ทันทีที่หานอวิ๋นซีกอดเขาไว้ในอ้อมแขน นางก็ใ
พระเ้า แม้จะสวมเสื้อกันหนาวหนาๆ นางก็ััได้ถึงความเย็นของร่างกายและอาการสั่นสะท้านของเขา
หน้าหนาว พระเ้ารู้ดีว่ามันหนาวแค่ไหน!
หานอวิ๋นซีคิดว่าเด็กคนนั้นคงตัวแข็งและหมดสติไปนานแล้ว แต่เมื่อนางเห็นใบหน้าเล็กที่ไม่สีประสาของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะใ
คิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยจะยังมีสติอยู่!
ริมฝีปากสีม่วงของเขายังคงสั่นทว่ากลับกัดฟันไว้แน่น ดวงตาทั้งสองเป็สีดำขาวแบ่งอย่างชัดเจน ใสสะอาดราวกับทะเลสาบที่ปกคลุมด้วยหิมะ เห็นได้ชัดว่าน้ำตาในดวงตายังคลออยู่ แต่ก็ไม่ไหลลงมาเลย
แค่มองแวบแรกหานอวิ๋นซีก็เห็นเืที่ไหลออกมาจากมุมปากซีดของเขา ฟันเหล่านี้ขบแน่นแค่ไหน?
เขาอายุเพียงหกขวบ แต่ใบหน้าเล็กที่อ่อนเยาว์ของเขากลับเต็มไปด้วยความดื้อรั้นและไม่ยอมใครง่ายๆ
อายุเท่านี้ เด็กส่วนมากยังทำตัวเหมือนทารกในอ้อมแขนของพ่อแม่ แต่หานหยุนอี้กลับเข้าใจแล้วว่าอะไรที่เรียกว่าศักดิ์ศรี อะไรที่เรียกว่าไม่ยุติธรรม!
ถูกถอดเสื้อผ้าให้เปลือยกาย ถูกเยาะเย้ยและถูกเฆี่ยนตีนานกว่าหนึ่งยาม เขาไม่ส่งเสียงร้องไห้ด้วยความเ็ปออกมาเลยแม้แต่น้อย หรือแม้แต่ร้องขอความเมตตาก็ไม่ทำ
เวลานี้ ใบหน้าเล็กที่ไม่สีประสาและดื้อรั้นดูเหมือนจะตราตรึงอยู่ในใจของหานอวิ๋นซี ทำให้นางไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิต
นางกอดหานหยุนอี้โดยไม่รู้ตัว โดยหวังว่าจะให้ความอบอุ่นแก่เขามากขึ้น “อี้เอ๋อร์ เก่งมาก!”
ทางด้านข้าง หานอวี้ฉีที่ทรุดตัวลง “หานอวิ๋นซี ยาแก้พิษ! ยาแก้พิษล่ะ!”
เช่นนั้นหานอวิ๋นซีจึงจะหยิบยาแก้พิษห่อเล็กๆ ออกมาจากถุงยาที่นางพกติดตัวและโยนมันไป หานอวี้ฉีรีบหยิบมันและกลืนมันลงไป
พิษที่กระจายอย่างรวดเร็ว ยาแก้พิษเองก็แก้พิษได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน อาการคันบนใบหน้าและลำคอของหานอวี้ฉีก็หายไป และในที่สุดอาการคันที่แขนก็หายเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เขาที่อยู่ในสภาพที่น่าเวทนาอยู่แล้ว แขนเสื้อทั้งสองข้างล้วนถูกฉีกออก ปกเสื้อเองก็ถูกฉีกเช่นกัน แขน คอ และใบหน้าล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน บนิัเองก็มีรอยขีดข่วนหลายแห่ง พร้อมกับรอยเืจางๆ
คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเขาไปทะเลาะกับหมาบ้ามา
หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ หานอวี้ฉีก็ถอนหายใจอย่างโกรธเคือง จ้องหานอวิ๋นซีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้าย หานอวิ๋นซีกอดหานหยุนอี้แน่นและมองอย่างเ็าโดยไม่หวาดกลัวใดๆ
“หานอวิ๋นซี เ้ากล้าลอบกัดข้าเช่นนี้ คิดว่าข้าจะปล่อยเ้าไปง่ายๆ งั้นหรือ?” หานอวี้ฉีเดินเข้ามาหาทีละก้าว
“เ้าทำไม่ได้หรอก เช่นนั้นสิ่งที่ข้าให้เ้าจึงไม่ใช่ยาแก้พิษอย่างไรล่ะ” หานอวิ๋นซีพูดอย่างเ็า เสี่ยวเฉินเซียงไม่ได้พาทหารมาช่วย และไม่ง่ายนักที่จะมีโอกาสวางยา จะให้นางให้ยาแก้พิษง่ายๆ ได้อย่างไรกัน?
