“โอย…ข้าไม่อยู่แล้ว เ้ามันไร้ประโยชน์เสียจริง ภรรยาตัวเองถูกคนโยนลงบ่อมูลเช่นนี้ เ้ายังไม่กล้าแม้แต่จะผายลม!”
สวี่ซื่อคนน้องนอนร้องโอดโอยบนเตียง ผมเผ้ากระแซะกระเซิงเหมือนผี
“เ้าก็พูดง่ายสิ นายพรานเจียงฆ่าได้แม้กระทั่งเสือสิงห์กระทิง เ้าให้ข้าไปหาเขาไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรือ? ถ้าเก่งนักไปเสียเองสิ!”
สวี่ซื่อคนน้องโมโหเดือดดาล นางมองซ้ายมองขวา ท้ายที่สุดก็หยุดมองที่ถ้วยยาบนหัวเตียง
นางคว้าถ้วยยามาขว้างไปทางเฉียนหย่งหมินสุดแรง “นี่ข้าแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์เช่นเ้าได้อย่างไร ภรรยาตัวเองถูกผู้อื่นรังแกเช่นนี้ยังต้องทนยอมกลืนความโกรธกลับลงท้องอีก ถ้าอย่างนั้นเชิญเ้ากินไปเลย กินไปเลย!”
“ทำกระไรของเ้า? เหตุใดถึงทำลายข้าวของ?” ถ้วยยากระแทกใส่หลังเฉียนหย่งหมินจนแตก เศษเครื่องปั้นกระจายไปทั่ว
ยาหกเต็มพื้นเช่นกัน
เจ็บจนเฉียนหย่งหมินสำลักความโกรธ
“เพิ่งเสียเงินให้คนอื่นสองตำลึงครึ่ง เ้ายังทำลายข้าวของอีก เงินในบ้านถูกลมพัดมาให้หรืออย่างไร? ภรรยาจอมล้างผลาญ!”
เขายกชามพุ้ยข้าวเข้าปากต่อ ด่าสวี่ซื่อคนน้องแก้มพอง
“หากจะอยู่ก็อยู่ให้มันดีๆ ไม่อยู่เช่นนั้นเชิญไสหัวกลับบ้านแม่เ้าไป!” มารดามันเถิด ภรรยาคนนี้อาบน้ำสามรอบแล้วยังไม่หายเหม็น แค่ได้กลิ่นก็อยากโยนลงพื้นเพราะคิดว่าเป็มูล
“ถ้ามีแรงมาหาเื่ข้าเช่นนี้ สู้ไปหาพี่สาวเ้าเสียยังดีกว่า หลานของเธอเป็พี่น้องแท้ๆ กับสุ่ยเซิง ให้ไหลซุ่นไปหาสุ่ยเซิง บอกให้สุ่ยเซิงออกหน้าเอาเงินค่ายาจากบ้านตระกูลเจียง”
สวี่ซื่อคนน้องนิ่งไปเมื่อฟังจบ แต่จากนั้นกลับหัวเราะเสียงดัง “จริงด้วย สมองเ้าดีกว่าจริงด้วย ให้บ้านจ้าวไปล่วงเกินบ้านตระกูลเจียง ส่วนพวกเรารอรับผลประโยชน์อยู่ด้านหลัง!”
สวี่ซื่อคนน้องจัดผมและเสื้อผ้าอย่างเร่งรีบก่อนที่จะวิ่งออกไปโดยไม่สนใจจะกินข้าว
ไปกินที่บ้านจ้าวดีกว่า ไม่ต้องกลัวว่าไปเป็แขกบ้านผู้อื่นแล้วจะไม่มีข้าวกิน
แต่นางคิดมากเกินไป
บ้านจ้าวไหลซุ่นไม่แม้แต่จะจุดไฟทำอาหารด้วยซ้ำ!
นางเพิ่งเข้ามาในลานบ้านเห็นจ้าวไหลซุ่นนั่งยองกอดศีรษะอยู่ที่มุมกับสวี่ซื่อคนพี่ที่ยืนท้าวสะเอวด่า
“เจี่ย ซานหวาล่ะ?”
สวี่ซื่อคนน้องมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นจ้าวเหลียงไหลกับจ้าวซานหวาจึงเอ่ยปากถาม
สวี่ซื่อคนพี่ตอบอย่างหงุดหงิด “ตาแก่พาซานหวาไปเที่ยวบ้านญาติ” หรือก็คือไปกินข้าวที่บ้านจ้าวเฉียนไหลข้างๆ
“เ้ามาเพื่อเหตุใด”
“ข้ามาเพราะมีเื่จะหารือกับท่าน พวกเราจะยอมโดนเอาเปรียบเช่นนี้ไม่ได้นะ!”
