เฉียวเยว่กัดผ้าห่มรู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดถูกต้องสักอย่าง แต่ถ้าให้พูดอะไร นางเองก็พูดไม่ออกเหมือนกัน
หลังจากนิ่งไปพักใหญ่ ถึงเปล่งเสียงแ่เบาออกมา "อวิ๋นเอ๋อร์"
ยามนี้อวิ๋นเอ๋อร์ยังตะลึงงัน นางไม่คาดคิดสักนิดว่าจะพบอวี้อ๋องที่นี่ อวี้อ๋องมาปรากฏตัวอย่างไม่ยี่หระเช่นนี้จะไม่มีปัญหาแน่หรือ?
อวิ๋นเอ๋อร์สับสนอย่างหนัก อย่างไรเสียเื่นี้ก็ไม่ควรแจ้งให้ไท่ไท่ทราบ นางมองเฉียวเยว่ เฉี่ยวเยว่นอนนอยู่ใต้ผ้าห่มดูเป็เด็กว่านอนสอนง่าย ดวงตากลมโตดำขลับกะพริบปริบๆ เอ่ยว่า "อย่าบอกใคร"
อวิ๋นเอ๋อร์มองเทียบโอสถกับของกินบนโต๊ะ
"เ้าเอาไปซ่อนไว้ก็ใช้ได้แล้ว" เฉียวเยว่พูดต่อ
อวิ๋นเอ๋อร์ "..."
"พี่จ้านไม่มีเจตนาร้าย หากเ้าไปบอกท่านพ่อท่านแม่ พวกเขาอาจคิดมาก เื่จะยิ่งยุ่งวุ่นวายกว่านี้" เฉียวเยว่กล่าวอย่างจริงจัง
นางคิดว่าตนเองไม่ใช่สตรีเปิดเผย และไม่ใช่คนคิดมาก แต่นางก็ไม่อยากให้เกิดปัญหา อืม ใช่ นางเพียง้าให้เื่ยากเปลี่ยนเป็ง่ายขึ้น
มิผิด เป็เยี่ยงนี้!
เฉียวเยว่กัดผ้าห่มถามซ้ำอีกครั้ง "ได้หรือไม่"
น้ำเสียงแฝงแววฉอเลาะอยู่หลายส่วน อวิ๋นเอ๋อร์พยักหน้ารับปาก "เ้าค่ะ"
นางนำบ๊วยเปรี้ยวไปซ่อนเงียบๆ ชีวิตคนเราช่างลำบากยิ่งนัก
สองสามวันนี้เฉียวเยว่นอนพักผ่อนอยู่กับบ้าน เดิมทีนางเป็คนร่าเริงสดใส แต่บัดนี้เงียบสงบลงไปไม่น้อย จนไท่ไท่สามรู้สึกปวดใจ "รอเ้าหายดีแล้ว แม่จะพาติดสอยห้อยตามออกไปข้างนอก"
พอได้ยินเช่นนี้ เฉียวเยว่ก็ส่ายหน้าอย่างแรง ่นี้ออกจากบ้านทีไรเป็ต้องเกิดปัญหา ควรอยู่เฉยๆ จะดีกว่า
แต่พอสองสามวันผ่านไป อิ้งเยว่ก็กลับมาเยี่ยมเฉียวเยว่โดยเฉพาะ เฉียวเยว่เม้มริมฝีปากน้อยๆ ด้วยความดีใจ
อันที่จริงนางอยากคุยกับพี่สาวมาก จวนรัชทายาทแห่งนี้หละหลวมเกินไป สมควรที่พี่สาวจะต้องจัดการให้อยู่ในความควบคุมของตนเอง เฉียวเยว่รู้สึกว่าพี่สาวของตนเองเป็เทพธิดาจาก์ แต่ตัวนางเองเป็เพียงปุถุชนคนธรรมดา ดังนั้นถ้อยคำเหล่านี้นางควรเตือนพี่สาวสักหน่อย
แม้หรงจ้านจะบอกว่าตราบใดที่พี่สาวของนางยินยอม ย่อมสามารถจัดการทุกอย่างได้เป็อย่างดี แต่เฉียวเยว่มักรู้สึกว่าอิ้งเยว่ไม่น่าจะรับมือกับเื่ราวเ่าั้ได้
