“ ปู่นึกว่าเ้าจะลืมไปแล้วเสียอีก ตอนนี้เป็่กลางปี พวกเขาเรียนมาได้แล้วครึ่งหนึ่ง ถ้าเ้าจะเรียนก็ไปวัดความสามารถได้เลย แต่ถ้าเรียนปีหน้าปู่ว่ามันดูจะช้าไป”
“ วัดความสามารถเื่อะไรเ้าคะท่านปู่ การต่อสู้หรือว่าวิชาความรู้ ถ้าเป็เกี่ยวกับพวกวาดรูปร่ายรำ ท่องกลอนข้าไม่ไป”
“ ปู่เลือกให้เ้าเป็สายยุทธ น่าจะเป็การต่อสู้มากกว่า แต่จากบ้านที่เราอยู่ไปสำนักก็ไกลเหมือนกัน คงต้องหาม้าดีสักตัวไว้ขี่ไปกลับ”
“ ถ้าเป็แบบนั้นพรุ่งนี้ก็ไปทดสอบได้เลยเ้าค่ะท่านปู่ วันนี้ข้าขอตัวไปทำธุระก่อน เย็นๆถึงจะกลับเ้าค่ะ”
“หนูดำพวกเราไปกันเถอะ จะได้กลับมาไวๆ”จู๋จื่อวิ่งนำหน้าหนูดำออกไป เข้าไปในป่าลึกตรงไปบ้านของชายฉกรรจ์ที่เจอเมื่อวานนี้
“ท่านน้าข้ามีเื่จะพูดด้วย พอจะมีเวลาสักครู่ไหม”เด็กน้อยพูดแล้วก็เดินเข้าไปใกล้ๆ
“เ้ามีอะไรก็พูดมาเลยเด็กน้อย ข้าว่างนี้ไม่ได้ออกไปล่าสัตว์ที่ไหน ”
“ข้าจะถามท่านว่าที่อยู่รวมกันตอนนี้มีกี่คน พอดีข้าจะจ้างพวกท่านให้ขุดหาสายแร่ ที่อยู่ตรงูเาลูกเตี้ยตรงนั้น ข้าจะให้ค่าแรงเท่ากับในเมืองเลยท่านสนใจหรือไม่”
“จริงหรือเด็กน้อยพวกข้ามีกันอยู่หลายครอบครัว เดี๋ยวข้าจะถามก่อนว่ามีใครพี่พอจะขุดได้ ถ้าเป็ผู้หญิงแรงงานน้อยข้าอาจจะไม่ให้มาทำก็ได้ เ้า้าสายแร่อะไรที่อยู่ตรงนั้น”
“เป็สายแร่ทั่วไปเ้าค่ะ ข้าจะเอามาสร้างเป็พวกเครื่องใช้ พวกน้าขุดลงไปก็จะเห็นเอง มันไม่ได้เป็แร่ธาตุที่มีราคาแบบทองคำอะไรพวกนั้นหรอก”
“ข้าจะจ้างพวกท่านเป็รายวัน แล้วข้ามีเวลาไม่มากขอรู้คำตอบตอนนี้เลยได้ไหม รบกวนท่านช่วยไปถามหน่อยข้าจะรออยู่ตรงเนินเขาเตี้ย ถ้าเริ่มทำงานวันนี้ได้ข้ายินดีจะจ่ายเป็ตำลึง หรือว่าเป็อาหารแห้งก็ได้”
ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปถามญาติพี่น้องเพื่อนบ้าน ที่อยู่รวมกันคนที่ไม่ได้ออกไปไหน ก็เรียกออกมาคุยกันทั้งหมด
เพียงเวลาไม่นานเขาพร้อมกับคนในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ ก็ออกมาพบกับจู๋จื่อที่เนินเขาเตี้ย พวกเขาแอบใเหมือนกันเพราะคนว่าจ้างเป็เด็กคนหนึ่งเท่านั้น
“แม่หนูข้านำคนที่ว่างอยู่ตอนนี้มาหมดแล้ว แต่พวกเราไม่มีอุปกรณ์ที่จะใช้ขุดดินที่เ้าว่า”
