“ไม่ครับ ผมไม่ไปโรงพยาบาล”
“คิดว่าเธอสู้แรงพี่ได้หรือ?”
“ผมไม่ไป อย่ามาบังคับนะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็นอนพัก ห้ามทำงาน สภาพแบบนี้ยืนยังไม่ตรงเลย”
ระฟ้ากัดฟันกรอด เหมือนกับว่าแท้จริงแล้วเป็แผนของสามีต่างหากที่กำลังหลอกล่อให้ระฟ้าพักผ่อน เลยชักแม่น้ำทั้งห้าเอาเื่โรงพยาบาลมาอ้าง ก็ดูเอาซี เขาจับระฟ้าเอนหลังบนโซฟาในห้องประจำตัว ดึงผ้าห่มที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนคลุมจนถึงใต้คาง ระฟ้าไม่ยอมกลับบ้าน ยืนกรานแล้วว่าต่อให้ป่วยอยู่ก็จะทำงานจนถึงเวลาเลิกปกติ สามีอย่างศิธาปวดหัวในความดื้อจึงยื่นคำขาดว่า ไม่กลับก็ไม่กลับ แต่ต้องนอนพักเอาแรง
“แล้วคุณจะทำอะไรครับ”
“พี่ก็ทำงานแทนเธอไง ผัวทำงานแทนเมียมันเื่ปกติจะตาย”
พูดแล้วก็ถือวิสาสะเดินไปทิ้งก้นลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งของระฟ้า ระฟ้ามองตามการกระทำนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย จะว่ายังไงดี... มันคือความปรารถนาของระฟ้าั้แ่แรกเริ่มเลยกระมังที่อยากให้เ้าของเก้าอี้ตัวดังกล่าวเป็ศิธา ระฟ้าไม่เคยอยากได้วาสุกรุ๊ปของคุณหญิงเยาวมาลย์แม้แต่น้อย ตอนที่คุณหญิงย่ายกให้ระฟ้ายังรีบบอกปัดปฏิเสธ ‘ผมคิดว่าคุณศิธาเหมาะกว่า’ หากถึงกระนั้นคุณหญิงเยาวมาล์ก็ไม่ยอม สิ่งมีชีวิตอย่างเธอเอาแต่ใจเก่งที่สุดในโลก สุดท้ายระฟ้าก็ต้องแบกรับตำแหน่งประธานบริษัทตามคำปรารถนาเ้าหล่อนเรื่อยมา
“นอนสิยัยตัวแสบ หรือ้าคิสคิสจากสามีหือ?”
ร่างบางแยกเขี้ยวใส่คนที่กำลังทำปากจู๋มาแต่ไกล คิสคิสบ้านเขาสิ
ถลึงตาเสร็จคนป่วยก็รีบดึงผ้าห่มคลุมโปง แม้ในใจจะแอบตะขิดตะขวงเื่การทำงานของสามีก็เถอะ ปกติระฟ้าไม่ยอมให้ใครรักษาการประธานกรรมการแทน คือระฟ้าไม่ได้อีโก้ แต่พิจารณาจากความสามารถและทัศคติแล้ว บางคนเก่งแต่ขี้โกง บางคนไม่เก่งแถมยังสะเพร่า แค่คุยสองสามประโยคก็รู้แล้ว ความเก่งมันแสดงออกมาผ่านบทสนทนา ขืนให้มาบริหารแทนมีหวังธนาคารเจ๊งพอดี กระทั่งเมื่อครู่...
ศิธาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้เพียงจดจำข้อมูลในคอมพิวเตอร์ระฟ้า หากแต่เอามาประมวลผล วิเคราะห์ สังเคราะห์ ต่อยอด เกิดเป็คำวิจารณ์และความเห็นอันทรงประสิทธิภาพราวกับถูกิญญานักธุรกิจมากประสบการณ์เข้าสิง เล่าให้ใครฟังก็คงไม่เชื่อว่าชายคนนี้ป่วยเป็โรคความจำเสื่อม สรุปแล้วดีเอ็นเอความเก่งกาจของคุณหญิงเยาวมาลย์อาจคงไหลเวียนอยู่ในกระแสเืของหลานชายคนโตอยู่สินะ
แต่จะอะไรก็ช่าง ตอนนี้ระฟ้าเวียนหัวเหลือเกิน ขอนอนก่อน
“อย่าเล่นซนอะไรล่ะคุณ”
“ครับเมียจ๋า” พูดไม่พอยังขยิบตาเก๊กหล่อหนึ่งที
เกลียดเสียจริงไอ้ท่าทางเ้าชู้ประตูดินนั่น
/
ระฟ้าตั้งใจจะงีบเอาแรงสักหนึ่งชั่วโมงตามหลักการงีบให้สมองปลอดโปร่ง
ทว่าพอเอาเข้าจริงเวลามันไหลได้ แอร์เย็นๆ ผ้าห่มหอมๆ โซฟานุ่มๆกลายเป็ยานอนหลับชั้นดีให้ท่านประธานกรรมการหลับเพลิน รู้ตัวอีกทีจาก 11 โมงเช้าก็แปรเปลี่ยนเป็ห้าโมงเย็นที่แสงแดดด้านนอกเริ่มอ่อนแรง ระฟ้าตื่นขึ้นมาจากเสียงคุยผะแ่ของศิธาและทีมงานฝ่ายการตลาด
“ผมก็คิดอยู่เหมือนกันถ้าทำเป็คอลเลคชั่นซีรีย์โรงเรียนประจำโอเมก้าอาจดึงดูดผู้คนให้มาอุดหนุนบัตรเรา ขนาดซีรีย์ถ่ายทำยังไม่เสร็จคนยังพูดถึงในโซเชียลอยู่เนืองๆ / อืม ได้สิ เื่ค่าตัวไม่คิดอยู่แล้ว อย่างไรก็บริษัทผมกับเมีย / สีตรงนี้ผมว่าใช้โทนน้ำเงินหรือเข้มไปเลยดีกว่าเพราะเป็บัตรที่ตีตลาดกลุ่มวัยทำงาน ต้องสุขุมใช้ง่ายหน่อย”
ั้แ่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่น้ำเสียงเวลาคุยงานของสามีกลายเป็บทเพลงน่าฟัง เขาเหมือนเข้ามานั่งอยู่ในใจระฟ้า ตอบคำถามของลูกน้องได้ตามที่ระฟ้าอยากให้ตอบ มอบคำแนะนำแบบเดียวกับที่ระฟ้า้าให้เป็ ไม่สิ.. บางความเห็นของศิธาดีเยี่ยมกว่าที่ระฟ้าจะคิดได้ด้วยซ้ำไป สรุปแล้วที่ผ่านมาเขาแกล้งไม่รู้เื่ แต่จริงๆรู้เื่อยู่ตลอดสินะ แสดงเก่งสมกับเป็นักแสดงจริงๆ
คุยเสร็จร่างสูงก็เปลี่ยนมาจ้องหน้าจอพร้อมกับหรี่ตาเหมือนกำลังจับผิดข้อมูลอะไรบางอย่าง ระฟ้าเพิ่งสังเกตว่าวันนี้สามีสวมใส่แว่น อ้อ เขาสายตาสั่นนี่นะ ปกติใส่คอนแทคเลนส์เลยไม่ค่อยสังเกต ศิธาสายตาสั้นอยู่ที่ราวๆข้างละ 2-3 ร้อย ไม่มากไม่น้อย แต่เวลาต้องเพ่งสายตานานๆสวมแว่นย่อมดีกว่า
“มองขนาดนั้นก็ขึ้นมานั่งบนตักพี่เลยมา”
ปากพูด หากสายตายังคงจดจ้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์
ระฟ้าถอนหายใจเฮือกแก่นิสัยเ้าชู้กะล่อนที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนของสามี ปกติเวลาคุยกันศิธาไม่เคยพูดจาแบบนี้กับระฟ้าเลย เราแทบจะด่ากันให้ตายไปข้าง นี่อะไร แค่อีกฝ่ายมองก็เหมือนถูกแทะโลมอยู่ตลอด จากสายตารังเกียจเดียดฉันท์ก็กลายเป็สายตาลามกหื่นกาม
“ผมยกตำแหน่งประธานให้เอามั้ยครับ”
เป็ความปรารถนาจริงแท้ที่ไม่ได้แฝงคำล้อเล่นในประโยค ระฟ้าใต้ผ้านวมผืนโตยื่นข้อเสนอให้แก่สามี อยากจะลุกขึ้นมาคุยดีๆอยู่หรอก แต่นานๆได้นอนกลางวันก็สบายดีเหมือนกัน นอนคุยแบบนี้เขาคงไม่ว่า
“ไม่เอาอะ”
“ทำไมล่ะครับ ใครๆก็อยากได้”
“ไอ้ศิธาคนก่อนมันก็อยากได้หรือ?”