หลังจากอิ้งเยว่ไปคารวะผู้าุโแล้วก็มาหาเฉียวเยว่ เฉียวเยว่ปล่อยผมยาวลงมาประบ่า เห็นแล้วก็น่าสงสาร
อิ้งเยว่เห็นสภาพของเฉียวเยว่แล้ว ก็รำพึงออกมาเบาๆ "บอบบางอ่อนแอเช่นนี้ไม่สมกับเป็เ้าเลยแม้แต่น้อย
ฉีอันหัวเราะลั่น "พี่สาว ท่านอย่าพูดความจริงนักสิ"
เฉียวเยว่หน้าแดง ทำปากยื่น "พวกเ้าล้วนรังแกข้า"
นางมองอิ้งเยว่อย่างพินิจั้แ่หัวจรดเท้า "พี่สาว รีบมานั่งข้างๆ ข้าสิ"
อิ้มเยว่มีรอยยิ้มประดับมุมปาก "เ้าดีขึ้นแล้วกระมัง? ตอนนั้นเห็นเ้าหน้าซีดเผือด ข้าใแทบตายจริงๆ"
เฉียวเยว่กลับไม่นำพา "อันที่จริงก็ดีขึ้นแล้ว" นางนึกดู ก่อนเอ่ยอีกว่า "ท่านไม่ต้องเป็ห่วง"
จะไม่เป็ห่วงได้หรือ เื่เกิดในจวนของนาง ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกหวาดผวา อิ้งเยว่ยิ้มน้อยๆ หยิกแก้มของเฉียวเยว่ แล้วเอ่ยว่า "เ้าเองก็อย่ากังวล ข้าจะแก้แค้นให้เ้าแน่"
เฉียวเยว่พลันหัวเราะออกมา คนเหล่านี้เห็นนางเป็บุปผาน้อยในห้องอุ่นกันหมดแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงผู้อื่น ลำพังแค่หรงจ้านกับพี่สาวต่างก็เอ่ยปากเป็เสียงเดียวกันว่าจะช่วยนางจัดการคนเ่าั้
นางเชิดดวงหน้าขึ้นแล้วถามว่า "แล้วพี่สาวเองเล่า? ชีวิตในจวนรัชทายาทของท่านเป็เช่นไรบ้าง"
เฉียวเยว่มองพิจารณาอิ้งเยว่ั้แ่หัวจรดเท้า "พี่สาว ท่านผอมลง อารมณ์ไม่ดีหรือ?"
อิ้งเยว่ทำหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม หลังจากนั้นก็ตอบกลับไป "ข้าสบายดียิ่ง เ้าไม่ต้องเป็ห่วง" พอเห็นสายตาไม่เชื่อของเฉียวเยว่ ค่อยพูดต่อ "เ้าไม่ลองคิดดู ข้ามีสิ่งใดต้องไม่พึงพอใจ สำหรับข้าแล้วจวนซู่เฉิงโหวกับจวนรัชทายาทล้วนเหมือนกัน ก็แค่เปลี่ยนสถานที่อ่านตำตาเขียนอักษรเท่านั้นเอง ส่วนรัชทายาท ข้าไม่เคยใส่ใจเขามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว"
อิ้งเยว่กล่าวเรียบๆ
แต่ไท่ไท่สามกลับใจนเหงื่อตก นางมองบุตรสาวของตนเองพลางเอ่ยว่า "เ้าอย่ากล่าวถ้อยคำเหลวไหลเช่นนี้ หากผู้อื่นรู้เข้าจะทำเช่นไร?"