“อุปกรณ์ข้าเตรียมมาแล้ว แอบเอามาวางตรงใต้ต้นไม้ ไปช่วยกันขนมาได้ มีที่ขุดดินอยู่แต่ไม่น่าจะพอ พวกท่านก็เปลี่ยนกันขุดได้ ถ้าเริ่มขุดวันนี้ ข้าจ่ายค่าแรงครึ่งวัน”
“ท่านน้าข้าให้ท่านเป็หัวหน้ากลุ่มขุดดินก็แล้วกัน ท่านนับดูด้วยใครทำงานบ้าง ทีแรกข้าว่าจะจ้างพวกท่านเป็วัน ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะจ้างพวกท่านขุดเป็ลูกเลยดีกว่า”
“ค่าจ้างต่อหนึ่งูเาอยู่ใต้ต้นไม้นั้น ท่านน้าขนมาแจกจ่ายกันให้ทั่วถึง มีทุกอย่างถ้าข้าไม่ได้มีเวลามา ฝากท่านน้าหาที่เก็บสายแร่ที่ขุดได้ด้วยน่ะเ้าค่ะ”
“โอ้เด็กน้อยเ้าขนมาได้ยังไงของเยอะขนาดนี้ มีั้แ่ข้าวขาวธัญพืชแป้งจนถึงผ้าพับ เ้าเอาของพวกนี้มาได้ยังไงกันหรือว่ามีคนช่วยขนมา แล้วขุดสายแร่แค่นี้ทำไมค่าจ้างถึงได้เยอะขนาดนี้เล่า”
“ท่านน้าอย่ารู้เลยว่าข้าขนมายังไง เก็บข้าวของแจกให้กับทุกคน เดี๋ยวจะเข้าหน้าหนาวแล้วสินค้าพวกนี้จะมีราคาแพง ถ้าเห็นว่ามันเยอะหลังจากขุดเขาลูกนั้นเสร็จแล้ว พวกท่านก็ขุดเขาลูกต่อไปได้เลย ถ้าได้สายแร่จำนวนเยอะข้าก็จะจ่ายให้เพิ่มอีก”
“ส่วนอุปกรณ์การขุดถ้าข้ามาอีกรอบจะเอามาเพิ่มให้ แต่ตอนนี้มีเท่านี้แหละถ้าพวกท่าน มีอย่างอื่นก็เอามาช่วยกันขุดได้”
“ถ้ามีเวลาข้าจะมาอีกแต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็วันสองวันนี้หรือไม่ เพราะข้าต้องไปที่สำนักศึกษาตงเต๋อด้วย”
“เดี๋ยวก่อนเด็กน้อยเ้าเรียกข้าว่าอาเฉิงก็ได้ แล้วเ้าเล่ามีชื่อว่ากระไรจะได้เรียกถูก”
“อาเฉิงเรียกข้าว่าจู๋จื่อก็ได้เ้าค่ะ ข้าต้องรีบไปแล้วเดี๋ยวท่านปู่จะเป็ห่วง ไว้วันหลังข้าจะมาใหม่นะเ้าคะ”จู๋จื่อเดินออกมาจากหมู่บ้านกลางป่า
โดยมีชาวบ้านมองตาม พวกเขายังไม่เข้าใจ โชคลาภหล่นจากท้องฟ้ามาหาพวกเขาได้ยังไงกัน
แสงแดดอ่อนๆยามเช้า สองปู่หลานเดินทางมุ่งหน้าไปสำนักตงเต๋อ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีหมอกจางๆและูเาที่เต็มไปด้วยต้นไม้
“สำนักตงเต๋อมีสิ่งก่อสร้างที่ทำจากไม้ประสานกัน หลังคาโค้งมนเด่นไม้ก็ดูแข็งแรงมีตั้งสามชั้น ดูเหมือนจะมีหอคอยด้วย ท่านปูข้าต้องเรียนอยู่ชั้นบนสุดใช่หรือไม่เ้าคะ จะได้มองเห็นที่ไกลๆด้วย”
“ที่เรียนของเ้าอยู่โน่น อาคารเรียนที่สร้างจากดินโคลนผสมฟางอยู่ใต้ต้นไม้ จะไปเรียนอยู่ชั้นที่สามได้ยังไงกัน”
