อะไรนะ? ตอบผิดเหรอ?
เป็ไปได้ยังไง?
ฉีลั่วอิ่งไม่อยากจะเชื่อ คำถามสามข้อนี้เกี่ยวข้องกับเขา แล้วจะมีใครรู้คำตอบได้แม่นยำไปมากกว่าเขาอีก?
“บ้าเอ๊ย! ฉันจะร้องเรียน!”
ในขณะที่ฉีลั่วอิ่งกำลังโกรธและจะส่งข้อความไปหาผู้ดูแลกลุ่ม เขาก็ต้องหยุดชะงักไปเพราะบัญชีใช้แล้วทิ้งของเขาในตอนนี้ไม่มีแม้แต่สติกเกอร์ ไม่รู้ว่าร้องเรียนไปแล้วผู้ดูแลจะสนใจเขาหรือเปล่า?
แต่ถ้าใช้บัญชีทางการส่งหาผู้ดูแล มันจะไม่เป็การแบไต๋เหรอ?
“โอ๊ย! แล้วคำตอบมันคืออะไรกันแน่!”
ในสถานการณ์ไร้ทางเลือกเช่นนี้ ฉีลั่วอิ่งทำได้เพียงหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่แฟนคลับรวบรวมคำตอบเอาไว้เท่านั้น──พฤติกรรมนี้ไร้สาระมากจริงๆ ใครจะต้องมานั่งหาความชอบของตัวเองบนอินเทอร์เน็ตกัน?
“ใครที่ไหนจะไม่รู้ว่าตัวเองชอบกินอะไร?”
หือ? เขาชอบกินสตรอว์เบอร์รีโรลงั้นเหรอ?
แม้จะไม่ได้เกลียด แต่่หนึ่งเขาเพิ่งรับงานโฆษณามา หากตอนนั้นมีคนถามว่าเขาชอบกินอะไรเขาก็จะตอบว่าสตรอว์เบอร์รีโรลตลอด แต่ถ้าถามเขาในตอนนี้คำตอบก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ส่วนผลงานตัวแทนที่เขาชอบที่สุดซึ่งเขียนไว้บนอินเทอร์เน็ตก็คือ “เื่นี้”
นี่เป็คำถามที่นักข่าวมักยกขึ้นมาถามให้ครบๆ ใน่ที่กำลังโปรโมตผลงานใหม่ แม้คำตอบที่แท้จริงในใจของฉีลั่วอิ่งคือ “เื่ถัดไป” เพราะเขาคาดหวังอยู่เสมอว่าเื่ต่อไปจะต้องดีกว่าเดิม แต่เนื่องจากไม่สามารถหักหน้านักลงทุนและผู้กำกับในเวลาโปรโมตได้ ถึงได้ตอบว่า “เื่นี้” มาโดยตลอด
และสำหรับผลงานใหม่ล่าสุดของเขา คำตอบที่ถูกต้องคือภาพยนตร์เื่《เนินเขาในหน้าร้อน》ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสามเดือนที่ผ่านมา
ในเื่นั้น เขารับบทเป็ผู้ป่วยโรคหลายบุคลิกที่กำลังค้นหาตัวเอง แต่ภาพยนตร์เื่นี้ก็ถ่ายทำั้แ่ต้นปีก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นจะมาโทษเขาไม่ได้ที่ตอบผิด เนื่องจากเื่นี้ไม่ใช่เื่ใหม่ล่าสุดในแง่ของการถ่ายทำ
หลังจากเรียนรู้ความชอบและประวัติของตัวเองเสร็จสิ้น ฉีลั่วอิ่งจึงส่งคำตอบกลับไปอีกครั้ง และครั้งนี้ผู้ดูแลก็ยอมรับให้เขาเข้ากลุ่มแล้ว
ในที่สุดก็สำเร็จ!
บทความที่จั่วหัวอยู่ในกลุ่มคือกฎของกลุ่ม ซึ่งจำกัดแค่การพูดคุยเกี่ยวกับฉีลั่วอิ่ง การแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับฉีลั่วอิ่ง ทั้งยังต้องยึดมั่นในหลักการที่ว่า “รักเขาต้องทนเขาให้ได้” ห้ามด่าไปเรื่อยและห้ามใส่ร้ายโดยเด็ดขาด
“ฉันเป็สัตว์ตัวเล็กๆ หรือยังไง?” สายตาของฉีลั่วอิ่งหยุดชะงักที่ประโยค “รักเขาต้องทนเขาให้ได้” อยู่ห้าวินาที
เขาเคยทำอะไรให้แฟนคลับต้องอดทนเป็พิเศษด้วยเหรอ?
