หลางฉายิ้มอย่างเย้ายวน “โจรเด็ดดอกไม้อันใดกัน? ข้าเหมือนโจรเด็ดดอกไม้ตรงไหนหรือ?”
อ๋าวหราน “......”
จิ่งจื่อ “......”
หากเ้าไม่ยิ้มเช่นนี้ ก็พอจะมีความน่าเชื่อถืออยู่บ้าง
จิ่งเซียงพูดด้วยความโกรธ “เ้า! เ้าชอบพี่ชายข้า แล้วยังไปลวนลามอ๋าวหราน เ้าจะมากเกินไปแล้วนะ!”
อ๋าวหรานอดรู้สึกอยากกุมขมับไม่ได้
หลางฉายิ้มอย่างงดงามไปทีหนึ่ง “อดใจไม่ไหวก็เพียงเท่านั้น”
จิ่งเซียง “เ้า!”
จิ่งฝานมองหลางฉา สีหน้าดำคล้ำ “ไม่ต้องตามพวกเรามาแล้ว”
หลางฉากลับไม่กลัวจิ่งฝาน “ถนนใหญ่เช่นนี้ ใครจะเดินก็ได้นี่นา”
จิ่งฝานี้เีจะสนใจ เขาลากจิ่งเซียงและมองไปทางอ๋าวหรานทีหนึ่ง ก่อจะหันหลังจากไป
จิ่งเซียงเห็นว่าพี่ชายนางไม่ได้ถูกยัยปีศาจนั่นทำให้ลุ่มหลงเข้าก็ดีใจ “ท่านพี่ เดี่ยวเราไปกินข้าวที่ใดกันดี ข้าหิวแล้ว”
จิ่งฝาน “เมื่อกี้ก็เพิ่งกินไปไม่ใช่หรือ?”
จิ่งเซียงออดอ้อน “ยังกินไม่อิ่ม”
จิ่งจื่อที่อยู่อีกทางกรอกตามองบน “เ้าเป็หมูสินะ”
“ซี๊ด...“ เตะนี้ของจิ่งเซียง ไม่ออมแรงเลยสักนิด
จิ่งฝาน “เ้าอยากไปที่ใด?”
จิ่งเซียงส่งเสียง อืม อยู่นาน ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ จึงไปถามอ๋าวหรานว่าอยากไปไหน?
อ๋าวหราน “หาร้านข้าวที่ใกล้ๆ นี กินอาหารธรรมดา ง่ายๆ ก็พอ”
สองข้างทางยังคงคึกคักเหมือนเดิม พวกเขาเดินผ่านฝูงชน ไปถึงร้านฉีชุ่นจายที่อยู่ข้างทาง ยืนอยู่นอกประตูยังได้ยินเสียงคึกคักดังมาจากด้านใน ร้านนี้ไม่ใหญ่ มีแค่สองชั้น ชั้นหนึ่งไว้รับประทานอาหาร ชั้นสองเป็ห้องพัก
พวกเขาเข้าไปเด็กรับใช้ในร้านก็ยิ้มสว่างสดใสเข้ามาต้อนรับ “ท่านทั้งหลายมารับสำรับอาหารหรือว่าหาที่พักขอรับ?”
จิ่งจื่อตอบว่า “กินข้าว หาที่นั่งดีๆ สักหน่อย”
เด็กรับใช้คนนั้นยิ้ม “พวกท่านทำให้ข้าลำบากแล้ว ตอนนี้คนเยอะ มีโต๊ะว่างสักตัวก็ไม่ง่ายแล้วขอรับ”
จิ่งจื่อขมวดคิ้ว “เช่นนั้นก็แล้วแต่เ้า”
เด็กรับใช้รับคำเสียงยาวว่า “ขอรับ ท่านทั้งหลายตามข้ามา ท่านนับว่าโชคดี ตรงนี้เพิ่งมีโต๊ะว่างอยู่โต๊ะหนึ่งพอดี ท่านทั้งหลายเชิญนั่ง”
ร้านนี้เล็ก โต๊ะเองก็ไม่ใหญ่ โต๊ะสี่เหลี่ยมจัตุรัส พวกจิ่งฝานนั่งกันคนละมุม หลางฉาที่ตามพวกเขามาไม่มีที่นั่ง ทำได้เพียงส่งสายตาไปยังโต๊ะด้านข้าง
ที่โต๊ะนั้น มีชายที่เหมือนผ่านอะไรมามากมายนั่งอยู่สองคน อายุประมาณสามสิบ สวมผ้าลินินที่ดูเก่า ผมเผ้ารุงรัง มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็คนที่เดินทางรอนแรมเป็ประจำ
หลางฉาสีหน้าไร้ความรู้สึก “ท่านทั้งสอง ข้านั่งตรงนี้ได้หรือไม่?”