เอาอีกแล้ว วิธีพูดเหมือนกับตัวเองไม่ใช่ตัวเองน่ะ ระฟ้าขมวดคิ้ว หากก็ไม่วายตอบคำถามของสามี
“อยากได้ครับ แต่ผมไม่ยกให้ เราตกลงกันว่าต้องรอแต่งงานครบสามปีก่อน”
“แล้วเป็อะไรวันนี้เธอจะมายกให้พี่ ยังไม่ครบสามปีเลยนี่”
“เห็นว่าคุณทำงานได้ก็ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม ไม่ใช่สมบัติของผมอยู่แล้ว”
“ไม่เอาหรอก เป็รองประธานแบบนี้แหละสบายดี พี่ชอบเป็ช้างเท้าหลัง อีกอย่างนะ สมัยอยู่โลกก่อนพี่ทำตำแหน่งประธานจนเบื่อ เกิดใหม่รอบนี้ว่าจะเอาดีทางด้านดารา เธอก็เห็นไม่ใช่หรือว่าพี่เล่นซีนอารมณ์โคตรถึง เฮ้อ ทำไมเอ็งมันอัจฉริยะขนาดนี้วะศิธา ละครก็ปัง งานก็ปุง”
ปุง? ศัพท์แสงอะไรของเขาวะอีตาเพี้ยนนี่
ระฟ้าส่ายหน้า คุยด้วยทีไรชอบเพ้อเจ้อเรื่อยเปื่อย สรุปเอาเป็ว่าวันนั้นทั้งวันระฟ้าไม่ได้ทำงานเลย ปล่อยให้สามีทำแทนจนหมด พอไปเช็คงานตามหลังก็พบว่าศิธาสามารถจัดการได้ละเอียดหยิบอย่างกับถอดแบบออกมาจากระฟ้า ระฟ้าอึ้ง ไม่เคยมีใครทำงานได้ถูกใจเท่านี้มาก่อน เหตุใดหลานชายคนโปรดของคุณหญิงเยาวมาลย์ถึงได้มาแสดงอิทธิฤทธิ์ช้าเอาป่านนี้ล่ะเนี่ย ระฟ้าเหนื่อยฟรีมาตั้งหลายปีเชียวนะ
“แน่ใจว่าไม่ไปโรงพยาบาล?”
ทำงานเสร็จสามีก็พากลับบ้าน หมายถึงสามีทำงานเสร็จถึงได้พาระฟ้ากลับบ้าน จะว่าไปนี่คงเป็ครั้งแรกเลยกระมังที่เรากลับจากบริษัทพร้อมกัน ปกติมาใครมามันไม่ยุ่งเกี่ยว แถมกลับบ้านวันนี้ยังกลับตรงเวลา 17.30 เนื่องด้วยคุณสามีไม่ใช่ประเภททำงานเพื่ออุทิศตน เลิกงานก็ต้องกลับบ้าน ภาระงานไว้ให้ตัวเราในวันรุ่งขึ้นสะสาง ตัวเราวันนี้หน้าที่เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลากลับก็ต้องกลับสิ
มาเข้าสู่บทสนทนาแกมทะเลาะของเราดีกว่า
“ไม่ไปครับ ไม่ได้เป็อะไร”
“คุณปุ๊กกี้บอกเธออ้วก หน้ามืด ตัวซีด นี่น่ะหรือไม่เป็อะไร”
“ก็นอนพักเอาแรงแล้วไงครับ”
“อย่างน้อยไปให้หมอตรวจก็ยังดี”
“เอ๊ะ คุณนี่ทำไมพูดไม่รู้เื่ ก็ผมบอกไม่ไปไง”
“พี่เป็ห่วงเมียมันผิดหรือไงยัยบ๊อง”
“ก็ผมไม่ได้เป็อะไร ต้องให้พูดกี่รอบครับ นอนพักก็หายแล้ว”
“แน่ใจ? เธอท้องหรือเปล่า?”
