ไม่ช้าซีต้าเฉียงกับซีมู่เซิงก็กลับมา
คนทางนี้เพิ่งกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ พวกเขาก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
"เหลียนหลางจวิน คาราวานวาณิชสกุลเมิ่งซึ่งมีกองกำลังทั้งคนและม้าที่แข็งแกร่งหยุดพักอยู่ที่ประตูเมืองทิศเหนือ ได้ยินว่าที่หมายของพวกเขาก็คือเมืองชางตาน รถม้าที่มุ่งหน้าขึ้นเหนือหลายคันต่างก็ร่วมเดินทางตามขบวนอยู่ด้านหลัง
ซีต้าเฉียงวิ่งมาเหงื่อท่วมศีรษะ
แคว้นหลีมีโจรชุกชุม ผู้ที่้าเดินทางไกลส่วนมากมักเลือกติดตามคาราวานวาณิชและสำนักผู้คุ้มภัย
คาราวานบางกลุ่มจะเก็บค่าคุ้มครอง แต่บางกลุ่มก็คร้านจะสนใจ อยากตามก็ตาม แน่นอนว่าไม่อนุญาตให้เข้าใกล้เกินไป
หากติดตามหลังขบวนของสำนักคุ้มภัยก็ต้องมีค่าใช้จ่ายแน่นอน
วาณิชสกุลเมิ่งที่ประตูเหนือเดินทางจากท่าเรือเจิ้นเจียงไปเมืองชางตาน ขบวนมีขนาดใหญ่ คนมาก มีอำนาจแข็งแกร่ง ย่อมไม่เห็นรถม้าที่ติดตามท้ายขบวนอยู่ในสายตา
ดังนั้นจึงมีรถม้าที่มุ่งขึ้นเหนือตามหลังอยู่ไม่น้อย
พวกเขาเพียงแวะพักที่เมืองหลินอันครึ่งชั่วยาม เพื่อเติมเสบียงและของใช้ในชีวิตประจำวัน
พอซีต้าเฉียงได้ยินข่าวคาราวานวาณิช ก็รีบวิ่งมาแจ้งข่าว
"แล้วทางสำนักคุ้มภัยเป็อย่างไรบ้าง" เหลียนเซวียนครุ่นคิดก่อนเอ่ยถาม
คาราวานวาณิชสกุลเมิ่งทุนหนา ย่อมตกเป็แพะตัวอ้วนพีในสายตาของหมู่โจรได้ง่าย
หากเป็สำนักคุ้มภัยน่าจะเป็เป้าหมายที่เล็กกว่า
"รอบเดินทางไปเมืองชางตานที่ใกล้ที่สุดคืออีกสองวันข้างหน้า" ซีมู่เซิงไปสอบถามที่สำนักคุ้มภัย "นอกจากนี้ต้องจ่ายค่าคุ้มกันหนึ่งคนหนึ่งตำลึง"
"หนึ่งคนหนึ่งตำลึง? เหตุใดไม่ปล้นกันเลยล่ะ" อูหลันฮวาร้องลั่น
พวกเขาสี่คนก็ต้องจ่ายสี่ตำลึง เป็ราคาที่สูงเกินไปมาก
"บ้านเมืองไม่สงบ สำนักคุ้มภัยก็ทำงานอย่างหนักเพื่อแลกเงิน" ซีต้าเฉียงส่ายหน้า "หลางจวินต้องตัดสินใจเร็วหน่อย คาราวานวาณิชไม่รอผู้ใด หากไม่ตามไป ก็ต้องอยู่รอที่หลินอันอีกสองวัน"
เซวียเสี่ยวหรั่นมองเหลียนเซวียน เธอเองไม่รีบร้อน อยู่หลินอันอีกสองวันก็ไม่มีปัญหา
เพียงแต่ให้จ้างสำนักคุ้มภัยก็ต้องจ่ายเงินไม่น้อย ยามนี้พวกเขานั่งกินนอนกินสมบัติเก่า ถ้าประหยัดเงินได้อีกหน่อยย่อมดีกว่า
"เหลียนเซวียน หากตามทัน พวกเราก็ตามคาราวานวาณิชไปเถอะ มิเช่นนั้นก็ต้องรออีกสองวัน"
เหลียนเซวียนนิ่งคิด "ผู้าุโซี รถม้าที่จ้างมาทันหรือไม่ มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง"
"มาทัน มาทัน บุตรชายคนโตของเหล่าอู๋กับญาติผู้พี่ของมู่เซิงเป็คนช่วยบังคับม้า ข้าไปบอกพวกเขาสองคนแล้ว" ซีต้าเฉียงตอบกลับ