สวี่ซื่อคนพี่ทำตาถลน “เช่นนั้นจะทำอย่างไร หรือว่าเ้ากล้าไปหาไอ้สารเลวแซ่เจียง?”
สวี่ซื่อคนน้องเข้าไปดึงมือพี่สาวตัวเอง “มา พวกเราเข้าไปคุยกันด้านใน”
นางไม่ทักทายจ้าวไหลซุ่นแต่อย่างใด ดูถูกพี่เขยที่ขี้ขลาดไม่ได้เื่คนนี้มาั้แ่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
“เจี่ย บ้านท่านไม่ทำกับข้าวหรือ?” สวี่ซื่อคนน้องเห็นว่าในห้องไม่มีสิ่งใดกินก็ผิดหวังเล็กน้อย
สวี่ซื่อคนพี่ยิ้มเยาะ “เพิ่งตกบ่อมูลมา เ้ายังจะกินลงอีก เก่งเสียจริง!”
สวี่ซื่อคนน้องยิ้มแห้ง “จะกินลงได้อย่างไร ข้าแค่ถามไปอย่างนั้นแหละ” ทว่าในใจกลับด่าทอ คนขี้เหนียวเอ้ย ตัวเองไม่กินแล้วยังจะไม่ให้สามีตัวเองกินอีก
“บอกมาเถิดว่ามีความคิดใด?” สวี่ซื่อคนพี่ไม่ได้รินน้ำต้อนรับน้องสาว ถามเข้าประเด็นทันที
สวี่ซื่อคนน้องไม่มัวชักช้า “พวกเราไม่กล้าไปหาคนชั่วแซ่เจียง แต่จ้าวสุ่ยเซิงกล้า จ้าวสุ่ยเซิงสนิทกับเจียงหงหย่วน เื่นี้คงต้องรบกวนให้พี่เขยไปหาจ้าวสุ่ยเซิง ไม่ต้องพูดถึงเื่อื่น ลำพังแค่เื่ที่พวกเราโดนขนาดนี้ อย่างไรเขาก็ควรต้องจ่ายค่ายากระมัง?”
สวี่ซื่อคนพี่ไม่ตอบสิ่งใด ดูท่าคงกำลังไตร่ตรองอยู่
สวี่ซื่อคนน้องเกลี้ยกล่อมต่อ “ต้าเจี่ยลองคิดดูสิ ให้จ้าวสุ่ยเซิงเป็คนไป ไม่ว่าเื่นี้จะสำเร็จหรือไม่ล้วนไม่เกี่ยวกับพวกเรา สำเร็จเราก็ไปรับเงิน หากไม่สำเร็จย่อมไม่มีกระไรเสียหาย”
สวี่ซื่อคนพี่ไม่ได้เขลา นางมองน้องสาว “เช่นนั้นเ้าทำหน้าที่ใด?”
สวี่ซื่อคนน้องรีบตอบ “พวกเราแบ่งกำลังเป็สองส่วน ท่านให้พี่เขยไปหาจ้าวสุ่ยเซิง ส่วนข้าไปหาหลินซย่าจื้อ หากไม่ใช่เพราะหลินซย่าจื้อมาหา พวกเรามีหรือจะไปบ้านตระกูลเจียง? ไม่ว่าอย่างไรปล่อยให้หลินซย่าจื้อสบายไม่ได้”
สวี่ซื่อคนพี่คิดตามแล้วตบเข่าฉาด “ได้ ตกลงตามนี้!”