เพี๊ยะ!
ระฟ้าตีเข้าที่ตนแขนของสามีทันที คือเขาพูดในจังหวะที่คนเงียบพอดี แล้วเราทั้งสองก็กำลังเดินเคียงกันลงไปยังชั้นล่างเพื่อขึ้นรถ แต่จู่ๆอีตาอัลฟ่าเืบริสุทธิ์ดันมาพูดเื่ท้องอะไร บ้าหรือเปล่า ถึงแม้ระฟ้าจะท้องไม่ได้เพราะไม่ใช่โอเมก้าเหมือนอย่างในบทละคร ทว่าน้ำเสียงของศิธามันส่อแววลามกจริงๆ
“เอ้า ไม่ท้องก็ไม่ท้องสิ เธอจะตีพี่ทำไมล่ะ”
“คนพูดจาไม่อายปากอย่างคุณต้องโดนแบบนี้แหละ”
“พี่ก็แค่สงสัยปะ ถึงจะจำไม่ได้ว่าครั้งล่าสุดทำกันตอนไหน แต่พี่มั่นใจว่าน้ำเชื้อไอ้ศิธามันแรงทุกคน ถ้าเธอยอมสักครั้งนะ แค่ครั้งเดียววันช็อต ป๋ารับรองป่องแน่นอนจ้ะ :) ”
ไอความร้อนปริศนาลามแล่นเห่อไปทั่วใบหน้า ระฟ้าต้องได้ตีเข้าที่ไหล่ของสามีจอมลามกอีกหลายๆป้าบ พนักงานที่เดินอยู่โดยรอบหันมามองพร้อมอมยิ้ม ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นท่านประธานกับท่านรองเดินด้วยกัน ข่าวลือที่ว่าทั้งสองแต่งงานกันเพื่อธุรกิจรอยสะพัดหนาหู กระทั่งวันนี้ ท่าทางของท่านรองประธานที่มีต่อภรรยาลบล้างข้อครหาทุกสิ่ง มองจากเชียงใหม่ยังดูออกเลยว่าศิธาคลั่งรักเมียมาก ส่วนเมียก็เขินจนหน้าแดงแปร้ด
ให้ตาย ช่างเป็คู่ที่เหมาะสมกันอะไรถึงเพียงนี้...
/
สองสามีภรรยากลับถึงบ้านราวๆหนึ่งทุ่มตรง
ชีวิตประจำวันควรจะวนเข้าสู่ลูปเดิม ทว่าอะไรบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในใจระฟ้าทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากเดิม ระฟ้าอธิบายไม่ถูก บางทีอาจเป็เื่ที่ศิธาสามารถทำงานแทนระฟ้าได้ หรืออาจเป็เื่ที่ศิธารับมือกับอาศรุตและอาสิปปางค์ได้โดยไม่หลุดพิรุธ หรือไม่ก็เื่ที่ศิธาแสดงความเก่งกาจด้านการทำงานออกมาอย่างน่าตกตะลึง เหตุผลข้อหลังมีน้ำหนักเหนือสองข้อแรก ตาชั่งในใจระฟ้าเอนเอียง
เกลียดตัวเองที่แพ้ทางคนฉลาด!
“มองอะไรของเธอ”
“ป เปล่าซะหน่อยครับ”
“เธอมองหน้าพี่อยู่เห็นๆ”
เสียงทุ้มเอ่ยถามภรรยาขณะทานมื้อเย็น
มื้อเย็นวันนี้ศิธาไม่ได้ลงมือเข้าครัวเองเนื่องเห็นว่ากว่าจะกลับถึงบ้านก็มืดค่ำแล้ว กลัวภรรยาหิว จึงโทรสั่งให้ป้าแม่บ้านจัดเตรียมไว้ก่อน เื่นี้ศิธาทำเองไม่ต้องให้ระฟ้าบอกเลย พอลองสังเกตดีๆ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆของบ้านเริ่มเปลี่ยนแปลงไปั้แ่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ระฟ้าเหมือนจะเหนื่อย แต่ความจริงไม่ได้เหนื่อยเพราะบ้านมีใครบางคนอยช่วยดูแลให้ แย่แล้วระฟ้า หรือว่าเรากำลังถูกอิทธิพลของเ้าชายแห่งวงการจอเงินครอบงำทางอ้อม?
