อวิ๋นอี้หน้าแดงอยู่นาน นางนอนลงบนเตียง ยังรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง
นอนไม่หลับ...
พลิกตัวไปมาก็แล้ว ทว่ายังนอนไม่หลับเสียที...
ปกติ เวลานี้หรงซิวน่าจะอยู่ข้างกายนางแล้ว
หากปราศจากอ้อมกอดของเขา เหตุใดการนอนหลับถึงเป็เื่ยากไปได้?
ถุ้ย ถุ้ย ถุ้ย คิดกระไรอยู่!
กระไรคือปราศจากอ้อมกอดของเขา ฟังดูหิวโหยนัก!
อวิ๋นอี้เอามือปิดหน้า บีบหน้าจากทั้งซ้ายและขวา ทำให้แก้มอ้วน รู้สึกเจ็บเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ “อวิ๋นอี้นะ อวิ๋นอี้ มิได้เื่เลยจริงๆ เขาเพียงแค่เขียนจดหมายหา เ้าก็ยอมง่ายเช่นนี้เชียวหรือ? บุรุษผู้นั้นก่อนหน้านี้เคยรังแกเ้า หยิ่งผยองเพียงใด เขายังเคยดูเ้าอับอายด้วย เ้านี่จริงๆ เลย เวลาเจอบุรุษรูปงาม หลักการกระไรไม่เอาแล้วสินะ!”
ทั้งๆ ที่เป็การว่าตัวเอง ทว่าหลังจากที่นางพูดจบ แทนที่จะไตร่ตรองตนเอง นางกลับยิ้ม
แย่แล้ว
โดนพิษแล้ว
อวิ๋นอี้กลิ้งอยู่บนเตียงไปมา ในหัวคิดถึงเพียงหรงซิว
นางมิมีความง่วงนอนใดๆ เลย เปลวไฟเล็กๆ ในตัวนางพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้นาง้าหาผู้ใดสักคนมาดุนาง
เพลานี้ดึกดื่นมืดสลัว นางทำได้เพียงไปพบกู่ซือฝาน
อวิ๋นอี้ะโลงจากเตียง หลังจากแต่งตัวด้วยความกระสับกระส่าย นางพลันเปิดประตูอย่างแรง เดินไปก้าวเดียวก็ถึงประตูห้องกู่ซือฝานแล้ว
“เปิดประตู!”
กู่ซือฝานยังมิหลับ ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย จึงมาเปิดประตูทันที “ท่านพี่เพคะ มาที่นี่ด้วยเหตุใดเพคะ?”
“ข้านอนไม่หลับ อยากคุยกับเ้า"
"ดีเลยเพคะ! ข้านอนไม่หลับอยู่พอดี!" กู่ซือฝานดีใจ ต้อนรับนางเข้ามาในห้องอย่างกระตือรือร้น “ท่านพี่ ก่อนหน้านี้ท่านมิได้นอนเร็วหรือเพคะ? เหตุใดวันนี้กลับนอนไม่หลับ?"
"…... "
นางพูดมิได้ ว่าเป็เพราะหรงซิวมิได้มานอนกับนาง จึงนอนไม่หลับจริงหรือไม่?
