ดีเลียน ลูเซียโน่อ้างว่ามีธุระภายนอกจึงเดินทางออกจากเมืองหลวงไป แล้วในวันถัดมาก็มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าอีกฝ่ายเดินทางออกนอกเขตกลางไปเดลูก้า
หากไม่ใช่ธุระจำเป็ คนทั้งสามเขตก็แทบไม่เคยเหยียบย่างข้ามออกจากดินแดนตนเอง แล้วธุระจำเป็ใดที่บุตรชายคนเล็กของลูเซียโน่จะต้องไปเยือนยังเขตตะวันออก ซ้ำยังเป็ถิ่นของเดลูก้า
สมัยเพิ่งเริ่มตั้งประเทศ ต้องจัดสรรปันส่วนดินแดนให้แก่ตระกูลต่าง ๆ เดิมทีเดลูก้าควรเป็หนึ่งในตระกูลที่ได้ปกครองอยู่ในเขตกลางอันแสนสำคัญ เนื่องจากศักยภาพและความยิ่งใหญ่ ทว่าเพราะสมัยนั้นยังมีการกีดกันทางด้านเชื้อชาติที่มาปักหลักในดินแดนนี้ ชนชาติที่เป็กลุ่มส่วนน้อยจึงถูกชนชาติที่เป็กลุ่มใหญ่เอารัดเอาเปรียบจากความชาตินิยม เหล่าตระกูลผู้นำอื่นลงมติร่วมกันบีบเดลูก้าจนต้องออกไปเขตตะวันออก สุดชายแดนของประเทศที่ห่างไกลจากเมืองหลวง ความโกรธแค้นและอัปยศอดสูสลักลึกลงไปจนถึงจิตใต้สำนึกของเดลูก้า ั้แ่นั้นมาเขตตะวันออกก็ไม่เคยญาติดีกับเขตกลางอีกเลย
บางทีลูเซียโน่รุ่นนี้อาจจะนึกอยากเกี่ยวดองกับเดลูก้าก็เป็ได้
การเมืองภายในตระกูลของลูเซียโน่กำลังร้อนระอุ หากมีข้อได้เปรียบใดที่ผู้ท้าชิงตำแหน่งทายาทจะคว้าเอาไว้เพื่อเหนือกว่าพี่น้องอีกคนก็ย่อมทำได้ เดลูก้าเองก็เป็เมืองท่าที่สำคัญ หากเกี่ยวดองสายสัมพันธ์ได้ ย่อมหมายความว่าสามารถเปิดเส้นทางการค้าขายใหม่กับประเทศฝั่งนั้น
ข่าวและข้อสันนิษฐานดังกล่าวแพร่กระจายในหมู่ชนชั้นสูง ไปจนถึงหูของเซฟิรอส ผู้แข่งขันอีกคนในสนามของลูเซียโน่
“ดูสิว่าไอ้ลูกนอกสมรสนั่นมันไร้ศักดิ์ศรีถึงขนาดยอมไปกราบตีนให้พวกตะวันออกมาร่วมมือด้วย!”
ภายในห้องทำงานของผู้เฒ่าลูเซียโน่ บุตรชายคนโตถือวิสาสะบุกเข้ามา พร้อมกับนำความมาบอกกล่าวบิดา ท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงโกรธเกรี้ยว
“เป็ถึงลูเซียโน่เสียเปล่าแต่กลับยอมถ่อไปจนถึงบ้านนอกนั่น คนภายนอกคงหัวร่อคิดว่าตระกูลเราตกต่ำจนต้องไปดองกับพวกคนเถื่อน”
ในขณะที่บุตรชายร้อนระอุราวกับไฟ เ้าตระกูลลูเซียโน่กลับเพียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“การทำธุรกิจไม่จำเป็ต้องมีแบ่งแยกชนชั้น ขอเพียงแค่สร้างผลประโยชน์ให้กับเราย่อมเป็เื่ดี” ฝ่ามือเหี่ยวชราพับหนังสือพิมพ์จนกลับไปยังสภาพเดิม สายตาคมกริบดึงมาสบกับบุตรชาย “นับวันเขตแดนตะวันออกก็ยิ่งเฟื่องฟู หากยังมัวรีรอ วันหนึ่งเมื่อเขายิ่งใหญ่เกินเขตกลางไปแล้ว ถึงตอนนั้นจะไปกราบเท้าอ้อนวอนให้มาร่วมมือ ฝั่งนั้นคงได้ชังน้ำหน้ายิ่งกว่านี้”
“พวกคนบ้านนอกนั่นน่ะหรือจะมีวันยิ่งใหญ่เหนือเขตกลาง” เซฟิรอสแค่นหัวเราะอย่างดูแคลน “นอกจากผลิตโอเมก้าโสเภณีส่งออก พวกมันจะยังมีปัญญาทำอะไรอีก”
“แต่เล็กก็เป็แกที่ได้ดีกว่าน้องชายทุกอย่าง ของเล่น อาหารการกิน การศึกษา หรือแม้แต่ภรรยา แต้มต่อในชีวิตอันมากมายแต่มันกลับไม่ได้ประเทืองปัญญาแกขึ้นมาเลยหรืออย่างไร จึงทำได้แค่เห่าหอนในขณะที่น้องชายแกรุดหน้าแซงไปทุกวัน”
“คุณพ่อ!”