“พี่ว่าอาการเธอทแม่งๆนะ ไม่ไปหาหมอจริงหรือ?”
สามีถามเพราะเห็นว่าจู่ภรรยาก็เขี่ยข้าวในจานไปมาแล้วเปลี่ยนมาจ้องมองเขา พอเขาถามยัยระฟ้าก็เริ่มขมวดคิ้ว ก่อนจะเบิกตากว้างเหมือนกระต่ายตื่นตูม ท่าทางบ๊องๆของยัยระฟ้าทำสามีอย่างศิธาขมวดคิ้วตาม
“ผม... ผมน่าจะยังไม่หายเวียนหัว ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคุณ”
“ใครเขาให้อาบน้ำหลังทานข้าว เธอต้องรอก่อนสักชั่วโมงนึง”
“รู้แล้วน่า ผมก็แค่จะขึ้นไปพักผ่อนไง เดี๋ยวอาบครับ”
“ห้ามนอนด้วยล่ะ เดี๋ยวเป็กรดไหลย้อน จะพักก็นั่งเฉยๆรู้ไหม”
เนี่ย พอลองสังเกตดีๆอีตาคนนี้ความรู้เื่สุขภาพเยอะมาก อันที่จริงก็เยอะหลายด้านถ้าตัดเื่ความเพี้ยนออก ระฟ้าว่าเื่มันชักแย่แล้ว ผู้ชายที่ถามอะไรก็รู้หมดมันอันตรายจริงๆนะ
“มองพี่ทำไมอีกล่ะ” ประโยคนั้นถูกเอ่ยถามในตอนที่ระฟ้ายืนนิ่งอยู่หน้าบันได
“ก็มอง เผื่อคุณมีอะไรจะพูดอีกไหมล่ะครับ”
“ไม่มีจ้ะ ขึ้นไปพักผ่อนเถอะคนสวย”
เนี่ย แล้วทำไมวันนี้ไม่วอแวขอขึ้นมาห้องเขาวะอีตาอัลฟ่าเืบริสุทธิ์ ระฟ้าขมวดคิ้วจนยุ่ง ปกติต้องหาวิธีปฏิเสธร้อยแปดพันเก้า แต่พอระฟ้าป่วยตาสามีไม่วอแวเลย ระฟ้าไม่เข้าใจสุดๆ อัลฟ่าเป็สิ่งมีชีวิตที่คาดเดายากหรือ? คิดแล้วเ้าของร่างบางยิ่งขมวดคิ้ว เดินเกาหัวน้อยๆขึ้นบันไดพร้อมกับเสียงบ่นระงมไล่หลังของสามี
“ท่าทางเหมือนคนท้องชะมัดยัยคนนี้ อ้าวเฮ้! เดินยังไงให้สะดุดเธอนี่ เดี๋ยวก็ตกบันไดหรอก”
/
ดูท่าอาการอาหารเป็พิษของระฟ้ายังไม่จบเพียงเท่านั้น
คืนเดียวกันระฟ้าหอบไอแพดลงมานั่งที่ห้องนั่งเล่น ร้อยวันพันปีคุณระไม่เคยลงมานั่งเล่นหรอกนะหลังอาบน้ำเสร็จ คุณระมักขลุกตัวอยู่บนห้อง นั่งเคลียร์งาน อ่านหนังสือหากพอมีเวลาว่าง ไม่ก็ตามข่าวสารสำคัญบนโซเชียล หากระฟ้า วาสุรีย์โรจน์ในคืนนี้แปลกประหลาดไป แปลกเสียจนป้าแม่บ้านที่เดินมาจากทางตึกคนงานต้องแวะเข้ามาเอ่ยทัก
“คุณระรับอะไรหรือเปล่าคะ?”