“ทำไมถึงเป็แบบนั้นล่ะเ้าคะท่านปู่ ทำไมข้าต้องไปอยู่อาคารหลังเล็กใต้ต้นไม้แบบนั้นกันล่ะ เหตุใดถึงไม่ได้เรียนอยู่บนอาคารสูง”
“บนอาคารสูงเหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจไปศึกษาเล่าเรียนวิชาอยู่ในห้อง ส่วนเ้าจะเลือกแบบไม่ต้องนั่งเรียนไม่ใช่หรือก็ต้องอยู่แบบนี้แหละ ช่วยอาจารย์ทั้งหลายทำภารกิจ”
“จริงหรือได้แบบนั้นก็ดีเ้าค่ะ ข้ายอมเรียนอยู่ใต้ต้นไม้ดีกว่าอยู่ชั้นสูง แล้วต้องนั่งเรียนอยู่ในห้องตลอด”
“นี่คืออาจารย์เฟยฉี ที่เ้าจะเรียนด้วยมาคารวะอาจารย์ก่อน ปู่จะได้กลับไปดูสมุนไพรไปปลูกที่บ้าน”
“ข้าจู๋จื่อขอคารวะท่านอาจารย์เฟยฉีเ้าค่ะ”ท่านอาจารย์ที่ว่าคือชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบรูปร่างสูงโปร่ง สวมใส่ชุดสีฟ้าหน้าตาคมเข้มแต่ดุดัน ไม่มีแม้กระทั่งรอยยิ้มให้
“นี่นะหรือหลานของท่านที่มาคุยไว้ ตัวเท่านี้จะออกไปทำภารกิจกับเด็กพวกนั้นได้ยังไง ต้องรู้ว่าถ้าเรียนสายนี้จะต้องออกไปข้างนอกบ่อย เ้าไม่เปลี่ยนใจไปเรียนอยู่ที่ตึกใหญ่ล่ะ จะได้นั่งเรียนอยู่ในห้อง”
“ท่านอาจารย์จะเอารูปร่างของข้ามาวัดไม่ได้นะเ้าคะ ว่าจะออกไปทำภารกิจข้างนอกได้หรือไม่ ท่านลองทดลองดูก่อน ว่าข้ามีความสามารถนั้นหรือไม่”
“ก็ได้ข้าจะรับเ้าไว้ก่อน แต่อย่าร้องไห้ขอเปลี่ยนที่เรียนล่ะ พอดีพรุ่งนี้ต้องมีภารกิจไปช่วยชาวบ้านห่างไกลจากที่นี่ เ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อมตื่นแต่เช้า ”พออาจารย์บอกว่ารับ ชายชราก็รีบเดินทางกลับทันที
“วันนี้มารู้จักกับศิษย์ร่วมห้องของเ้าก่อน ตามอาจารย์มาทางนี้ ห้องนี้เป็ห้องที่มีแต่ลูกศิษย์มีฝีมือทั้งนั้น เ้าต้องเตรียมเนื้อเตรียมตัวด้วยล่ะ”
ภายในห้องที่นั่งกันแบบเรียบง่าย มีลูกศิษย์ยี่สิบห้าคนเป็ผู้ชายเสียส่วนใหญ่ มีผู้หญิงอยู่แค่ห้าคน
“พวกเ้ามารู้จักศิษย์ใหม่หน่อย ต้องเรียนอยู่ด้วยกัน และพรุ่งนี้ก็ต้องออกไปทำภารกิจด้วยกัน”
“ท่านอาจารย์เด็กน้อยผู้นี้จะเรียนอยู่กับพวกเราหรือ นางจะไม่ตัวเล็กและอายุน้อยไปหน่อยหรือ ความสูงก็แค่อกพวกเราเอง”เด็กหนุ่มวัยสิบสามปีท่าทาง หยิ่งผยองพูดขึ้น
“ข้าจู๋จื่อศิษย์ใหม่ของที่นี่”จู๋จื่อแนะนำตัวยังไม่ทันเสร็จก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นทั่วทั้งห้อง
“ฮ่าๆๆ!!”
