ในที่สุดเสิ่นเสวียนก็หายันต์แผ่นนั้นเจอ
ปรากฏว่าเขาเอายันต์ไปทำเป็จี้ห้อยคอให้เสี่ยวเหยียน
ก่อนหน้านี้หลังจากได้ยันต์นี้มา เสี่ยวเหยียนดีใจมาก เขาจึงมอบให้มันไว้ เพราะบนยันต์แผ่นนี้มีไอพลังของเซียนิญญาหม่าเมี่ยนผสมผสานอยู่ด้วย ซึ่งไอพลังนี้เสี่ยวเหยียนสามารถดูดซับได้ ห้อยไว้ที่คอของมันยังช่วยเพิ่มพลังให้มันได้อีกด้วย
ต่อมาเสี่ยวเหยียนช่วยงานเสิ่นเสวียนอย่างหนักอยู่ในผังเมืองซานเหอมาตลอด ที่สามารถหลอมรวมหยวนก่อกำเนิดขึ้นมาได้ เสี่ยวเหยียนต้องเสียพลังไปไม่น้อย นอนหลับอยู่บนพื้นและทับยันต์แผ่นนั้นไว้พอดี เสิ่นเสวียนจึงมองไม่เห็น
“เ้าตัวน้อย ข้าขอยืมใช้หน่อยนะ”
ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนปรากฏขึ้นตรงหน้าของเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนยื่นคอให้เสิ่นเสวียนหยิบไปได้เลยโดยไม่ส่งเสียงใดๆ
เสิ่นเสวียนมองยันต์แผ่นนั้นอยู่นาน บนนั้นสลักอักขระยันต์ิญญาไว้เต็มไปหมด แล้วเสิ่นเสวียนก็ยิ้มออกมา
แล้วเขาก็กระตุ้นยันต์แผ่นนั้นทันที
ทว่ารอยยิ้มของเสิ่นเสวียนกลับแข็งทื่อไป
ยันต์แผ่นนั้นระดับสูงเกินไป ทำให้เขากระตุ้นมันขึ้นมาไม่ได้
อยากกระตุ้นยันต์นี้ อย่างน้อยต้องถึงขั้นเปิดทวารเสียก่อน เขาเพิ่งหลอมรวมหยวนก่อกำเนิดขึ้นมาจึงยังทำไม่ได้
“เป็เื่แล้วสิ”
เสิ่นเสวียนไม่รู้จะกล่าวอะไรดีแล้ว
ส่วนภายนอกนั้น ทุกคนกำลังตะลึงอยู่กับที่
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์สีม่วงมองเริ่นเสี้ยวเทียนด้วยแววตาสงสัย
“เ้าเป็ศิษย์ของตาแก่นั่นหรือ”
“ไม่แปลกใจเลยที่รู้จักข้า”
เขากล่าวถามเริ่นเสี้ยวเทียนด้วยเสียงพึมพำ
เมื่อครู่นี้ตอนที่ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงยิงลำแสงออกมา พลันมีไข่มุกแสงสีขาวจางๆ พุ่งออกมาจากแหวนของเริ่นเสี้ยวเทียน ต้านทานลำแสงของเขาไว้ได้
ทั้งสองสิ่งปะทะกันจนเกิดเสียงะเิดังก้อง แล้วไข่มุกแสงเม็ดนั้นก็แสดงม่านพลังปกคลุมทุกคนด้านหลังเอาไว้
แม้ไข่มุกจะหายไปแล้ว แต่ก็สามารถต้านทานพลังโจมตีของผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้จริงๆ
“ผู้าุโโปรดปล่อยพวกข้าไปด้วย”
เริ่นเสี้ยวเทียนรู้ว่าการร้องขอครั้งนี้ไม่ใช่เื่น่าขายหน้า ไม่อย่างนั้นคงต้องทิ้งชีวิตไป
“เ้าคิดว่าเ้าเป็ใคร ตาแก่นั่นมาที่นี่ด้วยตนเองยังไม่แน่เลยว่าข้าจะไว้หน้าเขา หลีกไปเถอะ”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงกล่าวกับเริ่นเสี้ยวเทียนเสียงเรียบ แต่ฟังจากน้ำเสียงของเขาค่อนข้างอ่อนลงแล้ว เขาไม่อยากสังหารเริ่นเสี้ยวเทียน
“พวกข้าเป็สหายกัน ร่วมสู้ร่วมถอย”