สองคนนั้นมองหลางฉาด้วยใบหน้าลุ่มหลง ถ้าไม่รู้คงจะคิดว่าไม่เจอผู้หญิงมาแปดร้อยปีแล้วอะไรแบบนั้น ต่อให้หลางฉาจะไม่มีท่าทีขอร้องแม้สักนิด ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาเกิดความไม่พอใจขึ้นแม้แต่นิดเดียว กลับยิ้มราวกับพวกสุนัขรับใช้เช็ดเก้าอี้ให้หลางฉา “แม่...แม่นางเชิญนั่ง เชิญนั่ง”
ผู้ชายผอมดำที่มีรูปร่างค่อนข้างสูงเขยิบเข้ามาด้านหน้าหลางฉา “แม่นางอยากกินอะไร? สั่งได้ตามสบาย วันนี้ข้าเลี้ยงเอง”
เพื่อนของชายผอมดำผู้นั้นก็ไม่ยอมน้อยหน้า เขยิบตามเข้ามาด้วย “ข้าเลี้ยง! ข้าเลี้ยง แม่นางไม่ต้องเกรงใจ”
หลางฉามือหนึ่งเท้าคาง สีหน้ารังเกียจ “ข้าก็ไม่รู้ว่าจะกินอะไร สั่งตามใจพวกเ้าเถิด”
สองคนนั้นพูดว่าไม่เป็ไรติดๆ กัน “พวกเราสั่งเอง รับรองว่าสั่งของอร่อยที่สุดมาให้แม่นางพอใจได้แน่ เด็กๆ ! เด็กๆ !”
ร้านนี้มีเด็กรับใช้ทั้งหมดแค่สองคน คนหนึ่งยุ่งอยู่ข้างบน อีกคนหนึ่งกำลังอยู่ที่โต๊ะของจิ่งฝาน
ทั้งสองโต๊ะอยู่ใกล้กัน ตอนที่ชายผอมดำผู้นั้นเรียกครั้งแรกเด็กรับใช้ก็ได้ยินแล้ว ยิ้มพูดกับชายผอมดำว่า “นายท่านกรุณารอสักครู่ แขกทางนี้สั่งเสร็จ ข้าจะไปหาขอรับ”
ชายผอมดำคนนั้นฟังจบ มือตบโต๊ะ โต๊ะทั้งตัวสั่นขึ้นมา ตัวโต๊ะเองก็ราวกับสั่นไปตามเสียง รอยร้าวปรากฏขึ้นเป็ทางยาวบนโต๊ะ “รอ? เ้าให้ข้ารอหรือ? ข้าเคยรอใครเมื่อไรกัน?”
เด็กรับใช้ถูกทำให้กลัวกะทันหันจนหน้าซีด พูดติดๆ ขัดๆ ว่า “นายท่าน ท่าน...ท่านมีอะไรก็พูดดีๆ เถิดนะขอรับ?”
ชายผอมดำคนนั้นยืนขึ้น ลากคอเสื้อเด็กรับใช้เข้าไป “เ้าคิดว่าข้าไม่ได้พูดกับเ้าดีๆ ? เ้าอยากให้ข้าพูดกับเ้าดีๆ อย่างไร ขอร้องเ้าหรือ? เ้าเป็ตัวอะไร?”
เด็กรับใช้สั่นสะท้าน “ไม่...ไม่ใช่...”
ชายผอมดำโกรธจนตาลุก “ถ้าเป็ในยามปกติ เ้าละเลยข้า ข้าก็จะใจกว้างไม่เอาเื่เอาราวกับเ้า แต่วันนี้ มีคนงามเช่นนี้อยู่ เ้าก็ยังกล้าละเลยข้าเช่นนั้นหรือ?”
พูดจบหันศีรษะไปยิ้มตาหยีให้หลางฉา “แม่นางวางใจ ข้าจะต้องสั่งสอนพวกสุนัขนี่แน่ ไม่ให้เ้าได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจหรอก”
จิ่งเซียงปากอ้าตาค้างมองพวกคนที่โวยวายไร้สาระพวกนี้ อดค่อนแคะเบาๆ ไม่ได้ว่า “คนพวกนี้สมองมีปัญหาหรือ? แปลกประหลาดจริง”
อ๋าวหรานพยักหน้า “แค่พวกชอบใช้กำลังรังแกคนอ่อนแอน่ะ แค่อยากจะเบ่งต่อหน้าผู้หญิงก็เท่านั้นแหละ”
จิ่งจื่อเหอะออกมาเสียงหนึ่ง “โง่เง่า”
ส่วนหลางฉาที่เป็คนจุดชนวนเื่ราวกลับทำตัวลอยอยู่เหนือทุกปัญหา นั่งดูเื่สนุกก็เท่านั้น แค่มองเฉยๆ ไม่ขัดขวาง และไม่สนใจ
เด็กรับใช้คนนั้นโดนจับคอเสื้อ เหมือนจะถูกยกจนตัวลอยขึ้นแล้ว มองหน้าตาดุร้ายของคนผอมดำ พูดจาติดขัดว่า “นาย...นายท่าน ท่านปล่อยก่อน ข้าจะไปรับรายการอาหารท่านเดี๋ยวนี้”
ยังดีที่ชายผอมดำคนนั้นรู้ว่าอะไรควรไม่ควร เมื่อแสดงอำนาจพอแล้ว ก็พอใจ ทำท่าทางเหมือนว่าไม่เอาเื่เอาความกับเ้าแล้วปล่อยมือจากเด็กรับใช้คนนั้น พูดอย่างดุร้ายว่า “เร็วหน่อย!”
เด็กรับใช้นั้นโดนปล่อยอย่างแรงจนเกือบหงายหลังก้นกระแทกพื้น ดีที่อ๋าวหรานที่อยู่ด้านหลังยื่นมือไปประคองเอาไว้ จึงไม่ได้ล้มลงโดยแรงนัก
เด็กรับใช้คนนั้นพยักหน้าให้อ๋าวหรานด้วยสีหน้าทั้งขอบคุณและรู้สึกผิด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้