ขวัญกล้าจนน่าใจริงๆ
แต่อิ้งเยว่กลับไม่รู้สึกรู้สม "แต่ไรมาข้าล้วนพูดแต่ความจริง ข้ากับเขาต่างเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน เช่นนี้ก็ดีอยู่แล้ว หากถามหาถึงความรักความผูกพัน ข้ากลับไม่รู้สึกว่าระหว่างพวกเราจะมีสิ่งนั้น"
อิ้งเยว่หลุบสายตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้ม "ทุกคนต่างต้องเดินไปตามหนทางที่ตนเองเลือก พวกท่านอย่าเป็ห่วงข้าเกินไป ข้าสบายดีทุกอย่าง ชีวิตนับว่าเหมือนปลาได้น้ำ เดิมทีก็คร้านจะสนใจคนชั้นต่ำในจวนเ่าั้ แต่เมื่อตอนนี้พวกเขาคิดจะขึ้นมาขี่บนหัวข้า ข้าก็หาใช่คนที่รังแกง่ายเหมือนกัน"
อิ้งเยว่ลูบหัวน้องสาว "ครานี้ทำให้เ้าใมากสินะ"
เฉียวเยว่ยู่ปากน้อยๆ "ไม่เป็ไร ข้าเพียงวิตกว่าจะมีเื่บางอย่างมาทำให้พี่สาวต้องลำบาก คนเหล่านี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนัก ข้ากับเสด็จพี่รัชทายาทเป็เหมือนพี่ชายน้องสาว จะทำเื่ไร้ศีลธรรมเยี่ยงนั้นได้อย่างไร ช่างลือกันไปได้"
เฉียวเยว่ชูกำปั้นไปด้านหน้า "พี่สาว หากวันหน้ามีคนพูดจาเหลวไหลอีก ข้าจะซัดให้คว่ำ ถึงเวลาพวกท่านอย่าลงโทษข้าแล้วกัน"
อิ้งเยว่ขำพรืดออกมา "เ้าคิดว่าจะมีโอกาสหรือ? ข้าว่าเด็กน้อยเยี่ยงเ้านับวันก็ยิ่งเหิมเกริม อย่านึกว่าข้าไม่รู้ เ้าน่ะ ร่าเริงกระตือรือร้นที่สุดในชั้นเรียนแล้ว"
"แต่เช่นนี้ก็ดีมากมิใช่หรือ แสดงให้เห็นว่าพวกเรายังมีชีวิตอยู่" เฉียวเยว่ไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่ดี
เอ่ยมาถึงตรงนี้ นางก็มีสีหน้ากระอักกระอ่วน "พี่สาว ตอนหรง... เอ้อ พี่จ้านไปพบท่านเขาพูดอย่างไรบ้าง?"
สายตาของอิ้งเยว่เลื่อนไปที่ตัวน้องสาว "เขามิได้มาพบข้า"
เฉียวเยว่เงยหน้าขึ้นอย่างตกตะลึง "เอ๋?"
หากมิใช่พี่จ้านไปหา
แล้วพี่สาวจะมาได้อย่างไร?