สวี่ซื่อคนน้องยิ้มประจบ “ต้าเจี่ย ขอน้ำให้ข้ากินหน่อยเถิด เดี๋ยวต้องไปโวยวายที่บ้านตระกูลหลิน พวกเขาคงไม่ให้น้ำข้าดื่มเป็แน่”
“ไปตักเองที่ครัว คิดว่าตัวเองเป็แขกหรือไร?” สวี่ซื่อคนพี่ลุกขึ้นผลักสวี่ซื่อคนน้องออกไป
สวี่ซื่อคนน้องเดินไปตักน้ำจากโถเก็บน้ำที่ห้องครัวดื่มแล้วมุ่งหน้าสู่บ้านตระกูลหลิน
แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าหลินซย่าจื้อนอนป่วยไม่ได้สติ ทั้งครอบครัวไม่มีทีท่าจะกินข้าวเช่นกัน สวี่ซื่อคนน้องจึงได้แต่พูดกับเหล่าสวี่ซื่อด้วยความผิดหวังว่า “ท่านป้า หลินหวั่นชิวเป็ลูกสาวจากบ้านท่าน เหตุใดนางจึงใจร้ายเช่นนี้ ปล่อยให้สามีตัวเองลงมือกับพี่สาวขนาดนี้ได้อย่างไร”
“นังนั่นมันไร้มโนธรรม” เหล่าสวี่ซื่อเช็ดน้ำตาพูด “สงสารแต่ลูกซย่าของข้า ครั้งนี้เจอกรรมเก่าเข้าเสียแล้ว”
“นั่นน่ะสิ ข้ากับเจี่ยทำงานหนักจนชิน ร่างกายหยาบกร้าน แม้จะโดนตามเปี่ยวเจี่ย[1]ไปด้วยแต่ก็ยังไหว แค่กลับบ้านอาบน้ำก็ไม่เป็กระไร แต่ต้าเปี่ยวเจี่ยของพวกเราถูกพวกท่านเลี้ยงดูอย่างดีมาั้แ่เด็ก เคยโดนกระทำเช่นนี้ที่ใด ข้าว่านะท่านป้า อย่างไรหลินหวั่นชิวก็เป็ลูกสาวท่าน แต่งออกไปแล้วยังมีท่านเป็แม่อยู่ สามีนางทำร้ายเปี่ยวเจี่ยเช่นนี้ ท่านควรไปคุยกับนาง เื่อื่นไม่ต้องพูดถึง แต่อย่างน้อยควรได้เงินค่ายาใช่หรือไม่? ถึงเจียงหงหย่วนจะเก่งเพียงใดก็คงไม่ทำร้ายแม่ยายตัวเองกระมัง? หรือหากเขากล้าทำกระไรจริงๆ ก็ไปฟ้องที่ศาลาว่าการ! ให้ทางการมาจับตัวเขาไปเสีย!”
“ภรรยาหย่งหมิน เ้ากลับไปก่อนเถิด นี่เป็เื่ในครอบครัวเรา คงไม่รบกวนให้เ้าต้องกังวลใจ” หลินฟาไฉเคาะปล้องยาสูบกับพื้นรองเท้าแล้วเดินมาไล่
เหล่าสวี่ซื่อเห็นสีหน้าเขาแปลกๆ จึงลุกขึ้นส่งแขกเช่นกัน พูดด้วยความเกรงใจว่า “ภรรยาหย่งหมิน เ้ากลับไปก่อนเถิด ป้าไม่ไปส่งล่ะ เปี่ยวเจี่ยเ้ายังต้องให้คนดูแล”
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน ท่านป้าดูแลเปี่ยวเจี่ยให้ดีนะเ้าค่ะ” สวี่ซื่อคนน้องได้แต่ยอมบอกลา ไม่มั่นใจว่าเหล่าสวี่ซื่อฟังเข้าหัวบ้างหรือเปล่า
แต่ไม่เป็ไร พ่อแม่ที่เรียกร้องให้หัวหน้าหมู่บ้านจับหลินหวั่นชิวถ่วงน้ำจะเป็พ่อแม่ที่ดีได้หรือ?
มีหรือจะปกป้องหลินหวั่นชิว?
สวี่ซื่อคนน้องรู้สึกว่าที่เหล่าหลินไล่ตัวเองออกมาเพราะหวั่นไหวกับคำยุยงของนางแล้ว
เป็ไปตามคาด เมื่อนางออกไป เหล่าสวี่ซื่อก็ถามเหล่าหลินว่า “ตาแก่ เ้าเป็กระไรไป? ที่นางพูดล้วนถูกต้อง ลูกซย่าของพวกเราเคยโดนรังแกเช่นนี้ที่ใด? นังเด็กนั่นแต่งงานไปแล้วแต่ก็ยังเป็ลูกสาวบ้านพวกเราอยู่ หากนางกล้าให้เจียงหงหย่วนทำร้ายข้า พวกเราก็ไปฟ้องที่ที่ว่าการอำเภอว่านางอกตัญญู”
หลินฟาไฉพูดว่า “เื่นี้รอสวีเทากลับมาก่อนเถิดค่อยพูด เขาเป็มือปราบอยู่ในตำบล พี่ชายเป็มือปราบที่ที่ว่าการอำเภอ เขามีความรู้มากกว่า ไว้ให้เขาช่วยตัดสิน”
เหล่าสวี่ซื่อร้อนใจ “แต่เขาชอบนังเด็กนั่น มิเช่นนั้นพวกเราคงไม่รีบ…”
หลินฟาไฉตัดบท “ก็เพราะเช่นนั้นเขาถึงจะได้เด็ดขาดกับเจียงหงหย่วน ไม่ว่าอย่างไร…ต้องเอาคืนให้ลูกซย่า หรืออย่างมากพวกเราต้องคิดหาวิธีมาทำให้นังเด็กนั่น…อยู่ไม่ได้!”
เชิงอรรถ
[1] เปี่ยวเจี่ย(表姐) พี่สาวลูกพี่ลูกน้อง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้