ต้นไม้้าเปลือก คนย่อม้าหน้าตา แม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันมาสามปีแล้ว ทว่านางกับหรงซิวยังถือว่าเป็คู่ข้าวใหม่ปลามันอยู่
นางก้มหน้าลงอย่างสงบ แก้มของนางกลายเป็สีแดงยิ่งขึ้นในแสงสลัว หลังจากโมเมตอบไป สตรีทั้งสองก็เริ่มพูดเื่อื่นๆ
หัวข้อการสนทนาของสตรีไม่มีที่สิ้นสุด
วินาทีก่อนหน้าพูดถึงกฎของราชวงศ์ วินาทีต่อมาพูดถึงความสามารถบนเตียงของบุรุษ
พูดกันจนเปลือกตาของอวิ๋นอี้ตกลงมาเรื่อยๆ ง่วงมาก สตรีสองคนมิได้สนใจกระไรมาก ย้ายกันไปที่เบาะนั่งและผล็อยหลับไปพร้อมกัน
ตอนตื่นขึ้นในวันรุ่งขึ้น สถานการณ์ดูน่าอึดอัดเล็กน้อย
ความเคยชินคือสิ่งน่ากลัว อวิ๋นอี้กับหรงซิวนอนด้วยกันมานาน จึงปฏิบัติต่อคนข้างๆ ราวกับเป็เขาโดยไม่รู้ตัว
อากาศในตอนเช้าค่อนข้างเย็น รอบๆ ยังไม่สว่างเต็มที่ ท้องฟ้าสีเทาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นเมฆ ดูเหมือนจะมีแสงแรกทะลุผ่านความมืดมิด
อวิ๋นอี้นอนได้ไม่ค่อยดี รู้สึกหนาวเล็กน้อย จึงมุดเข้าไปในอ้อมแขนของคนข้างๆ โดยไม่รู้ตัว
เข้าไปในอ้อมแขน พลันแนบชิดเข้าไปอย่างพอใจ
การแนบตัวเข้าไปยังมิเป็กระไร ทว่าสิ่งสำคัญคือหน้าอกแข็งตามปกติ วันนี้กลายเป็อ่อนนุ่ม
อวิ๋นอี้ชะงักเล็กน้อย ทว่านางที่ยังไม่ตื่นมิได้รู้สึกตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางเพียงรู้สึกนุ่มสบาย จึงแนบตัวเข้าไปมากกว่าเดิม
กู่ซือฝานนอนหลับสงบนิ่งนัก ถึงจะสงบอย่างไร เมื่อถูกกระทำเช่นนี้ ก็ต้องลืมตาเป็ธรรมดา
นางด่าโดยยังมิได้สติ "หรงหลิน...ข้าง่วง..."
ทันใดนั้นเสียงก็หยุดกะทันหัน
สตรีทั้งสองััได้ถึงความผิดปกติ ความง่วงนอนของพวกนางหายไปกว่าครึ่ง ลืมตามองหน้ากัน
น่าอึดอัด...
สถานการณ์อึดอัดมาก...
ตาทั้งสี่สบกันอย่างน่าอาย...
หลังจากสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นอี้พลันตอบสนองเป็คนแรก นางยิ้มแป้น พึมพำกระไรบางอย่าง จากนั้นจึงยกก้นขึ้น ก้าวออกไปข้างนอก
สิ่งเดียวที่สามารถกอบกู้ความเงียบงันแสนอันตรายนี้ได้คือหนึ่งในสามสิบหกกลยุทธ์ หนี!
อวิ๋นอี้กลับเข้าไปในห้องโดยไม่หันหลังกลับ ปิดประตูอย่างแรง
ทำเื่น่าขายหน้าอีกแล้ว!
นางรู้สึกแย่มาก สิ่งที่ทำให้นางแตกสลายยิ่งกว่านั้นก็คือนาง้าหรงซิวถึงเช่นนี้!
หลังจากอาบน้ำด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน นางออกมาเจอกู่ซือฝาน โชคดีที่ทั้งคู่มิพูดถึงเื่เข้าใจผิดในตอนเช้าอีก
กิจวัตรประจำวันของสำนักซืออี๋มิมีกระไรมากไปกว่าการสวดมนต์พระคัมภีร์ชมบทกวี
พวกนางเจอกับซูเมี่ยวเออร์อีกคราในตอนเรียนเช้า มีนางอยู่ อวิ๋นอี้ย่อมถูกตำหนินั่นด่านี่ในการเรียนเช้า แม้แต่กู่ซือฝานก็ถูกเรียกชื่อตำหนิหลายครา
ถือโอกาสตอนที่ซูเมี่ยวเออร์ไปท่า กู่ซือฝานเบ้ปากหนักมาก พูดบ่น "นางจะอารมณ์ร้ายกระไรเช่นนี้! ท่านพี่เพคะ ข้าว่านางมิยอมจบกับพวกเราแน่! เห้อ คงจะดีหากเป็เหมือนเมื่อวานที่สำนักซืออี๋มิมีซูเมี่ยวเออร์ แม่คนเื่มากนี้มิรู้ว่าชีวิตจะสบายอย่างไร! ท่านพี่ว่าจริงหรือไม่เพคะ!”