เริ่นเสี้ยวเทียนแววตามุ่งมั่น ไม่มีความคิดจะล่าถอยไป เขามีไข่มุกแสงอยู่ในแหวนสองเม็ด เมื่อครู่ใช้ไปแล้วหนึ่งเม็ด ยังเหลืออยู่อีกหนึ่งเม็ด
แต่เม็ดนี้มีอานุภาพด้อยกว่า มิอาจต้านทานอีกฝ่ายได้
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าจะส่งพวกเ้าไปพร้อมกัน”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงสีหน้าอำมหิต คนที่เขาคิดสังหารไม่มีใครที่เขาสังหารไม่ได้ อย่าว่าแต่แค่ศิษย์คนหนึ่ง ต่อให้ตาแก่นั่นมาที่นี่ด้วยตนเองเขาก็กล้าลงมือ และเขารู้ด้วยว่าตาแก่นั่นไม่มีทางคิดเป็ศัตรูกับผู้ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งเพียงเพราะศิษย์คนเดียว
“ตาย!”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงะโออกไปอีกครั้ง พลางปรายตามองทุกคนในบริเวณนั้น
ลำแสงครั้งนี้ต่างจากก่อนหน้านี้มาก ก่อนหน้านี้พุ่งตรงไปที่เสิ่นเสวียนเพียงคนเดียว แต่ครั้งนี้พุ่งเข้าใส่ทุกคนที่อยู่กับเสิ่นเสวียน แสดงให้เห็นว่าครั้งนี้เขา้าสังหารทุกคนในคราวเดียว
ส่วนเสิ่นเสวียนยังคงหาวิธีกระตุ้นยันต์แผ่นนั้นอยู่
“ช่วยข้าที!”
เริ่นเสี้ยวเทียนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดเอาไข่มุกแสงออกมาอีกครั้ง ซึ่งเป็เม็ดสุดท้ายของเขาแล้ว อีกทั้งพลังโจมตีของอีกฝ่ายยังรุนแรงมาก ไข่มุกแสงเม็ดเดียวมิอาจต้านทานได้ จำเป็ต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นด้วย
ตูม!!!
ไข่มุกแสงพุ่งเข้าใส่ลำแสงเบื้องหน้าก่อให้เกิดเสียงะเิดังก้อง ม่านพลังขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหมือนกับก่อนหน้านี้ ปกป้องทุกคนเอาไว้เหมือนเดิม
าามารตะวันตกเดินหน้าไปหนึ่งก้าว พลันทาบฝ่ามือลงบนหลังของเริ่นเสี้ยวเทียน โคจรพลังของตนเองเข้าสู่ร่างของเริ่นเสี้ยวเทียนอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมอานุภาพให้กับม่านพลังนั้น
าามารทิศเหนือก้าวเดินออกไปเช่นกัน และโคจรพลังเข้าสู่ร่างของเริ่นเสี้ยวเทียนเหมือนกับาามารตะวันตก
เมื่อทั้งสองคนเข้าช่วยเหลือ รวมเข้ากับพลังของไข่มุกแสง ทำให้สามารถต้านทานพลังโจมตีของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงได้
“เฮอะ! เ้าพวกมด”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงส่งเสียงเย็นะเืออกมา มดไม่ว่าอย่างไรก็คือมด ต่อให้มีมดมากมายแค่ไหนก็ไม่มีทางกลายเป็ช้างได้
เขาจึงยกมือขึ้นแล้วปล่อยพลังใส่ไข่มุกแสงเบาๆ
ตึง!!!
รอยประทับฝ่ามือขนาดใหญ่โจมตีใส่ไข่มุกแสงอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดเสียงดังสะท้านไปทั่ว ในขณะเดียวกันพลังรุนแรงยังทำให้สามคนด้านหลังไข่มุกแสงเม็ดนั้นกระอักเืออกมาทันที
ทว่าม่านพลังยังไม่แตกสลายไป มันยังคงยืนหยัดต่อไปได้
ตึง!