“เปล่าครับ ผมแค่อยากดูทีวี”
“บนห้องคุณระก็มีทีวีนี่คะ”
“ผมอยากดูตรงนี้ครับ จอมันใหญ่กว่า ป้าไปนอนเถอะครับ ฝากล็อคประตูด้วย”
หญิงชรายืนสงสัยถึงพฤติกรรมแปลกประหลาดของเ้านายครู่หนึ่งก่อนจะหลุดอมยิ้ม “ได้ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ล่วงหน้านะคะคุณระ” แล้วก็เดินจากไปทิ้งให้ระฟ้านั่งหน้ายุ่งกับรอยยิ้มเชิงล้อนั่น
ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอด สามทุ่มยังไม่ดึกเท่าไหร่ อีกทั้งประชุมประจำปีนัดสำคัญก็ผ่านพ้นไปแล้ว ระฟ้าเหมือนยกูเาออกจากอก สามารถทำตัวชิวได้อีกตั้งหลายวัน ฉะนั้นคืนนี้หานิยายเบาสมองอ่านดีกว่า ว่าแล้วก็จิ้มนิ้วไปที่แอพพลิเคชั่นสำหรับอ่านอีบุค ระฟ้าซื้อตุนเอาไว้เยอะมาก่ลดราคา แต่เพราะยุ่งเหลือเกินจึงไม่ค่อยมีเวลาอ่าน เน้นซื้อไม่เน้นอ่านเพื่อความสบายใจ
- midnight fortune (โอเมก้าเวิร์ส)
- ชานนรสน้ำผึ้ง (โอเมก้าเวิร์ส)
- โรงเรียนประจำโอเมก้า ฉบับนิยาย (โอเมก้าเวิร์ส)
- พยากรณ์วันนี้มีความรักปกคลุมมากกว่าปกติ เวอร์ชั่นพิเศษ (โอเมก้าเวิร์ส)
ให้ตาย นิยายกลุ่มล่าสุดที่ซื้อตุนเอาไว้เป็แนวโอเมก้าเวิร์สหมดเลย ระฟ้าเลื่อนไปพลางย่นหน้าผากไปพลาง คือเขาไม่ได้เหยียดนิยายแนวนี้ ระฟ้าเป็ประเภทอ่านได้หมดไม่เกี่ยงแนว โรแมนติก ดราม่า ฆาตกรรม แฟนตาซี ตลกขบขัน อะไรก็ได้ขอแค่วิธีการบรรยายถูกจริตระฟ้าอ่านหมด แต่นิยายแนวโอเมก้าเวิร์สนี่ทำไมเขาถึงซื้อไว้เยอะจังวะ อ้อ นึกออกแล้ว! เพราะใครบางคนความจำเสื่อม คิดว่าตนเองเป็อัลฟ่า ระฟ้าในตอนนั้นจึงซื้อนิยายแนวโอเมก้าเวิร์สเอาไว้ทำความเข้าใจธรรมชาติอัลฟ่า แต่เพราะยุ่งมากๆเลยไม่มีเวลาอ่าน
เื่มันเป็อย่างนี้นี่เอง
“ยังไม่นอนหรือ?”
แล้วมันก็เป็ตอนนั้นที่เสียงใครบางคนปลุกระฟ้าให้ตื่นจากภวังค์
ศิธาในชุดเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงขายาวเดินเช็ดผมลงมาจากชั้นสอง สาบานเลยว่าระฟ้าเห็นเรือนร่างสามีบ่อยครั้ง ถึงจะไม่เคยร่วมกิจกรรมทำนองนั้นกัน แต่หุ่นของศิธาก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไรสำหรับระฟ้า (เห็นผ่านโซเชียล) กระทั่งวันนี้ เวลานี้ จู่ๆหุ่นของเขาก็ดึงดูดสายตาระฟ้าเสียจนรู้ตัวอีกทีเวลาก็หยุดหมุน ต้องรอให้เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า เคาะกำปั้นเบาๆลงบนหน้าผากระฟ้านั่นแหละถึงได้สติ
“ผ ผม... ยังไม่ง่วง เลยว่าจะหาอะไรอ่าน คุณล่ะครับ”
“พี่ลงมาดูทีวี ห้องพี่ไม่มีทีวี ไปดูห้องเธอก็ไม่ได้ต้องรอสุดสัปดาห์”
ว่าพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงโซฟาตัวเดียวกัน มือหยิบรีโมทขึ้นมากดไปยังช่องฟรีทีวีที่มีละครหลังข่าวสุดน้ำเน่า ระฟ้าเพิ่งสังเกตวิถีชีวิตประจำวันของสามีก็วันนี้ พอไม่มีเขตปลอดอัลฟ่าเขาจะลงมาดูทีวีด้านล่างหรือ? เห็นทีจะเป็เช่นนั้นจริงๆเพราะสายตาจดจ่อกับทีวีเอามากๆ ขนาดระฟ้านั่งอยู่ข้างๆยังเหมือนไม่มีตัวตน
“มีอะไรเธอก็พูดมาสิ”
ปากว่า ตาจ้องทีวี ศิธาเวอร์ชั่นความจำเสื่อมแบบไม่สนใจกันแต่ก็เหมือนสนใจกันนี่ชักทำระฟ้างุ่นง่านแล้วแฮะ
“ไม่มีครับ คุณก็ดูทีวีไปสิ”
“ขอนอนตักเธอได้เปล่า”
“ห หา!?”