คำพูดของกู่ซือฝานเตือนสติอวิ๋นอี้
จริงสิ
เหตุใดนางถึงคิดมิได้
หากหาหนทางให้ซูเมี่ยวเออร์ถูกไล่ออกไปจากที่นี่ กระนั้นสำนักซืออี๋จะสอนจะเรียนสิ่ง ล้วนเป็เื่สบายๆ เลยน่ะสิ
อวิ๋นอี้กระตุกยิ้มมุมปาก
เมื่อความคิดผุดขึ้น มันก็เริ่มงอกและเติบโตอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อซูเมี่ยวเออร์ปรากฏตัวอีกครา อวิ๋นอี้ก็มีแผนแล้ว
เพราะราวกับเห็นแผนการจบลง จุดจบของซูเมี่ยวเออร์ทำให้อวิ๋นอี้อารมณ์ดีอยู่ทั้ง่เช้า แม้จะโดนซูเมี่ยวเออร์ด่าว่าเป็คนโง่เขลา นางก็มิได้ถือสาเอาความ
กู่ซือฝานงง จึงหาโอกาสถามนาง “ท่านพี่ เป็กระไรไปเพคะ? ซูเมี่ยวเออร์ว่าท่านเช่นนั้น มิโกรธหรือเพคะ?”
“ชีวิตคนก็เหมือนการแสดง เราพบกันเพราะโชคชะตา ไม่ง่ายที่จะใช้ชีวิตจนแก่เฒ่า เราควรจะเห็นค่ากับมันมากกว่าจะไปเสียอารมณ์กับเื่เล็กๆ น้อยๆ ..." นางยกมุมปากขึ้นและท่องบทกวี ไม่โกรธจากต้นจนจบ
กู่ซือฝานฟังแล้วกุมขมับ ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เห้อ แย่แล้ว ท่านพี่สะใภ้...คงจะมิได้โดนว่าจนเสียสติไปแล้วใช่หรือไม่เพคะ?”
“เสียสติกระไรกัน!” อวิ๋นอี้เขกหน้าผากนาง พูดด้วยความมั่นใจ "วันนี้ปล่อยให้นางผยอง!"
"เพราะเหตุใดเพคะ?" กู่ซือฝานยังไม่เข้าใจ พลันถามต่อ อวิ๋นอี้มิยอมพูดกระไร นางจึงทำได้เพียงมุ่ยปาก “ก็ได้เพคะ”
หลังจากเรียนเช้า อวิ๋นอี้ตามทุกคนไปที่โรงอาหารเพื่อทานอาหาร ระหว่างทางพวกเขาก็พบกับพระชายาเอก คนสองกลุ่มจึงเดินไปด้วยกัน
ภาพนี้เข้าตาซูเมี่ยวเออร์อย่างมิคาดคิด แสดงถึงความหมายบางอย่าง
ตอนที่เกลียดผู้ใดสักคน มิว่าเขาจะทำกระไรก็เกลียด แม้แต่ลมหายใจของเขาก็ยังเกลียดชัง
เพลานี้ซูเมี่ยวเออร์มีความรู้สึกนี้กับอวิ๋นอี้
นางกัดฟันกรอดด้วยใบหน้ามืดมน ได้! นางมิอยู่แค่เมื่อวาน พวกนางสองคนก็รวมหัวอยู่ด้วยกันเสียแล้ว ที่แท้วางแผนกันจัดการนาง!
เมื่อเป็เช่นนี้ ก็อย่ามาโทษนาง!
นางจะทำให้พวกนางทุกคน กินไม่หมดต้องห่อกลับ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้