“เซฟิรอสตั้งใจหน่อย ตอนนี้ไม่เหมือนกับสิบกว่าปีที่แล้วที่ฉันต้องพะเน้าพะนอแกทุกอย่าง”
เซฟิรอสก้าวออกมาจากห้องของบิดาด้วยความโกรธเกรี้ยว ไฟร้อนที่แต่เดิมสุมอยู่ในอกก็ยิ่งโหมลุกไหม้กระหน่ำ ฟันกรามขบแน่นไม่ให้สิ่งที่อยู่ภายในะเิออกมา แล้วเมื่อตนสาวเท้ากลับไปจนถึงที่ห้อง ทุกสิ่งทุกอย่างที่สะกดกลั้นก็พุ่งปะทุออกมา ข้าวของบนโต๊ะถูกกวาดจนตกแตก ทุ่มทิ้งทำลายโดยนึกจินตนาการว่ามันคือสิ่งบัดซบทั้งหลายที่ไม่เคยได้ดั่งใจสักอย่าง
พูดมาได้อย่างไรว่าฉันได้แต้มต่อมากกว่ามัน
แต่เดิมก็เป็แกที่รักใคร่นังกะหรี่และลูกนอกสมรสนั่นจนทอดทิ้งทั้งฉันและแม่
ทั้งดีเลียน ทั้งแม่ของมัน ไหนจะยังพวกตะวันออก ไม่ว่าเมื่อไรก็เป็เพราะแกที่ให้ท้ายพวกมันจนหยิ่งผยองขนาดนี้แท้ ๆ!
เซฟิรอสเดินไปยังโต๊ะทำงานของตน กำปั้นทุบลงไปบนพื้นผิวไม้อย่างแรง ให้ความรู้สึกเ็ปกรีดผ่าลึกลงความโกรธที่ฝังอยู่ในใจของตน
เสียงลมหายใจหอบเข้าออกดังถี่รัวฟังดูน่ากลัวคล้ายสัตว์ร้าย ในตอนนั้นดวงตาก็ไปหยุดยังแฟ้มเอกสารบอร์ดบริหารบริษัทของลูเซียโน่ ปลุกปลอบตนเองให้ใจเย็น ด้วยความคิดที่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาโวยวายฟึดฟัดเหมือนเด็กน้อยไม่รู้ประสา ในเมื่อผู้เป็พ่อมีใจลำเอียงไปแล้วตนก็ไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากพยายามสู้ต่อให้เต็มที่กว่าเดิม
กระดาษหน้าแล้วหน้าเล่าถูกพลิกเปิด จนไปถึงหน้ารายชื่อเหล่าผู้ถือหุ้นในบริษัท สายตากวาดมองแต่ละรายชื่อที่หุ้น รายชื่อเกือบ 1 ใน 3 ถูกเขียนเครื่องหมายกำกับไว้ คนเหล่านี้ออกตัวให้การสนับสนุนดีเลียนต่อหน้าสาธารณะแล้ว
ยังเหลือคลื่นใต้น้ำอีกจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าวางตัวเป็กลางจริง หรือให้การสนับสนุนลูกนอกสมรสนั่นแล้วแค่เพียงยังไม่ได้ออกตัว
พวกโสโครก ความภาคภูมิใจในสายเือันสูงส่งมันหมดไปแล้วหรืออย่างไร หรือแค่เพราะมันเป็เพียงอินิกม่าก็พร้อมจะไปเลียแข้งเลียขาพวกลูกชู้ชั้นต่ำนั่น
ตอนนี้ดีเลียนมีหมากในมือมากมายแล้ว หากได้ท่าเรือของเดลูก้ามา พวกที่อ้างตัวเป็กลาง พวกที่เคยอ้างว่าจะให้การสนับสนุนเขาจำนวนมากคงย้ายข้างกันเอิกเกริก ตอนนี้ตนจึงต้องทำอะไรสักอย่าง