"อ้อ ใช่ๆ บุตรชายคนโตของข้า่นี้ว่างอยู่ หลางจวินจะไปที่ใดก็บอกเขาได้เลย" เหล่าอู๋เดินเข้ามา
บ้านเมืองไม่ดี ทำมาหากินฝืดเคือง กิจการรถม้ารับจ้างของบุตรชายคนโตก็มีงานไม่มาก รับงานหนึ่งได้ก็ถือว่าเป็งาน
เหลียนเซวียนผงกศีรษะ "เช่นนั้นรบกวนผู้าุโซีช่วยเชิญคนมา พวกเราจะไปประตูทิศเหนือเดี๋ยวนี้เลย"
"ได้ มู่เซิงไปตามญาติผู้พี่ของเ้ากับอู๋โจวมา" ซีต้าเฉียงออกคำสั่งกับบุตรชายให้ไปตามคน
"เอ๋ ต้องออกเดินทางแล้วหรือ ท่านลุงอู๋ ขอใช้ห้องสุขาได้หรือไม่"
เซวียเสี่ยวหรั่นไม่นึกว่าจะต้องออกเดินทางเร็วขนาดนี้ รีบลุกขึ้น ต้องแก้ปัญหาสำคัญเฉพาะหน้าก่อน
"ใช่ๆ ข้าก็จะไปด้วย" อูหลันฮวาได้สติ ยกมือขึ้นทันที
"ข้าไปก่อน หลันฮวา เ้าคอยก่อน" เซวียเสี่ยวหรั่นเร่งร้อนอยู่บ้าง เธอต้องใช้เวลาในการปลดทุกข์ อย่าได้มาแย่งกับเธอเชียว
เหล่าอู๋รีบชี้ไปที่มุมด้านซ้ายของเรือนด้านหลัง
เซวียเสี่ยวหรั่นวิ่งไปอย่างเร่งร้อน ด้วยเกรงว่าจะถูกอูหลันฮวาชิงตัดหน้า
"ต้าเหนียงจื่อ ช้าหน่อยเ้าค่ะ ข้าไม่ได้แย่งห้องสุขากับท่านเสียหน่อย" อูหลันฮวาพึมพำ
เหลียนเซวียนปวดเศียรเวียนเกล้า สองคนนี้จะเรียนรู้วิธีพูดอ้อมค้อมต่อหน้าผู้คนมากมายบ้างได้หรือไม่
หลังจากเซวียเสี่ยวหรั่นแก้ปัญหาส่วนตัวเสร็จ รถม้าสองคันก็มาหยุดที่หน้าร้านบะหมี่พอดี อูหลันฮวากับเซวียเสี่ยวเหล่ยรีบขนสัมภาระขึ้นรถ ซีมู่เซิงก็เข้ามาช่วยอีกแรง
ซีต้าเฉียงพาชายหนุ่มผิวคล้ำรูปร่างบึกบึนสองคนไปคุยกับเหลียนเซวียน
พอเห็นเซวียเสี่ยวหรั่นออกมา อูหลันฮวาก็ดวงตาสว่างวาบ "ต้าเหนียงจื่อในที่สุดท่านก็เสร็จเสียที"
เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มอย่างขัดเขิน
อูหลันฮวารีบวิ่งไปเรือนด้านหลัง นางเองก็กลั้นจนขนลุกเกรียวแล้ว
ทางนั้นยังเจรจาตกลงเื่ค่าจ้างรถม้ากันอยู่
ค่าจ้างเหมาคนบังคับรถคันหนึ่ง รวมกินอยู่สองตำลึง หากไม่รวมสี่ตำลึง
จ่ายมัดจำล่วงหน้าหนึ่งตำลึง ส่วนที่เหลือค่อยจ่ายหลังถึงที่หมาย
เหลียนเซวียนให้พวกเขาเลือกเองว่าจะ้าให้จ่ายแบบไหน
ชายหนุ่มทั้งสองย่อมเลือกแบบไม่รวมค่ากินอยู่
เพราะพวกเขาสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า
หลังตกลงค่าจ้างกันเรียบร้อย เหลียนเซวียนก็หันไปมองเซวียเสี่ยวหรั่น
เซวียเสี่ยวหรั่นเข้าใจความหมาย หยิบถุงเงินแล้วหยิบเงินออกมาสองตำลึง
"ต้าเหนียงจื่อ นี่คือซีอู่ นี่คืออู๋โจว ระหว่างทางมีสิ่งใดไม่เข้าใจก็ถามพวกเขาได้ พวกเขาเดินทางไปทั่วทุกหนแห่ง คุ้นเคยกับเส้นทางเป็อย่างดี" ซีต้าเฉียงลากชายหนุ่มสองคนเข้ามา
คนตัวสูงคืออู๋โจว คนตัวเตี้ยคือซีอู่
