"กลับบ้านกับคุณ?"
"ใช่ ไปหาครอบครัวของฉัน”
หยางเฉินมองดวงตากระจ่างใสของโม่เชี่ยนนี ก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างเหนียมอายว่า
"ผมค่อนข้างกังวลเล็กน้อย แม้ว่าผมจะเป็คนดีที่ 6 พันล้านปีจะเกิดขึ้นมาสักคนดังนั้นคุณไม่จำเป็ต้องเป็ห่วง... อันที่จริงคุณต้องไม่เสียสละหาโรงแรมให้ผมก็ได้... ผมมันคนเปิดเผยและใจกว้าง คนสมัยก่อนเขาอดทนนอนกลางดินกินกลางป่ากันไม่ใช่หรือไง? ลองคิดดูสิ ในค่ำคืนที่เงียบสงัดสายลมหนาวเย็นที่พัดผ่านก้นเราไป อา… คนเรามันต้องสู้ต่อไปสิ! ดีล่ะ... บ้านของคุณคงเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุดแต่ไม่รู้ว่าเตียงของคุณจะกว้างพอสำหรับเราสองคนหรือเปล่า อา..."
โม่เชี่ยนนีฟังหยางเฉินพล่ามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกตัวจากนั้นกัดฟันกล่าวว่า
"หยางเฉิน... ใครเขาจะเสียสละให้นาย!? ฉันบอกว่าฉันจะพานายไปที่บ้านในมณฑลเสฉวนต่างหาก! ฉัน้าให้นายไปรับแม่พร้อมกับฉัน"
หยางเฉินหน้าแตกขนานใหญ่ พร้อมพึมพำขึ้นว่า
"แล้วทำไมไม่พูดให้ชัดเจนแต่แรกเล่า?"
"แล้วตอนนี้เข้าใจหรือยังล่ะ?" โม่เชี่ยนนีสวนทันควัน
หยางเฉินพยักหน้า เขายังจำได้ดีว่าหลังจากที่ช่วยจัดการเื่พ่อเลี้ยงอย่างจางฟู่กุ้ยแล้วโม่เชี่ยนนีบอกว่าจะพาแม่มาอยู่ด้วยกันที่จงไห่
"ผมจำได้ว่าคุณเคยบอก แต่ทำไมจู่ๆถึงอยากให้ผมไปด้วยล่ะครับ?"
โม่เชี่ยนนีหน้าขึ้นสีเล็กน้อย
"ครั้งสุดท้ายที่คุยกันแม่ฉันบอกให้พาแฟนมาหาแม่ด้วย ให้แม่เห็นหน้าลูกเขยสักหลายวันทุกอย่างที่ฉันเตรียมไว้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือแค่พาแม่มาที่นี่เท่านั้น"
หยางเฉินเข้าใจว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมอยากเห็นลูกๆ เป็ฝั่งเป็ฝาดังนั้นจึงเป็เื่ปกติที่พวกเขาจะกังวลว่าลูกๆ อาจไม่สามารถหาสามีที่ดีได้
และหากหยางเฉินไปกับโม่เชี่ยนนีจริงๆเท่ากับเปิดเผยให้หลินรั่วซีรู้ถึงความสัมพันธ์นี้ และอาจกลายเป็จุดสิ้นสุดความเป็เพื่อนของหลินรั่วซีและโม่เชี่ยนนี
โม่เชี่ยนนีมองหยางเฉินด้วยสีหน้าไม่สบายใจไม่ต้องสงสัยเลยว่าเื่นี้เป็การตัดสินใจที่ยากลำบาก
บางครั้งความคิดของผู้หญิงก็ซับซ้อนอย่างมากถึงจะรู้ว่ามันอาจก่อให้เกิดสถานการณ์ที่ยุ่งยากตามมาแต่เธอก็ยังหวังให้คนที่เธอรัก พยายามทำเพื่อเธออยู่
นี่คือความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง
"ถ้าเช่นนั้นแล้ว ผมจะไปกับคุณ” หยางเฉินคิดว่าเื่ที่โม่เชี่ยนนีขอ ก็ไม่ได้มากมายเกินไปนัก
โม่เชี่ยนนีได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดีจากก้นบึ้งของหัวใจและใช้หลังมือปิดรอยยิ้มไว้ด้วยความยากลำบาก เธอแกล้งทำหน้านิ่งกล่าวว่า
"แล้วนายจะบอกกับรั่วซีว่ายังไง?"