ในสถานการณ์ที่บีบคั้นเช่นนี้ จะเล่ห์กลหรือสิ่งสกปรกใด มีค่าเพียงแค่ยืดเวลาออกไปสักเล็กน้อยไม่ให้ลูกนอกสมรสนั่นครองบัลลังก์ได้ในเร็ววันตนก็ต้องทำ
สายตามองลากไล่รายชื่อขึ้นไปั้แ่ด้านล่าง จวบจนมาสิ้นสุดยังหัวกระดาษ มีชื่อของคนผู้หนึ่งที่อยู่บนยอดพีระมิด โดดเด่นสะดุดตาบ่งบอกว่าคือผู้กุมอำนาจและถือหุ้นมหาศาลที่มากพอขนาดเพียงแค่พลิกฝ่ามือก็สามารถกำหนดทิศทางหัวเรือใหญ่ลำนี้ได้
ไทเนีย ลูเซียโน่
ดูเหมือนว่าทั้งเขาและดีเลียนต่างมัวแต่มองต่ำ จนลืมไปว่าเหนือศีรษะก็ยังมีหมากอีกตัวที่อยู่บนสนาม
บาร์ขนาดเล็กทว่าชั้นวางแอลกอฮอล์ที่เรียงรายอยู่หลังบาร์เทนเดอร์พอจะบ่งบอกถึงความหรูหราและระดับลูกค้าภายในร้านแห่งนี้ ท่ามกลางลูกค้าอัลฟ่าภายใต้ชุดสูทราคาแพง มีลูกค้าอัลฟ่าผู้หนึ่งที่โดดเด่น เป็จุดศูนย์กลางของการประจบเอาใจจากคนในร้าน
บุตรชายคนโตของลูเซียโน่ ตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดภายในโนแมนแลนด์ แม้หลายคนจะคาดเดาว่าผู้ที่จะได้ลูเซียโน่คนถัดไปจะเป็บุตรชายคนเล็กที่นอกจากสถานะเพศรองอินิกม่า ความสามารถยังโดดเด่นจนเห็นได้ชัดว่าเหนือกว่าพี่ชาย และหากเทียบกับภาพลักษณ์ในปัจจุบันสถานะของดีเลียนก็ยิ่งสูงส่งจนคาดว่าบางทีเซฟิรอสอาจจะไม่สามารถเอื้อมถึงแล้ว
ทว่าบุตรชายคนโตผู้นี้ก็ไม่อาจดูแคลนได้ อีกฝ่ายเป็บุตรชายจากภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อให้ไม่ได้กุมบังเหียนแต่ก็ยังเป็บุตรชายคนโปรดของเ้าตระกูลลูเซียโน่คนปัจจุบัน
เหล่าอัลฟ่าจากตระกูลรองล้วนขยันขันแข็งในการเอ่ยพูดจาประจบเอาใจคุณชายคนโตผู้นี้ ไม่ว่าจะเป็เื่การพนันม้าในครั้งก่อน ทักษะการเล่นกีฬาโปโลในครั้งก่อน ไปจนกระทั่งสมบัติในทว่ากลับไม่มีใครดึงความสนใจจากคุณชายผู้นี้ได้เลย
เซฟิรอสคล้ายกำลังทอดสายตาไปไกลอย่างนึกเบื่อหน่าย ทว่าความจริงแล้วตนกำลังทุ่มความสนใจไปตกอยู่ที่โต๊ะในมุมหนึ่งของร้าน บริเวณนั้นมีชายสองคนที่มองผิวเผินเพียงแค่สนทนากัน แต่หากจับสังเกตได้จะพบว่าสุ้มเสียงที่ใช้สนทนาแ่เบาจนแทบกระซิบ ทั้งคู่กำลังระมัดระวังไม่ให้บทสนทนาที่เกิดขึ้นบนโต๊ะหลุดออกไปยังบุคคลที่สาม