"เขาส่งคนอื่นมา เป็สาวใช้คนหนึ่ง" อิ้งเยว่ตอบ
ค่อยยังชั่ว เฉียวเยว่ตอบอ้อ ทำท่าเข้าใจ "บอกตามตรง ข้าอับอายจะแย่อยู่แล้ว"
อิ้งเยว่ยิ้มน้อยๆ "มีสิ่งใดต้องอายกันเล่า" พูดราวกับคนที่หน้าแดงตอนนั้นมิใช่นาง แต่อิ้งเยว่ก็เปลี่ยนเื่คุยอย่างรวดเร็ว
"คนที่ถูกท่านอ๋องอวี้ทำาเ็ รัชทายาทจัดการไปแล้ว"
มุมปากของอิ้งเยว่โค้งขึ้นแต่กลับไม่ใช่รอยยิ้ม "ข้าคุยกับรัชทายาทแล้ว และจัดการคนส่วนหนึ่งในจวนไปเรียบร้อย ต่อไปเ้าก็สบายใจได้แล้ว"
เฉียวเยว่ยิ้มพลางเอ่ยถาม "เช่นนั้นใครกันที่คิดร้ายกับข้า ข้ารู้สึกว่าตนเองเป็ผู้บริสุทธิ์อย่างยิ่ง ทำเช่นนี้กับข้าไม่เห็นจะมีประโยชน์กับใครเลย เ้าสารเลวบัดซบตัวไหนเป็คนทำ ไม่รู้ประสาทรึเปล่า"
เฉียวเยว่พูดติดตลก แต่กลับสบถถ้อยคำหยาบคายอย่างไม่ปรานี
ไท่ไท่สามทนมองไม่ได้ "เ้าพูดจาดีๆ หน่อย คำหยาบเหล่านี้พูดคล่องปากเสียเหลือเกิน เ้าสารเลวบัดซบอะไรกัน ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจก็พูดออกมาไม่ได้"
เฉียวเยว่หัวเราะพรืดเสียงดังออกมา "ท่านแม่ ท่านนี่..."
ไม่รู้จะใช้คำไหนมาบรรยายดี
ฉีอันอยู่ด้านข้างเสียบเข้ามา "เคราะห์ดีที่เ้ากลับตัวทัน มิเช่นนั้นหากเ้ากล้าว่าร้ายท่านแม่ ก็เตรียมตัวตายได้เลย ข้าจะไปฟ้องท่านพ่อ" ช่างเป็สุนัขรับใช้ที่ดีเหลือเกิน
เฉียวเยว่ถลึงตาใส่เขา "เ้าเห็นหรือไม่ว่าพี่สาวเป็ห่วงข้าแค่ไหน ส่วนเ้าช่วยอะไรไม่ได้สักอย่าง"
ฉีอันคอตก "ล้วนเป็ความผิดของข้าเอง"
เฉียวเยว่หัวเราะ "ข้าไม่ถือสาเ้าหรอก ต่อไปออกจากจวนคงต้องหูไวตาไวหน่อย ไม่รู้ว่ามีคนอีกมากแค่ไหนริษยาสาวงามผิวขาวขาเรียวยาวอย่างข้า"
ฉีอันหน้าเหวอ ก่อนทำท่าโก่งคออาเจียน
เฉียวเยว่หัวเราะออกมาอีกครา ดวงตาโค้งเป็รูปจันทร์เสี้ยว ดูเป็สาวน้อยอ่อนหวานน่ารัก
อิ้งเยว่เห็นนางไม่ได้รับความกระทบกระเทือนอะไร ค่อยเบาใจขึ้นมาก จะว่าไปในบรรดาพี่น้องสามคน เฉียวเยว่คือคนที่ประสบเคราะห์บ่อยที่สุด แต่นางกลับสามารถปล่อยวางได้เก่งที่สุด แต่ไรมาไม่เคยทำให้คนรู้สึกะเืใจ ยังคงน่ารักสดใสทำให้คนชอบได้เสมอ
"สาวใช้ที่พาคนไปจับชู้เป็คนสนิทของสวี่ม่านหนิง"
อิ้งเยว่อึ้งงัน "นางเองหรือ?"
