ตำหนักเชียนชิว
“เอาล่ะ พวกนางกำนัลชั้นต่ำ ขนาดฮองเฮา พวกเ้ายังกล้าบังอาจมาขวาง ข้าว่าพวกเ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่กันแล้วสินะ!”
ฮองเฮาตู้ทรงนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านนอกตำหนัก พระนางทรงสง่างามและหรูหรา ทว่า แววพระเนตรกลับเ็า กูกูที่คอยถวายการปรนิบัติยืนอยู่ข้างๆ พระนางชี้นิ้วไปที่นางกำนัลทั้งสอง นั่นก็คือเถาเซียงและต้านเสวี่ยพร้อมกับดุด่าไม่หยุด ทว่า ทั้งคู่ทำเพียงกัดริมฝีปากแน่น และเฝ้าประตูตลอด
“ฮองเฮาตู้ โปรดทรงอภัยด้วยเพคะ องค์หญิงประชวรหนัก ตอนนี้ทรงกำลังพักผ่อน พวกหม่อมฉันไม่บังอาจจริงๆ เพคะ” ต้านเสวี่ยรีบทูล
จิ๋วกุ่ย จางจื่อและคนอื่นๆ ต่างคุกเข่าอยู่ข้างๆ หากพวกเขาไม่อยู่ที่นี่ เกรงว่าคนของฮองเฮาคงจะบุกไปเปิดประตูห้องแล้ว
ริมฝีปากสีแดงของฮองเฮาตู้กระตุกยิ้มอันแฝงด้วยความเย็นะเื
“ข้าเพิ่งสั่งให้พวกเ้าเข้าไปปลุกองค์หญิง ทว่า พวกเ้าเอาแต่ปฏิเสธ เป็ที่รู้กันอยู่ว่านี่เป็พระประสงค์ของฮ่องเต้ที่้าพบนาง องค์หญิงนอนหลับสนิทขนาดนั้น แล้วพวกเ้าเป็ทาสกลับไม่เข้าไปปลุกนาง อยากจะให้ฝ่าาลงอาญาใช่หรือไม่!”
“หม่อมฉันมิบังอาจเพคะ!” เถาเซียงและต้านเสวี่ยรู้สึกผิดแล้วผิดอีก ทั้งยังกังวลสุดๆ
ฮองเฮาเสด็จมาที่นี่ได้ถูกเวลาจริงๆ มันคงไม่ใช่เื่บังเอิญหรอก ทันทีที่พระราชโองการของฮ่องเต้มาถึง แล้วพระนางก็เสด็จตามมาพอดี!
แต่จะทำอย่างไรได้ การออกจากวังโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็ความผิดใหญ่หลวง แม้แต่องค์หญิงเองก็ต้องถูกลงโทษเช่นกัน หากคนรู้ว่ายามนี้นางอยู่จวนเซ่อเจิ้งอ๋อง ไม่ใช่ว่าชื่อเสียงของนางจะเสียหายหรอกหรือ?!
ไม่คิดว่าใน่เวลาสั้นๆ องค์หญิงจะสามารถเสด็จกลับมาได้หรือไม่ ขอแค่ให้รีบกลับมาก็พอ เพราะฮองเฮาทรงไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายแน่ พวกนางเกรงว่าจะโดนจับได้เสียก่อน!
ทั้งคู่กังวลมาก ไม่รู้ว่าคำโกหกนี้จะถูกเปิดเผยออกไปเมื่อไร!
“ไม่กล้า? ข้าเห็นว่าองค์หญิงคงตามใจพวกเ้ามากเกินไป จนทำให้พวกเ้าลืมตัวว่านางกำนัลมีหน้าที่อะไร ในเมื่อองค์หญิงป่วยมาหลายวัน เหตุใดถึงไม่เรียกหมอหลวงมาดูเล่า!” ฮองเฮาตู้ตบที่วางแขน ริมฝีปากสีแดงยกยิ้ม “ยังไม่หลีกทางให้อีก หมอหลวงหลี่ เ้าเข้าไปข้างใน ตรวจดูซิว่าสรุปองค์หญิงป่วยเป็อะไรกันแน่?”
หมอหลวงวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังตอบรับ พร้อมถือกล่องยาเดินไปที่ประตูห้อง
เถาเซียงและต้านเสวี่ยกัดริมฝีปากแน่น พวกจิ๋วกุ่ยต่างมีสีหน้าตื่นตระหนกไม่ต่างกัน
พวกเขาจะทำอะไรได้บ้าง!
“ยังไม่หลีกไปอีก หากชักช้าอยู่เช่นนี้ พวกเ้าจะรับผลที่ตามมาจากอาการป่วยขององค์หญิงได้หรือไม่?” หมอหลวงหลี่ถาม เมื่อเห็นว่ายังมีคนขวางประตูอยู่
เขาส่งเสียงฮึออกมาอย่างเ็า เมื่อนึกถึงฮองเฮาหนุนหลังอยู่ เขาเลยมีความกล้าพอที่จะเตะไหล่ของต้านเสวี่ย เพื่อให้นางออกไปให้พ้นทาง
จิ๋วกุ่ยรีบเข้ามาจับต้านเสวี่ยไว้ ส่วนคนอื่นๆ ก็จ้องมองหมอหลวงหลี่ด้วยความโกรธ
หมอหลวงหลี่หัวเราะเยาะเย้ยออกมา พร้อมเชิดหน้าขึ้น
แต่แล้วก็มีเท้าขาวถีบอกเขาเป็การทักทาย
“โอ๊ย”
ฮองเฮาตู้ที่กำลังรอดูการแสดงดีๆ พอได้ยินเสียงร้อง พระนางก็เงยพระพักตร์ และทรงเห็นว่าหมอหลี่ถูกเตะกลิ้งเหมือนน้ำเต้าไปแล้ว
ทันใดนั้น ก็ปรากฏร่างพราวเสน่ห์เอนตัวพิงประตูด้วยสายตาเ็า คงไม่ใช่นางสารเลวนั่นหรอกใช่ไหม?!
ฮองเฮาตู้เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ!
นางอยู่ในวังได้อย่างไร?
หลายวันมานี้ไม่มีใครเห็นนางในวังเลย เมื่อคืนสายสืบรายงานว่ามีคนเห็นนางกับองครักษ์ชิวอวี่ แล้วก็องครักษ์ข้างกายของเซ่อเจิ้งอ๋องกำลังโต้เถียงกันอยู่ใกล้ๆ ประตูวัง
ประตูวังทุกทิศต่างมีคนของพระนางอยู่ มันชัดเจนว่านางอยู่นอกวัง แล้วนี่ลอบกลับเข้ามาโดยไม่มีใครรู้ได้อย่างไร?!
เมื่อเห็นว่าชิงอีกลับมาแล้ว เถาเซียง ต้านเสวี่ยและคนอื่นๆ ต่างโล่งอกกันเป็แถวๆ ราวกับยกหินออกจากอก
เพียงแต่ องค์หญิงเสด็จกลับมาได้อย่างไรกัน? พวกเขาก็สงสัยเช่นกัน ทว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาถามเื่นั้น
หมอหลี่ที่ถูกเตะก็คร่ำครวญอย่างน่าสังเวชอยู่บนพื้น และเป็ฮองเฮาตู้ที่ส่งคนไปช่วยพยุงเขาขึ้นมา
“องค์หญิง บังอาจนัก!” ฮองเฮาตู้ตบโต๊ะและลุกขึ้น “กล้าทำร้ายคนต่อหน้าข้า”
ชิงอีไม่แยแสพระนางสักนิด นางจ้องไหล่ของต้านเสวี่ย ซึ่งมีรอยเท้าปรากฏอยู่ชัดเจน มันช่างขัดลูกหูลูกตายิ่งนัก
“จิ๋วกุ่ย จางจื่อ!” นางสั่งอย่างเ็า “ไปจับหมอหมาผู้นั้นมาให้ข้า!”
“พ่ะย่ะค่ะ!!”