หนึ่งในสองเป็คนขับรถประจำตัวของเซฟิรอส เขารอจนกระทั่งแน่ใจแล้วว่าคนสนิทได้รับของบางอย่างมา ตอนนั้นบทสนทนาบนโต๊ะก็มาถึงเื่ราวที่ตนไม่อยากได้ยินมากที่สุดในเวลานี้
“อัลฟ่าอย่างพวกเรา เื่ใดก็ไม่น่าอวดเท่าโอเมก้าในปกครอง ดูคุณชายลูเซียโน่สินอกจากจะได้ภรรยาเป็ถึงโอเมก้าที่งามที่สุดในโนแมนแลนด์ ภรรยาน้อยที่เพิ่งตบแต่งก็สวยแปลกตา แตกต่างไปจากโอเมก้าอื่นภายในโนแมนแลนด์”
เครื่องดื่มจากแก้วใสที่กำลังถูกกระดกพลันชะงักไป ปฏิกิริยาเช่นนั้นอยู่ภายใต้การสังเกตของทุกคน
“คุณชายคาโลกล่าวเื่เสียมารยาทแบบนั้นออกมาได้อย่างไร คุณชายลูเซียโน่เองก็เคยพูดเด็ดขาดแล้วว่าได้หย่าร้างกับภรรยาคนแรกอย่างเป็ทางการ” อัลฟ่าอีกคนรีบแสร้งปราม ทว่าั์ตากลับเต็มไปด้วยความสอดรู้เมื่อเอ่ยประโยคถัดไป “แต่ว่าอย่างไรโอเมก้าอยู่ด้านนอกคนเดียวคงยากลำบากมาก คุณนาย… คุณหนูลอเรนโซ่คนโตไม่ได้ติดต่อหาคุณชายเลยหรือครับ”
เพียง่ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา คฤหาสน์ลูเซียโน่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
โนแมนแลนด์คือประเทศที่ดำรงอยู่ได้ด้วยเส้นสายอันแข็งแกร่งของเหล่าตระกูลใหญ่ ของขวัญ งานเลี้ยง จดหมายแสดงความยินดีเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ละตระกูลย่อมส่งต่อให้กันและกันอย่างทั่วถึง ทว่าใน่นี้ลูเซียโน่กลับทำตัวคล้ายไม่คุ้นชินธรรมเนียม มีทั้งลืมส่งของขวัญ ส่งผิดส่งถูก ถ้าจดหมายไม่ถูกเขียนอย่างลวก ๆ ก็มีการใช้คำไม่ถูกกาลเทศะ
แรกเริ่มเดิมทีภาพลักษณ์ของฮิโนกิในหมู่ตระกูลชั้นสูงก็ไม่ได้ดีนัก ภรรยาน้อยที่ทำตัวเกินหน้าเกินตาภรรยาหลวง แล้วเมื่ออีกฝ่ายปรากฏตัวในงานสังสรรค์ อุปนิสัยทำตัวแปลกแยก ขวานผ่าซาก บางคราก็พูดจาดูิ่ความอ่อนแอของโอเมก้าที่ต้องอยู่แต่ในคฤหาสน์ พฤติกรรมหลายสิ่งหลายอย่างหลอมรวมจนเกิดเป็ความไม่ชอบใจนัก
ไฮยาซินท์ ลอเรนโซ่ต่อให้ชูคอ ยโสโอหังจนโอเมก้าผู้อื่นชังน้ำหน้าแค่ไหนแต่อย่างไรก็ยังนับว่าเป็คนชนชั้นสูง เป็พวกเดียวกับภรรยาหลวงคนอื่น ๆ แต่ฮิโนกินั้นไม่ใช่