ดูเหมือนว่าจะมีจริงๆ ทั้งด่าแฟนคลับ จำชื่อแฟนคลับผิด พูดจาหุนหันพลันแล่น ไปร่วมงานสาย ตลอดจนเื่อื้อฉาวที่ไม่สามารถอธิบายได้...
ฉีลั่วอิ่งลองคิดคำนวณไปมาแล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกสำนึกผิดและตระหนักขึ้นมาว่า การมีแฟนคลับมากขนาดนี้เป็เื่ที่ไม่ง่ายเลยจริงๆ
เขาเลื่อนลงมาด้านล่างอย่างต่อเนื่องด้วยใจที่ซาบซึ้ง โพสต์ใหม่ล่าสุดเป็ภาพของเขาระหว่างการถ่ายทอดสดของพิธีประกาศรางวัล ในภาพเขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และมองไปบนเวที ขายาวไขว้กัน นิ้วเรียวสอดประสานวางอยู่บนเข่า และมีรอยยิ้มบางๆ อย่างอ่อนโยนบนใบหน้า ทว่าสายตากลับเหม่อลอยไปชั่วขณะ พร้อมข้อความประกอบว่า
“ฉีฉีอย่าเสียใจเลย นายเป็นักแสดงนำชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในใจพวกเรา”
โพสต์นี้ได้รับการสนับสนุนและหัวใจเกินหมื่นดวง และคอมเมนต์ด้านล่างก็ล้วนเป็คำพูดให้กำลังใจ
“ชิ! ยังจะถูกถ่ายไว้ได้อีก”
ฉีลั่วอิ่งพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะรักษามารยาทและท่าทางไว้ตลอดทั้งงาน แต่ในวินาทีที่ประกาศผู้ได้รับรางวัล เขาก็สูญเสียการควบคุมสีหน้าไปชั่วขณะ ถ้าไม่ใช่แฟนคลับของเขาที่ใส่ใจเกินไป ก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นการแสดงออกเพียงเล็กน้อยในครู่เดียวนี้ได้
โพสต์ด้านล่าง เป็ภาพสมาชิกที่สวมชุดแต่งงานมาให้กำลังใจในวันนี้ แม้ส่วนใหญ่จะเป็ผู้หญิง แต่ก็ยังมีส่วนน้อยที่เป็ผู้ชายสวมชุดเ้าสาวขนาดไม่พอดีตัว ยืนอยู่ด้านข้างพรมแดงและอดทนต่อสายตาแปลกๆ จากคนรอบข้าง เรียกได้ว่าเป็การเสียสละที่มีไม่บ่อย
ส่วนโพสต์อื่นๆ ก็เป็การแสดงความชื่นชมงานประกาศรางวัล รวมถึงการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพยนตร์เื่ที่ได้เข้าชิงรางวัลของเขา
ฉีลั่วอิ่งเลือกอ่านสองสามโพสต์จากทั้งหมด เมื่ออ่านจบเขาก็ค่อนข้างประทับใจและอยากโพสต์อะไรบางอย่าง เขาอยากรู้มากๆ ว่าเหล่าแฟนคลับมองเขาอย่างไรกันแน่?
“ขอถามทุกคนหน่อยว่าฉีลั่วอิ่งมีอะไรดีเหรอ? ไม่ว่าจะแสดงอะไรก็ทำให้นึกถึงแต่อู๋เชวียน้อยเมื่อสิบปีก่อน สู้ผันตัวไปเป็ไอดอล รับงานถ่ายแบบ ร้องเพลง หรือแอมบาสเดอร์หลายๆ ตัวก็คงหาเงินได้แล้ว ทำไมถึงยืนกรานจะเป็นักแสดงต่อ? ได้เข้าชิงมาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ได้รางวัลสักที ที่โดนหัวเราะเยาะก็สมควรแล้ว”
----------
สภาพจิตใจของสุ่ยเก้ออี้ฟาง : “ได้เข้าร่วมกลุ่มแล้ว ดีใจจัง”
ผู้ดูแล : “พบบัญชีน่าสงสัย...”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้