พูดไม่พอยังถือวิสาสะวางหมอนลงบนตักระฟ้าแล้วทิ้งศีรษะลงทั้งอย่างนั้น เ้าของหน้าตักที่กลายเป็หมอนอ้าปากเหวอเล็กน้อย เตรียมจะโวยวายไปตามระเบียบแล้วแหละ แต่ไม่รู้ปีศาจตนไหนเข้าสิงระฟ้า ปีศาจย้อนแย้งล่ะมั้ง เพราะระฟ้าปล่อยให้สามีนอนหนุนตักดูทีวี ส่วนตนเองก็อ่านนิยายบนไอแพดต่อเอาเสียดื้อๆ ระฟ้าโคตรไม่เข้าใจความคิดตนเองเหลือเกิน รู้ตัวอีกทีก็ปล่อยให้เื่ทุกอย่างเลยเถิด ซ้ำฝั่งศิธายังไม่วอแวเมียมากเท่าปกติ คงเพราะเห็นว่าระฟ้ากำลังป่วยจึงไม่อยากให้น้องปวดหัว เราทั้งคู่เลยเหมือนต่างอยู่คนเดียวตามลำพังแบบอยู่ด้วยกัน ตามวลีฝรั่ง we can be alone together
เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ สารภาพตามตรงว่าระฟ้าอ่านนิยายไม่รู้เื่ เขาจิ้มเื่ midnight fortune ขึ้นมากวาดสายตาได้เพียงสองหน้าก็ถูกเรือนผมใครบางคนขโมยความสนใจ ระฟ้าเพิ่งสังเกตว่าเรือนผมของศิธาดำขลับอย่างกับท้องฟ้ายามค่ำคืน เส้นผมเรียงสวยสุขภาพดีเหมือนหมักทรีตเม้นอยู่ตลอด ระฟ้าเคยถามโอฬารว่าเขาพาดาราในสังกัดเข้าคลินิกบ่อยไหม คำตอบของโอฬารคือแล้วแต่คน สำหรับศิธาไม่บ่อย หมอนี่จะเข้าก็ต่อเมื่อมันอยากเข้า เหมือนกับว่าการที่ผิวพรรณอีกฝ่ายดูสุขภาพดีอยู่เสมอเป็เพราะพันธุกรรมแสนขี้โกง
ฝ่ามือของระฟ้าเกือบจะเลื่อนัักลุ่มผมตรงหน้าแล้วโชคดีที่มีสติมากพอ ระฟ้าชักมือกลับ ละความสนใจไปยังหน้าจอทีวีที่ละครหลังข่าวกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ละครชื่อเื่อันตรายสัมพันธ์ แนวมาเฟียหอบลูกหนี ถ้าจำไม่ผิดสามีของระฟ้าติดเื่นี้งอมแงมมาก ตอนนั่งรถยังแอบเห็นไถฟีดดูข่าวเื่นี้อยู่เลย
อันตรายสัมพันธ์เล่าถึงพระเอกมาเฟียมีปม ไม่อยากมีลูกเพราะาแในอดีตฝังใจ ได้โคจรมาเจอกับนายเอกที่มีพลังรักษา โชคชะตาชักนำให้ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะเด็กเลี้ยงและเ้านาย คนมันคู่กันอยู่ใกล้กันแปปเดียวก็สปาร์คกัน พระเอกและนางเอกมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนสุดท้ายนางเอกก็พลาดท้อง
“โหเธอ ดูดิไอ้พระเอกมันไม่ยอมรับลูกในท้องนางเอกอะ สงสารน้องมาก ไอ้เลวนี่”
อินเอาเื่เหมือนกันแฮะ
ระฟ้านั่งฟังสามีที่กำลังวิจารณ์บทละครอย่างถึงพริกถึงขิงแบบไม่ออกความเห็น