“ติดต่อมาแล้วอย่างไร ไม่ติดต่อมาแล้วอย่างไร” เซฟิรอสรับคำในลำคอด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันได้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแยกทาง”
เหล่าผู้ที่ได้ฟังคำตอบหันมามองหน้ากัน แม้ไม่ได้พูดอะไรทว่าความรู้สึกอันหลากหลายก็ฉายชัดอยู่ในดวงตา
“ที่ผ่านมาคุณชายคงหนักใจกับคุณหนูลอเรนโซ่ไม่ใช่น้อยเลยสินะครับ พวกโอเมก้าก็อย่างนี้ทั้งขี้หึง อ่อนไหวง่าย มาตอนนี้ก็ใช้อารมณ์ตัดสินใจ เฮ้อ ไม่รู้เลยหรืออย่างไรว่าการที่ตัวเองไร้ที่พึ่งจะเป็เช่นไร”
“เพราะอย่างนั้นพวกเราอัลฟ่าเลยต้องยอมเอาอกเอาใจเสียหน่อย” ชายอีกคนช่วยพูดเสริมด้วยท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ หากภรรยาไม่ได้สั่งเป็มั่นเป็เหมาะให้มาพูดเื่นี้ ตนก็คงไม่คิดจะทำอะไรที่น่ากลัวว่าจะเป็การยั่วโมโหคุณชายลูเซียโน่ “คุณชายลูเซียโน่ต่อให้จะหย่าขาดกันทางกฎหมาย แต่พันธะแห่งคู่ชีวิตก็ยังคงอยู่ คุณชายยอมให้กับเ้าตัวเสียหน่อย เอ่ยพะเน้าพะนอเดี๋ยวเขาก็คงใจอ่อน”
“ในเมื่อตัดสินใจจะไปแล้วก็ไม่ต้องให้เขากลับมา” เซฟิรอสแค่นหัวเราะอย่างดูแคลน “ในเมื่อศักดิ์ศรีมันสูงเสียดฟ้าเสียจนล้ำค่ากว่าชีวิตหลังจากนี้ของตัวเอง ก็ปล่อยให้ใช้ชีวิตเช่นนั้นไป ดูสิว่าศักดิ์ศรีจะสามารถคุ้มครองตนได้นานแค่ไหน”
“แต่ตอนนี้ลอเรนโซ่ก็กลับมารุ่งเรืองขึ้นมาก ซ้ำตระกูลเดิมมารดายังเป็ถึงเดลูก้า บางทีถ้าหากมีเธอคงสามารถขัดขวาง…”
“นี่แกดูถูกฉันกับภรรยาของฉันหรือไง!!!”
ประโยคที่คิดจะพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมถูกกลืนหายกลับเข้าไปในลำคอ เมื่อจู่ ๆ คุณชายลูเซียโน่คนโตก็กลับเกรี้ยวกราดขึ้นมา
“มะ… ไม่ใช่อย่างนั้นครับ”
“ทำไม? ไฮยาซินท์ ลอเรนโซ่มาจากตระกูลสูงส่งแล้วอย่างไร มันคับฟ้าเสียยิ่งกว่าลูเซียโน่หรือถึงต้องให้ฉันไปกราบเท้าอ้อนวอนขอให้กลับมา!”
เซฟิรอสจ้องมองเหล่าอัลฟ่าที่ยกยอตัวเองว่าเป็ชนชั้นสูง
ดูถูกกันดีนัก ไอ้พวกสวะหน้าไหว้หลังหลอก ต่อหน้าประจบเอาใจเขาสารพัดแต่ลับหลังก็ไปเลียตีนไอ้ลูกนอกสมรสนั่นอยู่ดี
แค่เพียงเสียไฮยาซินท์ไปก็คิดว่าอนาคตของเซฟิรอสคงจะล่มจมหรืออย่างไร!