"ก็แค่บอกไปตามตรงนั่นแหละ"
หยางเฉินรู้ว่าการบอกความจริงเป็เื่ที่ดีที่สุด โม่เชี่ยนนี เฉียงเวยอันซิน หลิวิอวี้ ทุกคนล้วนเป็คนดี เขาไม่อาจให้ทุกคนหลบซ่อนไปได้ตลอดชีวิตแม้สังคมจะไม่ยอมรับเื่การมีภรรยาหลายคน
โม่เชี่ยนนีเช็ดตา หัวเราะกล่าวว่า
"ไม่ต้องเดาเลยว่ารั่วซีจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไร”
"เกิดอะไรขึ้น?" หยางเฉินถามอยากรู้อยากเห็น
"เธอรู้ความสัมพันธ์ของพวกเรามานานแล้วเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้น" โม่เชี่ยนนีกล่าวด้วยความเชื่อมั่น
หยางเฉินขมวดคิ้ว "ทำไม?"
"รั่วซีเป็ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของนายดังนั้นสิ่งแรกที่นายต้องคำนึงถึงก็คือนาย" โม่เชี่ยนนีหัวเราะอย่างขมขื่น
"ถึงเธอจะไม่ได้เอ่ยปากพูดออกมาแต่ยังไงซะเธอกับนายก็ยังเป็สามีภรรยากัน”
"แต่สุดท้ายแล้ว คนที่มีสิทธิตัดสินใจก็คือผม" หยางเฉินกล่าว
โม่เชี่ยนนีชำเลืองมองไปที่เขาแล้วหัวเราะกล่าวว่า
"ใช่ แต่นายจะหย่าเพื่อฉันอย่างงั้นหรือ?"
หยางเฉินตกตะลึงไปในทันที เขายอมรับว่าเป็คนเ้าชู้แต่หลังจากใช้ชีวิตร่วมกับหลินรั่วซี่ระยะเวลาหนึ่ง เขาก็คุ้นเคยกับความเ็าของภรรยาเสียแล้วรวมทั้งป้าหวังที่คอยห่วงใยเขามาตลอด ถ้าหลินรั่วซีไม่เอ่ยปากออกมาเขาก็ไม่คิดที่จะหย่าเลยแม้แต่น้อย!
ในขณะที่หยางเฉินกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เขาก็ได้เข้าใจอยู่เื่หนึ่ง
"ไม่น่าแปลกใจ... รั่วซีไม่เคยเอ่ยถึงผู้หญิงคนอื่นเลยและยังทำตัวเหมือนไม่สนใจอะไรด้วย เป็เพราะเหตุผลนี้นี่เอง"
"อย่าคิดว่ารั่วซีโง่เง่า ไม่เข้าใจอะไรเธออาจไม่รู้วิธีแสดงความรู้สึก แต่เธอเป็นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แถมยังฉลาดเป็กรดหลายคนที่ดูถูกเธอต่างเสียใจมานักต่อนักแล้ว" โม่เชี่ยนนีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หยางเฉินฝืนยิ้มกล่าวว่า
"ในเมื่อคุณพูดเช่นนี้แล้วการร่วมมือกันในครั้งนี้ล่ะ"
"รั่วซีได้วางแผนไว้ทั้งหมดแล้ว" โม่เชี่ยนนีหัวเราะอย่างลึกลับ
"แผนอะไร?"
"เดี๋ยวนายก็รู้" โม่เชี่ยนนีขยิบตาข้างหนึ่งให้หยางเฉิน
ถึงจะอยากรู้ แต่หยางเฉินก็ไม่ใช่คนเซ้าซี้
โม่เชี่ยนนีมีบางสิ่งที่จะต้องกลับไปทำต่อ ดังนั้นเธอจึงบอกลาหยางเฉินและไม่ลืมที่จะเตือนหยางเฉินให้บอกหลินรั่วซีก่อนที่จะไปเสฉวนกับเธอ
หยางเฉินกลับมาโดดเดี่ยวอีกครั้ง เขาอ่านแผนผังของอาคารแล้ววางแผนจะเข้าไปในศูนย์สุขภาพที่อยู่ถัดไปข้างล่างหนึ่งชั้น เพื่อผ่อนคลายร่างกาย
หยางเฉินไม่อยากใช้ลิฟต์ เขาเดินไปยังประตูหนีไฟและเดินลงบันไดไปเรื่อยๆ
แต่เมื่อเดินลงมาเพียงไม่กี่ก้าว หยางเฉินก็สังเกตเห็นเงาดำข้างนอกหน้าต่าง!