"การเดินทางครั้งนี้คงต้องรบกวนพวกเ้าแล้วล่ะนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นทักทาย
ทั้งสองรีบประสานมือคำนับ ในใจนึกฉงนอยู่บ้าง บุรุษภายนอกแลดูหยาบกระด้าง ทั้งตาบอดซ้ำยังขาพิการกลับมีภรรยางดงามอรชรถึงเพียงนี้
หลังจากเซวียเสี่ยวเหล่ยประคองเหลียนเซวียนไปสุขากลับมาแล้ว ทั้งคณะก็ออกเดินทาง
เซวียเสี่ยวหรั่นกับเหลียนเซวียนขึ้นรถม้าคันใหญ่ อู๋โจวเป็ผู้บังคับม้า
เซวียเสี่ยวเหล่ยกับอูหลันฮวานั่งรถม้าของซีอู่ อาเหลยก็อยู่กับพวกเขา
ซีอู่มาจากขู่หลิ่งถุน ย่อมรู้จักมักคุ้นกับอูหลันฮวาและเซวียเสี่ยวเหล่ย เดินทางร่วมกันย่อมจะไม่แปลกหน้า
หลังกล่าวขอบคุณซีต้าเฉียงกับซีมู่เซิงแล้ว ก็โบกมือลา รถม้าก็มุ่งหน้าสู่ประตูทิศเหนือ
เส้นทางในเมืองค่อนข้างเรียบ เซวียเสี่ยวหรั่นนั่งอยู่บนรถม้าก็ยกมือลูบตัวรถพลางทอดถอนใจ "รถม้าค่อยดีกว่าเกวียนหน่อย อย่างน้อยก็ไม่โคลงเคลงไปมา"
การเดินทาง่เช้าทำให้เธอเมารถจนแทบอาเจียนออกมา
"พอออกจากเมือง ก็ไม่แน่ว่าถนนหนทางจะดี" เหลียนเซวียนไม่อยากทำลายความหวังของนาง แต่ยังคงพูดเตือนสติ
"อ้อ เช่นนั้นข้าต้องเตรียมขิงแผ่นให้มากหน่อย" เซวียเสี่ยวหรั่นลูบอก นึกขยาดขึ้นมาเล็กน้อย
เหลียนเซวียนอมยิ้ม
"พี่ใหญ่อู๋ หากติดตามกองคาราวานนั้นไป ตอนเย็นจะหาที่พักได้หรือไม่" เซวียเสี่ยวหรั่นเข้ามาใกล้ประตูรถ แง้มออกเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามอู๋โจวคนบังคับรถ
"กองคาราวานคนเยอะ การเดินทางเร็วมากไม่ได้ ประกอบกับไม่ค่อยมีโรงเตี๊ยมที่สามารถรองรับคนและม้าจำนวนมาก ดังนั้นปรกติพวกเขาจึงมักตั้งกระโจมกันเอง" อู๋โจวบังคับรถไปทางประตูทิศเหนืออย่างคล่องแคล่ว
"อา เช่นนั้นพวกเรามิต้องค้างคืนนอกเมืองตามพวกเขาหรอกหรือ เช่นนั้นก็ต้องเตรียมเสบียงอาหารให้พร้อม"
เซวียเสี่ยวหรั่นใ ในกระบุงของพวกเขาไม่ได้เตรียมข้าวสารและอาหารมามากนัก
"ต้าเหนียงจื่อไม่ต้องกังวล ขบวนรถไม่ได้เร็วมากนัก ขณะที่ผ่านเมืองใหญ่ก็สามารถหยุดแวะซื้อเสบียงอาหารเพิ่มเติมได้
อู๋โจวเดินทางไปทั่ว คุ้นเคยกับเส้นทางเหล่านี้เป็อย่างดี
"อ้อ ได้ มิน่าท่านลุงอู๋ถึงให้ขนมเปี๊ยะเ้ามามากมายเช่นนั้น กินได้หลายวันเลย" เซวียเสี่ยวหรั่นเพิ่งเข้าใจ
เมื่อมาถึงแถวประตูเมืองทิศเหนือ อู๋โจวก็ชี้ไปที่ร้านขายซาลาเปาควันโขมงร้านหนึ่ง "ซาลาเปาร้านนี้ให้ไส้เยอะ แป้งก็แน่น คนบังคับรถอย่างพวกเราส่วนใหญ่ก็ชอบซื้อไปกินระหว่างทาง"
เซวียเสี่ยวหรั่นรีบลงจากรถ ซีอู่ซึ่งอยู่ด้านหลังแค่เห็นก็รู้ว่านางจะทำอะไร ดังนั้นจึงหยุดรถ
อูหลันฮวาะโลงมาอย่างคล่องแคล่ว วิ่งเข้าไป
ไม่ช้าพวกนางก็หอบซาลาเปาและหม่านโถวกลับมาถุงใหญ่