ตอนนี้ภรรยาคนปัจจุบันของเขาเป็ถึงเพียวโอเมก้า ต่อให้ชาติกำเนิดต่ำต้อยแต่ก็มีเพศรองที่สูงส่ง เหนือค่าเสียยิ่งกว่าโอเมก้าที่มีบุตรไม่ได้
คนพวกนี้ไม่รู้เสียแล้วว่าบุตรชายคนโตที่มองข้ามได้คว้าไพ่ที่คาดไม่ถึงมาไว้ในกำมือจนหมดสิ้นแล้ว
เซฟิรอสผุดลุกขึ้น ก้าวเดินออกจากบาร์ไปด้วยท่าทางฉุนเฉียว ยิ่งเมื่อนึกถึงอดีตภรรยาขึ้นมาแล้วความโกรธก็ยิ่งปะทุ เซฟิรอสยื่นทางรอดมากมายให้กับอดีตภรรยา แต่เพราะศักดิ์ศรีที่ใหญ่คับฟ้าจึงทำให้เ้าตัวปฏิเสธทุกทางแล้วเลือกออกจากคฤหาสน์ลูเซียโน่ไปตายเอาดาบหน้า
ไฮยาซินท์ ลอเรนโซ่ เกิดมาในตระกูลสูงส่งเสียเปล่าแต่กลับไร้เดียงสา โอเมก้าที่ไร้อัลฟ่าปกป้องจะใช้ชีวิตอยู่รอดได้อย่างไร จุดจบคงไม่พ้นถูกอัลฟ่าขยะสักตัวข่มเหงรังแก
ตนเปิดประตู ก้าวขึ้นมานั่งบนรถยนต์ ตอนนั้นคนขับรถยนต์ที่นั่งเบาะหน้าก็ยื่นซองเอกสารหนึ่งมาให้ เซฟิรอสหยิบเอาเอกสารที่อยู่ภายในนั้นมากวาดตาอ่านคร่าว ๆ แล้วรอยยิ้มเย็นจึงผุดขึ้นมาบนใบหน้า
“พวกนี้หาได้ถึงขนาดนี้แล้วแท้ ๆ แต่น่าเสียดายที่ใจกลับยังไม่ถึง”
นับวันยิ่งโนแมนแลนด์เฟื่องฟู คนจำนวนมากก็ยิ่งอยากกระชากลูเซียโน่ลงจากบัลลังก์อันแสนสูงส่ง ทั้งหลักฐานการเลี่ยงภาษี การขายยาผิดกฎหมาย การฟอกเงินก็ล้วนมีปรากฏให้เห็น ทว่านอกจากอิทธิพลของลูเซียโน่แล้ว หลายธุรกิจยังเกี่ยวเนื่องกับหลายตระกูล คาดว่าหากเปิดมาหนึ่งหลักฐาน คงได้ลากไส้ผู้มีอิทธิพลในโนแมนแลนด์ออกมาทั้งยวง
ไม่มีใครใจกล้ามากพอที่จะสู้กับสัตว์ร้ายเป็ฝูง
แต่เซฟิรอสไม่ได้มีปณิธานยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เขาเองก็เป็หนึ่งในผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของตระกูลนี้ สิ่งที่เขา้ามีเพียงแค่จี้จุดอ่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ จุดอ่อนไหวที่มีเพียงแค่ตนในฐานะบุตรชายที่ถูกทอดทิ้งรู้ดี จุดอ่อนไหวที่มากพอจนเ้าตระกูลลูเซียโน่จะยอมเฉือนเนื้อบางส่วนมาแบ่งให้ตนเอง
ในชั่วขณะที่กำลังย่ามใจภายในอกก็คล้ายกับมีบางอย่างทิ่มแทง เสียดทะลุเข้ามาภายในหัวใจ ก่อนจะดึงรั้งบางอย่างออกไปด้วย
มันเกิดขึ้นเพียงชั่วเสี้ยววินาทีก่อนที่จะหายไปอย่างรวดเร็ว
“คุณชายเป็อะไรหรือเปล่าครับ!” คนขับรถยนต์เห็นปฏิกิริยาดังกล่าวทัน รีบร้อนหันมาเอ่ยถามนายของตนด้วยความเป็ห่วง
ความรู้สึกที่ยังตกค้างอยู่ทำให้ตนหอบหายใจถี่ กระนั้นก็โบกมือปฏิเสธคนขับรถเป็เชิงว่าไม่เป็อะไร
ไม่นานทุกอย่างรอบกายก็พลันเย็นลง สติของตนกลับมาแจ่มชัด
ความรู้สึกภายในอกที่วูบโหวงเสมือนมีบางอย่างหายไปกับความรู้สึกเ็ปเมื่อครู่
