“เ้า...ตุ๋นไก่ให้ข้า”
ที่คิดจะออกปากตำหนิจึงพูดไม่ออก พลันรู้สึกวูบไหวในอก นานเพียงใดที่เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้
รู้สึกเป็พิเศษ เป็คนสำคัญ
“ใช่เ้าค่ะท่านแม่ทัพ ฮูหยินเพียง้าลงมือทำอาหารบำรุงให้ท่าน ไม่ได้มีเจตนาร้าย ขอท่านแม่ทัพอย่าโกรธเคืองฮูหยินเลยนะเ้าคะ”
ป้าหวงฝูอธิบาย ทหารคนอื่นก็พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย ฮูหยินท่านแม่ทัพเป็กุลสตรีที่เพียบพร้อมและงดงาม มีจิตใจดี รักใคร่ห่วงใยท่านแม่ทัพถึงเพียงนี้ แม้ว่าจะเกือบเผาห้องครัวไปก็เถิดนะ
หรูซื่อช้อนตาขึ้นมอง “ข้าไม่ได้ตั้งใจเผาห้องครัวของท่านจริงๆ นะ”
เสียงถอนหายใจดังขึ้น เขาเองไม่ได้อยากตำหนินาง “เ้าปลอดภัยดีหรือไม่ าเ็ที่ใดหรือเปล่า”
น้ำเสียงแม้ไม่ได้อ่อนโยนนัก แต่บรรดาทหารที่มักได้รับคำสั่งต่างอ้าปากค้างตะลึงงันกับสิ่งที่ได้ยิน แม่ทัพซุนมีอีกชื่อที่เรียกขานลับหลังว่า ‘แม่ทัพปีศาจ’ ร้อยวันพันปีไม่เคยได้ยินท่านแม่ทัพปีศาจใช้น้ำเสียงเช่นนี้กับผู้ใดมาก่อน
หญิงสาวฉีกยิ้มหวานส่ายหน้าไปมา แต่ซ่อนมือไว้ด้านหลัง รอยยิ้มของนางไม่ได้ช่วยกลบเกลื่อนอะไรได้เลย ซุนหลวนคุนเอื้อมมือไปจับมือของนางยกขึ้นมาดู ปลายนิ้วน้อย ๆ แดงจนน่าสงสาร
“ข้าไม่เจ็บ” นางร้อนรนรีบบอกเขาแล้วชักมือกลับ แต่เขายึดข้อมือนางไว้แน่นทำให้นางขยับไม่ได้ ดวงตาคู่งามหลุบลงไม่กล้าสบตากับเขา
“อย่างไรก็ต้องทำแผล” เขาจับมือนางนางขึ้นเป่าเบาๆ “อย่าทำอะไรให้ตนเองต้องาเ็อีก”
“ข้า...ข้าทราบแล้ว”
“พวกเ้าดูแลที่นี่ให้เรียบร้อย ข้าจะพาฮูหยินไปทำแผล”
“ขะ...ขอรับท่านแม่ทัพ”
เหล่าทหารต่างยืนตะลึงงันมองร่างสูงสง่าของท่านแม่ทัพประคองฮูหยินเดินออกไปสุดสายตาแล้วจึงได้สติ
เมื่อครู่...
เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น
ท่านแม่ทัพ ‘เป่า’ นิ้วให้ฮูหยิน
ท่านแม่ทัพ ‘ประคอง’ฮูหยิน
ท่านแม่ทัพไม่ลงโทษผู้กระทำผิด
คนผู้นั้นคือบุรุษที่ถูกเรียกขานว่าเป็ ‘แม่ทัพปีศาจ’ นะหรือ?