คนชั่วอย่างหานอวี้ฉีถูกทำให้โมโห ไม่ว่าเื่อะไรเขาก็ทำมันได้ทั้งนั้น จะไปพูดเื่ความซื่อสัตย์กับเขาอย่างนั้นหรือ มันไม่ได้อยู่ในความคิดของนางเลยด้วยซ้ำ
“เ้า!” หานอวี้ฉีโกรธเกรี้ยว
“ไม่ใช่ว่าเ้า้ารอให้คนของศาลต้าหลี่มาหรือไร? แน่จริง ก็ให้ข้ารอสิ! มิฉะนั้น ข้ารับประกันได้ว่าพิษจะกำเริบทุกๆ ครึ่งชั่วยามอย่างแน่นอน!” หานอวิ๋นซีพูดเตือน ถึงแม้จะนั่งอยู่ ทว่าความน่าเกรงขามที่เผยออกมาก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนรอบๆ ใได้
หานอวี้ฉี ผู้ที่เคยก่อความผิดไปแล้วครั้งหนึ่งจะยังกล้าเสี่ยงเสียที่ไหน เขากัดฟันอย่างขมขื่น “รอก็รอ ข้าไม่กลัวเ้าหรอก!”
ไม่ว่าใครก็ตามที่มาจากศาลต้าหลี่ ต่างก็รู้ว่าเขาเป็หลานชายของรองเสนาบดีกระทรวงขุนนาง และรู้ว่านหานอวิ๋นซีเป็เพียงฉินหวังเฟยนิรนาม ใครจะกล้าทำให้เขาลำบากกัน!
เขารอได้!
ถ้าหานอวิ๋นซีไม่ให้กุญแจห้องเก็บของในวันนี้ นางก็อย่าได้คิดที่จะเดินออกไปจากบ้านตระกูลหานเลย!
หานอวี้ฉีนั่งลงโดยไม่สนใจสิ่งใด เขาจ้องไปที่หานอวิ๋นซีอย่างไม่วางตา ด้วยเพราะกลัวว่ากุญแจของห้องเก็บของจะบินหายไป
ปล่อยให้ดูนางไป หานอวิ๋นซีปลอบเด็กในอ้อมแขนของนาง
แม้ว่ามันจะอุ่น แต่หานหยุนอี้ยังคงกัดฟันแน่น ตัวเกร็งไปทั้งตัว เขารู้จักหานอวิ๋นซีและมองออกว่าหานอวิ๋นซีกำลังช่วยชีวิตเขา แต่เขาไม่กล้าที่จะผ่อนคลาย เขากลัวว่าหากผ่อนคลายลง เขาจะร้องไห้ออกมา
เขาไม่้าร้องไห้!