เซฟิรอสขมวดคิ้วมุ่น เริ่มสำรวจตามกระเป๋าเสื้อคลุม กระเป๋ากางเกง ความรู้สึกว้าวุ่นใจบางอย่างก่อตัว
เขามั่นใจว่าอะไรสักอย่างหายไปจริง ๆ ของสำคัญบางอย่าง ทว่านึกให้ตายกลับนึกไม่ออก
จวบจนผ่านไปหลายสิบนาทีเซฟิรอสกำลังจะยอมแพ้ ตอนนั้นกลิ่นหอมหวานของดอกไม้ไฮยาซินท์ก็ลอยมาแตะจมูก ตนชะงัก สายตาไปหยุดยังถุงหอมปักตัวอักษรลูเซียโน่และรูปลูกสิงโตที่ถูกแขวนไว้ข้างกระจกรถยนต์ มันเป็สิ่งที่ภรรยาโอเมก้านิยมทำให้สามีพกติดตัวไว้
ในที่สุดคุณชายลูเซียโน่คนโตก็รู้แล้วว่าสิ่งใดหายไป
ไฮยาซินท์หายตัวไป
ไม่สิ…
หากเรียกให้ถูกมันคือพันธะที่ผูกยึดโยงระหว่างเขากับไฮยาซินท์ที่หายไปต่างหาก
ความรู้สึกที่ตนเองััได้ถึงคู่พันธะนั้นหายไปแล้ว
เขาหายไปแล้วจริง ๆ
ในที่สุดเซฟิรอสก็ตระหนักรู้ได้ว่าภรรยาของตนหายไปพร้อมกับโยงใยพันธะที่ถูกสลายอย่างไร้ร่องรอย
เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า่เวลาแห่งการรอคอยมันจะยาวเช่นนี้ จากที่จินตนาการว่าภรรยาผู้สูงศักดิ์ของตน นอกจากศักดิ์ศรีแล้วคงไม่มีอะไรที่จะทำให้อีกฝ่ายไปรอด ไม่นานคงซมซานกลับมาอ้อนวอน ขอร้องให้รับกลับไปอยู่ที่ลูเซียโน่ เมื่อถึงตอนนั้นเซฟิรอสจะยอมลงให้อีกฝ่าย รับฟังคำขอโทษ พวกเขาจะจดทะเบียนสมรสครั้งที่สองและกลับมาเป็ดังเดิม
เซฟิรอสเชื่อว่าจะเป็อย่างนั้น ใน่ชีวิตเกือบยี่สิบปีไฮยาซินท์ใช้ชีวิตอยู่ข้างกายเขาโดยที่ไม่มีวันไหนแยกจากกัน พวกเขาเป็ทั้งเพื่อน คู่หมาย คู่หมั้น และคู่ชีวิต
เป็เวลากว่าสองเดือนที่ไม่มีแม้แต่ข่าวคราวของไฮยาซินท์ นานมากพอที่จะเกิดความคิดว่าบางทีความโกรธเกรี้ยว และความรู้สึกที่ถูกนำศักดิ์ศรีมาเหยียบย่ำของไฮยาซินท์นั้นฝังรากลึกจนเ้าตัวตัดสินใจได้เด็ดขาด
ด้วยเหตุนั้นเซฟิรอสจึงคิดว่าจะยอมลงให้กับภรรยาขี้โมโหเสียหน่อย ตนเดินทางไปคฤหาสน์ลอเรนโซ่ หอบความคิดฝันเฟื่องว่าทันทีที่ไฮยาซินท์ได้เห็นว่าเขาอุตส่าห์มารับอีกฝ่าย คนงามผู้นั้นคงยกยิ้มกว้างและรีบวิ่งมากอดผู้เป็สามีด้วยความคิดถึง
“จะยอมทิ้งเพียวโอเมก้านั่นแล้วกลับมาหาคุณพี่ของผมหรือครับ” โอเลนเดอร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“ยาเซียยื่นข้อเสนอแบบนั้นมาหรือ…” เซฟิรอสนิ่งงันไป
ให้เขาเลือกระหว่างไฮยาซินท์กับฮิโนกิเนี่ยนะ
ฮิโนกิที่เป็ถึงเพียวโอเมก้า เป็ไพ่สำคัญที่จะผลิตทายาทอันแสนสูงส่งไว้ต่อรองตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูล แต่ไฮยาซินท์กลับจะให้เขาทิ้งไปอย่างง่ายดายเพื่อที่จะเป็ภรรยาคนเดียวของเขาเนี่ยนะ