หลังจากที่ถูกฮองเฮาตู้และคนของพระนางดูถูกเหยียดหยามเกือบทั้งวัน ยิ่งเห็นว่าหมอหลวงหลี่ทำร้ายพวกของตน แต่ไม่อาจโต้ตอบอะไรได้ พวกเขาก็โกรธอยู่แล้วเป็ทุนเดิม พอได้รับคำสั่ง พวกเขาจึงรีบปรี่เข้าไปจับกุมคนผู้นั้นทันที
จนพวกเขาเองก็ไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้ตนเองกล้าหาญเพียงใด อีกฝั่งเป็ฮองเฮาตู้แล้วอย่างไรล่ะ! หากเป็เมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉู่จื่ออวี้ พวกเขาอยู่คงไม่กล้าทำเช่นนี้
ดูเหมือนว่าใครก็ตามที่อยู่กับชิงอีนานๆ จะมีความกล้ามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว!
“พวกเ้าจะทำอะไร โอ๊ย! ฮองเฮาตู้ ช่วยด้วยกระหม่อมด้วย ช่วย”
จิ๋วกุ่ยและจางจื่อทำตัวราวกับเป็หมาป่าสองตัวที่บุกเข้าไปในฝูงแกะ พวกเขาผลักคนที่ยืนขวางทางที่จะไปหาหมอหลวงหลี่ และหิ้วปีกหมอหลวงหลี่ แล้วลากเขาไปกดตัวลงกับพื้นต่อหน้าชิงอี
“องค์หญิงใหญ่!!” พระโอษฐ์ของฮองเฮาตู้สั่นเทาอย่างโกรธจัด นางสารเลวจะเย่อหยิ่งเกินไปแล้ว!
ชิงอียังคงเมินพระนาง และจ้องหมอหลวงหลี่
ร่างกายของเขามีแต่พลังชั่วร้าย โดยเฉพาะมือเ่าั้ ไม่รู้ว่าคร่าไปกี่ชีวิตแล้ว
เป็หมอที่ไม่ช่วยชีวิตคนกลับทำตัวเป็ผีชางรับใช้เสือ[1] แล้วความรู้ทางการแพทย์จะไปมีประโยชน์อะไร?
ชิงอีนั่งลงยองๆ ทุกคนคิดว่านางจะลงมือจัดการ ทว่า พวกเขาไม่คิดว่านางจะหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยากจะอธิบาย
“เมื่อครู่ข้าคิดว่าขโมยบุกเข้ามา เลยทำร้ายหมอหลวงหลี่โดยไม่ตั้งใจ ท่านอภัยให้ข้าด้วยนะ” พูดจบ นางก็ยื่นมือมาตบไหล่หมอหลวงหลี่
ฮะ?!
ไม่ต้องดูว่าคนอื่นต่างใจนตาแทบถลนออกมาแค่ไหน หมอหลวงหลี่เองก็มีสีหน้าไม่อยากเชื่อเช่นกัน
องค์หญิงไม่เพียงแต่ไม่ได้ทำอะไรเขา แต่ยังขอโทษเขาอีกต่างหาก?!
แต่ในเมื่อขอโทษ เหตุใดจึงต้องส่งคนมาจับเขาให้นั่งคุกเข่าด้วยล่ะ?
หมอหลวงหลี่ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรออกไป เขาทำเพียงพยักหน้าและบอกว่าข้ามิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ
ชิงอียิ้มและพยักหน้า จากนั้นก็พูดกับจิ๋วกุ่ย “ยืนบื้ออะไรอยู่ล่ะ ยังไม่ช่วยพยุงหมอหลวงหลี่ขึ้นมาอีก”
จิ๋วกุ่ยและจางจื่อมีสีหน้าสับสน แต่ก็ช่วยหมอหลวงหลี่ลุกขึ้นมา ส่วนภายในใจก็แอบแช่งเ้าหมาเฒ่าตัวนี้ที่โชคดี
เพียงแต่ว่าองค์หญิงจะปล่อยไปจริงๆ หรือ?