ในตระกูลนี้ ท่านแม่ได้รับความรักมากที่สุดและอดกลั้นมากที่สุดเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเป็ลูกชายที่รักที่สุดของท่านพ่อด้วย ทว่าั้แ่จำความได้ เพราะความอดกลั้นของท่านแม่ เขาจึงต้องทนทุกข์กับความคับแค้นใจต่างๆ นานา
เขาไม่เคยร้องไห้มาั้แ่ไหนแต่ไร และครั้งนี้เขาก็ไม่อยากที่จะร้องไห้เช่นกัน
“หยุนอี้ ไม่เป็ไร ไม่ต้องกัดฟันแล้ว ผ่อนคลายลงหน่อยได้หรือไม่?” หานอวิ๋นซีเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยน
นางลูบแก้มของหานหยุนอี้อย่างอ่อนโยน ทำให้ใบหน้าเล็กที่เ็าของเขาอบอุ่นด้วยมืออันแสนอบอุ่นของนาง แต่หานหยุนอี้ยังคงนิ่งเฉย แม้ว่าเงาของหานอวิ๋นซีจะสะท้อนอยู่ในดวงตาที่ใสสะอาดของเขา แต่เขาก็ไม่ได้มองนางอีก
ถึงกระนั้น หานอวิ๋นซีก็ยังคงเกลี้ยกล่อมต่อไปอย่างอดทน
“หยุนอี้ เด็กดี ฟังนะ ตอนนี้เ้ามีเืไหล”
“ไม่เป็ไร วางใจนะ ตกลงหรือไม่? พี่อยู่ตรงนี้ พี่จะปกป้องเ้าเอง พวกเขาไม่กล้าทำอะไรหรอก”
“ต่อจากนี้ไป พี่จะปกป้องเ้าเอง ไม่ต้องกลัว ไม่เป็ไรนะ”
…
ความอดทนเช่นนี้ ค่อยๆ ทำให้หัวใจของหานหยุนอี้อุ่นขึ้นเรื่อยๆ เงาของหานอวิ๋นซีในดวงตาของเขาค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ หานอวิ๋นซีรู้ว่าเด็กน้อยไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และค่อยๆ ยอมแพ้
“เด็กดี ไม่ต้องกลัว พี่รู้ว่าเ้าแข็งแกร่งที่สุด” นางลูบผมนุ่มของเขาอย่างเบามือ ด้วยความทะนุถนอมราวกับกำลังลูบลูกของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น
“หยุนอี้ พี่รู้ว่าเ้าเป็คนกล้าหาญ เ้าไม่อยากร้องไห้ เ้าเลยไม่เคยร้องไห้ออกมาเลยใช่หรือไม่?”
“หยุนอี้ เหนื่อยก็นอนหลับเสียนะ ไม่เป็ไร พี่อยู่ตรงนี้ อยู่ตรงนี้เสมอ”
…
เสียงของหานอวิ๋นซีอ่อนโยนขึ้นและเบาลง เปลือกตาของหานหยุนอี้ก็ค่อยๆ ปิดลง ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายและผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนล้า
เมื่อดวงตาของเขาปิดสนิท ฟันที่กัดไว้แน่นก็คลายลงเช่นกัน ในที่สุดสายน้ำตาก็ค่อยๆ ไหลลงมาจากหางตาของเขา...
แม้ว่าจะไม่ได้เก็บคำสารภาพของหานฉงอันมาใส่ใจสักเท่าไร แต่ในเวลานี้หัวใจของหานอวิ๋นซีก็เ็ปเหลือเกิน นางพูดพึมพำเบาๆ ว่า “อี้เอ๋อร์ พี่ไม่โกหกเ้า พี่สัญญากับพ่อเ้าไว้แล้ว จะต้องปกป้องเ้าให้ได้”
หานอวิ๋นซีอุ้มหานหยุนอี้ขึ้นมาและกำลังจะเดินเข้าไปในห้อง ทว่ากลับมีคนรับใช้สองสามคนพยายามมาหยุดนาง แต่นางก็ทำให้พวกเขาถอยกลับไปด้วยการส่งสายตาดุร้าย เหล่าคนรับใช้ก็มองหานอวี้ฉีอย่างตั้งคำถาม
หานอวี้ฉีโบกมืออย่างไม่ใส่ใจส่งสัญญาณให้คนรับใช้หลีกทาง อย่างไรหานอวิ๋นซีก็หนีไม่ได้อยู่ดี
หานอวิ๋นซีอุ้มหานหยุนอี้เข้าไปในห้อง นางใช้โอกาสในตอนที่เขาหลับและไม่รู้สึกเจ็บ รีบรักษาาแที่หลังของเขา ใส่ยาที่ดีที่สุดให้ แล้วพันผ้าพันแผลอย่างระมัดระวัง
หลังจากดูแลอย่างระมัดระวังแล้วนางก็ห่มผ้าให้หานหยุนอี้ ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงะโที่ตื่นเต้นของหานอวี้ฉีดังขึ้นมาจากด้านนอกประตู “หานอวิ๋นซี หานอวิ๋นซี ออกมา เ้าออกมาหาข้าเดี๋ยวนี้!”
คนจากศาลต้าหลี่มาแล้วงั้นหรือ? ไม่เช่นนั้นเขาจะทำตัวอวดดีได้อย่างไร?