“ยืนงงอะไรกัน รีบจัดการห้องครัวให้เรียบร้อยสิ” ป้าหวงฝูเตือนบรรดาทหารที่ยืนงงอยู่ เป็จังหวะเดียวกับที่ลูกชายของนางวิ่งกระหืดกระหอบตามมา
“ท่านแม่เกิดอะไรขึ้นขอรับ” หวงอี้ถามมารดา เขาเพิ่งปฏิบัติภารกิจให้ท่านแม่ทัพเสร็จจึงตามกลับเข้าจวนมาทีหลัง พอได้ยินว่าห้องครัวไฟไหม้และท่านแม่ทัพมาดูด้วยตนเองจึงวิ่งตามมาที่นี่ แต่มาถึงก็ไม่พบท่านแม่ทัพแล้ว
“ไม่มีอะไรแล้ว” นางโบกมือไปมา
“ท่านแม่ทัพเล่า”
“ฮูหยินาเ็ ท่านแม่ทัพพาไปรักษาแล้ว”
“อ๊า! ฮูหยินาเ็ ข้าจะไปตามหมอทหาร” หวงอี้ทำท่าจะวิ่งออกไปแต่ถูกมารดาดึงคอเสื้อไว้ก่อน
“ไม่ต้องๆ ท่านแม่ทัพรักษาให้ฮูหยินเอง”
“แต่ท่านแม่ทัพไม่ใช่หมอนะขอรับท่านแม่”
นางหวงฝูกลอกตามองท้องฟ้า
“เอาล่ะ ไม่ต้องตามท่านแม่ทัพกับฮูหยินไปก็พอแล้ว”
มิน่าเล่า ป่านนี้ลูกชายคนเดียวของนางยังหาสะใภ้ไม่ได้เสียที เดิมทีนางไม่อยากเป็ฝ่ายหาคู่ให้บุตรชาย เผื่อว่าหวงอี้มีนางในดวงใจ แต่เห็นท่าทางซื่อ ๆเช่นนี้แล้ว นางคงต้องลงมือหาสะใภ้ให้ลูกชายด้วยตนเองแล้ว
แม่ทัพหนุ่มพาภรรยาตัวน้อยกลับมาที่เรือนของตนซึ่งใกล้กว่าเดินไปที่เรือนของหรูซื่อ เขาสั่งบ่าวรับใช้ให้ยกน้ำอุ่นเข้ามา จับร่างเล็กนั่งบนตั่งแล้วหยิบผ้ามาชุบน้ำเช็ดใบหน้าให้นางอย่างเบามือ
“ท่านพี่ ข้าทำเองได้” นางยื่นมือไปหมายจะหยิบผ้ามาเช็ดหน้าด้วยตนเอง แต่เขาเพียงพลิกข้อมือหลบนางก็เอื้อมมือไม่ถึงมือของเขาแล้ว
“เ้ามองไม่เห็นจะเช็ดไม่หมด” เขาให้เหตุผล แต่มุมปากยกขึ้นเป็รอยยิ้มที่ทำเอาหรูซื่อตาพร่าไปชั่วขณะ
ยามแย้มยิ้ม ใบหน้าของเขาน่ามองถึงเพียงนี้
นางรู้สึกไม่เหมาะที่จ้องมองบุรุษ
แต่...
เขาเป็สามีของนาง
ภรรยาจ้องมองใบหน้าสามีคงไม่เป็อะไรกระมัง
ซุนหลวนคุนเห็นนางยอมนั่งนิ่งจึงบรรจงเช็ดคราบเขม่าบนใบหน้าใ จากนั้นจึงเปลี่ยนผ้าแล้วเช็ดปลายนิ้วมือที่ละนิ้วอย่างทะนุถนอม หรูซื่อเองก็ไม่รู้ว่าตนเองได้แผลมาเมื่อใด แต่เห็นเขาทำเพื่อนางขนาดนี้ หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นรัว และยิ่งนึกถึงคำสอนของป้าหวงฝูที่นางต้องพยายามใกล้ชิดสามีให้มาก ๆ หัวใจของนางก็ยิ่งเต้นไม่เป็จังหวะ
‘ต้องใกล้ชิดมาก ๆ เอ๋? มากแค่ไหนหรือป้างหวงฝู’
‘มือไม้ัั ดวงตาประสาน เรือนร่างแนบชิด’
‘มือไม้ัั ดวงตาประสาน เรือนร่าง..นะ..แนบ แนบชิด’
‘ใช่เ้าค่ะ ฮูหยินมิต้องเขินอาย ท่านเป็ภรรยาของท่านแม่ทัพ การใกล้ชิดถูกเนื้อต้องตัวมิใช่เื่ผิด’
‘ทำเช่นนี้แล้ว ข้าจะมีทายาทให้ท่านแม่ทัพได้หรือ?’ นางยังคงสงสัย
‘เื่นั้น...เื่นั้นท่านแม่ทัพจะเป็ผู้มอบบุตรให้ท่านเองเ้าค่ะ’