ทั้งสองคนไม่เข้าใจ
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย กระทั่งฮองเฮาตู้ก็ทรงสับสนกับอารมณ์ที่คาดเดาไม่ได้ของชิงอี
นางสารเลวจะเล่นเล่ห์อะไรกัน?
ฮองเฮาตู้มีสีพระพักตร์ลังเล พระนางแอบเสียพระทัยที่วันนี้ไม่ได้เรียกราชองรักษ์มาที่นี่
ผีร้ายในตัวฉู่ชิงอีรู้ว่าเมื่อไรจะต้องจู่โจม
ชิงอีเดินตรงไปหาพระนาง ตาคู่สวยจ้องอย่างเ็า “ท่านมาทำอะไรในตำหนักเชียนชิวของข้า”
อะไรกัน น้ำเสียงแบบนี้?!
ฮองเฮาตู้ขมวดคิ้ว แล้วทรงเอ็ด “องค์หญิง น้ำเสียงที่ท่านพูดกับข้า... "
“ข้าถามท่านว่า ท่านมาทำอะไรที่ตำหนักเชียนชิวของข้า!” ชิงอีขึ้นเสียงทันใด
ทั่วทั้งพระวรกายของฮองเฮาตู้สั่น พระเนตรแข็งค้างไปครู่หนึ่ง “ฝ่าาทรงเรียกเข้าเฝ้า ข้าได้ยินว่าท่านไม่อยู่ในวัง ดังนั้น...”
“พาคนของท่านไป แล้วไสหัวออกไปซะ ั้แ่นี้เป็ต้นไป หากกล้ามาเหยียบตำหนักเชียนชิวแม้แต่นิดเดียวละก็” น้ำเสียงอันเ็าอย่างหาที่เปรียบมิได้ของชิงอีดังก้องพระกรรณของพระนาง “อย่าได้คิดที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!”
ฮองเฮาตู้เสด็จออกมาจากตำหนักเชียนชิวด้วยความงุนงง เมื่อออกมาไกลแล้ว พระนางถึงจะทรงได้สติกลับมาพร้อมกับพระวรกายที่สั่นสะท้าน ทั้งนี้พระนางยังพบว่าตนเกือบจะถึงตำหนักอี้คุนกงแล้ว ขนงก็ขมวดขึ้นทันที
นางออกมาจากตำหนักเชียนชิวั้แ่เมื่อไร?
ฮองเฮาตู้ทรงหวนระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่า พระนางกลับทรงจำอะไรไม่ได้เลย จึงหันพระพักตร์ไปถามกูกูที่อยู่ข้างๆ “เรากลับมาได้อย่างไรกัน? ก่อนหน้านี้ เกิดอะไรขึ้นที่ตำหนักเชียนชิว?”
กูกูมองพระนางด้วยความสงสัยและทูลว่า “ฮองเฮาทรงดุด่าองค์หญิงใหญ่เสร็จแล้ว ก็มีบัญชาให้ขับรถม้ากลับวังเพคะ”
มันเป็เช่นนั้นหรือ? ฮองเฮาตู้เต็มไปด้วยความสงสัย ทำไมนางถึงจำไม่ได้เลยล่ะ?
“ท่านหญิงทรงยังไม่หายโกรธหรือเพคะ? เช่นนั้นเรากลับไปสั่งสอนนางสารเลวนั่นอีกสักรอบดีไหมเพคะ?”
กลับไปอีกครั้ง? ฮองเฮาตู้ส่ายพระพักตร์รัวๆ พระนางไม่อาจตรัสได้ว่าเพราะเหตุใดเพียงคิดถึงตำหนักเชียนชิว พระนางก็รู้สึกไม่สบายพระทัย ราวกับว่ามีความหลังที่ไม่ดีกับสถานที่แห่งนั้น
พระนางขมวดขนงและสั่งว่า “ต่อไปอย่าเอ่ยถึงตำหนักเชียวชิวต่อหน้าข้าอีก ซวยจริงๆ!”
***********************
[1] ผีชางรับใช้เสือ (为虎作伥) หมายถึง การยินยอมรับใช้ช่วยเหลือคนชั่วร้ายเลวทราม เพื่อกระทำสิ่งชั่วช้า