ด้วยความสงสัย หานอวิ๋นซีจึงรีบออกไป แต่กลับไม่เห็นคนของศาลต้าหลี่สักคน เห็นแค่เพียงเสี่ยวเฉินเซียงที่ยืนหายใจหอบอยู่ที่ประตู
“ไหนคนล่ะ?” หานอวิ๋นซีถาม
“นายหญิง…นายหญิง…ใต้…” เสี่ยวเฉินเซียงหายใจหอบ พูดติดๆ ขัดๆ
ทันทีที่นางไปที่ศาลต้าหลี่เพื่อรายงานเื่ฉินหวังเฟย ใต้เท้าโอวหยางแห่งศาลต้าหลี่ก็แสดงความเคารพอย่างมาก รีบนั่งรถม้ามาทันที ถนนจากศาลต้าหลี่มายังบ้านของตระกูลหานนั้นติดขัดอย่างมาก เสี่ยวเฉินเซียงที่รู้สึกว่ารถม้าช้าจึงวิ่งกลับมาเหนื่อยจนพูดติดๆ ขัดๆ เช่นนี้
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หานอวี้ฉีก็หัวเราะเสียงดัง “ฮ่าฮ่าฮ่า กลัวหรือ ไม่ใช่ว่าถูกคนของศาลต้าหลี่ไล่ออกมาหรือไร?”
ใครจะรู้ว่าทันทีที่พูดจบลง กลับมีเสียงประกาศที่ตื่นตระหนกจากคนรับใช้ด้านนอกว่า “คุณชายใหญ่ ใต้เท้าโอวหยางแห่งศาลต้าหลี่มาด้วยตนเองและบอกว่า้าพบท่านขอรับ!”
ใต้เท้าโอวหยางมาด้วยตนเองจริงหรือ?
เดิมทีคิดว่าศาลต้าหลี่จะส่งคนมา ไม่ได้คาดหวังว่าจะมาด้วยตัวเอง แม้ว่าหานอวี้ฉีจะประหลาดใจเล็กน้อย แต่กลับรู้สึกพึงพอใจมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ใต้เท้าโอวหยางก็เป็คนที่ท่านตาของเขาแนะนำ แน่นอนว่าต้องเห็นแก่หน้าท่านตาอยู่แล้ว
ดีเลย ศาลต้าหลี่จะได้สั่งสอนหานอวิ๋นซีด้วยตนเอง ดูสิว่าหานอวิ๋นซีเด็กสาวที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ในภายภาคหน้าจะกล้ามาที่ตระกูลหานเพื่อแสดงศักดิ์ศรีของนางอีกหรือไม่!
เขายิ้มเยาะเย้ยให้หานอวิ๋นซี โดยลืมไปว่าตนเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์จนตรอกเหมือนกัน เขาเดินออกไปนอกลานเพื่อต้อนรับ
ขณะเดียวกัน ใต้เท้าโอวหยางก็มาถึงพอดี สีหน้าของเขาลุกลี้ลุกลน ฝีเท้าเองก็เร่งรีบ เขาและรองเสนาบดีกระทรวงขุนนางเป็เพื่อนเก่ามาหลายปี ดังนั้นเขาจึงเคยได้ยินนิสัยของหลานชายตนเองมาบ้าง
เขากลัวมากว่าถ้าเขามาช้าและทำให้ฉินหวังเฟยต้องทนทุกข์ทรมาน เขาจะต้องเดินออกไปโดยไม่มีอาหาร
ต้องรู้ว่าแม้ว่าเ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่จะถูกไล่ออกโดยรองเสนาบดี แต่เหตุผลที่แท้จริงคือทำให้ฉินหวังเฟยและฉินอ๋องขุ่นเคือง!
แม้ว่าเื่นี้จะไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่รองเสนาบดีกระทรวงขุนนางและเขาต่างรู้ดีว่า ฉินหวังเฟยไม่ใช่คนที่จะไปยั่วโมโหได้
เมื่อเห็นใต้เท้าโอวหยางเดินเข้ามา หานอวี้ฉีก็ยิ้มและรีบโค้งคำนับ “ใต้เท้าโอวหยาง ข้ารบกวนท่านจัดการเื่พวกนี้ด้วย มันช่าง...”
ก่อนที่หานอวี้ฉีจะพูดจบ ใต้เท้าโอวหยางก็เดินผ่านเขาและเดินเข้าไปในห้อง ถูกเมิน? หานอวี้ฉีชะงักไปชั่วขณะ ใต้เท้าโอวหยาง นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
“ถวายบังคมหวังเฟยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมาช่วยเหลือช้าไป และหวังว่าหวังเฟยจะยกโทษให้ข้า!”