ภาพตรงหน้าคล้ายคลึงกับฉากในภาพยนตร์ ที่เหล่าสายลับต่างใช้เครื่องมือยุทโธปกรณ์ในการลักลอบเข้ามาภายในอาคารจากข้างนอก
"อย่าขยับ!"
เสียงอันคมชัดดังขึ้น พร้อมปากกระบอกปืนที่เล็งมาทางเขา
หยางเฉินตกตะลึงไปในทันที
"คุณ!?"
"คุณ มาทำอะไรที่นี่!?"
ทั้งสองแทบจะโพล่งออกมาพร้อมกัน
ผู้หญิงคนนี้เป็ใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก สารวัตรสาวสวยแห่งเมืองจงไห่ไช่เอี๋ยน
ไช่เอี๋ยนตอนนี้สวมชุดหนังสีดำห่อหุ้มร่างกายที่เซ็กซี่ร้อนแรงมีเชือกผู้ติดไว้กับอุปกรณ์ที่เอว ผมสั้นสีดำ ปลิวไสวไปตามลมเล็กน้อย
"ตอบมาเดี๋ยวนี้ ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่?"
"วันนี้เป็วันที่บริษัทอวี้เหล่ยและอีกสองบริษัทได้ลงนามในสัญญา ผมเป็ผู้ดูแลเื่นี้ แน่นอนว่าผมก็ต้องอยู่ที่นี่สิครับ" หยางเฉินจ้องมองไช่เอี๋ยนอย่างสนใจ
"คุณดูเหมือนโจรยิ่งกว่าผมอีกนะครับ สารวัตร"
ไช่เอี๋ยนเห็นหยางเฉินเหมือนไม่ได้โกหกก็กล่าวต่อว่า
"นายรีบไปได้แล้วฉันมีสิ่งที่สำคัญที่จะต้องตรวจสอบ ถ้าหากถูกพบขึ้นมาล่ะก็อาจตกอยู่ในอันตรายได้รีบไปจากที่นี่ซะ!"
หยางเฉินเดินเข้าไปใกล้หน้าต่างและเมื่อมองไปยัง้าเขาก็เห็นไฟ้านั้นยังคงส่องสว่าง ลางสังหรณ์ของหยางเฉินบอกว่านี่เป็สิ่งผิดปกติ
"สารวัตรไช่ผมแนะนำให้คุณรีบเข้ามาในอาคารจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นคุณได้ตกลงไปร่างแหลกเหลวแน่ๆ"
อาคารที่นี่สูง 50 -60 ชั้นถ้าตกลงไปก็ไม่มีโอกาสรอดได้เลย
"นายไม่มีสิทธิมาสั่งสอนฉัน” สารวัตรสาวพูดขึ้นอย่างร้อนรน
"ที่ผมเตือนคุณเพราะเห็นว่าคุณเป็เพื่อนกับภรรยาของผมคุณเป็ผู้บังคับบัญชาที่สามารถสั่งการผู้ชายได้ แต่รู้มั้ยว่าคุณเป็ผู้บังคับบัญชาที่แย่มากนี่เป็สิ่งที่คุณสมควรทำหรือไง ถ้าหากชีวิตตัวเองยังรักษาไว้ไม่ได้จะไปรักษาชีวิตคนอื่นได้ยังไง? นี่ไม่ได้เรียกว่ากล้า แต่เรียกว่าโง่ต่างหาก!" หยางเฉินรัวคำพูดออกมาไม่ยั้ง
ไช่เอี๋ยนตระหนักได้แล้วว่าเธอประมาทเกินไปจึงถูกการจู่โจมของหยางเฉินเข้าอย่างจังแต่เธอก็ไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
"พูดอย่างนี้แล้วคิดว่าจะรอดงั้นหรือ ฉันจะจับกุมนายโทษฐานขัดขวางเ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่!"
พูดจบเธอก็ยังคงปีนขึ้นไปทาง้าโดยไม่คำนึงถึงหยางเฉิน
หยางเฉินขมวดคิ้ว เขารู้สึกโกรธขึ้นมาจริงๆผู้หญิงคนนี้ไม่รู้สิ่งใดถูกสิ่งใดผิด
แต่ทันใดนั้นเองกระจกหน้าต่างก็เปิดออก เงาดำร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างภูตพรายพร้อมจ้องมองลงไปยังไช่เอี๋ยนที่อยู่ด้านล่างด้วยรอยยิ้มลี้ลับ!