“ชื่อมีตั้งเยอะแยะดันไปชื่อต้นไผ่ ใครเป็ผู้ตั้งให้เ้ากันละนี่ หน้าตาเ้าก็ดูดี ข้าว่าไปเปลี่ยนชื่อใหม่เถอะ ก่อนจะมาเป็ลูกศิษย์ร่วมห้องกับพวกเรา”
“ชื่อข้ามันเป็ยังไง หรือว่าชื่อจะทำให้คนฉลาดขึ้น มีอายุเยอะแล้วจะเก่งขึ้น ตัวเล็กแล้วจะทำอะไรไม่ได้ แน่จริงมาสู้กันสักตั้งไหมล่ะ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่หัวเราะใส่ข้า จะแน่สักแค่ไหนกัน”
“เ้าก้าวขาเข้ามาในห้องก็ขอสู้กับพวกข้าแล้วอย่างนั้นหรือ ไม่เลวนี่นา แต่อย่าเลยที่นี่มีกฎห้ามลูกศิษย์ชกต่อยกันเอง ถ้าไปรับภารกิจอยู่ข้างนอกก็ไม่แน่”เฉิงหย่งเด็กหนุ่มวัยสิบสามปี หน้าตาดีแต่ท่าทางนักเลงพอตัวรูปร่างสูงผอมกำลังโต
“พวกเ้ามาเรียนก่อน อย่าเสียมารยาทกับศิษย์ใหม่ เหมือนดังเด็กผู้นี้พูดทุกอย่างอยู่ที่ฝีมือ จะเอาอายุชื่อส่วนสูงที่เอามาวัดไม่ได้”อาจารย์พูดขึ้น
“พรุ่งนี้เราต้องเดินทางไกลไปทำภารกิจช่วยเหลือชาวบ้าน จู๋จื่อเ้ามีม้าส่วนตัวหรือยัง ถ้ายังไม่มีก็เตรียมให้พร้อม”
“หมู่บ้านที่เราจะไปช่วยเหลือพรุ่งนี้ พวกเขาเดือดร้อนเื่แมลงกัดกินใบพืช ความแห้งแล้งและถูกสัตว์ป่ามาแย่งกัดกินพืชผัก ทำให้พวกเขาเดือดร้อนอย่างหนัก พวกเ้าช่วยกันคิดว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง”
“วันนี้วิชาที่พวกเราจะเรียนคือเื่นี้แหละ ช่วยกันออกแิการแก้ปัญหา แล้วพรุ่งนี้เราค่อยไปสถานที่จริง”
จู๋จื่อนั่งเรียนกับเพื่อนร่วมห้อง พวกเขาปรึกษากันว่าจะแก้ปัญหายังไง ไม่สนใจเด็กน้อยอย่างนางที่นั่งรวมกลุ่มอยู่ด้วย ไม่แม้แต่จะปรึกษาพูดคุย จนถึงเลิกเรียนซึ่งก็เป็่บ่าย
ที่สำนักนี้ไม่มีที่พักให้เหมือนที่อื่น แม้แต่อาหารมื้อเที่ยงก็ต้องหาไปกินเอาเอง เลิกเรียนจู๋จื่อรีบเดินทางกลับบ้าน พร้อมกับชุดสีฟ้าของทางสำนักให้มา