ซุนหลวนคุนเห็นสีหน้าภรรยาแปลกไป ประเดี๋ยวซีดขาว ประเดี๋ยวแดงระเรื่อ คิ้วกระบี่พลันขมวดปมอย่างวิตกกังวล เขายื่นหน้าไปใกล้ ลมหายใจผ่าวร้อนรินรดใบหน้าหญิงสาว หรูซื่อคิดจะถอยหลบแต่เมื่อนึกถึงถ้อยคำของป้าหวงฝูก็ฝืนทำตัวแข็งเกร็งไม่หลบสายตา เพื่อให้ ‘ดวงตาประสาน’ กัน
“เ้าไม่สบายเป็แน่ ข้าจะไปให้คนไปเชิญหมอมาตรวจ”
ดวงตางามกะพริบตาปริบๆ อย่างงุนงง จนเมื่อเห็นร่างสามีหมุนตัวก้าวออกไป นางจึงได้สติรีบยื่นมือไปหมายจะดึงเขาไว้ก่อน ทว่านางรีบร้อนจนกลายเป็สวมกอดเขาจากด้านหลัง ร่างกายแม่ทัพหนุ่มกำยำดั่งหินผา หรูซื่อเหมือนเอาตัวไปกระแทกกับกำแพงหิน เจ็บจนน้ำตาร่วงสองหยด แต่นับว่าได้ผล เพราะร่างของเขาหยุดชะงักไปทันที
แผ่นหลังััเรือนร่างอ่อนนุ่ม กลับทำให้เขานิ่งงันราวกับถูกจี้สกัดจุด ร่างของนางนุ่มเสียจนเขาไม่คิดว่าตนเองเคยััอะไรที่นุ่มอย่างนี้มาก่อน เขามิใช่บุรุษไก่อ่อนไม่รู้จักรสชาติอิสตรี ทว่าเมื่อแต่งนางมาเป็ภรรยาแล้ว เขามิได้ข้องแวะกับหญิงใด แม้แต่หญิงนางโลมก็ไม่เคยเรียกมารับใช้ เสียงหัวใจของนางเต้นรัวแนบชิดแผ่นหลังเรียกสติชายหนุ่ม เขาจับมือนางออกแล้วค่อยๆ หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับนาง
“ไม่...ไม่ต้องตามหมอ...ข้า...ข้าไม่ได้..ปะ..ป่วย”
“เ้าไม่ป่วย แต่เหตุใดหน้าแดงถึงเพียงนี้” เขารู้แล้วแต่อยากหยอกเย้าภรรยาตัวน้อย โน้มหน้าลงให้หน้าผากของตนัักับหน้าผากของนาง “ตัวก็ไม่ร้อน”
“ข้า...ข้า...” จุดที่เขาััทำก่อเกิดไอร้อนลามเลียไปทั่วใบหน้า แต่นางไม่รู้ว่า แม้กระทั้งติ่งหูดุจไข่มุกของนางก็แดงระเรื่อไปด้วย
“น้องหญิง้าสิ่งใดรึ”
‘น้อง...น้องหญิง’
นางเบิกตากว้าง ใครเลยจะคิดว่าสามีที่ตีหน้าเคร่งขรึมเสมอกลับเอ่ยวาจาหยอกล้อนางเช่นนี้
“ข้า...ข้า...” นางพูดไม่ออกและเขาก็ใจเย็นเอาแต่จ้องมองดวงตาของนาง นางถูกเขาจ้องจนรู้สึกเหมือนจะเป็ลมแล้ว
“ว่าอย่างไร” ถามคาดคั้นแต่สองมือกลับจับเอวบางไว้มั่นเพราะกลัวนางจะร่วงลงไปกองกับพื้น
“ข้า...ข้า้า...”
“้า?”
ถูกเขาต้อนจนไม่รู้จะทำเช่นไร นางหลับตาแน่นแล้วพูดรัวเร็วออกมา
“ข้า้าลูก ข้าอยากมีทายาทให้ท่าน ท่านมอบลูกให้ข้านะ!”
น่าแปลก
นางความจำเสื่อมก็จริง แต่เื่บางเื่นางกลับทำได้ดี
ซุนหลวนคุนให้นางย้ายข้าวของมาอยู่เรือนเดียวกับเขา แม้ใบหน้ายามสั่งการให้บ่าวไพรเคร่งขรึม ทว่าผู้คนเ่าั้กลับรับคำสั่งด้วยรอยยิ้ม ไม่มีใครกล้าพูดอะไร นอกจากส่งยิ้มให้นาง ทำเอาหญิงสาวเขินอายจนไม่รู้จะซ่อนหน้าที่ไหน
‘งานที่ค่ายทหารรัดตัวมาก ข้าอาจกลับมาดึก เ้าไม่ต้องรอข้า’
‘เ้าค่ะ’
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้