ช่างเป็คนไม่รู้ดีชั่วจริงๆ สวี่ม่านหนิงสมองมีปัญหาหรือเปล่า แต่แท้จริงแล้วเฉียวเยว่ไม่ค่อยอยากเชื่อว่าสวี่ม่านหนิงจะทำเช่นนี้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ใช่คนดีอันใด แต่ยิ่งเป็คนลึกล้ำ ไหนเลยจะทำผิดพลาดเช่นนี้
พอเห็นเฉียวเยว่แสดงท่าทีไม่เชื่ออย่างเด่นชัด อิ้งเยว่ก็ตอบว่า "ผลลัพธ์ที่สามารถเห็นได้มีเพียงเท่านี้ แต่ยังไม่มีหลักฐานว่ามีใครทำอะไรมากไปกว่านี้ หรือคอยวางแผนชี้นำอยู่เื้ั"
แท้จริงแล้วอิ้งเยว่สงสัยหรงเหยียน แต่อีกฝ่ายเป็องค์หญิง ทั้งยังเป็พระขนิษฐาของรัชทายาท ต่อให้บอกว่านางเป็ผู้บงการหลังม่าน รัชทายาทก็คงไม่ยินดีเชื่อ เมื่อเป็เช่นนี้ อิ้งเยว่จึงปล่อยไปก่อนชั่วคราว อย่างน้อยที่สุด สวี่ม่านหนิงก็อย่าฝันว่าจะแล้วกันไป
"เ้าวางใจก็พอ" นางยิ้มน้อยๆ
เฉียวเยว่เชิดหน้า "มีคนตั้งมากมายคอยปกป้อง ข้าสบายใจอยู่แล้ว"
อิ้งเยว่หยิกแก้มของเฉียวเยว่
"พวกเ้าพี่น้องล้วนดียิ่ง ดีกว่าใครๆ ทุกคน" ไท่ไท่สามเอ่ย
เฉียวเยว่เข้าไปสวมกอดอิ้งเยว่ "พี่สาวรักข้าขนาดนี้ ย่อมดีที่สุดแล้ว"
อิ้งเยว่กลับบ้านมาเพียงครู่เดียวก็กลับ รัชทายาทมารับคนด้วยตนเอง แต่มิได้เข้ามาเยี่ยมเฉียวเยว่ เฉียวเยว่เองก็ไม่รู้สึกอะไร บอกตามตรง พอผ่านเื่นี้ไป นางยิ่งรู้สึกว่าตนเองควรจะหลบเลี่ยงรัชทายาทไว้หน่อยดีกว่า
มิเช่นนั้นชื่อเสียงพี่สาวของนางจะยิ่งย่ำแย่
ส่วนฉีอันถึงอย่างไรก็เป็ฝาแฝดกับนาง ย่อมมีใจตรงกันอยู่บ้าง หลังจากในห้องเหลือเพียงพวกเขาสองพี่น้อง ฉีอันก็เอ่ยว่า "เคราะห์ดีที่เ้าเริ่มตีตัวออกหากจากรัชทายาทั้แ่ยังเล็ก มิเช่นนั้นข่าวลือจะฟังไม่ได้ยิ่งกว่านี้
เฉียวเยว่พยักหน้า "สงสารแต่ตัวข้า ทั้งที่เป็ผู้บริสุทธิ์แท้ๆ"
ฉีอันเองก็รู้ แต่ยังเอ่ยขึ้นว่า "วาจาของคนช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่ง"
เฉียวเยว่ตอบอื้อ "เป็ไปได้แปดส่วนว่าผู้อื่นรังเกียจพวกเรา ข้าเดาว่าเื่นี้สวี่ม่านหนิงไม่ใช่ผู้บงการหลังม่าน น่าจะเป็องค์หญิงหรงเหยียนมากกว่า"
ฉีอันถามอย่างตกตะลึง "เพราะเหตุใด?"
เฉียวเยว่แบมือ "ก็ไม่ทำไม แค่เห็นข้าขวางหูขวางตาเท่านั้น"
เฉียวเยว่ผุดรอยยิ้มที่คล้ายมีคล้ายไม่มี นางไม่ใช่ดอกไม้น้อยๆ ในห้องอุ่นที่จะไม่ประสีประสาเื่ราวภายนอก
"หรือบางที อาจริษยาที่ข้าสวยกว่ากระมัง"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้