ในตอนที่เสียงทำความเคารพของใต้เท้าโอวหยางดังขึ้นจากด้านหลัง หานอวี้ฉีก็ใและหันหน้าไปมองทันที เห็นว่าใต้เท้าโอวหยางคุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าหานอวิ๋นซี ประสานมือและก้มศีรษะ ไม่เพียงแต่แสดงความเคารพเท่านั้น แต่ยังมีความหวาดกลัวแฝงอยู่ด้วย
นี่มัน…
หานอวี้ฉีอดไม่ได้ที่จะหยิกหน้าของตัวเอง พระเ้า นี่ไม่ใช่ความฝันใช่หรือไม่ เกิดอะไรขึ้นกับใต้เท้าโอวหยาง?
“ใต้เท้าโอวหยาง หานอวี้ฉีได้กระทำความผิด ข่มขู่ข้าด้วยวาจาที่รุนแรง เ้าว่าควรจะลงโทษอย่างไรดี!” หานอวิ๋นซีถามอย่างเ็า
แน่นอนว่านางรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรองเสนาบดีกระทรวงขุนนางกับเ้าหน้าที่ประจำศาลต้าหลี่คนใหม่ดี แต่เ้าหน้าที่ประจำศาลต้าหลี่คนใหม่ก็ควรรู้ดีถึงนิสัยของนางเช่นกัน
“คะ...ควร...” ใต้เท้าโอวหยางตอบอย่างลังเล
“อะไรนะ?” หานอวิ๋นซีถามอย่างเ็า
“หากกระทำความผิด ต้องถูกลงโทษด้วยการโบยห้าสิบครั้ง ขมขู่หวังเฟย...โทษปะาพ่ะย่ะค่ะ” ใต้เท้าโอวหยางตอบตามความเป็จริง
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา หานอวี้ฉีก็สงบสติอารมณ์ได้ในที่สุดและร้องอุทานว่า “ใต้เท้าโอวหยาง ท่านจริงจังกับสตรีชั่วผู้นี้จริงๆ หรือ? ท่านกลัวอะไรนาง นางก็แค่...”
“หุบปาก!” ใต้เท้าโอวหยางพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว ขณะเดียวกันเสียงของฮูหยินสวี่ก็ดังขึ้นมา
เห็นหญิงสาววัยสามสิบคนหนึ่งรีบเข้ามาจากข้างนอก แต่งตัวหรูหราและดูไม่เหมือนคนธรรมดา
“ไม่รู้ว่าหวังเฟยจะมาที่นี่ ข้าไม่ได้มาต้อนรับ โปรดหวังเฟยให้อภัยข้าด้วย!” ฮูหยินสวี่ทำความเคารพทันทีที่เข้าประตู
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หานอวี้ฉีก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้างอีกครั้ง เขาจำได้ว่าแม่ของเขาได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับหานอวิ๋นซีข้างนอกเมื่อวานนี้ ทั้งยังโกรธมากจนด่าหานอวิ๋นซีว่าเป็คนไร้ค่าอีก
วันนี้ไปที่จวนรองเสนาบดีมา ไยถึงกลับเปลี่ยนไปเป็คนละคนเช่นนี้ได้ล่ะ!
หลายวันมานี้ฮูหยินสวี่ยุ่งกับเื่การไปเยี่ยมที่คุก นางไปที่จวนรองเสนาบดีเพื่ออ้อนวอนพ่อของนางครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ถูกปฏิเสธมาทุกครั้ง วันนี้จึงไปที่นั่นอีกครั้ง พ่อของนางจึงแอบบอกความจริงกับนางเื่ที่ขุนนางเป่ยกงคนเก่าถูกไล่ออกครั้งที่แล้ว นอกจากนี้ ยังพูดอีกเื่หนึ่งว่าสาเหตุที่ตระกูลหานไม่สามารถไปเยี่ยมคุกได้นั้น เป็เพราะหานอวิ๋นซีมีคำสั่งว่าไม่อนุญาตให้ตระกูลหานไปเยี่ยมที่คุก
ทันทีที่ฮูหยินสวี่ได้ยินเกี่ยวกับเื่นี้ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ก่อนหน้านี้นางและบุตรชายเคยรังแกหานอวิ๋นซี ระหว่างทางกลับมาก็คิดว่าจะชดเชยอย่างไรดี แต่ใครจะรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านทันทีที่กลับมา