“เออดี เยี่ยม หอบท้องหนีมันเลยลูก คนสวยๆอย่างหนูหาผัวใหม่ได้สบาย”
สาบานว่านี่ใช่คนเดียวกันกับที่ระฟ้าเห็นเมื่อตอนประชุมไหมนะ
คิดไปก็เผลอหลุดอมยิ้มไป รู้ตัวอีกทีละครก็ตัดจบตรงที่น้องนางเอกถูกโจรลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ คุณสามีผู้ติดละครงอมแงมบ่นเสียงขรมว่าตัดจบอย่างละครไทยเกินไป ต้องรอตั้งสัปดาห์หน้ากว่าจะได้ดูแน่ะ เซ็งมาก ละครโลกเธอชอบตัดจบขัดใจคนดูแบบนี้เรอะ
“ว่าแต่เธออ่านอะไรอยู่ หรือว่าทำงาน”
ระฟ้ารีบปิดหน้าจอไอแพดทันทีเมื่อสามีหันมาจ้องตากันทั้งๆที่ยังนอนหนุนตัก “ทำงานครับ” ไม่ได้เด็ดขาด จะให้เขารู้ไม่ได้เด็ดขาดว่ากำลังอ่านนิยายแนวโอเมก้าเวิร์สอยู่
“พอแล้ว พี่ทำแทนเธอแล้วไง เดี๋ยวก็เป็ลมขึ้นมาอีกหรอก”
“ค ครับ รู้แล้วครับ เลิกแล้วเนี่ย”
“แล้วจะทำอะไรต่อ” ศิธาถามพลางหันไปมองนาฬิกาบนผนัง “ห้าทุ่ม นอนเลยไหม?”
“ยัง... ไม่ค่อยง่วงครับ”
คนฟังขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะตอนแรกยุ่งอยู่กับละครน้ำเน่าหลังข่าวเลยไม่ได้สังเกตท่าทีแปลกประหลาดของภรรยา จวบจนละครหลังข่าวจบลงศิธาถึงได้รู้ว่าวันนี้ท่าทางยัยฟ้าของเขาแตกต่างจากปกติจริงๆ ยัยฟ้าผู้ไม่เคยเอาตัวเข้ามาอยู่ใกล้เขาเกินสองนาที บัดนี้ปล่อยให้ผัวหนุนตักร่วมชั่วโมง สาเหตุมาจากอะไรไม่รู้ แต่ที่รู้ๆมันทำให้หัวใจคนเป็ผัวเต้นโครมครามแทบบ้า ศิธาระบายยิ้มกว้าง เปลี่ยนจากมองตาภรรยาเลื่อนลงมายังหน้าท้องแบนราบ
“พี่ว่าเธอท้องจริงๆนะ”
พูดพร้อมกับลูบมือผะแผวลงบนหน้าท้องดังกล่าว
ชั่วครู่ก็แนบแก้มเข้าไปคลอเคลียชิดใกล้พร้อมกับถูไถไปมาอย่างรักใคร่
“อาการเหมือนโอเมก้าที่กำลังแพ้ท้องแล้วติดกลิ่นผัว”
ระฟ้าหน้าร้อนฉ่า ลุกยืนพรวดพราดตามปฏิกิริยาอัตโนมัติเสียจนสามีที่นอนตักอยู่เสียหลักกลิ้งตกโซฟา
“โอ้ย พี่เจ็บนะยัยบ๊อง!”
ศิธาลูบจมูกตนเองเพราะใบฟน้าทิ่มคะมำเข้ากับพื้นบ้านอย่างจัง ดั้งหักหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆยัยตัวดีเดินหนีขึ้นชั้นสองไปแล้วโน่น อาการแบบนี้คือท้องแน่ๆ ศิธาเอาหัวอัลฟ่าเืบริสุทธิ์เป็ประกันเลย
สิ้นปีนี้คุณย่าเตรียมรับขวัญเหลนด่วน :)
tbc
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้