“พวกเ้าดูเด็กน้อยผู้นั้นสิ คงจะกลัวพวกเรารีบหนีกลับบ้านเลยเก่งแต่ปากนี่ รอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อนเถอะดูว่าข้าจะจัดการกับเ้ายังไง”เฉิงหย่งพูดคุยกับเพื่อนขณะยืนมองจู๋จื่อที่รีบเดินออกไปจากสำนัก
“ท่านปู่ข้ากลับมาแล้วเ้าค่ะ”จู๋จือวิ่งเข้าไปในบ้าน
“ หนูดำเ้าอยู่แถวนี้ไหม ไปกับข้าเราต้องไปหาซื้อม้า พรุ่งนี้ข้าต้องออกไปทำภารกิจแล้ว อาจารย์บอกต้องเตรียมม้าไว้ให้เรียบร้อย เ้าไปดูม้าเป็เพื่อนข้าหน่อย”
“เ้าจะออกไปหาซื้อทำไมให้ยุ่งยาก สู้เข้าไปในป่าลึกหาม้าสักตัวหนึ่งไม่ดีกว่าหรือ”
“หนูดำมันหาง่ายขนาดนั้นเลยหรือ พวกเราอยู่ในป่ามาก็นานไม่เคยเห็นเจอม้าเลย หรือว่าเ้ารู้ว่ามีม้าอยู่แถวไหน จะไปตรงไหนก็ได้ แต่พรุ่งนี้ข้าต้องมีม้าขี่ไปทำภารกิจ”
“วันนี้ข้าอยู่ว่างๆไม่มีอะไรทำ เลยเข้าไปในป่าอีกด้านหนึ่ง มีทั้งกวางและม้าอยู่ในนั้น แถมยังเป็สัตว์อสูรอีกด้วยถึงระดับจะต่ำกว่าข้าก็เถอะ”
“ดีถ้าอย่างนั้นเรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทันจะมืดค่ำเสียก่อน ท่านปู่ข้าไปก่อนนะเ้าคะ ข้าจะรีบไปรีบกลับ”พูดจบจู๋จื่อวิ่งตามหนูดำเข้าป่าไป
“เ้าวิ่งมาไกลขนาดนี้เลยรึหนูดำ ไกลขนาดนี้ไม่มีมนุษย์เข้ามา ไม่น่าล่ะสัตว์ถึงไม่ถูกล่า ไหนล่ะม้าที่เ้าว่า”
“พวกม้าวิ่งเล่นอยู่ทุ่งหญ้าข้างหนองน้ำโน้น เ้าเห็นไหมที่มีเป็กลุ่มอยู่ไกลๆนั้น มีหลายสีให้เ้าเลือก แต่ข้าขอ บอกไว้ก่อน ให้เลือกที่ระดับสูงเข้าไว้ส่วนสีไหนเ้าไม่ต้องสน”
“ข้าไม่ได้สนใจเื่พวกนั้นอยู่แล้ว ขอให้มีแค่ม้าขี่ไปทำภารกิจก็พอ แต่ถ้าได้แบบดีมันก็ดีมากเลยล่ะ”
ทั้งสองพากันแอบซุ่มดูม้าฝูงใหญ่ “เราจะจับมันยังไงดีล่ะหนูดำ หรือว่าข้าจะเอาเชือกไปมัดมันลากกลับบ้านดี”
“เ้าชอบตัวไหนข้าจะลองเข้าไปคุยกับมันดูก่อน ถ้าไม่มีตัวไหนยินยอมไปกับเ้าด้วย เราค่อยบังคับขู่เข็ญมันทีหลัง”