วินาทีหนึ่งเซฟิรอสนึกโกรธเคืองในความใจแคบของภรรยาตนเอง ทั้งที่นี่คือความก้าวหน้าในชีวิตของเขา นอกจากผู้เป็ภรรยาจะไม่ส่งเสริมสามีแล้วยังกลับหาทางขัดขวางทำลายเส้นทางของเขา
“ผมรู้ว่ายาเซียโกรธจนไม่อยากเจอหน้า แต่ผมอยากให้เขาออกมาคุยกับผม ผมยอมรับเื่ผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับยาเซียเมื่อครั้งนั้น แต่คำมั่นที่ว่ายาเซียจะเป็ภรรยาเอกที่มีสถานะสูงกว่าทุกคนนั้นเป็เื่จริง” เซฟิรอสข่มกลั้นอารมณ์นั้น พยายามเอ่ยอย่างใจเย็นที่สุด
กลับกลายเป็ว่าโอเลนเดอร์กลับหัวเราะร่วนออกมา
“คุณชายช่างน่าเบื่อยิ่งนัก อุตส่าห์แบกหน้ามาจนถึงที่นี่ แต่แค่จะเอ่ยโกหกเพื่อรั้งเขากลับมาก็ยังไม่กล้าทำ”
“ฉัน…”
“คุณชายไม่ต้องพูดแล้วครับ ผมเพียงแค่หยอกคุณชายเล่นเท่านั้น ต่อให้วันนี้คุณชายจะเอ่ยอะไรออกมาผลลัพธ์ก็จะไม่ต่างไปจากเดิม เพราะคุณพี่เขาเลือกทางให้ทั้งตนเองและคุณชายเรียบร้อยแล้ว”
“หมายความว่าอย่างไร!” ได้เห็นสีหน้าระรื่นของคนตรงข้าม ก็คล้ายว่ากำลังถูกกวนประสาท “ยาเซียอยู่ที่ไหน”
“คุณพี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ ตอนนี้คุณพี่คงจะหาบ้านหลังใหม่เจอแล้ว สถานที่ที่จะเป็หลักยึด เป็ที่พักพิงเสียทีหลังจากต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจมาตลอดหลายปี”
“...”
“คุณเองก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่หรือ ตอนนี้ ‘มัน’ ก็น่าจะหายไปแล้วนี่”
วินาทีนั้นเซฟิรอสพลันหัวใจหล่นวูบ ราวกับตนถูกผลักลงสู่หุบเหวไร้จุดสิ้นสุด
คำว่า ‘มัน’ แม้ไม่ได้เอ่ยเรียกชื่อทว่าเซฟิรอสก็รู้ความหมาย
พันธะที่เชื่อมโยงและผูกมัดเขากับไฮยาซินท์มาตลอดสิบปี แต่กลับสามารถอันตรธานหายไปในชั่วพริบตาเดียว
“ยาเซียบอกกับคุณงั้นหรือว่าจะตัดมัน” เซฟิรอสหลุบตามองสองมือที่วางอยู่บนที่พักแขน
มันกำลังสั่น
“ต่อให้คุณพี่ไม่บอกผมมันก็เป็เื่ที่แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ในเมื่อเขาเลิกรากับคุณชายแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณชายย่อมตัดมันออกให้หมด”
“มันจะเป็ไปได้ยังไง การตัดพันธะ…”
“เด็ดดอกไม้มาตัดหนามตัดกิ่งก้านจนพอดีที่จะยัดลงแจกันแคบ ๆ แล้วพอเห็นมันเหี่ยวเฉา ไปไหนไม่ได้ก็คิดเองเออเองว่าเป็ดอกไม้ที่ไร้คุณค่า พอวันหนึ่งดอกไม้ดอกนั้นยอมสละทุกอย่าง ปล่อยเมล็ดพันธุ์ให้ไปเติบโตจนรอดชีวิตมาได้ คุณกลับตกตะลึง หลงลืมว่าดอกไม้นั้นก่อนที่จะมาอยู่ในแจกัน มันก็เติบโตของมันได้มาตั้งเนิ่นนาน”
“...”
“คุณชายลูเซียโน่ ดอกไม้งามดอกนั้นไปแบ่งบานสวยงามอยู่ในสวนที่อื่นแล้วละครับ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้