พลังโจมตีเดียวยังไม่เป็ผล เขาจึงโจมตีออกไปอีกครั้ง ทำให้ทั้งสามคนอาการแย่ลงกว่าเดิม
“ไม่รู้พวกเราจะทนได้หรือเปล่า เ้าคิดว่าอย่างไร”
ข้างๆ กัน จี๋เล่อน้อยกล่าวถามซูเหยียนที่ยืนอยู่ด้วยกัน
“ไปกัน”
ซูเหยียนพยักหน้าน้อยๆ
“หลังจากนี้ชื่อของพวกเราจะได้บันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์”
จี๋เล่อน้อยยิ้มด้วยความรู้สึกได้ปลดปล่อย
พวกเขาตัดสินใจแล้ว
ตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่ถ้าไม่ทำคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
“ประสานร่าง”
หลังจากจี๋เล่อน้อยะโออกไป ร่างของเขาพุ่งทะยานขึ้นไป้าในชั่วพริบตา จากนั้นก็หมุนวนไม่หยุด ปราณกระบี่ที่รุนแรงมากมายกระจายออกมาจากร่างของเขา
เขามีชื่อว่าเจี้ยนซึ่งแปลว่ากระบี่ จึงหยิบเอากระบี่มาเป็ไม้ตายขั้นสูงสุดของตนเอง
ตอนนี้เขาเปิดเผยความลับของไม้ตายสุดท้ายออกมาแล้ว จะเป็หรือตายค่อยคิดแล้วกัน!
ซูเหยียนมองจี๋เล่อน้อยที่ค่อยๆ กลายเป็กระบี่เล่มหนึ่งบนท้องฟ้า พลางเปิดเผยรอยยิ้มออกมา
“เหยียนเอ๋อร์ อย่า!”
าามารทิศเหนือที่กำลังต้านทานพลังอย่างยากลำบากเห็นดังนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยนไป รีบะโห้ามซูเหยียนทันที
“ท่านพ่อ ข้าโตแล้ว โตพอที่จะเลือกได้ด้วยตนเอง”
ซูเหยียนกล่าวจบก็กระโจนขึ้นไป้า ร่างของเขาหมุนวนไม่หยุด หลอมรวมเข้ากับจี๋เล่อน้อยอย่างรวดเร็ว
นี่คือทักษะร่วมประสานที่พวกเขาได้เรียนรู้มาจากในสุสาน หากบอกว่าก่อนหน้านี้ทักษะร่วมประสานของพวกเขาเพียงประสานพลังเข้าด้วยกัน อย่างนั้นในตอนนี้คือการประสานร่างกายให้เป็หนึ่งเดียวกัน
ทั้งยังแผดเผาไปถึงต้นกำเนิดอีกด้วย
าามารทิศเหนือรู้สึกได้ถึงหัวใจเด็ดเดี่ยวของจี๋เล่อน้อย จึงเอ่ยปากห้ามซูเหยียนไว้
“เอ๋? ดูเหมือนพวกเ้าจะได้รับการสืบทอดแท้จริงของตาแก่นั่นมาจริงๆ”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงมองจี๋เล่อน้อยและซูเหยียนที่กำลังประสานร่างกันด้วยความรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่ได้เข้าขัดขวาง แต่เขา้าใช้พลังทำลายความกล้าหาญของอีกฝ่าย
วิ้งๆ!!!
