หยวนเต๋อ และตรัสอย่างร้อนใจว่า “ฝ่าา โรคระบาดในค่ายเสินเช่อยังไม่ยืนยันชัดเจน ฉู่ชิงออกมาจากค่ายเสินเช่อ จะติดหรือไม่ติดโรคนั้น ผู้ใดจะแน่ใจได้เพคะ ไม่ว่าอย่างไร ขอพระองค์ทรงปกป้องพระวรกายก่อน เพื่อประชาชนชาวเป่ยฉี อย่าทรงบุ่มบ่ามเลยเพคะ”
เสียงนี้ดังก้องไปทั่วนอกประตูอันชิ่ง ทุกถ้อยคำเคร่งขรึมและดุดัน
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยิน ปกติฉางไทเฮาไม่ค่อยจะเอ่ยปากมากนัก แม้จะเอ่ยปากพูดคุย น้ำเสียงก็อ่อนหวาน รวบรัดตรงประเด็น ทว่าเมื่อครู่นี้ เสียงของนางทำให้ผู้คนรู้สึกว่าค่อนข้างดุดัน ยิ่งกว่านั้น นางยังคว้าข้อพระหัตถ์ของฮ่องเต้...
ทุกคนจ้องมอง ในสายตาของคนเกือบทุกคนค่อนข้างแปลกใจ
การกระทำของสตรีในชุดเรียบง่ายอยู่ในสายตาของฮองเฮาอวี่เหวิน คิ้วขมวดมุ่นเล็กน้อย ทว่าพริบตาต่อมา ในใจกลับรู้สึกหมดห่วงขึ้นมาเล็กน้อย
การปรากฏตัวของฉู่ชิง ทำให้นางกังวลงั้นหรือ?
หึ ฉู่ชิงยังไม่ตาย บุตรชายของนางสตรีชั่วช้าฉางหนิง ไหนเลยยังจะได้รับต่อตำแหน่งแม่ทัพหลวงได้เล่า?
ฮองเฮาอวี่เหวินเหลือบมองฉางไทเฮา สีพระพักตร์เคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่านางมิได้กังวลว่าฝ่าาจะติดโรคระบาด ทว่ากำลังปวดใจที่ตำแหน่งแม่ทัพหลวงที่นางได้มาอย่างง่ายดายต้องหลุดลอยไป!
“ไทเฮา ฉู่ชิงจงรักภักดีต่อฝ่าา ในพระทัยของฝ่าารู้จักเขาดีที่สุด ยามนี้ไม่ว่าโรคระบาดในค่ายเสินเช่อจะเป็อย่างไร ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เปิ่นกงรับประกันได้ หากท่านแม่ทัพหลวงฉู่ชิงติดโรคระบาดจริง เขาจะไม่มีทางโผล่ออกมาที่นี่ตอนนี้เด็ดขาด!” ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสเสียงดัง สายตาจ้องมองพระพักตร์ของฉางไทเฮา กล่าวอย่างตรงประเด็น “เปิ่นกงเองก็ไม่เข้าใจว่า ไทเฮาทรงกังวลเช่นนี้ไปทำไมกัน?”
ฉางไทเฮาขมวดคิ้ว เมื่อตระหนักว่าตนเองเพิ่งเสียอากัปกิริยา นางจึงปล่อยมือที่กุมข้อมือฮ่องเต้หยวนเต๋อออก ฝืนยกมุมปาก “ฮองเฮาพูดอันใดกัน ข้าแค่สตรีนางหนึ่งเท่านั้น ไหนเลยจะเข้าใจอันใด ข้าแค่เป็ห่วงฝ่าา ฝ่าาทรงมีสถานะสูงส่ง มิเหมือนคนธรรมดาทั่วไป หากโรคระบาดนั่น...”
“เสด็จพี่สะใภ้เพิ่งจะพูดเองมิใช่หรือ? โรคระบาดนั่นยังไม่ทำให้ชัดเจน ท่านแม่ทัพหลวงเป็คนดีฟ้าคุ้มครอง ผู้ใดกล่าวว่าเขาจะต้องติดโรคระบาดเล่า!” ฮองเฮาอวี่เหวินขัดบทฉางไทเฮา ‘ท่านแม่ทัพหลวง’ ถ้อยคำนี้กล่าวออกมาอย่างชัดเจน สายตากวาดมองผู้คนในเหตุการณ์ ท้ายที่สุดสายตายังคงย้อนกลับมาที่ฉางไทเฮา มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย “นี่ก็ดีแล้ว ท่านแม่ทัพหลวงปลอดภัยดี ฝ่าาเองก็มิจำเป็ต้องคิดหนัก มิต้องไปหนักใจว่าจะให้ผู้ใดมาทำหน้าที่แม่ทัพหลวงต่อถึงจะเหมาะสม เปิ่นกงคิดว่า ในแผ่นดินเป่ยฉีไม่มีผู้ใดเหมาะสมไปยิ่งกว่าฉู่ชิงอีกแล้ว! ฝ่าา พระองค์ว่าอย่างไรเพคะ?”
ครั้นเอ่ยจบ ฉางไทเฮากับจ้าวเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย
อวี่เหวินซินผู้นี้ นางจงใจ...นางจงใจกดดันให้ฝ่าาเอ่ยปากตัดเส้นทางของนาง!
ในพระทัยของฉางไทเฮารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ถึงแม้ตนเองจะกระตุ้นให้ฝ่าารู้สึกผิดกับพวกเขาสองแม่ลูกแล้ว ทว่าสถานการณ์ในยามนี้ วันนี้เขายังจะมอบตำแหน่งแม่ทัพหลวงให้อีกหรือ?
นางรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ
ทุกคนต่างจ้องมองฮ่องเต้หยวนเต๋อ ชั่วขณะหนึ่ง บรรยากาศตึงเครียดเป็อย่างยิ่ง