ในขณะที่ทั้งสองกำลังประสานร่างอยู่บนท้องฟ้า กระบี่ขนาดใหญ่เล่มหนึ่งได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
มันเหมือนกับกระบี่พิพากษา สามารถพิพากษาสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดในโลกได้
กระบี่เป็รูปเป็ร่างขึ้นมา ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงโบกมือเรียกแม่ทัพเทพบางส่วนที่อยู่ด้านหลัง ให้แม่ทัพเทพเ่าั้ออกไปทดสอบพลัง
แม่ทัพเทพสองคนเพิ่งเข้าไปในอาณาเขตรอบๆ ตัวกระบี่ กลับโดนพลังน่ากลัวที่แผ่ซ่านออกมาบดขยี้ร่างแหลกละเอียด
สามารถทำลายร่างของผู้ฝึกตนขั้นราชันระดับสูงสุดคนหนึ่งได้ในพริบตาเช่นนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่าอานุภาพของกระบี่แข็งแกร่งเพียงใด
จากนั้นกระบี่เล่มนี้ก็พุ่งตรงไปอยู่เหนือหัวของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงด้วยอานุภาพไร้เทียมทาน แล้วพุ่งดิ่งลงไปด้านล่างทันที
ชี่ๆ!!!
ม่านพลังป้องกันปรากฏขึ้นบนร่างของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวง เสียงเสียดหูนั้นดังขึ้นเนื่องจากการต้านทานพลังของกระบี่
“ไม่เลวเลยทีเดียว”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์เผยสีหน้าเคร่งเครียด เขาหยุดโจมตีไข่มุกแสงแล้วหันกลับมายื่นมือออกไปหมายจะคว้ากระบี่ให้ได้
พลังทำลายล้างสรรพสิ่งแผ่ซ่านออกมาจากฝ่ามือของเขา ค่อยๆ เข้าใกล้กระบี่เล่มนั้นไปทีละน้อย ปลายกระบี่อันแหลมคมถูกทำลายไปในพริบตา
“ไม่!!!”
าามารทิศเหนือะโออกไปทันทีที่เห็นภาพนั้น
“ตายเสียเถอะ!”
เสียงของจี๋เล่อน้อยและซูเหยียนดังขึ้นพร้อมกันที่้า ทำให้อานุภาพของกระบี่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
พลังที่ปะทุออกมาทำให้แขนของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงถอยกลับไป เส้นผมที่เกล้ารวบไว้สยายออก ดูยุ่งเหยิงราวกับเป็จอมมาร
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงแววตาเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายเข้าสู้กับเขาอย่างสุดชีวิต ทำให้เขาจัดการได้ยากขึ้นกว่าเดิมมาก
“นี่ก็คือบรรทัดฐานของผู้ศักดิ์สิทธิ์ พวกเราตัดสินใจได้คุ้มค่าแล้ว”
ภายในกระบี่เล่มนั้น เสียงของจี๋เล่อน้อยดังออกมาอย่างมีความสุข
จากนั้นพลังที่น่ากลัวยิ่งกว่าพลันปะทุออกมาอีกครั้ง
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงที่กำลังต้านทานพลังอยู่รับรู้ได้ถึงรสหวานภายในปาก จากนั้นเขาก็กระอักเืออกมา
“เฮือก!!!”
ไอพลังบนร่างของเขาเบาบางลงกว่าเดิมมาก
“ข้าจะสับร่างของเ้าให้แหลก!”
โดนกระบี่โจมตีจนกลายเป็แบบนี้ไปได้ ไม่สง่างามเอาเสียเลย นี่คือสิ่งที่ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงทนไม่ได้ เขาลุกขึ้นยืนแล้วหายตัวไปปรากฏตัวขึ้นภายในกระบี่
จากนั้นก็ใช้พลังหมัดโจมตีใส่ตัวกระบี่อย่างรุนแรง
เคร้ง!!!
พลังที่แข็งแกร่งของเขาทำให้ตัวกระบี่แหลกละเอียดในพริบตา
กระบี่ที่ทั้งสองคนประสานร่างเข้าด้วยกัน สูญสิ้นอานุภาพไปแล้วด้วยหมัดเดียวของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวง
เป็พลังที่น่ากลัวมาก!
“หม่าเมี่ยน ออกมา!”
ที่ด้านหลัง เสิ่นเสวียนพยายามทำความเข้าใจยันต์แผ่นนั้นมาตลอด ตอนนี้ร่างจิติญญากลับคืนเข้าร่างแล้ว
หลังจากที่เขาะโเรียกออกไป ไอพลังน่ากลัวก็ปรากฏขึ้นทันที